คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : ผมชอบคุณ 100%
เบญจาถือจานของกินเล่นที่เขาชอบออกไปวางที่โต๊ะกลาง
แล้วถอยห่างออกมานั่งบนเก้าอี้สำหรับนั่งคนเดียว
ส่วนเจ้าของบ้านหนุ่มกำลังเลือกแผ่นดีวีดี ซึ่งคงจะดูหนังอีกตามเคย
ส่วนเจ้านิลไปนั่งชะเง้อชะแง้มองอยู่ข้าง ๆ อย่างสนใจว่าเจ้านายทำอะไร
ธนดลเปิดเครื่องเล่นดีวีดีเสร็จก็ถือรีโมทกลับมานั่งที่เก้าอี้
หยิบหมอนอิงลายดอกไม้มาถือไว้
เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยชอบใจนักกับเก้าอี้ไม้แกะสลักเพราะรู้สึกนั่งไม่สบาย
ด้วยชินกับการนั่งบนโซฟาหนานุ่ม เขาต้องตัดใจไม่เปลี่ยนไปใช้โซฟาเพราะไม่อยากมีปัญหากับรอยเล็บของเจ้านิล
แต่ตอนนี้นั่งนอนสบายขึ้น ไม่ใช่เพราะความเคยชิน แต่เป็นเพราะแม่บ้านคนสวยของเขาเย็บเบาะรองนั่งมาวางไว้ให้
“ม๊ามานั่งตรงนี้ด้วยกันสิครับ”
ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่นั่งอยู่เยื้อง ๆ กันให้มานั่งกับเขาที่เก้าอี้ตัวยาว
“เบญนั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ
เจ้านิลจะได้นอนสบาย” เธอมองไปยังที่นั่งข้าง ๆ เขาซึ่งตอนนี้เจ้านิลนอนกางพุงแผ่หลาอยู่อย่างสบายอารมณ์
นายแพทย์หนุ่มก้มมองข้างตัวแล้วคว้าเจ้าเหมียวมานั่งบนตัก
“เจ้านิลไม่อยากนอนแล้วครับ”
พูดแล้วตีหน้าตาย จนคนถูกชวนยิ้มขำ
“ดูซิ...ไปขัดความสุขเจ้านิล”
หญิงสาวส่ายหน้า
“ก็เจ้านิลขัดความสุขป๊าก่อนนี่
ม๊ามานั่งกับป๊านะ ตรงนั้นดูทีวีไม่ชัดหรอก” ว่าเสียงอ้อน ๆ เธอไม่อยากจะให้เขาเรียกซ้ำหลายครั้ง
จึงลุกไปนั่งด้วยกัน แต่เพราะยังไม่ชินกับการนั่งติดกับคนเป็นเจ้านายแม้ว่าตอนนี้เขาจะขอเป็นแฟนเธอแล้วก็ตาม
จึงขยับมาชิดกับที่วางแขน
ชายหนุ่มหันมองคนนั่งเกร็ง
ๆ แวบหนึ่งแล้วจุดยิ้มที่มุมปากก่อนจะหันไปสนใจกับภาพในจอโทรทัศน์
เพื่อให้เธอได้ใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยในการอยู่ใกล้ชิดกับเขาสักนิด
ขืนจู่โจมมากไปประเดี๋ยวเป้าหมายจะกระเจิงเสียก่อน
“ม๊าครับป๊อบคอร์น”
เสียงคนข้าง ๆ เอ่ยเรียกพลางยื่นชามใส่ป๊อบคอร์นใบใหญ่มาให้
หญิงสาวหันไปมองเห็นเขาจ้องเขม็งไปยังจอโทรทัศน์ซึ่งหนังบู๊ล้างผลาญกำลังตื่นเต้น
เธอยื่นมือไปหยิบมาใส่มืออีกข้างหนึ่งเพื่อเคี้ยวเล่นระหว่างนั่งดูหนัง
คนที่ยื่นให้พอรู้ตัวว่าเธอหยิบไปแล้วก็เอากลับไปวางไว้บนโต๊ะกลางอย่างเดิม
ก่อนจะชำเลืองคนข้าง ๆ แล้วดูหนังต่อ
“ม๊าครับปลาเส้น”
เขายื่นมาให้อีกแล้ว เธอก็หยิบไปกินไปพลางดูหนังไปพลางเพราะเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นทุกที
คนที่หยิบให้กินแอบอมยิ้ม เพราะไม่ว่าเขาจะยื่นอะไรให้เธอก็หยิบไปกินโดยไม่ปฏิเสธ
แถมยังจ้องดูจอโทรทัศน์ตาไม่กระพริบ
จึงฉวยโอกาสขยับไปนั่งใกล้ขึ้นอีกนิดจนติดกับเจ้านิลที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงกลาง
“เมี๊ยว”
เจ้านิลได้กลิ่นปลาเส้นที่เบญจากำลังกินแล้วไปชะเง้อมอง
หญิงสาวก้มดูแวบหนึ่งแล้วยื่นปลาเส้นให้มัน
แต่คนเป็นป๊ามาดึงไปจากมือแล้วพาแมวไปด้วย
“เจ้านิลมานี่เลย
อย่าไปกวนม๊าดูทีวีเดี๋ยวป๊าป้อนให้เอง”
ทำเนียนคว้าเข้านิลไปนั่งอีกข้างหนึ่งแล้วตัวเองขยับมานั่งกลาง
ทำให้พื้นที่ระหว่างเธอกับเขาห่างกันไม่ถึงคืบ หญิงสาวหันไปยังคนข้าง ๆ
ที่ตอนนี้ทำเป็นสนอกสนใจเจ้านิล คอยหยิบปลาเส้นของโปรดให้มันกิน
จึงหันไปยังจอโทรทัศน์ต่อ
“ม๊าครับน้ำ”
ยื่นแก้วน้ำให้ทั้ง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งเธอพอจะเอื้อมถึง แต่หญิงสาวก็รับมาดื่มแล้ววางไว้บนโต๊ะกลางอย่างเดิม
แต่คนข้าง ๆ นี่สิ ขยับเข้ามานั่งตัวติดกันเชียว
“ม๊าครับ...”
เรียกอีกแล้ว จนคนที่กำลังนั่งดูหนังเพลินชักรำคาญ
“คะ...”
“เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมครับ”
คนที่ถามยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ว่าตกลงแล้วตอนนี้เธอรับเขาเป็นแฟนหรือยัง เพราะตอนที่กำลังจะเข้าสู่โหมดหวานและขอเป็นแฟน
เจ้านิลดันขัดจังหวะขึ้นเสียก่อนรวมทั้งความขัดเขินทำให้เขาลืมไปหมดว่าจะพูดอะไรต่อ
“คุณดลว่าอะไรนะคะ”
หญิงสาวละสายตาจากจอโทรทัศน์
“ป๊าถามม๊าว่า...ม๊ารับป๊าเป็นแฟนหรือยัง” ถามเสียงอ่อย ๆ หญิงสาวผุดยิ้มมุมปาก
“ยังค่ะ...เบญแค่รับทราบว่าคุณดลชอบเบญและขอเวลาให้เบญพิจารณาคุณดลหนึ่งเดือน”
หญิงสาวตอบเสียงเนิบ ไม่ได้แกล้งเย้าแหย่เขาแต่อย่างใด
แต่เป็นการตอบออกมาหลังจากที่เธอคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วว่าต่อให้เธออายุจะย่างเข้าเลขสี่ในอีกเจ็ดแปดเดือนข้างหน้าแต่ก็ไม่มีวันคว้าใครก็ได้เข้ามาเพราะคิดว่าเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายเด็ดขาด
สำหรับเธอแล้วการที่จะรับใครมาร่วมชีวิตซึ่งจะอยู่ด้วยกันต่อไปอีกครึ่งชีวิตนั้น
คนที่เข้ามาใช้ชีวิตร่วมด้วยจะต้องทำให้เธอมีความสุข และเขาก็จะต้องมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอเช่นกัน
ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งมีความสุขส่วนอีกคนต้องอยู่อย่างทนทุกข์
อย่างน้อยเธอต้องมั่นใจมากกว่านี้ก่อนตัดสินใจ
เพราะเธอไม่ใช่เด็กสาววัยรุ่นหรือวัยทำงานตอนต้นที่ยังมีเวลาลองถูกลองผิดกับชีวิต
“ม๊าไม่ไว้ใจป๊าเหรอ...หรือป๊าทำอะไรให้ม๊าไม่ถูกใจหรือเปล่า”
ถามด้วยสีหน้ากังวล จากที่ก่อนหน้านี้ใจชื้นขึ้นเป็นกองแต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกลับไปยืนอยู่จุดเดิม
“เปล่าค่ะ
คุณดลเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ถ้าเบญอายุน้อยกว่านี้สักหน่อย
คงรีบตัดสินใจตกลงทันที” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อน ๆ
“ตอบแบบนี้...ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีครับ”
ถามมาเสียงหม่น ๆ
“คุณดลไม่ดูหนังแล้วหรือคะ”
เธอเปลี่ยนเรื่อง
“คงดูไม่รู้เรื่องแล้วละ
ป๊าจะขึ้นไปนอนแล้วนะครับม๊า...เจ้านิลไปนอนได้แล้วไป ดึกแล้ว” ทำเสียงหงอย ๆ
แล้วคว้าเจ้านิลเดินขึ้นไปบนห้อง เบญจามองตาม เจ้านายของเธอซึ่งในยามปกติก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่านดีอยู่หรอก
แต่กับเรื่องความรักเขากลับดูจะเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ๆ เสียอย่างนั้น
จนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอายุเท่าเธออย่างที่บอก
เบญจาดูหนังต่อจนจบแล้วจึงไปปิดเครื่องเล่นดีวีดีและโทรทัศน์
ปิดเครื่องปรับอากาศแล้วสำรวจประตูหน้าต่างเรียบร้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าดอกคาเนชั่นสีแดงช่องามยังวางอยู่บนโต๊ะในห้องครัว
จึงตั้งใจจะหยิบไปไว้บนห้อง
เธอเข้ามายืนอยู่ในห้องครัวแล้วจ้องมองดอกไม้ช่อสวยที่คนให้งอนตุ๊บป่องขึ้นไปนอนบนห้องเสียแล้ว
เธอไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักจริง
ๆ
หญิงสาวหยิบมาแล้วลูบไล้กลีบดอกอย่างอ่อนโยน
เธอยกขึ้นสูดดมแล้วคลี่ยิ้มหวานให้กับมันก่อนจะประคองไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม
“อุ๊ย” หญิงสาวสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ารอบเอวของเธอโดนสวมกอดมาจากด้านหลัง
------------------------------------
จบไปอีกบท พรุ่งนี้มาอ่านกันต่อนะคะ อ่านแล้วรักชอบหรือจะเวทนาก็ได้ช่วยแอด fav. ให้เค้าหน่อยน้าาา ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะที่ติดตามอ่าน ขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยค่ะ ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ...ทิพย์ทิวา 29/3/2016 21.53
ฝากอีบุ๊คหมอดลด้วยนะคะ
|
ความคิดเห็น