คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : คลื่นอีกฝั่ง
EP 40: คลื่นอีกฝั่ง
SOL’S TALK
V Hotel, หัวหิน
ฉันยืนมองมองเฮียกรกับพี่ก้อยที่กำลังถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันในชุดไทยด้วยอาการตาค้างใจและพองโตสุดๆ โหยย เฮียกรกับพี่ก้อยดูสมกันจังอ่ะ
“สวยค่ะ.. สวย”
แชะ!
“คุณกรมองตาคุณก้อยนะคะ ดีค่ะ หวานมากค่ะ เยี่ยมเลยย”
แชะๆๆ!!
มายก๊อดด เห็นแล้วอยากแต่งงานบ้างเลยอ้ะ.. พี่ก้อยอยู่ในชุดไทยบรมพิมานสีครีมหวานที่ขับผิวขาวผ่องอย่างเปล่งประกายมีออร่าสุดๆ เรือนผมนุ่มสีน้ำตาลสวยถูกเกล้าขึ้นจับช่อเป็นทรงอยู่ตรงต้นคอขาวแซมด้วยดอกไม้ไทยกลิ่นหอมที่ส่งกลิ่นจรูงใจชวนฝัน พี่ก้อยสวยราวกับนางในวรรณคดี
โง้ยย พี่สะใภ้คนนี้สามผ่านค่ะ!!
“คุณกรเชยมือคุณก้อยขึ้นมาจรดริมฝีปากช้าๆค่ะ น่านน อย่างนั้นค่ะ”
โฮกกกกกก พี่ชายฉันก็หล่อเหลาปานเทพบุตรไม่แพ้กัน ฉันว่างานวันหมั้นชะนีน้อยใหญ่ทั้วกรุงเทพต้องอกหักดังเป๊าะกันแน่ๆ ก็ดูเฮียกรสิ.. หล่อสะบัดเลยอ่ะ!
ฉันยืนปักหลักอยู่กลางกองพรีเวดดิ้งพี่ก้อยกับเฮียกรที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่หัวหินซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของวีกรุ๊ปธุรกิจของบ้านพี่ก้อย บรรยากาศโดยรอบและคู่บ่าวสาวตรงหน้าชวนเพ้อฝันมากก ฉันกับมะม๊าและอาจ๊ะโอ๋แม่ของพี่ก้อยก็ตามมาให้กำลังใจและควบคุมการผลิตในวันนี้ด้วย
ถึงจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่ทุกคนก็ตกอยู่ในบรรยากาศที่อบอวลในรักมากอ่ะ เวลาเฮียกรกับพี่ก้อยมองตากันเล่นเอาทะเลจืดไปเลย ‘สมกับดั่งกิ่งทองใบหยก’ คือนิยามของวันนี้
“กร กอดน้องแน่นๆหน่อยลูกก” ฉันอมยิ้มเขินๆเมื่อมะม๊าเดินกางร่มไปตะโกนเชียร์เฮียกรเสียงดัง ก็แน่ล่ะยิ่งใกล้วันมะม๊าฉันยิ่งคึกคักและหน้าบานสุดๆ อะไรจะออกนอกหน้าขนาดนั้นนน
“หูยย มะม๊าขาา เชียร์เบาๆหน่อยค่ะ”
ฉันแอบไปกระแซะมะม๊าที่ยืนกางร่มแซวเฮียกับพี่ก้อยด้วยระยะประชิด ขนาดเริ่มถ่ายมาตั้งแต่เช้ามะม๊าก็ยังแรงดีไม่มีไม่ตก ก็นะ.. ลูกชายคนโตอย่างเฮียกรจะแต่งงานถึงว่ามะม๊าฉันคึกจัง
“จูบจริงเลยกร มานพสกุล! อย่าให้เสียหน้ามะม๊า” มะม๊าตะโกนเย้วๆเชียร์เฮียกรเสียงดังอย่างกับเชียร์มวย เฮียกรส่ายหัวเบาๆอย่างเขินๆขณะที่พี่ก้อยหน้าแดงแป๊ด
“มะม๊าคะ ตะโกนอะไรเกรงใจอาจ๊ะโอ๋หน่อยค่ะ”
“เรานี่หัวโบราณไปมั้ยกุญแจซอลเฮียเรากับพี่เขาจะแต่งกันอยู่แล้ว เอ้า! เร็วกร มะม๊ารออยู่นะ” มะม๊าฉันยังคงคอยกำกับไม่เลิก.. ฉันมองไปที่อาจ๊ะโอ๋ที่นั่งอยู่ในร่มและคอยให้กำลังใจพี่ก้อยอยู่ยิ้มๆ
โห.. สองมะม๊านี่ สีแดงกับสีขาวชัดๆ
“โอ้ยย ม๊าขาา เรื่องจัดท่าปล่อยเป็นหน้าที่ของทีมงานดีมั้ยคะ” ฉันพยายามลากแขนมะม๊ากลับขณะที่มะม๊าจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด
“กุญแจซอลล หนูนี่ขัดใจมะม๊าจัง”
“เราดูอยู่ไกลๆก็ได้มั้งคะ”
“ได้ที่ไหนล่ะ ลูกชายคนโตมะม๊าแต่งงานทั้งทีมะม๊าก็ต้องควบคุมการผลิตอย่างใกล้ชิดหน่อย นี่ถ้าเป็นงานเราแต่งมะม๊าคุมใกล้ชิดกว่านี้อีกนะ” ฉันลากแขนมะม๊ากลับมานั่งขณะที่อาจ๊ะโอ๋นั่งฟังเราสองแม่ลูกคุยกันยิ้มๆ อาจ๊ะโอ๋เป็นแม่ของพี่ก้อยที่นิสัยค่อนข้างเรียบร้อยและสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก
“ซอลไม่ได้แอบคุย.. แต่ซอลแค่แอบไปส่งไลน์ค่ะ”
SOL SAID
“พักกินน้ำก่อนก็ได้นะเปียโนปล่อยให้เด็กๆถ่ายรูปสบายๆไปก่อน ไปคอยจ้องอยู่ใกล้ๆเด็กๆจะเขินเอานะ” อาจ๊ะโอ๋ยื่นขวดน้ำเย็นให้มะม๊าแล้วส่งมาให้ฉัน “หนูซอล ทานน้ำเย็นจ้ะ”
โห อาจ๊ะโอ๋เนี่ย.. เป็นแม่สามีในอุดมคติเลย ฉันลองคิดเล่นๆถึงครอบครัวของพี่มิณทร์ เอาจริงๆฉันก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอกับครอบครัวพี่มิณทร์เลยสักครั้ง
“ขอบคุณค่ะ”
ฉันรับน้ำจากอาจ๊ะโอ๋พอดีกับข้อความจากไลน์ที่ดังสวนขึ้น ฉันแกล้งเดินออกไปเนียนๆทำทีเดินไปดูวิวทั้งที่ความจริงแอบเดินออกไปกดโทรศัพท์
MIN_EN44 ถ้าจะจับมือไม่ต้องจับบ่อย ขอแค่จับและอย่าปล่อยมือกันก็พอ
มะม๊าจรดริมฝีปากบางสวยจิบชาด้วยสีหน้าชิลๆแต่ฉันสิเหงื่อแตกพลั่กๆ “อย่าให้ม๊าต้องพูดนะ”
ตอนแรกฉันกะจะตีเนียนนิ่งไว้ก่อนเพราะฉันไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมะม๊ารู้เรื่องของฉันมากแค่ไหน เพราะนอกจากเรื่องที่ฉันแอบคบกับพี่มิณทร์โดยไม่บอกเฮียกรแล้ว เรื่องความสัมพันธ์ของฉันที่มันเกินเลยกับพี่มิณทร์มันก็โคตรที่จะสมควรเป็นความลับ
“ว่าไงจ๊ะ”
“คือ..ซอล”
ฉันกำลังถัวเฉลี่ยค่าความเสี่ยงอยู่ว่าจะยอมรับกับมะม๊าหรือจะตีเนียนไว้ก่อนดี แต่ฉันคำนวนๆดูแล้วยังไงฉันคงบอกมะม๊าไม่ได้ ฉันไม่รู้จะบอกมะม๊ายังไงและที่สำคัญคนที่ฉันควรจะบอกคนแรกเรื่องฉันกับพี่มิณทร์คือเฮียกร เพราะถ้าเฮียรู้เป็นคนสุดท้ายเฮียคงจะเสียใจและผิดหวังในตัวฉันมากแน่ๆ เพราะงั้นขอโทษนะคะมะม๊าา
“ซะ ซอลขอยังไม่บอกได้ไหมคะ” ฉันพยายามต่อรองมะม๊าขอยืดเวลาหายใจออกไปอีกนิดนึง ขอฉันบอกเฮียกรก่อนแล้วค่อยบอกให้มะม๊ารู้เถอะนะ
“เจ้าความลับ!”
มะม๊ายื่นมือมาหยิกปลายจมูกฉันขณะที่อาจ๊ะโอ๋ที่นั่งฟังอยู่อมยิ้มให้กับเราสองแม่ลูก ฉันมองไปที่เฮียกรที่กำลังถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่ไกลๆ โอ้ยย ทำไมฉันต้องมารู้สึกกลับไม่ได้ไปไม่ถึงแบบนี้นะ
“ไว้ซอลพร้อม ซอลจะบอกนะคะ”
“แอบที่บ้านขับรถออกไปหาจนรถมาตายที่สิงห์บุรี นี่ต้องให้มะม๊าสืบเองสินะ”
“มะม๊าขาา ไว้ซอลพร้อมซอลจะบอกจริงๆค่ะ”
“มะม๊ากลัวจะไม่ทัน” มะม๊ากอดอกแล้วถอนหายใจน้อยๆ“ก็ถ้าซอลไม่ยอมบอกมะม๊า มะม๊าก็ไม่รู้จะช่วยซอลยังไง”
“มะม๊าหมายความว่าไงคะ” ฉันเรื้อยไปเกาะแขนมะม๊าอย่างงงๆ ไม่ทัน? ไม่ทันอะไร? แล้วที่บอกว่าไม่รู้จะช่วยฉันยังไงนี่หมายความว่าไงอ่ะ??
“วันงานหมั้น.. ย่าหยกจะแนะนำซอลให้รู้จักกับลูกชายเจ้าสัวเกื้อกูล”
“มะม๊าาา!!!!” ฉันเผลอลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจเสียงดัง วันงานหมั้นย่าหยกจะให้แนะนำฉันให้รู้จักกับลูกชายเจ้าสัวคู่ค้าทางธุรกิจ เห้ยย นี่มันสมัยไหนแล้วน่ะ!!
“ซอลใจเย็นลูก ย่าหยกแค่จะแนะนำให้รู้จักกันไม่ใช่ดูตัวเพราะถ้าจะมาบังคับซอลให้ดูตัวมะม๊าก็ไม่ยอมหรอก ทางฝั่งผู้ใหญ่บอกว่าแค่อยากให้ทำความรู้จักกัน”
“ซอลไม่ยอมนะคะ!”
แล้วมันต่างจากการดูตัวของคนจีนตรงไหนล่ะ แนะนำให้รู้จักกันก็หมายความว่าผู้ใหญ่ต้องอยากให้ดองกันแน่ๆ หัวใจฉันบีบรัดเมื่อคิดถึงพี่มิณทร์ ถ้าไม่ใช่พี่มิณทร์ฉันก็จะไม่ยอมไปดูตัวกับใครทั้งนั้น!!
“อย่าเพิ่งโวยวายสิลูก ผู้ใหญ่แค่อยากให้เด็กๆรู้จักกัน”
“แต่ซอลไม่ได้อยากรู้จักด้วยนี่คะ!” ไม่นะ..ฉันไม่เอาแบบนั้น!! พี่มิณทร์กำลังจะกลับมาแต่กลับกลายเป็นว่าฉันต้องไปปั้นหน้ายิ้มทำความรู้จักกับผู้ชายอีกคน หัวใจฉันสั่นระริกและน้ำตาเริ่มเอ่อคลอ ฉันไม่อยากทำแบบนั้น..
“กุญแจซอล”
มะม๊าดึงฉันให้กลับลงไปนั่งด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะที่เฮียกรกับพี่ก้อยหันมามองฉันที่ยืนทำหน้าจะร้องไห้เขม็ง “ไม่ใช่ว่ามะม๊าไม่เข้าใจหนูนะ”
“แต่มะม๊าก็ไม่ได้ปฏิเสธย่าหยกนี่คะ”
“ก็จะให้ม๊าปฏิเสธคุณย่าได้ยังไง ม๊าจะเอาเหตุผลอะไรไปปฏิเสธ หนูเองก็ยังไม่มีใครแล้วจะให้ม๊าเอาอะไรไปบอกคุณย่าล่ะ”
“ซอลไม่ใช่ไม่มีนะคะ!”
“อะไรกันซอล โวยวายอะไรเสียงดัง” ฉันหันไปอีกทีเฮียกรก็กำลังเดินมุ่งหน้าตรงมาหาฉัน ฉันจะบอกเหตุผลกับมะม๊าได้ไงล่ะถ้าเฮียกรยืนฟังอยู่ เหตุผลของฉันก็คือพี่มิณทร์และฉันก็ยังไม่ได้บอกเฮียเลยเรื่องฉันกับพี่มิณทร์
โอ้ยย นี่มันงูกินหางชัดๆ
“ปะ เปล่าค่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้เฮียกรและปรับสีหน้าเป็นปกติ ฉันอยากบอกมะม๊าเรื่องพี่มิณทร์แต่ฉันบอกไม่ได้ ก็เฮียกรมายืนอยู่ตรงนี้จะให้ฉันทำไงล่ะ
“แล้วเสียงดังอะไรกัน”
เฮียกรเดินกลับมาหยุดตรงหน้าฉันพร้อมพี่ก้อยเพื่อทำการเปลี่ยนชุดเป็นเซ็ทต่อไป ฉันเหลือบหันไปมองมะม๊าที่รอคำตอบจากฉันอยู่ ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างช้าๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ..”
“แล้วตะโกนอะไรเสียงดัง”
“เฮียรู้เรื่องที่ย่าหยกจะแนะนำให้ซอลรู้จักกับลูกชายเจ้าสัวเกื้อใช่มั้ยคะ” ฉันไม่ตอบคำถามมะม๊าที่ถามค้างไว้แต่ฉันหันไปพุ่งใส่เฮียกรแทน ฉันไม่เชื่อว่าเฮียจะไม่รู้!
“ก้อย ไปเปลี่ยนชุดกันลูกเดี๋ยวมะม๊าช่วย” อาจ๊ะโอ๋ลุกขึ้นตัดบทและลากพี่ก้อยที่ยืนทำหน้างงออกไปจากดงสงครามของมานพสกุลแทน โต๊ะนั่งพักตอนนี้เหลือแต่มะม๊า เฮียกร และฉัน
“ว่าไงคะ”
“อืม เฮียรู้” เฮียกรยอมรับง่ายๆจนฉันไม่อยากเชื่อ ฉันหลงคิดว่าเฮียจะเป็นคนแรกที่ปกป้องฉัน “เดี๋ยวสิซอล ฟังเฮียก่อน!” เฮียกรคว้าข้อมือฉันขณะที่ฉันกำลังจะเดินหนี กลายเป็นว่าเรื่องนี้ทุกคนในบ้านรู้หมด ยกเว้นฉัน
“เฮียยอมให้ซอลถูกคลุมถุงชนหรอคะ” ฉันช้อนสายตาขึ้นถามเฮียน้ำตานองหน้า “ซอลเป็นน้องเฮียนะ..”
“ผู้ใหญ่แค่อยากให้รู้จักกันเฉยๆซอลไม่ได้คลุมถุงชน มันก็แค่นั้น”
“ก็ถ้าพี่ก้อยถูกแนะนำให้รู้จักกับคนอื่นบ้างเฮียยอมมั้ยล่ะ!”
“หัดมีเหตุผลบ้างซอล โตแล้ว”
“เฮีย!”
“ถ้าเป็นการดูตัวแบบคลุมถุงชนเฮียคงไม่ยอม แต่นี่ผู้ใหญ่แค่อยากให้รู้จักกัน”
“มันก็ไม่ต่างจากการดูตัวหรอกค่ะ!”
“ย่ารับปากกับเฮียแล้วว่าถ้าซอลไม่ชอบก็จะไม่ฝืนใจแต่ยังไงก็แค่อยากให้ทำความรู้จักกันไว้ก่อน เพราะถ้าซอลมีแฟนอยู่แล้วย่าก็ไม่ขัด”
“แต่ซอล..” ฉันเกือบหลุดปากออกไปเรื่องฉันกับพี่มิณทร์ “ซะ ซอล..” ฉันตะกุกตะกักอ้ำอึ้งไปอ้ำอึ้งมา การประกาศเรื่องฉันกับพี่มิณทร์คือทางแก้ไขปัญหาตรงหน้า แต่ฉันกลับไม่กล้าพูด..
ยิ่งฉันมองสบตาเฮียกร ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลัง
“ซอล..” จากที่เคยกล้าเก่งแทบจะทุกเรื่องแต่พอเรื่องที่สำคัญที่สุดกลับไม่กล้า มันเกินเลยไปมากสำหรับความสัมพันธ์ของฉันกับพี่มิณทร์ ฉันกลัวเฮียกรกับมะม๊ารู้จะเสียใจ.. สุดท้ายฉันก็พูดไม่ออก “วันนั้นซอลยอมไปทำความรู้จักก็ได้ค่ะ”
เพราะความขี้ขลาดของฉัน เรื่องมันถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้.. ฉันรู้สึกเจ็บปวดเมื่อนึกถึงหน้าพี่มิณทร์ การไปทำความรู้จักกับคนอื่นนี่มันเข้าข่ายนอกใจไหมนะ?
“แต่แค่รู้จักนะคะ..ซอลมีคนในใจอยู่แล้ว”
สุดท้ายฉันก็ยอมบอกเฮียกรกับมะม๊าไปแค่นั้น มะม๊าพยักหน้ารับรู้ขณะที่สายตาคมกริบของเฮียกรมองฉันอย่างทะลุสุดๆ เฮียกรคงกำลังคิด.. ว่าใครคือผู้ชายคนนั้นของฉัน ความจริงมันก็อยู่ตรงนั้น อยู่ต่อหน้าทุกคนแต่เพียงแค่ไม่มีใครสังเกต ว่า..พี่มิณทร์คือคนๆนั้น
เฮียกรขยับทำท่าจะถามฉันพอดีกับสไตลิชกรูกันมาหามแขนเฮียกรไปเปลี่ยนชุดแต่งหน้าทำผมสำหรับพรีเวดดิ้งชุดต่อไป มะม๊าเองก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรขณะที่ฉันได้แต่นั่งรับสภาพไปอย่างเงียบๆ ฉันเกลียดที่ต้องไปทำความรู้จักกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่มิณทร์
พี่มิณทร์ขา.. ซอลขอโทษนะ
(LOADING 100%)
❤❤
TALK 2
เป็นงานหมั้นที่รวมมิตรสุดๆ
มีใครให้ได้มากกว่านี้มั้ยย
ไม่รู้จะเคลียร์เรื่องอะไรก่อนดี
ระหว่างอีพี่ที่คิดน้อยกับน้องที่โดนบังคับดูตัว
มิณทร์ไปหาซอลแน่ๆ แต่ซอลจะทำยังไงถ้าเห็นใครข้างมิณทร์
ส่วนมิณทร์จะทำยังไงถ้าเห็นซอลโดนจับคู่กับใครที่ไม่ใช่ตัวเอง
แอร๋ยย
❤
TALK 1
เป็นหนูซอลนี่ต้องสตรองแค่ไหนนะ
คลื่นลมเยอะเกิ๊นนนนน
ถ้าอีพี่เป็นคนคิดน้อย กุญแจซอลก็คิดโคตรเยอะ 5555+
บอกๆเฮียกรไปซะก็หมดเรื่อง
ถ้าฝั่งมิณทร์มีคลื่น ฝั่งหนูซอลก็มีคลื่นเหมือนกัลล
และดูท่าคลื่นฝั่งนี้จะซัดกระหน่ำกว่าด้วย 555+
คอมเมนต์เมื่อวาน เด็ดดวงจริงเชียว (อีพี่โดนด่าเละ)
ถถถถถ อะฮั้นเอามาตอบไม่ถูกเบยย
แต่มีคนเดาใจเค้าถูกด้วยง่ะะ กรีดร้องงง
รักส์
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น