คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : กลับมาเจอกัน
“ยิ่งผมรู้ว่าเมียผมอยู่ใกล้ๆ.. ผมยิ่งอยากพุ่งเข้าไปในงานให้เร็วที่สุด”
MIN SAID
EP 42: กลับมาเจอกัน
MINTT’S TALK
๒ ชั่วโมงก่อนงานหมั้น, ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งแถวอยุธยา
“วิ๊ดวิ้วววววว~ ~คนสวยจะไปไหนจ๊ะ”
เสียงแซวชวนหงุดหงิด.. ที่ได้ยินเมื่อไหร่ก็ตีนกระตุก ฉันที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากห้องน้ำปั๊มเสร็จหันไปยิ้มหวานให้กับต้นเสียง
“พ่อเป็นนกหรอคะ?”
เป็นคำตอบสั้นๆที่ฟังแล้วก็สมกับคนแซวดี อยู่ดีไม่ว่าดี ปากอยากวอนตีนซะงั้น ฉันเดินกระแทกเท้ากลับก่อนจะเสียหลักตกจากส้นสูงหัวแทบทิ่ม ดีนะ.. ที่เกาะรถที่จอดอยู่แถวนั้นได้ไม่งั้นล่ะอายตายเลย ปกติฉันใส่แต่ผ้าใบค่อยใส่ส้นสูงซะที่ไหนล่ะ
“ซี๊ดดดสส์” แล้วเคราะห์กรรมอีกอย่างคือรองเท้ากัด! นอกจากฉันจะไม่ชินกับส้นสูงแล้วก็ดูเหมือนส้นสูงจะไม่ชอบผู้หญิงเท้าบานๆอย่างฉันจริงๆ นี่ขนาดฉันเพิ่งซื้อมาใส่แค่ทีสองที ยังกัดซะ..
โอ้ยยยย นี่ขนาดยังไปไม่ถึงงานเลยนะ นี่ขนาดฉันแค่ซ้อมเดินในปั๊มรองเท้ายังกัดฉันยับขนาดนี้ แล้วฉันต้องไปเดินกระย่องกระแย่งในงานเนี่ยะนะ!
“เหมือนเป็ดเดินเลยว่ะ..”
เกือบละ.. เกือบหันไปด่าว่ามีหมาตายในปากรึเปล่าถ้าคนที่หันไปเจอไม่ใช่มิณทร์ ไอ้หล่อนี่ก็ขยันกวนตีนฉันจังง
“สวยอ่ะ” ฉันหันไปจีบปากและเชิดหน้าใส่มิณทร์อย่างมั่นใจ แต่รู้อะไรมั้ย..ไอ้หล่อแม่งนั่งขำก๊ากอยู่กลางปั๊ม
เลวววววววววอ่ะ!!
“มีเป็ดเป็นไอดอลรึไงแม่คุณ ถ้ามันใส่ยากก็ใส่ผ้าใบไปมั้ยจะฝืนใส่ส้นสูงทำไมเดินไปก็ไม่ถนัด” ฉันใส่ผ้าใบไปแน่.. ถ้าฉันไม่มารู้ทีหลังว่าเพื่อนที่มิณทร์บอกว่าจะไปงานหมั้นคือ กร มานพสกุล นะ ฉันก็ว่าแล้ววววว่าถ้าไอ้หล่อนี่นามสกุลปันณพัชร เพื่อนสนิทก็คงดีกรีไม่ต่างกันแต่ฉันไม่ยักรู้ว่าเพื่อนสนิทมิณทร์จะตระกูลไฮโซขนาดนั้นน่ะสิ ไฮโซขนาดรวยเป็นอันดับต้นๆของตระกูลในประเทศไทยเลยนะ!
“ตลกละ.. งานไฮโซขนาดนั้นขืนให้เราใส่ผ้าใบไปเราโดนการ์ดหามออกมาทิ้งหน้างานแน่ๆ แต่ความจริงเราไม่ไปก็ได้นะ”
ฉันก้มตัวลงนั่งยองๆแล้วแปะพลาสเตอร์ยาตรงบริเวณที่รองเท้ากัดจนพองหน้ารถขณะที่มิณทร์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
“อ้าว ทำไมอ่ะ”
มิณทร์ที่เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำปั๊มยืนหยุดอยู่ตรงหน้าฉันแล้วล้วงกระเป๋าชุดสูทด้วยลุคที่โคตรเท่.. โอ้ยย ก็เพราะแบบนี้ไงล่ะ ไอ้หล่อไม่ว่าแต่งอะไรมันก็หล่อ! ส่วนฉันสิ.. ขนาดพยายามขนาดนี้ยืนเทียบแล้วยังดูเหมือนหนอนเลย มิณทร์เป็นผู้ชายที่ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูแพงและดูราศรีจับ
“ก็เราเป็นแค่คนธรรมดาป่ะ” ฉันก้มหน้าอย่างหงอยๆ “ก็ที่ๆจะไปมีแต่เซเลปไฮโซป่ะ?”
นี่ขนาดฉันลงทุนสั่งเดรสที่ดูน่ารักๆจากในไอจีแล้วให้ไปส่งที่ลำพูนเลยนะ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังดูเหมือนจาน กระเบื้องอยู่ดีเมื่อเทียบกับจานเนื้อดีอย่างคุณหนูสุดไฮโซกุญแจซอล.. สิ่งที่มิณทร์ลืมบอกคือ “หนูซอล” แฟนคนสวยของมิณทร์กับ กร มานพสกุลเป็นพี่น้องกัน!
โว้ยยยยยย ไม่บอกตอนแจกการ์ดเลยล่ะยะ!! ฉันก็ว่าสวยๆอย่างหนูซอลก็หน้าคุ้นๆอยู่..
“คนธรรมดาแล้วไงวะ” มิณทร์ย่อตัวลงมานั่งยองๆตรงหน้าฉัน “เราก็คนเหมือนกัน ที่งานไม่มีใครเป็นนางฟ้าหรือเทวดาหรอก..”
แหมม ก็ถ้าฉันสวยอย่างกุญแจซอลฉันจะรู้สึกเป็นหนอนอย่างงี้มั้ยล่ะ?
“จริงๆนะมิณทร์เราไม่ไปก็ได้นะ” ฉันเงยหน้าขึ้นต่อรอง “ชุดเราก็เหมือนซื้อมาจากสำเพ็งอ่ะขณะที่คนที่ไปงานก็สวยๆดูดีกันทุกคน บอกตรงๆเราอาย”
“อายอะไร.. เราเป็นเพื่อนกันป่ะ?”
ฉันรู้ว่ามิณทร์ไม่เคยอวดรวยหรือทำตัวเหมือนคนนามสกุลดังเลยสักครั้ง แต่ความจริงมันก็คือความจริงป่ะ..
ว่ามิณทร์คือ มิณทร์ ปันณพัชรและมีแฟนคนสวยชื่อ กุญแจซอล ดาริกา มานพสกุล และสังคมของฉันกับมิณทร์มันคนชั้นกัน
“เออ แต่ขอเว้นงานไฮโซแบบนี้ได้มะ”
“คิดมากไปป่ะ แล้วถ้าไม่ไปจะไปเจอเพื่อนเราได้ไง เพื่อนเราหล่อนะ”
“ขี้คุยว่ะ..” จริงๆไม่อยากไปหรอกนะ ความจริงที่ฉันติดรถมิณทร์มากรุงเทพด้วยก็แค่อยากหลบหน้าภัทรเฉยๆ ฉันแค่อยากตั้งหลักอยู่ในที่ๆไม่มีภัทรสักพัก
“ไอ้ฉัตรมันหล่อน้าา”
“แม่ง.. ขายเพื่อนว่ะ”
“ใครวะก่อนมาท้าเหยงๆ ว่าไม่กลัวอยากเจอ.. แต่พอจะมาเจอจริงๆกลับป๊อดซะงั้น” มิณทร์เริ่มขยี้จุดฉัน “ แม่งอ้างว่ะ.. ทำเป็นไม่อยากไปงานไฮโซที่จริงๆก็ป๊อด พูดแล้วไม่รักษาคำพูด นี่เด็กโยธาจริงป่ะวะ”
“คือแค่ไม่ไปต้องขุดมาด่าขนาดนั้น?”
“ก็กะด่าให้เสียหมาเลยอ่ะถ้ามีคนป๊อดไม่ไป”
“เออ! ไปก็ได้ ถ้านาย ‘ฉัตร’อะไรเนี่ยงานไม่ดีนี่กลับมาด่าเลยนะ”
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ไอ้ฉัตรปัญหาอยู่ที่ตัวเธอเองที่ไม่ชอบเปิดใจ จริงอยู่ที่ความรักดีๆมันไม่หาได้ง่ายๆแต่ถ้ายังมัวจมอยู่แต่กับความเสียใจยังไงก็ไม่เจอป่ะ?” มิณทร์ยิ้มกว้างแล้วยื่นมือส่งมาให้ฉัน.. ความจริงฉันก็รู้นะว่าเป็นเพราะฉันจมอยู่แต่ความสุขในอดีตมาตลอดฉันเลยลืมภัทรไม่ได้ ถึงฉันจะหนีแต่ฉันก็แอบหวังไว้ในใจว่าภัทรจะกลับมาหาฉัน
“รู้น่ะ..”
ฉันเอื้อมมือจับมือมิณทร์ที่เอื้อมมาฉุดฉันให้ลุกขึ้น แปลกที่คนแปลกหน้าที่ไม่น่าจะมาเจอกันกลับมอบความรู้สึกดีๆให้และทำให้ฉันรู้สึกถึงคำว่า “เพื่อน”ที่แท้จริง มิณทร์เป็นผู้ชายอบอุ่นเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นคนรักที่แสนน่ารัก
“ไอ้ฉัตรมันหล่อน้าา ~”
โวะ.. ไอ้หล่อนี่ก็ย้ำจัง! จะหล่อแค่ไหนกันนะไอ้คนชื่อฉัตรเนี่ย? แต่สำหรับฉันฉันไม่ต้องการคนหล่อแค่รักเดียวใจเดียวก็พอ
ฉันขอแค่นั้น..
MIN’S TALK
V hotel, งานหมั้นกรรณารา & กร มานพสกุล, 8:40 am
ผมขับรถเข้ามาจอดในโรงแรมดังระดับห้าดาวซึ่งเป็นสถานที่จัดงานหมั้นอย่างฉิวเฉียด เยดเข้! กรุงเทพแม่งรถติดตั้งแต่รถผมเหยียบกลับเข้ามาในเขตเลยว่ะ นี่ขนาดผมรีบเหยียบมาแล้วนะยังมาถึงเกือบสายเลย
เชี่ยยย กุญแจซอลของพรี่~ พี่มิณทร์คนดีมาถึงแล้ววววค่ะ
“เฮ้ย มิ้นต์เร็วหน่อยดิวะ!”
ผมรีบสาวเท้าออกมาจากที่จอดรถก่อนจะหันไปเร่งมิ้นต์ที่เดินๆหยุดๆอย่างหงุดหงิด แม่งงงตัวผมอยู่นี่แต่ใจผมบินไปยังสถานที่จัดงานเรียบร้อยแล้ว โว้ยยย มัวแต่เดินๆหยุดๆเดี๋ยวผมก็ไปเซอร์ไพร์ซเมียไม่ทันนน
“รองเท้ากัดอ่ะ..” มิ้นต์ลงไปนั่งยองๆแล้วทำหน้ายู่ยี่ใส่ผม สองมือจับๆคลำๆอยู่ที่รองเท้าคู่สวย “เราเจ็บจนเดินแทบไม่ไหวเลยอ่ะ”
“ก็บอกให้เปลี่ยนใส่ผ้าใบป่ะ?”
“ไม่ทันแล้วมะ” มิ้นต์จิ๊ปากแล้วยู่หน้าใส่ผมอย่างหัวเสีย “โคตรรรเจ็บเลยอ่ะ..”
“กลับไปเปลี่ยนที่รถก่อนป่ะ”ตอนนี้ผมกับมิ้นต์เดินมาเกือบถึงหน้าล็อบบี้เพื่อที่จะกดลิฟท์ไปยังห้องจัดงานแต่มิ้นต์ก็มาเดินไม่ไหวซะก่อน “รองเท้ากัดขนาดนี้ไม่ต้องห่วงสวยแล้วป่ะ”
“นายไปก่อนเหอะเดี๋ยวไม่ทัน”
“แล้วเธออ่ะ”
“เดี๋ยวเราค่อยกระดื๊บๆตามไปไม่ต้องกลัว” มิ้นต์โบกมือไล่ผม “ นายไม่อยากเจอหน้าหนูซอลเร็วๆรึไงห้ะ” โห.. นี่ถ้ามีปีกคงบินไปแล้ววว เมียอยู่ใกล้แค่เอื้อมขนาดนี้.. อยากเจอหน้าเมียจะตายอยู่แล้วอ้ะ!
“โทษทีนะมิ้นต์ งั้นเดี๋ยวเจอกันในงานนะ”
ผมยกมือขอโทษมิ้นต์ก่อนจะวิ่งไปกดลิฟท์เพื่อดิ่งไปยังห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ด้านบน แค่คิด..เท้าแม่งยังวิ่งเร็วไม่เท่าหัวใจ ยิ่งผมรู้ว่าเมียผมอยู่ใกล้ๆ.. ผมยิ่งอยากพุ่งเข้าไปในงานให้เร็วที่สุด
“เอาล่ะค่ะท่านผู้มีเกียรติ.. หลังจากรอกันมาอีกไม่นานก็จะถึงฤกษ์สวมแหวนแล้วค่ะ” ทันทีที่ลิฟท์เปิดออกปั๊ป เสียงประกาศของพิธีกรของวิ่งแล่นเข้ามาในโสตประสาทผม เยดเขร้~ เกือบมาไม่ทันน
ผมรีบสาวเท้าเข้าไปในงานที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาร่วมงาน ทั้งดารา เซเลป และคนมีชื่อเสียงมากมายมาร่วมงานหมั้นแห่งปีกันเต็มไปหมด สื่อจ้าวต่างๆต่างเดินกันให้พล่านเยอะแยะมากมาย เชี่ยยย งานหมั้นของไอ้กรที่มันงานหมั้นระดับชาติชัดๆ แขกแต่ละคนที่มากันมีแต่ระดับไฮคลาสทั้งนั้นเลย ผมเดินหลบบรรดาผู้คนแล้วแทรกตัวเข้าไปในงาน
เอ.. ท่ามกลางคนที่แออัดอย่างกับตลาดนัดเปิดท้ายแบบนี้ เมียของผมอยู่ไหนน้า ~
ผมยืนด้อมๆมองๆหากุญแจซอลอยู่บริเวณภายในงานขณะที่พิธีกรก็กำลังแจ้งกำหนดการอยู่ด้านหน้า แสงแฟลชวิบ วับที่สาดไปมาทำเอาผมตาพล่าและทำให้ทุกอย่างในงานเป็นสีขาวไปหมด โอ้โห นามสกุลไอ้กรนี่มันบิ๊กจริงว่ะ..
“ขอเชิญสื่อมวลชนทั้งหลายประจำที่ด้วยค่ะ”
จากตอนแรกที่คิดว่าผมคงจะมาไม่ทันแต่ตอนนี้ผมรู้สึกโคตรโชคดีเลยที่ผมมาทันงานหมั้นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมตั้งแต่เริ่ม งานหมั้นของไอ้กรเต็มไปด้วยคนดังระดับบิ๊กๆมากมาย ด้วยความที่ “มานพสกุล” เป็นนามสกุลใหญ่แล้วยังจะมาดองกับตระกูลอสังหาริมทรัพย์อย่าง “ธราธร” อีกกก งานนี้คนดังเลยคับคั่ง!
ไอ้กรกับเกี่ยวก้อยเพาะบ่มความรักด้วยกันนานเป็นสิบปีและผมก็อยู่ด้วยในเหตุการณ์ตลอด การที่เพื่อนที่ผมรักสมหวังและเป็นฝั่งเป็นฝาแบบนี้ผมรู้สึกยินดีกับมันด้วยจริงๆว่ะ
บรรยากาศในงานชื่นมื่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความรัก ภายในงานถูกประดับประดาด้วยดอกไม้น้อยใหญ่ตระการตาสมกับเป็นงานหมั้นประจำปีภาพพรีเวดดิ้งของไอ้กรกับเกี่ยวก้อยที่ในอิริยาบถต่างๆถูกตกแต่งอยู่เป็นมุมๆจัดเป็นซุ้มๆกระจายอยู่ทั่วงาน ผมเดินไล่ดูภาพแห่งความสุขทีละภาพและอดยินดีด้วยไม่ได้จริงๆ
กร กูยินดีด้วยจริงๆว่ะ..
กรกับเกี่ยวก้อยเป็นตัวอย่างรักแท้ที่ฝ่าฟันหลายสิ่งหลายอย่างมาด้วยกัน กว่าจะได้ยืนข้างกันกว่าจะสมหวังอย่างวันนี้ ผมพูดได้ว่าไอ้กรกับก้อยฝ่าฟันอะไรด้วยกันมามากมายจริงๆ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไอ้กรกับก้อย..ก็ไม่เคยปล่อยมือไปจากกัน กับอุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นกับไอ้กรคราวนั้นแม้แต่ความทรงจำ.. ก็ไม่สามารถพรากความรักของไอ้กรกับเกี่ยวก้อยได้ ผมยกนิ้วโป้งให้บ่าวสาวในรูปบานใหญ่
“ยินดีกับมึงด้วยจริงๆว่ะ”
ผมพยายามมองหากุญแจซอลพร้อมๆกับมองหาไอ้ฉัตร.. ไอ้ฉัตรก็มางานนี้ด้วยเหมือนกัน ผมโทรคุยกับมันเมื่อคืนมันบอกอยากจะมาอวยพรเกี่ยวก้อยด้วยตัวเอง เกี่ยวก้อยเป็นความรักที่ฝังใจของมัน.. แต่การจะมองหาไอ้ฉัตรท่ามกลางเหล่าไฮโซไฮซ้อเป็นสิบขอบอกว่าจนป่านนี้ผมยังไม่เห็นเงาหัวไอ้ฉัตรเลย
เมียทั้งคนก็ยังไม่เห็นน หรือผมต้องแอ๊บทำเป็นโทรไปหาซอลวะ?
“ไง มาเมื่อไหร่วะ” แล้วก็เป็นไอ้ฉัตรที่เดินอ้อมมายืนอยู่ตรงหน้าผม กลายเป็นไอ้ฉัตรเป็นคนเดินมาทักผมทั้งๆที่ผมกำลังเดินมองหามัน
“เยดเข้ ~ไม่ได้เจอกันตั้งนานหล่อสาดด”
“ตกลงมึงเหาะมารึไงวะจากลำพูนมากรุงเทพใช้เวลาแค่คืนเดียว ตีนผีสัส”
“ก็จะรีบมาหาเมียอ่ะ”
“ตกลงไม่ได้คิดจะมางานหมั้นเพื่อนสินะแต่กะจะมาปล้ำเมีย มึงนี่แม่งงงจริงๆเลยว่ะ” เกลียดดดนักคนรู้ทัน! ตอนแรกก็กะว่าจะสงสารขี้หน้าแม่งอยู่หรอกนะแต่พอเจอปากหมาๆของมันเข้า ผมว่าผมร้องเพลง “คำยินดี” ปลอบมันดีกว่าว่ะ
“เปล๊าา กูแค่อยากมาดูหน้าหมาอกหัก”
“กูแค่จะมาแสดงความยินดีกับคนที่กูรัก ไม่ได้กะมาปล้ำน้องสาวเจ้าบ่าวอย่างมึง”
เหยดดดดเขร้ ~~ ไอ้ฉัตรแม่งกัดไม่ปล่อยเลยว่ะ นี่ขนาดแค่ทักกันเบาๆนะไอ้ฉัตรยังกัดผมซะจมเขี้ยว งุ้ยยย แต่แม่งเอาความจริงมาพูดได้ไงอ้ะ
“เออ แล้วมึงเจอไอ้กรกับเกี่ยวก้อยรึยังวะ”
“ไอ้กรน่ะกูเห็นแว่บๆ ส่วนเกี่ยวก้อยเห็นพิธีกรบอกว่าจะให้เจ้าบ่าวเชิญเจ้าสาวออกมาตอนได้ฤกษ์ทำพิธี ส่วนเมียมึงก็ยืนทักทายแขกอยู่ด้านนู้นอ่ะ”
เชี่ยยยยยย เพื่อนฉัตรรรรรร กูรักมึงงงงงงงว่ะ!!
“พ่อเมิง! แล้วทำไมไม่รีบบอกกูวะ กูเดินหาซอลจนขาจะลากอยู่แล้ว” ผมระริกระรี้รีบเดินไปตามคำพูดไอ้ฉัตร ท่ามกลางผู้คนร้อยพันผมมั่นใจว่าผมมองหาหัวใจของผมเจอแน่ๆ
ผู้หญิงคนเดียวที่ผมคิดถึงและอยากที่สุด.. ผู้หญิงที่ผมรัก
โดดเด่นและส่องสว่างท่ามกลางคนนับร้อยพัน ร่างบางของผู้หญิงที่ยืนหันหลังและยิ้มให้กับฝูงกล้องที่กำลังลั่นแฟลชอยู่ตรงหน้า จะเป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่ผมคิดถึงที่สุด.. กุญแจซอล
“น้องซอลคะ ยิ้มให้กล้องนี้ด้วยค่ะ”
เสียงหนึ่งของบรรดาช่างภาพดังขั้น ร่างบางที่ยืนหันหลังอยู่ยกมือขึ้นมาเท้าเอวแล้วยิ้มสู้กล้องราวกับนางแบบ โหยย เมียใครวะน่ารักจังง
“น้องซอลคะมองกล้องนี้ด้วยค่ะ” ร่างบางหันไปยิ้มสู้ตายให้กล้องอีกครั้ง ขนาดเห็นแค่ข้างหลังผมยังแทบใจละลายเลย.. ผมรู้สึกถึงความคิดถึงที่มันจุกอกอยู่ข้างใน ยิ่งได้มองใกล้ๆ ยิ่งโคตรอยากดึงเข้ามากอดเลยว่ะ..
“เอ่อ.. เดี๋ยวพวกพี่พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะคะ งานกำลังจะเริ่มแล้วค่ะซอลต้องขอตัวก่อน” ร่างบางกล่าวตัดบทอย่างนอบน้อมก่อนจะค้อมตัวให้กับบรรดาสื่อที่มาขอถ่ายรูปอย่างน่าเอ็นดู โหยย เมียพรี่~ ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ
“งั้นเดี๋ยวจบงานพวกพี่ขอถ่ายรูปน้องซอลอีกนะคะ”
“ได้เลยค่ะ” เสียงหวานตอบรับ สาบานเลยเลยว่าให้ผมยืนแอบมองซอลทั้งวันผมก็ทำได้ ซอลคือเหตุผลว่าทำไมคนบางคนถึงเพียงแค่แอบมองก็มีความสุข..
ใช่.. เพราะซอลคือคำว่ารัก
การที่เราสองคนต้องอยู่ห่างกันทำให้ผมรู้คุณค่าของความสุขเวลาที่เราได้อยู่ใกล้ ผมรู้ถึงความรักและความคิดถึงที่มันท่วมท้นใจ.. คำตอบของความคิดถึงมากมาย คือกุญแจซอล..
ผมหายใจลึกๆและสืบเท้าเข้าไปใกล้ๆ..งุ้ยยย อยากดึงเมียเข้ามากอดจังงง~
เยดเข้.. ทำไมแค่จะทักเมียถึงได้รู้สึกตื่นเต้นจังวะ ผมยืนเงอะงะอยู่สักพักก่อนจะย่องเข้าไปใกล้ๆแล้วกระซิบเบาๆข้างหูเมีย
“ซอลขา.. พี่กลับมาแล้วค่ะ”
❤❤
TALK 2
งุ้ยยยย ในที่สุดก็กลับมาเจอกันแล้นน
วันนี้ที่รอคอยยยยยยย วั้ยยย
ขออนุญาติจบตอนสั้นกว่าปกติหน่อย เพราะเดี๋ยวยาวเกินนน
ขอเคลียร์พื้นที่โล่งๆให้กับ EP หน้า ฮี่ๆ
จะหวานสมกับที่รอมั้ยน้าาาา ตื่นเต้นแทน 555+
❤
TALK 1
งานใกล้เริ่มแล้วค่ะ
ตัวละครมาครบแล้ว
อีพี่มาพร้อมมิ้นต์ ส่วนอีน้องโดนบังคับดูตัว
ต้องเป็นงานหมั้นที่สนุกม๊ากกมากแน่นวลลล
กร + เกี่ยวก้อย @ งานหมั้น
พร้อมด้วยพี่ฉัตรที่มาแสดงความยินดี
ฮี่ๆ
รักส์
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น