คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : พายุรัก
“ฉันคิดถึงพี่มิณทร์สุดหัวใจ”
SOL SAID
EP 44: พายุรัก
SOL’S TALK
ฉันรู้สึกเหมือนฝัน..
รอยยิ้มอบอุ่นของคนที่อยู่เบื้องหน้าทำให้หัวใจฉันแทบหยุดเต้น ร่างสูงโปร่งที่ฉันเอาไปฝันถึงทุกวันดูคล้ำแดดลงไปนิดหน่อยแต่กลับดูกำยำและมีเสน่ห์มากขึ้น ดวงหน้าหล่อเหลาที่ฉันหลงรักและมักจะทำให้ฉันใจเต้นทุกครั้งที่ได้เจอหน้าดูแปลกตาและมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
ดวงตาคมกริบคู่สวยจ้องมองและสะท้อนแต่ภาพฉันโดยไม่ละสายตา เรียวคิ้วเข้มกับจมูกโด่งรั้นที่รับกับริมฝีปากหยักสวยกำลังแตะรอยยิ้มอยู่ตรงหน้าอย่างอบอุ่นจนฉันรู้สึกเหมือนโลกนี้หยุดหมุน เสียงรบกวนรอบข้างเริ่มเงียบลง ฉันได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นดัง
บีทหนักๆของหัวใจบอกว่าฉันไม่ได้ฝัน แข้งขาฉันสั่น.. มือฉันอ่อนแรง ความอบอุ่นของร่างสูงที่แผ่ออกมาตรงหน้าทำให้น้ำตาฉันเอ่อไหลออกมาเต็มไปหมด
พี่มิณทร์ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน..
“ซอลคะ..”
ฉันได้แต่ยืนเอามือปิดปากและมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน? ฉันยืนจ้องมองคนที่ฉันแสนคิดถึงอยู่อย่างนั้น ฉันไม่กล้าขยับ.. ฉันกลัวว่าถ้าฉันหลับตารอยยิ้มอบอุ่นของคนตรงหน้ามันจะหายไปไหม ฉันได้ยินเสียงบีบรัดของหัวใจ มันไม่ใช่แค่ฝันใช่ไหม.. บอกฉันที
พี่มิณทร์ยืนอยู่ตรงหน้าฉันจริงๆ ไม่ใช่ฝัน
“............”
ไม่รู้เนิ่นนานแค่ไหนที่เรายืนสบตากัน พี่มิณทร์ยืนมองตาฉันในดวงตาคู่สวยของเขานั้นฉันรู้สึกได้ถึงความรัก ความโหยหาที่ถูกบรรจุอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด และฉันก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ในงานเลี้ยงแห่งนี้เหมือนมีแต่ฉันกับคนตรงหน้าเท่านั้นเสียงและผู้คนร้อยพันจางหายไป ฉันไม่มองไม่เห็นอะไร.. ฉันเหมือนเดินหลงทางอยู่ในดวงตาของพี่มิณทร์ ฉันเหมือนตกลงไปในสายตาคู่นั้น พี่มิณทร์ค่อยๆก้าวเข้ามายืนตรงหน้าฉัน มือหนาค่อยๆไล่สัมผัสเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเปรอะพวงแก้มฉันอย่างอบอุ่น พระเจ้า.. พี่มิณทร์ยืนอยู่ตรงหน้าจริงๆ ฉันไม่ได้ฝัน
“พี่มาได้ไงคะ..”
ฉันได้ยินเสียงตัดพ้ออันแสนแผ่วเบาของตัวเอง ไหนเขาบอกว่าทำงานรอบดึกกลับออกมาอีกทีก็เช้าเลยไงล่ะ ไหนเรานัดกันว่าเขาตื่นแล้วจะโทรมา พี่มิณทร์เล่นกลับมาเซอร์ไพร์ซฉันแบบนี้ หัวใจฉันจะหยุดเต้นเอาได้ง่ายๆเลยนะ!
“พี่มาตามเสียงเรียกร้องของหัวใจค่ะ” ปลายนิ้วของพี่มิณทร์ยังคอยไล่เช็ดน้ำตาที่ผลัดกันร่วงหล่นเต็มใบหน้าฉัน เสียงทุ้มอันแสนอบอุ่นที่ฉันคิดถึง ลมหายใจของคนใกล้ที่เคยหลอมรวมเป็นลมหายใจเดียวกัน หัวใจฉันสั่นๆพอๆกับแข้งขาที่อ่อนแรงจนฉันวูบเซลง “ระวังค่ะ!”
อ้อมแขนแข็งแรงของพี่มิณทร์รวบเอวฉันก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดดึงฉันเข้ามาใกล้ๆ ฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองที่กำลังล้มเหลวไม่เป็นท่าพอๆกับน้ำตาที่ไหลลงมาจากสองตาไม่หยุด คิดถึง.. ฉันคิดถึงเขาจัง..
“พี่อยากกอด.. อยากจูบหนูจังเลยค่ะ”
เสียงทุ้มที่แผ่วเบาดังความฝันและมีฉันเพียงคนเดียวที่ได้ยิน อ้อมแขนหนารวบฉันเข้าไปกอดแน่นขึ้นอีก ฉันจิกปลายเนื้อลงบนเสื้อสูทหนาของพี่มิณทร์ เราใกล้กันจนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ฉันฝังปลายเล็บลงบนแผ่นอกพี่มิณ ทร์แน่น นี่ไม่ใช่ความฝัน
“ซอลคิดถึงพี่มากเลยค่ะ”
“หรอคะ..” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ฉันมากขึ้น “แต่พี่คิดถึงหนูมากกว่าอีก คิดถึงจะเป็นจะตายเลยค่ะ”
“อยู่กับซอลนานๆได้มั้ยคะ..”
“แล้วถ้าพี่จะกอดหนูไม่ปล่อยแบบนี้ ..จะได้มั้ย” น้ำตาฉันไหลทะลักเมื่อพี่มิณทร์กระชับอ้อมแขนจนตัวเราติดกันอีกรอบ พี่มิณทร์แตะรอยยิ้มน้อยๆดวงหน้าหล่อเหลากำลังจ้องมองฉันอย่างหลงใหล พระเจ้า.. พี่มิณทร์กลับมาหาฉัน
“กอดซอลไว้นานๆเถอะนะคะ” ฉันเริ่มสะอึกสะอื้น “ซอลคิดถึงพี่มิณทร์จริงๆ” และมันก็สุดที่ฉันจะกลั้น ฉันโถมเข้าไปสวมกอดพี่มิณทร์แน่น ฉันสูดกลิ่นของคนที่ฉันแสนคิดถึงเข้าไปเต็มปอด ฉันไม่ได้ฝัน..
“พี่กลับมาแล้วค่ะ”
พี่มิณทร์กระซิบข้างหูฉันพร้อมๆกับกระชับอ้อมกอดกอดฉันไว้แน่น เรากอดกันเหมือนกลัวคนจะแยกเราออกจากกัน “พี่คิดถึงหนูสุดๆเลยค่ะ”
ความอบอุ่นของอ้อมกอดที่ฉันสัมผัส ความแข็งแรงจากร่างสูงที่กอดและโอบอุ้มฉันไว้ ฉันรู้สึกไม่อยากไปไหนนอกจากซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดนี้อ้อมกอดของคนที่ฉันรัก ฉันซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดพี่มิณทร์แบบนั้นนานพอกับพี่สติฉันวิ่งกลับมาจนเริ่มได้ยินเสียงซุบซิบจากคนรอบด้านดังขึ้น
“ซอลขา.. เราต้องเลิกกอดกันแล้วล่ะค่ะ”
พี่มิณทร์กระซิบข้างหูฉันตรงข้ามกับอ้อมแขนฉันที่กอดรอบเอวพี่มิณทร์แน่น ฉันส่ายหน้าและจมตัวเองลงไปในอ้อมกอดพี่มิณทร์ ฉันไม่สนหรอกว่าใครจะพูดอะไร ฉันคิดถึงพี่มิณทร์สุดหัวใจ..เพราะงั้นฉันจะไม่มีวันปล่อยมือจากเขาไปง่ายๆหรอก ฉันรัก..และคิดถึงของฉัน
“เราจะเปิดตัวกันแบบนี้หรอคะ? พี่โอเคนะคะถ้าหนูโอเค” พี่มิณทร์ผละจากอ้อมกอดแล้วโน้มใบหน้าลงมาชิดติดฉัน “ประกาศบอกให้ทุกคนรู้แบบนี้ก็ดีค่ะ พี่ไม่กลัวหรอกนะคะถ้าจะโดนไอ้กรกระทืบกลางงานแล้วจับโยนพี่ออกไป เพราะพี่ก็อยากกอดหนูไว้แบบนี้เหมือนกัน”
เดิมทีฉันก็ไม่เคยสนอะไรทั้งนั้น แต่ภาพและเสียงของคนรอบข้างที่เพิ่งกลับมาทำให้ฉันเริ่มโฟกัสกับสถานที่ที่ตัวเองยืนอยู่มากขึ้น ฉันอยู่กลางงานหมั้นเฮียกรและญาติผู้ใหญ่ฉันทั้งหมดตอนนี้อยู่ในงาน แล้วไหนจะพวกสื่อต่างๆที่เดินว่อนกันอยู่ทั่วงานอีกล่ะ
อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องฉันกับพี่มิณทร์ทั้งนั้น (นอกจากพี่ก้อย) ในขณะที่พี่มิณทร์กลับมายืนอยู่ตรงหน้าฉันแต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลัง
“ปะ ปล่อยก่อนก็ได้ค่ะ”
ฉันแกะตัวเองออกจากอ้อมกอดพี่มิณทร์โดยไม่เต็มใจสักนิด พี่มิณทร์หัวเราเบาๆในลำคอก่อนจะผละอ้อมกอดออกจากฉัน
“หนูทำถูกแล้วค่ะ” พี่มิณทร์ลูบหัวฉัน “ความจริงพี่อยากเดินเข้าไปบอกที่บ้านหนูเรื่องเรามากกว่าค่ะ พี่ไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้จากสื่อ พี่เป็นผู้ชายเพราะงั้นพี่อยากให้เกียรติหนูค่ะ”
ยิ่งพี่มิณทร์พูดแบบนี้ฉันยิ่งกระอัก ฉันเลิกลั่กและเริ่มทำตัวไม่ถูกหลังจากได้สติ ใช่.. ก็วันนี้ภายในงานย่าหยกจะแนะนำลูกเจ้าสัวคู่ค้าทางธุรกิจให้ฉัน แล้วพี่มิณทร์ที่กำลังยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่นและไม่รู้อะไรเลยตรงนี้อีกล่ะ ทั้งๆที่พี่มิณทร์พร้อมที่จะบอกกับทุกคนเรื่องฉันแต่ฉันกลับกลัวไปหมด.. และไม่กล้าให้พี่มิณทร์พูด
ฉันลนเป็นหนูติดจั่น
ฉันควรจะบอกเรื่องที่ย่าหยกจะจับคู่ให้กับพี่มิณทร์ดีมั้ยนะอีกทั้งฉันยังกลัวเฮียกรเลิกเป็นเพื่อนกับพี่มิณทร์ ฉันกลัวตัวเองจะสร้างปัญหาให้กับพี่มิณทร์ ฉันเหมือนเด็กที่กลัวความผิด ไม่กล้าคิด..ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น
และเหมือนคนบนฟ้าจะลงโทษฉัน.. เพราะดูเหมือนเรื่องที่ฉันลืมไปหมดใจ ฉันไม่คิดว่าเรื่องที่เป็นเหมือนฝันร้ายจะกลับมาหลอกหลอนฉันอีก เมื่อร่างเล็กของคนๆนึงค่อยๆกระโผลกกระเผลกเข้ามาและจับแขนพี่มิณทร์จากทางด้านหลัง ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นอีกครั้งและรู้สึกเหมือนถูกผลักตกลงมาจากที่สูง เมื่อคนที่ฉันหวาดกลัวที่สุดโผล่มาจับแขนพี่มิณทร์อย่างสนิทสนม
พี่มิ้นต์.. เธอมาได้ยังไง?
“โหยย มิณทร์ เราเดินหาตั้งนานแน่ะ” ร่างเล็กบ่นกระปอดกระแปด “แล้วโทรมาตั้งหลายครั้งทำไมไม่รับ!”
“อ้าว หรอไม่ได้ยิน” พี่มิณทร์หันไปยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างอารมณ์ดีผิดกับฉันที่รู้สึกใจหายไปกว่าครึ่ง “ใช้จมูกดมกลิ่นมาหรอ หาเราเจอได้ไงอ่ะ”
“กวนตีนอีกละนะ”
ทำไมพวกเขาคุยกันเหมือนไม่มีฉันอยู่ในโลก? แล้วไหนจะท่าทางสนิทสนมที่มีต่อกันอีกล่ะ ใครจะว่าไงฉันไม่รู้นะ.. แต่ฉันไม่สามารถละสายตาออกจากมือพี่มิ้นต์ที่จับอยู่ที่แขนพี่มิณทร์ได้เลย มันคืออะไร.. ทั้งๆที่อ้อมแขนนี้เพิ่งกอดฉันเมื่อกี้เองนะ
“ซอลคะ เซอร์ไพร์ซค่ะ! นี่มิ้นต์เพื่อนพี่ที่เขื่อนติดรถมาเปิดหูเปิดตาที่กรุงเทพด้วย”
พี่มิณทร์หันขวับมาแนะนำพี่มิ้นต์กับฉัน ฉันมองไปยังพี่มิ้นต์ที่ยังเกาะแขนพี่มิณทร์อยู่ นั่นผู้ชายของฉันนะ..เธอมาจับแขนแฟนของฉันทำไม เธอตามพี่มิณทร์มาทำไม ขลุกอยู่แต่ฉันแฟนฉันที่เขื่อนยังไม่พออีกรึไง
หรือนี่คือ “เซอร์ไพร์ซ” ที่พี่มิณทร์บอกนะ?
“สวัสดีค่ะหนูซอล พี่มิ้นต์ค่ะ”
พี่มิ้นต์ก้มหัวให้ฉันและระบายยิ้มอย่างสดใส มีใครเคยบอกเขาสองคนไหมว่าการที่พี่มิ้นต์เกาะแขนพี่มิณทร์อยู่แบบนี้พวกเขาดูเหมาะ สมกันจังเลย พวกเขาดูเข้ากันได้ดีและดูไม่มีช่องว่างของอายุมาคั่น พี่มิ้นต์เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่หน้าตาดีแต่ดูห้าวหน่อยๆ ใบหน้าเนียนใสรับกับผมปะบ่าที่ถูกรวบและถักเปียน้อยๆอยู่ด้านหลัง พี่มิ้นต์อยู่ในชุด
เดรสสั้นเปลือยไหล่สีน้ำเงินลายกราฟฟิคน่ารัก
แปลกนะ.. ทั้งๆที่แค่จับแขนกันแต่กลับดูสมกับพี่มิณทร์อย่างเหลือเชื่อ แต่ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ แล้วฉันล่ะ?
“สวัสดีค่ะ..”
“หนูซอลตัวจริงสวยน่ารักมากเลยค่ะ อย่างกับตุ๊กตาแน่ะ”
“ขะ ขอบคุณนะคะ” ยัง.. ฉันยังไม่สามารถละสายตาจากมือบางที่เกาะอยู่ที่ท่อนแขนพี่มิณทร์ได้เลย ทำไมต้องเกาะแขนกันด้วย? แล้วทำไมพี่มิณทร์ถึงยอมยืนให้พี่มิ้นต์เกาะแขนต่อหน้าฉันล่ะ ทำไมไม่สะบัดออก ฉันแฟนเขานะ?
“มิณทร์เราหิวแล้วอ่ะ เราหาอะไรกินได้ที่ไหนหรอ”
“เออว่ะ ตอนแวะเซเว่นเธอก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย” ฉันขยุ้มมือตรงหัวใจอย่างเจ็บปวด ทำไมฉันถึงเจ็บที่เห็นพี่มิณทร์หันไปหัวเราะกับพี่มิ้นต์อย่างสนิทสนมจังนะ “เอ..ซอลคะ พี่จะหาพวกอาหารว่างทานได้ที่ไหนหรอพอดีมิ้นต์หิว”
ตกลงนี่คือเซอร์ไพร์ซของพี่มิณทร์ใช่มั้ยคะ? ให้ความสำคัญกันที่เขื่อนยังไม่พอยังตามมาสนิทกันถึงที่นี่ ถ้าพี่มีคนประกบติดขนาดนี้.. พี่ไม่จำเป็นต้องมีซอลแล้วก็ได้ มั้งคะ?
“อ๋อ ถ้าพวกเครื่องดื่มมีพนักงานบริการอยู่ ส่วนอาหารจัดเลี้ยงจะเริ่มหลังพิธีค่ะ” ไหนพี่บอกคิดถึงซอลไงคะ.. แต่ทำไมพี่ถึงดูเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น ถามถึงแต่กับคนอื่นต่อหน้าซอลแบบนี้ แล้วซอลล่ะ?
“เออ งั้นเดี๋ยวเธอเอาน้ำลูบท้องไปก่อนแล้วกัน”
“กวนตีนละ..” เสียงหัวเราะสนุกสนานของพี่มิณทร์กับพี่มิ้นต์เหมือนมือลึกลับที่ผลักฉันออกนอกวงและทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ตกลงนี่คือเซอร์ไพร์ซของพี่จริงๆหรอคะ?
“งั้นเดี๋ยวซอลขอตัวไปช่วยงานด้านในก่อนนะคะ”
ก่อนที่ความน้อยใจจะขยี้ใจฉันให้เป็นผุยผงและก่อนที่ฉันจะคิดฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้.. ฉันว่าฉันขอตัวออกไปจากที่ตรงนี้จะดีกว่า ฉันไม่อยากเห็นพวกเขาหัวเราะให้กัน..
“เดี๋ยวก่อนสิคะ!”
พี่มิณทร์พยายามคว้าแขนฉันแต่ช้ากว่าขาฉันที่รีบจ้ำพาตัวเองออกจากวงกลมแห่งมิตรภาพที่พี่มิณทร์แนะนำว่า “เพื่อน” เพื่อนที่ไหนจะตามมาจากเขื่อนถึงนี่.. เพื่อนที่ไหนเขายืนจับแขนยืนหัวเราะต่อกระซิกกันล่ะ! ฉันรีบจ้ำฝ่าผู้คนเดินสวนเข้ามาในงานพอดีกับมือหนาของพี่มิณทร์ที่ตามมาคว้าแขนฉันไว้ได้ทัน
“ซอลคะ.. เดี๋ยวก่อนค่ะ!!” ฉันพยายามสะบัดท่อนแขนออกมาจากการมือหนาของพี่มิณทร์แต่เขากลับออกแรงกระชากฉันกลับ “หนูจะรีบไปไหนคะ!”
“ซอลจะไปช่วยเฮียกรรับแขกค่ะ”
“แล้วทำไมหนูถึงต้องวิ่งหนีพี่มาแบบนี้คะ” แล้วจะให้ฉันบอกเขายังไงล่ะ จะให้ฉันบอกเขาตรงๆเลยหรอว่าฉันไม่ชอบเห็นเขายิ้มให้กับพี่มิ้นต์ ความจริงฉันอยากถามว่าเขาพาพี่มิ้นต์มาทำไมแล้วทำไมถึงดูสนิทกันขนาดนั้น
“กุญแจซอลคะ?”
แววตาของพี่มิณทร์ยังคงมองฉันอย่างถนุถนอมและเป็นห่วงเหมือนเดิม ฉันอยากบอกเขาเหลือเกิน พี่ไม่พาพี่มิ้นต์มาจะได้มั้ยคะ?
“มะ ไม่มีอะไรค่ะ” แล้วสุดท้ายฉันก็ไม่กล้าพูด.. เพราะมันฟังดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ฉันมีสิทธิจะพูดไหม ฉันจะดูแย่มากไหม ถ้าฉันจะพูดอะไรออกไปแบบนั้น
“มิณทร์เกิดอะไรขึ้นอ่ะ??”
เหมือนเกมส์ทดสอบความแข็งแกร่งของใจฉัน..เมื่อพี่มิ้นต์เดินตามฉันกับพี่มิณทร์มาก่อนที่อยู่ๆจะเสียหลักเซล้มลง
“เฮ้ย มิ้นต์ระวัง!!” พี่มิณทร์ปล่อยจากท่อนแขนฉันหันไปคว้าจับพี่มิ้นต์ที่กำลังจะล้มลง สุดท้ายพี่ก็เป็นห่วงพี่มิ้นต์จนยอมปล่อยมือจากซอลสินะคะ..
“โทษทีมิณทร์ เมื่อกี้รองเท้ามันถูกับหนังที่เปิดโคตรเจ็บเลยอ่ะ”
แค่ยืนหัวเราะให้กันฉันก็ใจบางมากแล้ว ยังมาทำเป็นห่วงเป็นใยกันต่อหน้าฉันอีก ฉันเจ็บจนใจสั่น.. เมื่ออ้อมแขนที่เป็นของฉันบัดนี้กลับไปสวมกอดประคองคนอื่น
เซอร์ไพร์ซของพี่.. ซอลเจ็บจังเลยค่ะ
แล้วโดยไม่คาดฝัน บอกเลยว่าอะไรที่ฉันทำสติสตังฉันอยู่ครบ!! ฉันเอื้อมมือคว้าแก้วน้ำส้มที่พนักงานเดินเสิร์ฟผ่านมาก่อนจะสาดใส่หน้ายัยพี่มิ้นต์จนเปียกทั่วทั้งตัว ฉันรู้ตัวในสิ่งที่ทำ.. ร่องรอยความสะใจฉายชัดอยู่ในแววตาฉันพอๆกับดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจของพี่มิณทร์ที่เห็นพี่มิ้นต์เปียกโชก
“เฮ้ยยย..!!??”
(LOADING 100%)
❤❤
TALK 2
อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจไรท์
เจอหนูซอลเปิดโหมดไฟท์เตอร์ไป
สงกรานต์กันกลางงานหมั้นเลยจ้าา
ได้ข่าวเมื่อวานเจอไรท์ลากไปโหมดสวีท
ตายอย่างสงบกันถ้วนหน้า
มาวันนี้โดนไรท์เล่นอีกแล้ว 5555+
เข้าใจหนูซอลนะ อดทนมานาน
ถึงจะอ่อนแอกับความรักมากแต่นางก็สู้คน
เมื่อไหร่ที่หมดความอดทนคืออาละวาด
บอกก่อนเลยว่าอย่าเพิ่งมาม่า
เพราะตอนต่อไปจากนี้ มันส์มากขอบอกก!
❤
TALK 1
มาปล่อยความละมุนแต่เช้าาาา
คนอ่านจะได้กระชับกระเฉงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรักก 555+
หวานนนเนอะ
งื้ออออออ ละลายย
"ใกล้ๆกว่านี้.. ให้หายสักทีโรคขี้เหงาใจ
รักษาคนเดียวไม่หาย ต้องรักกัน.."
รักส์
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น