NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #16 : งานบายเนียร์วิศวะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.56K
      77
      5 มิ.ย. 66



    EP 17: งานบายเนียร์วิศวะ 
     

    SOL’S TALK         
    คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาลัย K, ๒ วันต่อมา


            

    “บูมโยธา  บูมโยธา  โยธา บูม!!!”
              

    เสียงเข้มติดจะห้าวจัดของเหล่าบรรดาพี่ว๊ากหน้าเข้มที่ตวาดลั่นดังไปจนถึงสวรรค์ชั้น ๗ และสนั่นไปทั้งลานเกียร์ทำให้ฉันชะงักขาตั้งแต่ก้าวแรกที่ไปถึง ภาพเหล่าบรรดารุ่นน้องปีหนึ่งที่ยืนจัดแถวกันเป็นระเบียบและกอดคอกันร้องประสานเสียงให้กับรุ่นพี่ที่เพิ่งมาถึงทีละคนทำให้ฉันขนลุก  


    โห.. ขลังอ่ะ
              

    ฉันยืนดูเหล่าบรรดารุ่นน้องที่ก้มตัวกอดคอบูมให้รุ่นพี่ทีละคนกันเสียงดังอย่างอึ้งในมนต์ขลังของคณะวิศวะสุดๆ  มันการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความห่ามความเข้มแข็งและความสามัคคีที่รวมอยู่ด้วยกัน  ภาพรุ่นพี่รุ่นน้องที่ประสานใจกันตะเบ็งเสียงบูมคณะทำให้ประทับใจสุดๆ  ฉันมองเห็นภาพฟันเฟืองเกียร์ที่ร่วมแรงร่วมใจกัน..
              

    “ไง ตกใจหรอคะ” 


    พี่มิณทร์กระตุกมือฉันที่จู่ๆก็หยุดเดินยืนอึ้งอยู่กับที่ ฉันหันไปกระพริบตาปริบๆใส่พี่มิณทร์ที่ยิ้มกว้างใส่ “พวกเด็กๆมาบูมให้ก่อนเข้าพิธีรับหมวกวิศวะกรน่ะค่ะ”
              

    พี่มิณทร์หันมาอธิบายกับฉัน  เมื่อเช้าเขารับฉันมางานบายเนียร์คณะวิศวะที่ช่วงเช้ามีพิธีรับหมวกวิศวะกรที่จัดขึ้นภายในมหาลัย  แต่ฉันว่าเขาลืมบอกฉันไปว่ามาถึงจะมีการบูมกันอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้  อีกนิดนึงฉันว่าเหมือนค่ายทหารแล้วนะ
              

    “ซอลไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ” 


    การที่เด็กปีหนึ่งร่วมห้าสิบคนรวมตัวกัน ก้มตัวแล้วโก่งคอบูมจนเส้นเลือดปูดอย่างพร้อมเพรียงที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้นั้น  มันเป็นอะไรที่ฉันประทับใจสุดๆ  ฉันหันไปมองพี่มิณทร์อย่างตื่นเต้นขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาแตะรอยยิ้มบางๆให้ฉัน
              

    “เดี๋ยวพี่ต้องไปยืนให้น้องบูม หนูไปรอพี่ตรงม้าหินก่อนนะคะ” พี่มิณทร์ก้มตัวมากระซิบกระซาบกับฉันขณะที่เสียงบูมคณะกระหึ่มดังขึ้นมาอีกรอบ เขาชี้มือไปตรงม้าหินใต้ร่มไม้ใหญ่ที่มีทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่งอยู่ “นั่น.. ตรงนั้นน่ะค่ะ หนูเดินไปนั่งรอกับพวกไอ้นัทไอ้ฉัตรมันก่อนก็ได้” 
               

    ง่ะ..ก็ฉันไม่รู้จักใคร อยู่ๆเดินไปมันใช่เรื่องมั้ยล่ะ?
              

    “ให้ซอลถ่ายคลิปพี่โดนบูมอยู่ตรงนี้ก็ได้นะคะ” ฉันอยากรอให้พี่มิณทร์เดินไปด้วยกัน  แค่นี้หลายสิบสายตาก็มองฉันจนตัวแทบเป็นรูอยู่แล้ว  นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวเรียบร้อยเจียมเนื้อเจียมตัวแล้วนะ
              

    “ไปอยู่กับพวกเพื่อนๆพี่ดีกว่าค่ะ หนูไม่ต้องกลัวนะคะไอ้ฉัตรมันรู้จักหนูอยู่แล้ว”  พี่มิณทร์โบกมือเรียกเพื่อนๆเขาก่อนจะเคาะเบาๆตรงกลางหน้าผากฉัน  “พี่ไม่ให้หนูยืนเด่นจนมีหมามาจีบแน่ค่ะ”
              

    หูยยยไรอ่ะ! ใครมันจะกล้ามาจีบฉันกลางดงเสือ? ก็ตั้งแต่ลงจากรถมาพี่มิณทร์ก็แทบเอาเสื้อคลุมห่อฉันเป็นแหนมป้าย่นอยู่แล้วทั้งที่อุตส่าห์แต่งตัวมาซะสวย  และไหนจะเดินจูงมือต้อยๆเหมือนกลัวฉันหลงอีกต่างหาก  นี่ถ้ามีใครมาจีบฉันว่าเสี่ยงทีนพี่มิณทร์มากอ่ะ
              

    “เห้ย ฉัตร ฝากดูเมียกูหน่อยดิวะ” 
              

    โฮกกกกกกก เมียเลยหรอคะ??  เพิ่งเป็นแฟนกันได้วันที่สามเองป่ะพี่มิณณทร์  พี่พูดแบบนี้น้องใจเต้นแรงนะ!
              

    “น้องคนสวยย เดินตรงมานี่เลยครับ” แต่คนที่ลุกขึ้นมาโบกมือเรียกฉันไม่ใช่พี่ฉัตรแต่กลับเป็นเพื่อนพี่มิณทร์อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ  เขากำลังหัวเราะร่วนอย่างร่าเริง “มาๆ เดินมานั่งตรงนี้ก่อนครับ”
            

    “นั่งกับเพื่อนพี่ก่อนนะคะซอล เดี๋ยวพี่เดินไปหาค่ะ” พี่มิณทร์บังคับจับไหล่ฉันให้เดินตรงไปยังม้าหินก่อนจะแยกตัวออกไป  ฉันค่อยๆเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนพี่มิณทร์ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอย่างกล้าๆกลัวๆ  โอยย ฉันเคยรู้จักเพื่อนเขาที่ไหนล่ะ
            

    “เกียรติโยธา  เกียรติโยธา!!”
              

    เสียงบูมดังขึ้นอีกครั้ง ฉันหันไปอีกทีก็เห็นพี่มิณทร์ก้าวเข้าไปยืนอยู่กลางวงที่มีเหล่ารุ่นน้องก้มตัวรุมล้อมอยู่เรียบร้อยแล้ว พี่มิณทร์โปรยยิ้มแล้วและมองไปรอบๆ  โอยย นี่มันหล่อห้าร้อยเมตรชัดๆ..
              

    “กุญแจซอล  เดี๋ยวน้องมานั่งรอตรงนี้ก่อนครับ” 


    คราวนี้เป็นพี่ฉัตรที่ลุกขึ้นมาชวนฉันไปนั่งเสียงขรึม  เขาเป็นคนเดียวกับที่ขอร้องให้ฉันช่วยดูแลพี่มิณทร์ในคืนนั้น  เขาคือพี่ฉัตรโอปป้าสายเหวี่ยงหน้านิ่ง  ฉันมั่นใจว่าเขารู้มาก่อนเรื่องฉันกับพี่มิณทร์ไม่งั้นไม่หาเรื่องให้ฉันอยู่กับพี่มิณทร์สองต่อสองคืนนั้นหรอก  
              

    “พี่ฉัตรสวัสดีค่ะ” 
              

    “เห้ยยย น่าร๊ากกกกกง่ะ น้องเค้ายกมือไหว้มึงด้วยยย โคตรจะมารยาทดีเลยมึง เอ้ออ น้องครับ พี่ชื่อพี่นัทนะ” พี่คนที่ชื่อนัททั้งหวีดทั้งตะโกนแซวฉันเสียงดัง ฉันที่เพิ่งค้อมตัวยกมือไหว้พี่ฉัตรเลยหันไปไหว้พี่นัทอีกคน
              

    “พี่นัทสวัสดีค่ะ”
              

    “งุ้ยยยยย มุ้งมิ้ง อ่อนหวาน เรียบร้อย น่าร๊ากกกกอ่ะ” พี่นัทดี๊ด๊าเดินมาข้างๆฉัน  ฉันเห็นพี่ฉัตรส่ายหัวก่อนจะเอื้อมมือมาผลักพี่นัทหัวทิ่ม
              

    “แรดจริงมึง เมียเพื่อนป่าววะ” 
              

    โอ้ย ตั่ยแหล้วววววว ทำไมเรียกฉันว่าเมียอีกแล้วอ่ะ  แค่พี่มิณทร์พูดเมื่อกี้ขาฉันยังสั่นพั่บๆอยู่เลย  แล้วนี่พวกเพื่อนๆเขายังมาย้ำคำว่าเมียอีก  ยังนะ.. ยังไม่ได้กัน!!
              

    “เชี่ยยย กูก็แค่ดูแลแทนเพื่อนป่ะวะ”
              

    “เดี๋ยวไอ้มิณทร์กลับมามันก็ตบมึงคว่ำ  สัส..เจ๊าะแจ๊ะเด็กมันอยู่ได้  นี่ขนาดเมียมึงมาคุมด้วยนะ” พี่ฉัตรบุ้ยใบ้ไปทางพี่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งหัวเราะอยู่ตรงม้าหิน พี่ผู้หญิงคนนั้นใส่เสื้อเชิ๊ตกับกางเกงยีนส์  เธอมองมาที่ฉันแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
              

    “น้องซอลคะ มานั่งกับพี่ก่อนก็ได้นะ”
              

    “อะ อ๋อ ได้ค่ะ” ทำไมเหมือนทุกคนรู้จักฉันกันหมดเลยล่ะแต่ทำไมฉันเห็นไม่รู้จักใครเลยสักคน  นี่เขารู้เรื่องของฉันกับพี่มิณทร์กันหมดรึไงนะ
              

    “มานั่งนี่ก่อน  พี่ชื่อพี่แอ๊นท์ค่ะ” พี่แอ๊นท์เอามือปัดม้านั่งให้ฉันก่อนจะดึงแขนฉันลงไปนั่งข้างๆ ฉันวาดตารางในหัว..  พี่แอ๊นท์เป็นแฟนกับพี่นัท
             

    “สวัสดีค่ะพี่  หนูกุญแจซอลค่ะ”
             

    “โหยย ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกอ่ะ พอนัทบอกมิณทร์จะพาแฟนมานะพี่นี่เตรียมกล้องมาเลย  น้องซอลนี่สวยอย่างกับตุ๊กตาแน่ะค่ะ” พี่แอ๊นท์เอ่ยปากชมฉัน  ฉันได้แต่ยิ้มแหะๆอย่างเก้อๆ  คือฉันยังไม่รู้จักใครเลย.. ฉันตั้งหลักไม่ทัน  
              

    “เออจริง เค้าก็คิดเหมือนตัวเองเลยอ่ะ หนูซอลนะทั้งสวยทั้งน่ารักแถมยังดูจริงใจกว่ามิ้นท์อีก มิน่าล่ะไอ้มิณทร์มันถึงแอบเอาไว้ในใจ”
              

    แอบเอาไว้ในใจ?  นี่พวกพี่กำลังพูดถึงอะไรกันเนี่ยยย คำพูดของพี่นัททำเอาฉันคิ้วชนกัน  
             

    “เหี้ย.. พูดอะไรเกรงใจน้องเค้าหน่อยดิวะ  น้องเค้าเพิ่งมานั่งมึงก็พูดถึงแฟนเก่าไอ้มิณทร์เฉยเลย  นี่ใช้สมองหรือตีนคิดวะ” 

     


              “มีแฟนสวยพี่ก็ต้องทำกลิ่นให้รู้ว่ามีเจ้าของหน่อยสิคะ” 
    MIN SAID


     

    พี่ฉัตรเบรคพี่นัทแบบทันควัน  พี่นัทหน้าเสียรีบหันมาขอโทษขอโพยฉันแต่ก็ช้ากว่ามือพี่แอ๊นท์ที่เอื้อมมาบิดพุงพี่นัทแบบทะลุเสื้อช็อปเรียบร้อยแล้ว
              

    “โอ้ยยย ตัวเองงงง พูดอะไรเกรงใจน้องซอลมั่ง!!” ฉันว่าอีกนิดพี่แอ๊นท์ก็จะบิดเอาไส้พี่นัทออกมาได้แล้วล่ะ พี่นัทโบกไม้โบกมือขอโทษฉันไปมาหน้าเขียว
              

    “พอเถอะค่ะพี่ ซอลไม่เป็นไรค่ะ” 
              

    “พี่ขอโทษแทนแฟนพี่ด้วยนะ” พี่แอ๊นท์ขอโทษขอโพยแทนพี่นัท สำหรับฉันอย่างยัยนั่นก็เป็นได้แค่ความทรงจำที่เหมือนขยะ   ฉันไม่เคยอยากจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่มิ้นท์เลยสักครั้ง  แต่พี่มิณทร์ควงยัยนั่นมาก็หลายปีมันก็เลยไม่แปลกที่ใครมาเห็นพี่มิณทร์ควงฉันเลยพาลเอาเราไปเทียบกัน
              

    “แล้วนี่น้องซอลจะไปงานบายเนียร์ตอนเย็นด้วยรึเปล่าคะ?” 


    พี่แอ๊นท์หันมายิ้มหวานถามฉันขณะที่มือเรียวยาวคอยจับทัดเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าจนฉันสังเกต เห็นสร้อยสีเงินที่มีจี้รูปเกียร์แขวนอยู่และฉันว่าฉันก็สังเกตเห็นมันที่คอพี่ฉัตรเหมือนกัน 
              

    “ที่จัดกันที่หอประชุมใหญ่ค่ำนี้ใช่มั้ยคะ” ฉันไม่อาจละสายตาจากสร้อยเงินที่แขวนจี้รูปเกียร์วาววับได้ขณะที่พี่แอ๊นท์ใช้ปลายนิ้วเขี่ยตัวจี้เล่นเวลาเผลอ ฉันมองไปตามคอของผู้ชายที่ใส่เสื้อช็อปคนอื่นๆพวกเขาใส่สร้อยที่แขวนจี้เหมือนๆกัน
              

    “ธีม final walk น้องซอลต้องจัดให้สุดๆเลยนะ” พี่แอ๊นท์กรี๊ดกร๊าดเสียงดังจนละสายตาออกมาจากจี้เกียร์  ฉันไม่เคยเห็นมันอยู่บนคอพี่มิณทร์เลย  ทำไมนะ?
              

    “งานบายเนียร์คืนนี้พี่มิณทร์บอกให้ซอลแต่งตัวธรรมดาๆไปก็พอค่ะ”
              

    “ไอ้เชี่ยมิณทร์แม่งขี้หวงสัสอ่ะ.. มันรู้ไงว่าใครๆก็คอยจับตามองอยู่  แม่งขี้หวง แม่งจะเก็บไว้ดูคนเดียว และไอ้เสื้อคลุมกะโหลกกะลาที่ใหญ่กว่าตัวน้องสิบเบอร์เนี่ย..เพราะไอ้มิณทร์บังคับใส่ใช่ป่ะ” 


    พี่นัทกวาดสายตามองเสื้อตัวใหญ่โคร่งที่เหมือนห่มอยู่บนตัวฉัน  คือเมื่อเช้าฉันก็ว่าแต่งตัวมาดีแล้วนะแต่พอจะลงจากรถปั๊ปเขาก็จับฉันห่อเหมือนแหนมทันที  ทั้งๆที่ฉันแค่ใส่เสื้อเปิดไหล่สีขาวคู่กับกางเกงยีนส์  และก็แค่เสื้อมันเอวลอยโชว์เอวเอสนิดๆหน่อยๆ  เขาหน้าหงิกเลยจับฉันห่อซะ..

              

    “ถ้าน้องธรรมดา  ระวังเจอสาวๆของไอ้มิณทร์ถล่มนะ” พี่นัทยิ้มร้ายใส่ฉันจนพี่แอ๊นท์ต้องเอื้อมมือไปตบแขนพี่นัทอีกรอบ  สาวๆ?  สาวไหนอีกอ่ะ??
              

    “ยุแยงไอ้มิณทร์ให้บ้านแตกนี่สันดานมึงเลยสินะ” 


    ฉันเห็นพี่ฉัตรยื่นขายาวๆถีบไปที่แข้งพี่นัท  คราวนี้ทั้งพี่แอ๊นท์กับพี่ฉัตรรวมพลังกันฉันว่าสายรั่วอย่างพี่นัทมีอ่วมไปเลย  ฉันไม่เคยได้ยินว่านอกจากพี่มิ้นท์พี่มิณทร์ยังมีสาวคนอื่นๆอีก  ฉันรู้สึกใจแป้วนิดหน่อย  นี่มันเรื่องอะไรกันนะ?  “นั่นง่ะ.. พูดมาก กุญแจซอลหน้าเสียแล้วมึง”
              

    ฉันหันไปมองพี่มิณทร์ที่ยืนยิ้มอยู่กลางวงให้เหล่ารุ่นน้องบูมให้อยู่  นี่นอกจากพี่มิ้นท์.. พี่มิณทร์ยังแอบไปมีใครอีกรึไงนะ?
             
     

    "ซอลขอโทษนะคะเฮีย.."
    SOL SAID 

     

    “เลือดสีน้ำเงิน  เลือดสีน้ำเงิน!!”
              

    เสียงบูมดังเป็นจังหวะพร้อมๆกับอาการหน้าเสียของฉัน  พี่แอ๊นท์จัดการทั้งหยิกทั้งตีก่อนจะเอามืออุดปากพี่นัท  พี่ฉัตรมองหน้าฉันที่ออกอาการเจื่อนๆก่อนจะถอนหายใจน้อยๆแล้วเบือนสายตาไปยังพี่มิณทร์ที่ยืนไม่รู้อิโน่อิเหน่อยู่ตรงโน้นอีกครั้ง
             

    “ไอ้มิณทร์มันเคยเป็นเดือนวิศวะ  ตอนนั้นมันได้ทั้งตำแหน่งเดือนวิศวะและเดือนมหาลัย แฟนคลับที่อยากเป็นเมียมันมีเป็นร้อย น้องเก็ทนะ?”
              

    ฉันรู้มาก่อนว่าพี่มิณทร์เคยเป็นทั้งเดือนมหาลัยKและเดือนวิศวะ พี่มิณทร์กับเฮียกรได้ตำแหน่งพร้อมๆกัน  ตอนนั้นเฮียกรก็ได้ตำแหน่ง Prince มหาลัย A และ Prince คณะ  พี่มิณทร์กับเฮียกรเป็นเพื่อนสนิทคู่หูดูโอ้ที่ความหล่อกินกันไม่ลง แต่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ล่ะ?
              

    “ความจริงมันก็ไม่มีอะไรหรอก ไอ้นัทมันแค่จะบอกว่าคืนนี้พวกสาวๆคงจัดกันหนัก” 


    จัดหนักที่ว่าคืออะไรอ่ะ ก็พี่มิณทณ์มีแฟนแล้วคือฉันแล้วยังจะจัดหนักอะไรอีก ฉันคิ้วชนกันอย่างงงๆ  ก็พี่มิณทร์มีแฟนแล้วป่ะ?
              

    “คืองี้น้องซอล  ตอนมิณทร์เลิกกับมิ้นท์เขารู้กันทั้งมหาลัย แต่เรื่องมิณทร์มีหนูเป็นแฟนใหม่ยังไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะงั้นงานบายเนียร์คืนนี้พวกพี่แค่เดาว่าสาวๆคงเปิดศึกกันหนักน่ะ” พี่แอ๊นท์ช่วยอธิบายต่อแทนพี่ฉัตร  ฉันก็รู้มาตลอดแหล่ะว่าพี่มิณทร์น่ะหล่อนะแต่ไม่คิดว่าเขาจะหล่ออมตะขนาดนี้  เอาจริงๆตอนเขาได้ตำแหน่งเดือนวิศวะเมื่อสี่ปีก่อนเขาก็หล่อ.. เพียงแต่ตอนนี้เรียกว่าหล่อจรัส!!
              

    “แล้วซอลต้องทำยังไงคะ”
              

    “ง่ายๆ จัดมาสวยๆเอาแบบตระการตาไปเลยจ้าาา เอาให้สาวๆแถวนี้เป็นดินไปเลยแล้วเสร็จหนูก็ควงมิณทร์กลับปิดจ๊อบสวยๆ  แค่นี้ก็ชนะเลิศค่ะ”
              

    พี่มิณทร์บอกเอาเรียบๆ แต่พวกเพื่อนๆเขาเชียร์เรียบๆไม่เอาซะงั้น แล้วงี้จะให้ฉันเชื่อใครอ่ะวันงานบายเนียร์ก็ค่ำนี้แล้ว ที่สำคัญฉันเตรียมเสื้อผ้าไว้แล้วด้วย ไม่เปรี้ยว ไม่โป๊ แค่พอไปวัดไปวาได้เฉยๆเองอ่ะ
              

    “โยธา โยธา โยธา!!”
              

    เสียงบูมจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังสนั่นอีกครั้ง  ฉันหันไปมองอีกทีพี่มิณทร์ก็เดินปรี่มาตรงนี้ซะแล้ว  เดี๋ยวสิ.. จะเรียบไม่เรียบฉันยงไม่ได้ข้อสรุปชุดคืนนี้เลยนะ!!
              

    “เอ็กซ์ๆเชื่อพี่น้องซอลล” พี่นัทแอบทำปากยื่นยุฉัน
              

    “บ้าหรอตัวเองงง ไปยุน้องแบบนั้นทำไม” ผิดกับพี่แอ๊นท์ที่คอยห้ามทัพ ตกลงมันมีชุดที่ดูเรียบร้อยๆแต่ก็ดูเอ็กซ์ๆบ้างมั้ยอ่ะ?


     

    เอ็กซ์ๆเชื่อพี่น้องซอลล” 
    NUT SAID

           
    “ไงคะซอล รอพี่นานมั้ยคะ” พี่มิณทร์ยิ้มแก้มตุ่ยเดินกลับมาหาฉันก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ  เขาไม่เคยบอกฉันเลยว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้างกับงานคืนนี้ทั้งที่เมื่อกี้เพื่อนเขาไซโคฉันแทบตาย “เมื่อกี้พี่ไม่อยู่  มีหมาตัวไหนมาทำเจ้าชู้กับหนูบ้างมั้ยคะ” พี่มิณทร์ถามฉันยิ้มๆแต่สายตาเหล่ไปที่พี่นัท   
              

    “เพื่อนมิณทร์  ถ้าจะพูดงี้มึงด่าออกเสียงดีกว่านะครับ”
              

    “ก็กูรู้ไงว่ามึงเป็นหมาตัวนั้นกูสงสารแอ๊นท์ว่ะมีแฟนเลวๆแบบมึง นี่ถ้ากูเป็นแอ๊นท์กูถอดเกียร์ทิ้งเขวี้ยงถังขยะแล้วนะ” แล้วพี่มิณทร์กับพวกเพื่อนๆเขาก็หัวเราะกันลั่นแต่สายตาฉันกลับจับจ้องไปที่สร้อยเงินแขวนจี้รูปเกียร์ที่คอพี่แอ๊นท์อีกแล้ว  พี่มิณทร์เคยบอกฉันว่า ‘ฝากเกียร์ไว้ที่ใคร.. ฝากใจกับคนนั้น’
              

    “เกียร์หายอย่างมึง ไม่มีสิทธิสะเออะมาด่ากูป่ะ” พี่นัทสวนพี่มิณทร์กลับ พี่มิณทร์ทำปากขมุบขมิบใส่พี่นัทที่ฉันอ่านได้ว่าเขาพูดว่า ‘เหี้ย’ แบบไม่ออกเสียง

              

    “เออ ไอ้มิณทร์มึงมาไง แล้วรถมึงอ่ะ” 


    ที่ดูพูดน้อยที่สุดก็คงจะเป็นพี่ฉัตร  เขาพูดมาแต่ละคำนับพยางค์ได้เลย  ฉันลองไปนึกๆดูแล้วไอ้ที่ฉันรู้สึกว่าเขาหน้าคุ้นๆก็เพราะเขาเคยบุกไปจีบพี่ก้อยสมัยฉันกับพี่ก้อยอยู่โรงเรียนสตรีสมัยก่อน เขาเคยมีเรื่องกับเฮียกรแต่มันก็ตั้งนานแล้วล่ะ
              

    “กูเห็นคนเยอะกูเลยไปจอดแอบไว้ตึกด้านหลัง”
              

    “อ้าว s13 มึงขึ้นเนินตรงที่จอดรถหลังตึกได้ด้วยหรอวะ กูเคยขึ้นไปครั้งค้างเติ่งกลางลำแม่งครูดท้องอย่างเหี้ย กูนี่ถอยออกมาแทบไม่ทัน” พี่ฉัตรหมายถึงรถนิสสันซิลเวียคู่กายของพี่มิณทร์ตั้งแต่สมัยเขายังเป็นสิงห์สนามแข่งเมื่อหลายปีก่อน  ฉันจำได้ว่ามันเตี้ยแอ๊บแต่สวยสะบัด
              

    “เฮอะ ป่าวอ่ะวันนี้กูเอา E90* ไปรับซอล..” (*BMW Series 3 รหัสตัวถัง E90)
              

    ฉับพลันก็เกิดความเงียบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ฉันไม่รู้ว่าคำตอบพี่มิณทร์มันผิดแปลกอะไร  แต่ถ้าถามฉัน..วันนี้รถที่พี่มิณทร์ขับไปรับคือรถยุโรปสีดำโลโก้ใบพัดสีขาวฟ้าคันงาม  ฉันรู้ว่าที่บ้านเขามีรถคันนี้ด้วยแต่เขาไม่เคยเอาออกมาขับ
              

    “พ่อเมิงงงงงงงง  ไอ้มิณทร์เอาบีเอ็มออกมาขับ!!” พี่นัทกระโตกกระตากเสียงดัง
              

    “แล้วมันแปลกตรงไหนวะ?” พี่มิณทร์สวนพี่นัทไปอย่างงงๆขณะที่พี่นัทกับพี่ฉัตรหันมามองหน้ากัน  คือฉันรู้มาก่อนแล้วว่าพี่มิณทร์ขับ S13เป็นประจำ S13เป็นรถแต่งสายพันธ์ยุ่นอันแสนโฉบเฉี่ยวสนนราคาแสนแพง  เขาเคยใช้คันนี้ขับประลองความเร็วคู่กับเฮียกรตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วการที่พี่มิณทร์เปลี่ยนรถไม่เอาS13 มารับฉัน มันแปลกตรงไหนล่ะ?
        
     


         “มึงจะประเจิดประเจ้อไปไหน ”
    CHAT SAID

               

    “เฮ้ย ไอ้ฉัตร กูว่าแม่งไม่รู้ตัวว่ะ..” 
              

    “แล้วแม่งเคยรู้อะไรมั่งวะ ขนาดหัวใจตัวเองก็ยังเพิ่งมารู้ แมร่งโง่เป็นควาย..” 
              

    “เดี๋ยวๆ พวกมึงด่ากูเรื่องเชี่ยไรกันอยู่ครับ”พี่มิณทร์เองก็ดูจะงงๆกับคำสรรเสริญของพี่นัทกับพี่ฉัตร   ฉันเองก็งงเหมือนกัน  ฉันหันไปมองหน้าพี่แอ๊นท์ พี่แอ๊นท์ท์เองก็งง
              

    งง งง  เท่ง งง!!!!     
              

    “เออไว้ก่อนแล้วกันไอ้มิณทร์  กูว่ามึงรีบไปเช็คชื่อกับอาจารย์ก่อนเดี๋ยวเก้าโมงพวกรุ่นน้องจะมาตั้งแถวบูมรวมให้ก่อนเข้าหอประชุมอีกที พวกกูไปเช็คชื่อกันหมดแล้วขาดก็แต่มึงอ่ะ”
              

    “แม่งไม่บอกกูตอนเลิกเลยล่ะ” พี่มิณทร์ผลุนผลันลุกขึ้น “เดี๋ยวพี่มานะคะซอล” เขาแปะมือหนาคลอนศีรษะฉันเบาๆก่อนจะวิ่งรอดหายเข้าไปใต้ตึก ณ ม้าหินตรงนี้เหลือแต่ฉัน พี่แอ๊น พี่นัท พี่ฉัตร และการนินทาลับหลังพี่มิณทร์ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง..
              

    “หูยย น้องซอลคนสวย นี่น้องมีเวทมนตร์อะไรเนี่ยถึงทำให้ไอ้มิณทร์งัดเอาบีเอ็มออกไปรับน้องได้  มันแทบจะจอดให้ฝุ่นเกาะอยู่ที่บ้านแถมไม่เคยขับไปทิ้งไว้ที่คอนโด มันโคตรของโคตรเกลียดของใช้หรูๆของพ่อมันเลยนะ” 


    คือถ้าพี่ไม่พูดหนูก็เพิ่งรู้จากพี่เมื่อกี้แหล่ะค่ะ.. ฉันรู้มาบ้างว่าพี่มิณทร์กับพ่อไม่ค่อยถูกกันแต่เรื่องที่เขาหลีกเลี่ยงการใช้ของแพงๆแบบนั้นฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย  เพราะอย่าง S13 นิสสันซิลเวียสีขาวที่เขาใช้อยู่  ฉันว่ามันก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ..
              

    “ขนาดแต่ก่อนแอร์ฮอสเตสพูดปากฉีกไอ้มิณทร์ก็ไม่เคยเอาบีเอ็มไปรับ” พี่ฉัตรพูดสำทับพี่นัท  เฮ้ยย ทำไมมันดูเรื่องใหญ่นักอ่ะแค่เขาเปลี่ยนรถที่มารับฉันแค่นี้ พี่มิณทร์ไม่เคยบอกอะไรฉันเลย เขาแค่ถามฉันว่า ‘นั่งสบายมั้ย’ แค่นั้น! 
              

    “พอแอร์โวยวายเรื่องบีเอ็มไอ้ห่ามิณทร์ก็ไปถอยบิ๊กไบค์มาขับ แถมยังกวนประสาทให้แอร์นั่งซ้อนท้ายอีก  นี่ถ้าแอร์รู้นี่มีโคตรเคืองอ่ะ” และเพื่อไม่ให้ฉันช้ำ..พวกพี่นัทพี่ฉัตรเลยเลี่ยงเรียกชื่อยัยนั่นโดยใช้โค้ดลับเป็น“แอร์ฮอสเตส” แทน ฉันรักความรู้งานของพวกพี่เขาจัง 

              

    “แต่พอมาเป็นน้องซอลไอ้มิณทร์กลับเปลี่ยนโหมดไปขุดเอาบีเอ็มมารับน้องซะงั้น หูยย เข้าใหม่ปลามันสุดอ้ะเปลี่ยนไอ้มิณทร์เป็นเสี่ยสายเปย์ได้  นี่ถ้าสาวๆเห็นมันขับบีเอ็มมาอีกนี่ร้องผัววววกันระงมเลยนะ” 


    ฉันเพิ่งรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพี่มิณทร์และเพิ่งเริ่มเก็ทกับที่พี่ฉัตรบอกว่าสาวๆที่นี่จะจัดหนัก  ถ้าพูดถึงเรื่องรถความจริงพี่มิณทร์จะเอาอะไรมารับฉันก็ได้ทั้งนั้น  ถ้าเขานั่งรถเมล์มารับฉันก็พร้อมจะนั่งรถเมล์ออกไปด้วยกันกับเขา  ไม่ต้องหรูหรา  ไม่ต้องมากมาย  ฉันขอแค่ได้ยืนอยู่เคียงคู่กับผู้ชายที่ชื่อ มิณทร์ ปันณพัชร..

              
     

    “ซอลไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยค่ะ”
              

    “มันให้ความสำคัญกับน้องมากเลยนะ น้องอาจจะไม่รู้” ฉันได้ยินแล้วอมยิ้มแก้มตุ่ย  ความจริงถ้าวันนี้เขาควบบิ๊กไบค์มารับฉันก็กล้าซ้อน  สำหรับซอลไม่ต้องมากมาย  แค่หัวใจของพี่มิณทร์เพียงอย่างเดียวก็พอค่ะ
              

    “ซอลลลลลลลลล ขาาาาาาาาาาาา  พี่กลับมาแล้วค่ะ” เสียงพี่มิณทร์ดังรอดจากใต้ตึกออกมาก่อนตัว  ฉันกับพี่แอ๊นท์มองหน้ากันแล้วหัวเราะขำกันเสียงดัง
              

    “ไอ้เชี่ยนี่ก็หวงเมียจัง  นี่แม่งวิ่งขึ้นบันไดไปชั้น ๔ เลยมั้งไม่รอกดลิฟท์แน่ๆ  เพิ่งแอบคุยกับน้องซอลได้แปปๆแม่งก็แรดลงมาแล้ว  สงสัยแม่งกลัวน้องหายว่ะะ”

     

    "ฉันว่าเขาโคตรน่ารัก.."
    SOL SAID



    พี่นัทด่าเขวี้ยงไปที่พี่มิณทร์ที่วิ่งรอดออกมาใต้ตึกและกำลังวิ่งตรงมาหาฉัน  ฉันกับพี่แอ๊นท์อดหัวเราะเสียงดังตามคำพูดพี่นัทไม่ได้ เป็นความจริงที่พี่มิณทร์แทบจะไม่ปล่อยให้ฉันคลาดสายตาเลย  เขาจับมือแน่นไม่ปล่อยและไหนยังจะเอาเสื้อคลุมของเขามาให้ฉันใส่อีก ทั้งยังรีบวิ่งหน้าเริดมาหาฉันแบบนี้  ฉันว่าเขาโคตรน่ารัก..
              

    “ตัวเองง ตัวเองด่ามิณทร์ต่อหน้าน้องอีกแล้วนะ” พี่แอ๊นท์ท์ตีแปะไปที่แขนเตือนสติพี่นัทขณะที่พี่นัทแกล้งเอามือปิดปากแล้วทำหน้าตกใจ  ฉันว่าพี่นัทเป็นคนทำหน้าตกใจได้ตอแหลมากอ่ะ  
              

    “พี่มาแล้วค่ะซอลลลล  นี่ไม่มีหมาตัวไหนดอดมาจีบใช่มั้ยคะ” พี่มิณทร์วิ่งหอบแฮ่กตรงดิ่งมาหาฉันใบหน้าหล่อเหลาของเขานั้นแดงก่ำและพรมไปด้วยเหงื่อเล็กน้อย ฉันนึกถึงเรื่องของพี่มิณทร์ที่เพื่อนๆเขาเล่าให้ฟังแล้วโคตรรักเขาเลยอ่ะ
              

    “มึงไม่อมน้องเขาไว้ในปากเลยล่ะ หวงนักจะได้ไม่มีใครเห็น  ถุยย”  
              

    “ก็สันดานมึงชอบตอดหญิงไม่เลือกอ่ะไอ้นัท  แค่อ้าปากกูก็เห็นลิ้นไก่มึงละ มึงอย่ามา!  ซอลขาาา ไอ้ห่านัทมันพูดอะไรจีบหนูบ้างรึเปล่าคะ” พี่มิณทร์นั่งพรวดและวาดแขนขึ้นมากอดคอฉัน แก้มของเราแนบกันแบบเฟซทูเฟซ  


    โว้ยยย พี่มิณณณณทร์ พี่ลืมอะไรไปรึเปล่าคะ!! พี่มิณทร์เอาแก้มนุ่มๆมาคลอเคล้าถูไถกับแก้มฉัน  ฉันมองไปข้างหน้าก็เป็นลานเกียร์คณะวิศวะซึ่งมีเด็กวิศวะร่วมครึ่งร้อยกอดคอกันบูมอยู่อย่างบ้าคลั่งจนเส้นเอ็นแทบจะขึ้นคอ  เหลือบไปข้างซ้ายก็เป็นพี่ฉัตรที่มองพี่มิณทร์ที่กำลังออเซาะฉันด้วยสีหน้านิ่งๆ  ส่วนข้างขวาก็เป็นพี่แอ๊นท์กับพี่นัทที่กำลังจ้องเราตาเป็นมัน          


    สถานการณ์ตึงเครียดขนาดนี้.. ใครก็ได้มาช่วยหนูซอลด้วยค่ะ!!  แต่ถ้าใครคิดว่านี่คือพีคแล้วนะ.. ฉันขอบอกว่าเหตุการณ์ต่อไปข้างนี้พีคกว่าอีก
            

    “เกียรติโยธา  เกียรติโยธา  เกียรติโยธา!!”       
              

    เสียงบูมที่ดังสนั่นพอดำเนินวนลูปมาถึงตอนจบก็เงียบกริบลงอีกครั้ง และที่เกิดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายคือหลายสิบล้านสายตาที่เงยหน้าขึ้นมาจากการก้มตัวตะเบ็งคอบูมให้รุ่นพี่ต่างก็มองมาที่ฉันที่กำลังคลอเคลียอยู่กับพี่มิณทร์  งานนี้นอกจากแจ้งเกิดแล้วกุญแจซอลอยากกรี๊ดให้ดังๆเลยค่ะ!! 
              

    “พี่มิณณณทร์ปล่อยซอลก่อน คนมองกันหมดแล้วค่ะ”


    แม้สิบหมื่นสายตาของเด็กวิศวะกำลังมองเราอยู่แต่พี่มิณทร์ก็ยังลอยหน้าลอยตาเอาแก้มมาแนบกับแก้มฉันอย่างไม่สนใจ  น้องขอเถอะพี่มิณทร์พี่ช่วยสนหน่อยได้ไหม  พี่ทำแบบนี้คนจะมองน้องยังไงนอกจาก.. อีนี่แรด


    “มีแฟนสวยพี่ก็ต้องทำกลิ่นให้รู้ว่ามีเจ้าของหน่อยสิคะ” พี่มิณทร์ยังคงหน้ามึนถูไถแก้มเขากับแก้มฉันโดยมีเด็กวิศวะนับสิบมองตามตาปริบๆเหมือนเคย  ฉันอายจนหน้าเห่อร้อนไปหมด  โอยย พี่มิณณณทร์  นี่พี่จะฆ่าน้องหรอคะ
              

    “เชี่ยย พอได้แล้วป่ะวะ  มึงเก็บไว้ไปทำกันสองคนโน่น  มึงกลัวข่าวไม่รู้ถึงหูไอ้กรรึไงวะ” พี่ฉัตรยื่นขามาช่วยถีบกระทุ้งสติพี่มิณทร์ให้ฉัน  ชื่อ ‘เฮียกร’ เหมือนยันต์เพราะพอพี่มิณทร์ได้ยินชื่อเฮียกรปั๊ปเขาก็เด้งตัวออกจากฉันดึ๋งเลย  แต่เด้งออกไปแค่หน้าส่วนท่อนแขนยังคาคล้องอยู่ที่คอฉันอยู่นะ
              

    “ไอ้กรมันไปสิงคโปร์แล้ว.. ใช่มั้ยคะ?” 


    ประโยคหลังพี่มิณทร์หันมาถามฉัน ฉันได้แต่พยักหน้าหงึกหงักก่อนที่พี่ฉัตรจะช่วยชีวิตฉันโดยการล็อคคอพี่มิณทร์ออกไป
              

    “มึงจะประเจิดประเจ้อไปไหน ไปยืนรวมตัวรอเข้าแถวกับพวกกูเลยไอ้เหี้ย น้องเค้าเพิ่งคบกับมึงได้กี่วันเองเนี่ยแมร่งโคตรเปลืองเนื้อเปลืองตัวสัสอ่ะ”
              

    “ซอลขาาาาาาาาาาาา เดี๋ยวพี่มานะคะ” 


    พี่มิณทร์ทำหน้าเหมือนเด็กโดนแย่งของเล่นแล้วเอื้อมมือทำท่าจะไขว่คว้าฉัน  พี่นัทกับพี่แอ๊นท์หัวเราะกันเสียงดังแต่ฉันสิทำหน้าไม่ถูกเลย  เพราะตั้งแต่วันแรกที่คบฉันกับพี่มิณทร์ก็จูบกัน..
              

    “ตัวเองงงงงงงงง  งั้นเดี๋ยวเค้ามานะ” พี่นัทหันมาอ้อนเขย่าแขนพี่แอ๊นท์ก่อนจะวิ่งตัวปลิวไปสมทบกับพี่มิณทร์พี่ฉัตร  ฉันเห็นทั้งสามหนุ่มกอดคอกันหัวเราะเสียงดังมาถึงนี่  พี่มิณทร์ก็ขี้เล่น  พี่นัทก็ขี้แหย่  เห็นจะมีคนที่ปวดหัวกับนิสัยเพื่อนคนเดียวก็คือพี่ฉัตร
              

    “หน้าแดงเชียวน้องซอล ไหวมั้ยคะ” 


    พี่แอ๊นท์ยิ้มทะเล้นแหย่ฉันก่อนจะกระเถิบมานั่งใกล้ๆเพราะพี่มิณทร์ลุกไปแล้ว “นี่ขนาดอยู่กันคนเยอะๆยังขนาดนี้  ถ้าอยู่กันสองคนน้องซอลไม่โดนมิณทร์แทะไปถึงกระดูกเลยหรอคะ”
              

    ถูกเป๋งเลยค่ะ! เพราะตอนฉันอยู่กับพี่มิณทร์สองคนพี่มิณทร์แทะฉันเกือบถึงกระดูกจริงๆ พี่มิณทร์เป็นผู้ชายสายมุ้งมิ้ง  ทั้งขี้อ้อน  ปากหวาน  จูบเก่ง  สารพัด!
              

    “ก็นิดหน่อยค่ะ..” ฉันตอบพี่แอ๊นท์อย่างๆเขินก่อนจะกวาดสายตากลับไปยังลานเกียร์ซึ่งตอนนี้มีคนต่อแถวเยอะขึ้น ฉันเห็นพี่มิณทร์มองมาแล้วโบกมือให้ฉัน
              

    “พี่ไม่เห็นมิณทร์ร่าเริงแบบนี้มานานแล้วนะ”
              

    “คะ?”
              

    “ตอนมิณทร์คบกับคนเก่าน่ะดูหน้าอมทุกข์อึมครึมยังไงไม่รู้  เหมือนจะยิ้มเหมือนจะหัวเราะแต่ก็เหมือนมีเรื่องในใจ” ฉันไม่รู้ตอนพี่มิณทร์คบกับยัยนั่นเป็นยังไง สุขล้นกันแค่ไหน  ฉันรู้แค่ยัยนั่นนอกใจพี่มิณทร์ตอนจบ ฉันรู้แค่นั้น
              

    “แล้วตอนนั้นมันไม่ดีหรอคะ”
              

    “ก็ดีนะแต่ไม่ดีเท่าตอนนี้..” พี่แอ๊นท์ยิ้มให้ฉันแล้วเอานิ้วเขี่ยจี้เกียร์ที่ห้อยอยู่ที่คอเล่น “เสียดายคนที่ได้เกียร์มิณทร์ไม่ใช่หนูซอล”
     

    (LOADING 100%)



    พี่มิณทร์ขาาาาาาา
    มามุ้งมิ้งกับเค้าบ้างงงงง เค้ารออยู่ ฮ่าๆ
    เปิดประเด็นเกียร์หาย  อูยยยยย


    \\(-___-)  บูมมมม รอออออ (-___-)//


    รักส์ ❤


    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ


     


     


     

     

     

     

     


          

     


     


     

     


     

     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×