NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #40 : พายุรัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.98K
      83
      5 มิ.ย. 66

    “ฉันคิดถึงพี่มิณทร์สุดหัวใจ”  
    SOL SAID


     

    EP 44:  พายุรัก 
    SOL’S TALK
     

     

    ฉันรู้สึกเหมือนฝัน..
              

    รอยยิ้มอบอุ่นของคนที่อยู่เบื้องหน้าทำให้หัวใจฉันแทบหยุดเต้น  ร่างสูงโปร่งที่ฉันเอาไปฝันถึงทุกวันดูคล้ำแดดลงไปนิดหน่อยแต่กลับดูกำยำและมีเสน่ห์มากขึ้น ดวงหน้าหล่อเหลาที่ฉันหลงรักและมักจะทำให้ฉันใจเต้นทุกครั้งที่ได้เจอหน้าดูแปลกตาและมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  


    ดวงตาคมกริบคู่สวยจ้องมองและสะท้อนแต่ภาพฉันโดยไม่ละสายตา เรียวคิ้วเข้มกับจมูกโด่งรั้นที่รับกับริมฝีปากหยักสวยกำลังแตะรอยยิ้มอยู่ตรงหน้าอย่างอบอุ่นจนฉันรู้สึกเหมือนโลกนี้หยุดหมุน  เสียงรบกวนรอบข้างเริ่มเงียบลง ฉันได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นดัง
              

    บีทหนักๆของหัวใจบอกว่าฉันไม่ได้ฝัน   แข้งขาฉันสั่น.. มือฉันอ่อนแรง  ความอบอุ่นของร่างสูงที่แผ่ออกมาตรงหน้าทำให้น้ำตาฉันเอ่อไหลออกมาเต็มไปหมด  


    พี่มิณทร์ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน..
              

    “ซอลคะ..” 


    ฉันได้แต่ยืนเอามือปิดปากและมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ  นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน?   ฉันยืนจ้องมองคนที่ฉันแสนคิดถึงอยู่อย่างนั้น  ฉันไม่กล้าขยับ.. ฉันกลัวว่าถ้าฉันหลับตารอยยิ้มอบอุ่นของคนตรงหน้ามันจะหายไปไหม  ฉันได้ยินเสียงบีบรัดของหัวใจ  มันไม่ใช่แค่ฝันใช่ไหม.. บอกฉันที
              

    พี่มิณทร์ยืนอยู่ตรงหน้าฉันจริงๆ  ไม่ใช่ฝัน

              

    “............”  


    ไม่รู้เนิ่นนานแค่ไหนที่เรายืนสบตากัน  พี่มิณทร์ยืนมองตาฉันในดวงตาคู่สวยของเขานั้นฉันรู้สึกได้ถึงความรัก ความโหยหาที่ถูกบรรจุอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด และฉันก็รู้สึกไม่ต่างกัน
              

    ในงานเลี้ยงแห่งนี้เหมือนมีแต่ฉันกับคนตรงหน้าเท่านั้นเสียงและผู้คนร้อยพันจางหายไป ฉันไม่มองไม่เห็นอะไร.. ฉันเหมือนเดินหลงทางอยู่ในดวงตาของพี่มิณทร์  ฉันเหมือนตกลงไปในสายตาคู่นั้น  พี่มิณทร์ค่อยๆก้าวเข้ามายืนตรงหน้าฉัน  มือหนาค่อยๆไล่สัมผัสเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเปรอะพวงแก้มฉันอย่างอบอุ่น  พระเจ้า.. พี่มิณทร์ยืนอยู่ตรงหน้าจริงๆ  ฉันไม่ได้ฝัน
              

    “พี่มาได้ไงคะ..” 


    ฉันได้ยินเสียงตัดพ้ออันแสนแผ่วเบาของตัวเอง ไหนเขาบอกว่าทำงานรอบดึกกลับออกมาอีกทีก็เช้าเลยไงล่ะ  ไหนเรานัดกันว่าเขาตื่นแล้วจะโทรมา พี่มิณทร์เล่นกลับมาเซอร์ไพร์ซฉันแบบนี้  หัวใจฉันจะหยุดเต้นเอาได้ง่ายๆเลยนะ!
              

    “พี่มาตามเสียงเรียกร้องของหัวใจค่ะ” ปลายนิ้วของพี่มิณทร์ยังคอยไล่เช็ดน้ำตาที่ผลัดกันร่วงหล่นเต็มใบหน้าฉัน  เสียงทุ้มอันแสนอบอุ่นที่ฉันคิดถึง  ลมหายใจของคนใกล้ที่เคยหลอมรวมเป็นลมหายใจเดียวกัน  หัวใจฉันสั่นๆพอๆกับแข้งขาที่อ่อนแรงจนฉันวูบเซลง  “ระวังค่ะ!”
              

    อ้อมแขนแข็งแรงของพี่มิณทร์รวบเอวฉันก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดดึงฉันเข้ามาใกล้ๆ  ฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่กำลังล้มเหลวไม่เป็นท่าพอๆกับน้ำตาที่ไหลลงมาจากสองตาไม่หยุด  คิดถึง..  ฉันคิดถึงเขาจัง..
              

    “พี่อยากกอด.. อยากจูบหนูจังเลยค่ะ” 


    เสียงทุ้มที่แผ่วเบาดังความฝันและมีฉันเพียงคนเดียวที่ได้ยิน  อ้อมแขนหนารวบฉันเข้าไปกอดแน่นขึ้นอีก  ฉันจิกปลายเนื้อลงบนเสื้อสูทหนาของพี่มิณทร์  เราใกล้กันจนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ฉันฝังปลายเล็บลงบนแผ่นอกพี่มิณ ทร์แน่น  นี่ไม่ใช่ความฝัน
              

    “ซอลคิดถึงพี่มากเลยค่ะ”
              

    “หรอคะ..”  ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ฉันมากขึ้น “แต่พี่คิดถึงหนูมากกว่าอีก  คิดถึงจะเป็นจะตายเลยค่ะ”

              

    “อยู่กับซอลนานๆได้มั้ยคะ..”
              

    “แล้วถ้าพี่จะกอดหนูไม่ปล่อยแบบนี้ ..จะได้มั้ย” น้ำตาฉันไหลทะลักเมื่อพี่มิณทร์กระชับอ้อมแขนจนตัวเราติดกันอีกรอบ  พี่มิณทร์แตะรอยยิ้มน้อยๆดวงหน้าหล่อเหลากำลังจ้องมองฉันอย่างหลงใหล พระเจ้า.. พี่มิณทร์กลับมาหาฉัน
              

    “กอดซอลไว้นานๆเถอะนะคะ”  ฉันเริ่มสะอึกสะอื้น  “ซอลคิดถึงพี่มิณทร์จริงๆ” และมันก็สุดที่ฉันจะกลั้น  ฉันโถมเข้าไปสวมกอดพี่มิณทร์แน่น  ฉันสูดกลิ่นของคนที่ฉันแสนคิดถึงเข้าไปเต็มปอด  ฉันไม่ได้ฝัน..
              

    “พี่กลับมาแล้วค่ะ” 


    พี่มิณทร์กระซิบข้างหูฉันพร้อมๆกับกระชับอ้อมกอดกอดฉันไว้แน่น  เรากอดกันเหมือนกลัวคนจะแยกเราออกจากกัน  “พี่คิดถึงหนูสุดๆเลยค่ะ”
              

    ความอบอุ่นของอ้อมกอดที่ฉันสัมผัส  ความแข็งแรงจากร่างสูงที่กอดและโอบอุ้มฉันไว้  ฉันรู้สึกไม่อยากไปไหนนอกจากซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดนี้อ้อมกอดของคนที่ฉันรัก  ฉันซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดพี่มิณทร์แบบนั้นนานพอกับพี่สติฉันวิ่งกลับมาจนเริ่มได้ยินเสียงซุบซิบจากคนรอบด้านดังขึ้น  
              

    “ซอลขา.. เราต้องเลิกกอดกันแล้วล่ะค่ะ” 


    พี่มิณทร์กระซิบข้างหูฉันตรงข้ามกับอ้อมแขนฉันที่กอดรอบเอวพี่มิณทร์แน่น  ฉันส่ายหน้าและจมตัวเองลงไปในอ้อมกอดพี่มิณทร์  ฉันไม่สนหรอกว่าใครจะพูดอะไร  ฉันคิดถึงพี่มิณทร์สุดหัวใจ..เพราะงั้นฉันจะไม่มีวันปล่อยมือจากเขาไปง่ายๆหรอก  ฉันรัก..และคิดถึงของฉัน
              

    “เราจะเปิดตัวกันแบบนี้หรอคะ? พี่โอเคนะคะถ้าหนูโอเค” พี่มิณทร์ผละจากอ้อมกอดแล้วโน้มใบหน้าลงมาชิดติดฉัน  “ประกาศบอกให้ทุกคนรู้แบบนี้ก็ดีค่ะ พี่ไม่กลัวหรอกนะคะถ้าจะโดนไอ้กรกระทืบกลางงานแล้วจับโยนพี่ออกไป  เพราะพี่ก็อยากกอดหนูไว้แบบนี้เหมือนกัน



    เดิมทีฉันก็ไม่เคยสนอะไรทั้งนั้น  แต่ภาพและเสียงของคนรอบข้างที่เพิ่งกลับมาทำให้ฉันเริ่มโฟกัสกับสถานที่ที่ตัวเองยืนอยู่มากขึ้น  ฉันอยู่กลางงานหมั้นเฮียกรและญาติผู้ใหญ่ฉันทั้งหมดตอนนี้อยู่ในงาน แล้วไหนจะพวกสื่อต่างๆที่เดินว่อนกันอยู่ทั่วงานอีกล่ะ  


    อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องฉันกับพี่มิณทร์ทั้งนั้น  (นอกจากพี่ก้อย) ในขณะที่พี่มิณทร์กลับมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลัง
              

    “ปะ ปล่อยก่อนก็ได้ค่ะ” 


    ฉันแกะตัวเองออกจากอ้อมกอดพี่มิณทร์โดยไม่เต็มใจสักนิด  พี่มิณทร์หัวเราเบาๆในลำคอก่อนจะผละอ้อมกอดออกจากฉัน
              

    “หนูทำถูกแล้วค่ะ”  พี่มิณทร์ลูบหัวฉัน  “ความจริงพี่อยากเดินเข้าไปบอกที่บ้านหนูเรื่องเรามากกว่าค่ะ  พี่ไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้จากสื่อ  พี่เป็นผู้ชายเพราะงั้นพี่อยากให้เกียรติหนูค่ะ”
              

    ยิ่งพี่มิณทร์พูดแบบนี้ฉันยิ่งกระอัก  ฉันเลิกลั่กและเริ่มทำตัวไม่ถูกหลังจากได้สติ ใช่.. ก็วันนี้ภายในงานย่าหยกจะแนะนำลูกเจ้าสัวคู่ค้าทางธุรกิจให้ฉัน  แล้วพี่มิณทร์ที่กำลังยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่นและไม่รู้อะไรเลยตรงนี้อีกล่ะ  ทั้งๆที่พี่มิณทร์พร้อมที่จะบอกกับทุกคนเรื่องฉันแต่ฉันกลับกลัวไปหมด.. และไม่กล้าให้พี่มิณทร์พูด  


    ฉันลนเป็นหนูติดจั่น 


    ฉันควรจะบอกเรื่องที่ย่าหยกจะจับคู่ให้กับพี่มิณทร์ดีมั้ยนะอีกทั้งฉันยังกลัวเฮียกรเลิกเป็นเพื่อนกับพี่มิณทร์  ฉันกลัวตัวเองจะสร้างปัญหาให้กับพี่มิณทร์  ฉันเหมือนเด็กที่กลัวความผิด  ไม่กล้าคิด..ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น 
              

    และเหมือนคนบนฟ้าจะลงโทษฉัน..  เพราะดูเหมือนเรื่องที่ฉันลืมไปหมดใจ  ฉันไม่คิดว่าเรื่องที่เป็นเหมือนฝันร้ายจะกลับมาหลอกหลอนฉันอีก  เมื่อร่างเล็กของคนๆนึงค่อยๆกระโผลกกระเผลกเข้ามาและจับแขนพี่มิณทร์จากทางด้านหลัง  ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นอีกครั้งและรู้สึกเหมือนถูกผลักตกลงมาจากที่สูง เมื่อคนที่ฉันหวาดกลัวที่สุดโผล่มาจับแขนพี่มิณทร์อย่างสนิทสนม
              

    พี่มิ้นต์.. เธอมาได้ยังไง?
              
     

    “โหยย  มิณทร์ เราเดินหาตั้งนานแน่ะ” ร่างเล็กบ่นกระปอดกระแปด “แล้วโทรมาตั้งหลายครั้งทำไมไม่รับ!”
              

    “อ้าว หรอไม่ได้ยิน” พี่มิณทร์หันไปยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างอารมณ์ดีผิดกับฉันที่รู้สึกใจหายไปกว่าครึ่ง  “ใช้จมูกดมกลิ่นมาหรอ หาเราเจอได้ไงอ่ะ”
              

    “กวนตีนอีกละนะ”
              

    ทำไมพวกเขาคุยกันเหมือนไม่มีฉันอยู่ในโลก?  แล้วไหนจะท่าทางสนิทสนมที่มีต่อกันอีกล่ะ  ใครจะว่าไงฉันไม่รู้นะ.. แต่ฉันไม่สามารถละสายตาออกจากมือพี่มิ้นต์ที่จับอยู่ที่แขนพี่มิณทร์ได้เลย  มันคืออะไร.. ทั้งๆที่อ้อมแขนนี้เพิ่งกอดฉันเมื่อกี้เองนะ
              

    “ซอลคะ เซอร์ไพร์ซค่ะ! นี่มิ้นต์เพื่อนพี่ที่เขื่อนติดรถมาเปิดหูเปิดตาที่กรุงเทพด้วย” 


    พี่มิณทร์หันขวับมาแนะนำพี่มิ้นต์กับฉัน  ฉันมองไปยังพี่มิ้นต์ที่ยังเกาะแขนพี่มิณทร์อยู่  นั่นผู้ชายของฉันนะ..เธอมาจับแขนแฟนของฉันทำไม  เธอตามพี่มิณทร์มาทำไม ขลุกอยู่แต่ฉันแฟนฉันที่เขื่อนยังไม่พออีกรึไง 
    หรือนี่คือ “เซอร์ไพร์ซ” ที่พี่มิณทร์บอกนะ?
              

    “สวัสดีค่ะหนูซอล  พี่มิ้นต์ค่ะ” 


    พี่มิ้นต์ก้มหัวให้ฉันและระบายยิ้มอย่างสดใส มีใครเคยบอกเขาสองคนไหมว่าการที่พี่มิ้นต์เกาะแขนพี่มิณทร์อยู่แบบนี้พวกเขาดูเหมาะ สมกันจังเลย พวกเขาดูเข้ากันได้ดีและดูไม่มีช่องว่างของอายุมาคั่น  พี่มิ้นต์เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่หน้าตาดีแต่ดูห้าวหน่อยๆ ใบหน้าเนียนใสรับกับผมปะบ่าที่ถูกรวบและถักเปียน้อยๆอยู่ด้านหลัง พี่มิ้นต์อยู่ในชุด
    เดรสสั้นเปลือยไหล่สีน้ำเงินลายกราฟฟิคน่ารัก 


    แปลกนะ.. ทั้งๆที่แค่จับแขนกันแต่กลับดูสมกับพี่มิณทร์อย่างเหลือเชื่อ แต่ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ  แล้วฉันล่ะ?
              

    “สวัสดีค่ะ..”
              

    “หนูซอลตัวจริงสวยน่ารักมากเลยค่ะ อย่างกับตุ๊กตาแน่ะ”
              

    “ขะ ขอบคุณนะคะ” ยัง.. ฉันยังไม่สามารถละสายตาจากมือบางที่เกาะอยู่ที่ท่อนแขนพี่มิณทร์ได้เลย  ทำไมต้องเกาะแขนกันด้วย?  แล้วทำไมพี่มิณทร์ถึงยอมยืนให้พี่มิ้นต์เกาะแขนต่อหน้าฉันล่ะ ทำไมไม่สะบัดออก  ฉันแฟนเขานะ?
              

    “มิณทร์เราหิวแล้วอ่ะ เราหาอะไรกินได้ที่ไหนหรอ”
              

    “เออว่ะ ตอนแวะเซเว่นเธอก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย” ฉันขยุ้มมือตรงหัวใจอย่างเจ็บปวด  ทำไมฉันถึงเจ็บที่เห็นพี่มิณทร์หันไปหัวเราะกับพี่มิ้นต์อย่างสนิทสนมจังนะ “เอ..ซอลคะ พี่จะหาพวกอาหารว่างทานได้ที่ไหนหรอพอดีมิ้นต์หิว” 
              

    ตกลงนี่คือเซอร์ไพร์ซของพี่มิณทร์ใช่มั้ยคะ?  ให้ความสำคัญกันที่เขื่อนยังไม่พอยังตามมาสนิทกันถึงที่นี่  ถ้าพี่มีคนประกบติดขนาดนี้.. พี่ไม่จำเป็นต้องมีซอลแล้วก็ได้ มั้งคะ?
              

    “อ๋อ ถ้าพวกเครื่องดื่มมีพนักงานบริการอยู่  ส่วนอาหารจัดเลี้ยงจะเริ่มหลังพิธีค่ะ” ไหนพี่บอกคิดถึงซอลไงคะ.. แต่ทำไมพี่ถึงดูเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น  ถามถึงแต่กับคนอื่นต่อหน้าซอลแบบนี้  แล้วซอลล่ะ?


    “เออ งั้นเดี๋ยวเธอเอาน้ำลูบท้องไปก่อนแล้วกัน”
              

    “กวนตีนละ..” เสียงหัวเราะสนุกสนานของพี่มิณทร์กับพี่มิ้นต์เหมือนมือลึกลับที่ผลักฉันออกนอกวงและทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน  ตกลงนี่คือเซอร์ไพร์ซของพี่จริงๆหรอคะ?
              

    “งั้นเดี๋ยวซอลขอตัวไปช่วยงานด้านในก่อนนะคะ” 


    ก่อนที่ความน้อยใจจะขยี้ใจฉันให้เป็นผุยผงและก่อนที่ฉันจะคิดฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้.. ฉันว่าฉันขอตัวออกไปจากที่ตรงนี้จะดีกว่า  ฉันไม่อยากเห็นพวกเขาหัวเราะให้กัน..
              

    “เดี๋ยวก่อนสิคะ!”


    พี่มิณทร์พยายามคว้าแขนฉันแต่ช้ากว่าขาฉันที่รีบจ้ำพาตัวเองออกจากวงกลมแห่งมิตรภาพที่พี่มิณทร์แนะนำว่า “เพื่อน” เพื่อนที่ไหนจะตามมาจากเขื่อนถึงนี่..  เพื่อนที่ไหนเขายืนจับแขนยืนหัวเราะต่อกระซิกกันล่ะ!  ฉันรีบจ้ำฝ่าผู้คนเดินสวนเข้ามาในงานพอดีกับมือหนาของพี่มิณทร์ที่ตามมาคว้าแขนฉันไว้ได้ทัน  


    “ซอลคะ.. เดี๋ยวก่อนค่ะ!!” ฉันพยายามสะบัดท่อนแขนออกมาจากการมือหนาของพี่มิณทร์แต่เขากลับออกแรงกระชากฉันกลับ “หนูจะรีบไปไหนคะ!”
              

    “ซอลจะไปช่วยเฮียกรรับแขกค่ะ”
              

    “แล้วทำไมหนูถึงต้องวิ่งหนีพี่มาแบบนี้คะ” แล้วจะให้ฉันบอกเขายังไงล่ะ จะให้ฉันบอกเขาตรงๆเลยหรอว่าฉันไม่ชอบเห็นเขายิ้มให้กับพี่มิ้นต์  ความจริงฉันอยากถามว่าเขาพาพี่มิ้นต์มาทำไมแล้วทำไมถึงดูสนิทกันขนาดนั้น


    “กุญแจซอลคะ?”
              

    แววตาของพี่มิณทร์ยังคงมองฉันอย่างถนุถนอมและเป็นห่วงเหมือนเดิม ฉันอยากบอกเขาเหลือเกิน  พี่ไม่พาพี่มิ้นต์มาจะได้มั้ยคะ?
              

    “มะ ไม่มีอะไรค่ะ” แล้วสุดท้ายฉันก็ไม่กล้าพูด.. เพราะมันฟังดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ฉันมีสิทธิจะพูดไหม  ฉันจะดูแย่มากไหม  ถ้าฉันจะพูดอะไรออกไปแบบนั้น
              

    “มิณทร์เกิดอะไรขึ้นอ่ะ??” 


    เหมือนเกมส์ทดสอบความแข็งแกร่งของใจฉัน..เมื่อพี่มิ้นต์เดินตามฉันกับพี่มิณทร์มาก่อนที่อยู่ๆจะเสียหลักเซล้มลง

             

    “เฮ้ย มิ้นต์ระวัง!!” พี่มิณทร์ปล่อยจากท่อนแขนฉันหันไปคว้าจับพี่มิ้นต์ที่กำลังจะล้มลง  สุดท้ายพี่ก็เป็นห่วงพี่มิ้นต์จนยอมปล่อยมือจากซอลสินะคะ..
              

    “โทษทีมิณทร์ เมื่อกี้รองเท้ามันถูกับหนังที่เปิดโคตรเจ็บเลยอ่ะ” 


    แค่ยืนหัวเราะให้กันฉันก็ใจบางมากแล้ว  ยังมาทำเป็นห่วงเป็นใยกันต่อหน้าฉันอีก  ฉันเจ็บจนใจสั่น.. เมื่ออ้อมแขนที่เป็นของฉันบัดนี้กลับไปสวมกอดประคองคนอื่น
              

    เซอร์ไพร์ซของพี่.. ซอลเจ็บจังเลยค่ะ
              

    แล้วโดยไม่คาดฝัน  บอกเลยว่าอะไรที่ฉันทำสติสตังฉันอยู่ครบ!!  ฉันเอื้อมมือคว้าแก้วน้ำส้มที่พนักงานเดินเสิร์ฟผ่านมาก่อนจะสาดใส่หน้ายัยพี่มิ้นต์จนเปียกทั่วทั้งตัว  ฉันรู้ตัวในสิ่งที่ทำ.. ร่องรอยความสะใจฉายชัดอยู่ในแววตาฉันพอๆกับดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจของพี่มิณทร์ที่เห็นพี่มิ้นต์เปียกโชก
              

    “เฮ้ยยย..!!??” 





    (LOADING 100%)

     



    ❤❤
    TALK 2
    อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจไรท์ 
    เจอหนูซอลเปิดโหมดไฟท์เตอร์ไป 
    สงกรานต์กันกลางงานหมั้นเลยจ้าา
    ได้ข่าวเมื่อวานเจอไรท์ลากไปโหมดสวีท 

     

    ตายอย่างสงบกันถ้วนหน้า
    มาวันนี้โดนไรท์เล่นอีกแล้ว 5555+

    เข้าใจหนูซอลนะ อดทนมานาน
    ถึงจะอ่อนแอกับความรักมากแต่นางก็สู้คน 
    เมื่อไหร่ที่หมดความอดทนคืออาละวาด
    บอกก่อนเลยว่าอย่าเพิ่งมาม่า 

     

    เพราะตอนต่อไปจากนี้ มันส์มากขอบอกก! 




    TALK 1

    มาปล่อยความละมุนแต่เช้าาาา
    คนอ่านจะได้กระชับกระเฉงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรักก 555+
    หวานนนเนอะ
    งื้ออออออ ละลายย



    "ใกล้ๆกว่านี้.. ให้หายสักทีโรคขี้เหงาใจ
    รักษาคนเดียวไม่หาย  ต้องรักกัน.."

    รักส์
     


    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

     


     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×