NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BaBY_LoVe : แรกรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #8 : โครงสร้างที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.56K
      119
      4 มิ.ย. 66

    "มีไรให้รีบโทรมานะ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ เดี๋ยวฉันรีบมา"
    FOLK SAID
     

    EP 7: โครงสร้างที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้
    SOL’S TALK
    New condo รัชโยธิน, 11.15 pm

                

    “มีไรให้รีบโทรมานะ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะเดี๋ยวฉันรีบกลับมา” 
             

    โฟล์คสั่งฉันเป็นเด็กๆและให้เหตุผลว่าไม่อยากทิ้งฉันไว้กับพี่มิณทร์สองคนเพราะมันดูไม่ดี ขณะที่พี่ฉัตรพอโยน
    พี่มิณทร์แหมะไว้บนโซฟาปุ๊ปเขาก็รีบเดินออกจากห้องปั๊ป ฉันรู้สึกได้ถึงเงื่อนงำแต่ฉันก็ยังเดาทางไม่ออก
    นี่ตกลงพวกเขาเล่นอะไรกันอ่ะ?  
              

    “โอ้ยย รู้แล้วน่ะทำอย่างกับฉันเป็นเด็กไปได้” 


    ฉันโบกมือไล่โฟล์คที่มัวแต่เซ้าซี้กวนใจให้รีบๆเดินออกไป มัวแต่มาอะไรกับฉันอยู่ได้เดี๋ยวพี่ฉัตรก็พาลเหวี่ยงเข้าให้เบอร์ใหญ่อีก จะมาเป็นห่วงอะไรกันเป็นเด็กๆนะ
              

    “แล้วนี่..เธอไม่คิดจะมาด้วยกันจริงอ่ะ” โฟล์คเซ้าซี้ฉันอย่างน่ารำคาญอีกครั้ง ฉันว่ามันต้องมีอะไรระหว่างพี่ฉัตร  
    พี่มิณทร์ และโฟล์คแน่ๆ
              

    “นายเป็นอะไร  ทำไมนายดูลุกลี้ลุกลนจัง” โฟล์คดูจะเป็นห่วงฉันออกนอกหน้า ใบหน้าหล่อเหลาที่มักฉายแววขี้เล่นเสมอของโฟล์คหงิกติดกัน คือตั้งแต่ช่วยกันลากพี่มิณทร์ลงจากรถมาโฟล์คก็ดูผิดปกติไปเลย นี่ตกลงเป็นอะไรไปนะ? 
              

    “ถ้าเกิดอะไรขึ้นเธอรีบโทรมาเลยนะ”
              

    “จะบ้ารึไง มันจะเกิดอะไรล่ะ?” ฉันก็ไม่รู้ว่าโฟล์คเป็นอะไรนะ และก็ไม่รู้ว่าทำไมโฟล์คถึงได้ตามจิกเป็นไก่ขนาดนี้ด้วย โฟล์คดูเป็นห่วงฉันมากจนเกินไป
              

    “ไอ้โฟล์คกูง่วงเห้ย! มึงจะออกมาได้ยัง” เสียงเหวี่ยงๆกับหน้าหงิกๆของพี่ฉัตรทำให้โฟล์คถอนหายใจอย่างเซ็งๆแล้วจำใจเดินลากขาออกจากห้องไป  นี่ตกลงเป็นอะไร กลัวว่าฉันจะปล้ำพี่มิณทร์งั้นสิ?  บ้าไปแล้ว..
              

    นส่ายหัวงงๆแล้วเดินตามไปล็อคประตูห้องก่อนจะวกสายตากลับมายังผู้ชายขายอ้อยขี้เมาที่ยังเมาหลับอยู่บนโซฟา  ผู้ชายเจ้าปัญหายังคงเหยียดกายนอนหลับอยู่บนโซฟานุ่มอย่างไม่รู้สึกตัว 
             

    ..น่าปล้ำชะมัด
              

    เดี๋ยวแม่ก็จับปล้ำแล้วปวารณาตัวเองเป็นเมียวิศวะตามความคาดหวังของทุกคนซะหรอก!  ฉันอาศัยจังหวะนี้จัดการเดินสำรวจไปรอบๆ  นี่สินะคอนโดของพี่มิณทร์
              

    ฉันเดินสำรวจรอบๆห้องของพี่มิณทร์ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปนัก ที่นี่เหมาะสำหรับจะเป็นห้องพักสำหรับนักศึกษาสุดๆ คอนโดของพี่มิณทร์เป็นห้องชุดหรูหราอยู่สบายซ้ำยังใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ต้องขอบอกว่าทำเลทองมากก  ฉันรู้จากเฮียกรพี่ชายฉันมาว่าพี่มิณทร์มาปักหลักอยู่ที่คอนโดมากกว่าอยู่บ้านเพราะมันใกล้มหาลัย  ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารนูปโภคมากมาย  ฉันเคยฝันใฝ่และอยากจะมาหาพี่มิณทร์ที่นี่  


    แต่ติดอยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น..
              

    ฉันเดินไล่ดูข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ประดับอยู่ในห้องพี่มิณทร์  เสื้อยืด เสื้อช็อป กางเกงยีนส์ถูกถอดทิ้งไว้เกลื่อนกลาดตามประสาห้องของผู้ชาย  ฉันอดเดินตามเก็บกองเสื้อเอาไปยัดใส่ตะกร้าผ้าให้พี่มิณทร์ไม่ได้ก่อนจะเดินตามไปล้างจานที่กองพะเนินเต็มซิงค์ล้างจานให้โดยที่ปกติไม่ใช่นิสัยของฉันเลยสักนิด  
              

    ขณะที่ฉันเดินไล่เก็บกวาดห้องให้พี่มิณทร์อยู่นั้นสายตาของฉันก็ไปหยุดอยู่ที่กรอบรูปสีหวานที่มีรูปของพี่มิณทร์ฉีกขาดวางยู่เพียงแค่ครึ่งเดียว  หึ.. รูปอีกครึ่งที่ถูกฉีกทิ้งคงเป็นรูปของยัยนั่นสินะ?  ฉีกๆทิ้งไปก็ดีแล้วล่ะสารร่างอย่างยัยนั่นไม่สมควรจะมาปรากฏอยู่ที่นี่สักนิด  อย่างยัยนั่นเป็นได้แค่อดีตและสมควรจะถูกลืมอยู่ในถังขยะ 
             

    “อือ..” 


    ฉันได้ยินเสียงพี่มิณทร์นอนพลิกไปพลิกมาอย่างไม่สบายตัวที่โซฟาฉันจึงรีบสาวเท้าเดินกลับ  พี่มิณทร์นิ่วหน้านอนหลับตาและเกาไปตามเนื้อตัวแกรกๆ แหม กินเหล้าจนตัวแดงแถมยังมีผื่นคันขึ้นอีก ฉันเลยลองเขย่าตัวปลุกพี่มิณทร์อีกครั้ง
            

    “พี่มิณทร์คะ” 


    ฉันยืนเว้นระยะแล้วเอานิ้วจิ้มๆไปที่แขนพี่มิณทร์  เขาขยับตัวยุก ยิกก่อนจะนิ่วหน้าแล้วเอามือปัดๆแขนเสื้อนิดหน่อยแล้วนอนต่อ  อารายยยยวะ !!
              

    “พี่มิณณณทร์  พี่ได้ยินซอลมั้ยคะ” ฉันสูดหายใจลึกๆแล้วทำใจกล้าเดินเข้าไปแล้วเขย่าๆแขนพี่มิณทร์ พี่มิณทร์ขมวดคิ้วแล้วเอาอีกแขนอีกข้างปิดหน้าหลับต่อ 
              

    กรี๊ดด  ทำไมปลุกยากนักนะ! 
              

    ฉันเองก็ไม่รู้จะทำไงกับคนเมาเหมือนกันพอดีเฮียกรพี่ชายฉันไม่เคยเมาเละเทะขนาดนี้ด้วย  ฉันยืนหมุนไปหมุนมามองพี่มิณทร์ที่นอนตัวแดงเป็นกุ้งเพราะฤทธิแอลกอฮอล์เปะปะมือเกาไปตามส่วนต่างๆอย่างไม่รู้สึกตัว  
              

    แกรกกก ๆ.. พี่มิณทร์นอนกระสับกระส่ายแล้วเกาไปตามแขนตามคอเสียงดัง โหยย จะเกาแรงไปไหนน่ะ แล้วยิ่งผู้ชายแรงควายอย่างพี่มิณทร์แล้วด้วยนะผิวขาวๆของเขาแดงเป็นปื้นไปตามแรงเกาจนดูคันเขยอไปหมด  ฉันว่า.. ฉันปลุกเขาไปอาบน้ำดีมั้ยอ่ะ
             

    ฉันรีบวิ่งเข้าไปในครัวรองน้ำใส่กาละมังแล้วเอาผ้ามาชุบน้ำสะอาดเพื่อมาเช็ดตัวให้คนเมาตามที่เคยเห็นในทีวี  แต่ตอนนี้ผ้าสะอาดไม่มี  โอเค.. งั้นใช้ผ้าพันคอที่ฉันพกไว้พันเวลานั่งเรียนในคลาสที่แอร์หนาวๆก่อนแล้วกัน แก้ขัด! 
             

    ฉันถือวิสาสะเดินถือกาละมังใส่น้ำมาตั้งไว้ข้างๆก่อนจะลงมือบิดผ้าพันคอให้ชุ่มน้ำหมาดๆแล้วย่อตัวคุกเข่านั่งลงข้างๆพี่มิณทร์  โอยย.. แล้วนี่ฉันต้องเริ่มตรงไหนก่อนดีล่ะ  ถ้าฉันบุ่มบ่ามไปจะว่าฉันทำอะไรคนเมามั้ยอ่ะ แต่ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่างนะพี่มิณทร์คงนอนคันไม่หยุดแน่ๆ  ฉันว่าฉันจะเช็ดตัวให้พี่มิณทร์ก่อนแล้วกัน
              

    ฉันแตะผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอพี่มิณทร์ก่อนจะเอากลับขึ้นมาชุบน้ำบิดและเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอพี่มิณทร์อีกครั้ง  
             

    ..ขนาดเมาสภาพไม่ต่างจากหมายังหล่อเลยอ่ะ นี่คนป่าววะ หล่อได้ทุกมุม!
              

    พี่มิณทร์ดูไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดเลย  ยังคงหล่อออร่ากระแทกตายังไงก็ยังคงหล่อกระจายอยู่แบบนั้น  แต่นอกเหนือกว่านั้นฉันว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หล่อเหลาและดูมากมีเสน่ห์มากขึ้น  และก็ยึดจับกุมหัวใจฉันได้อยู่หมัดเลย
              

    “นี่ตกลงพี่จะไม่ยอมตื่นง่ายๆใช่มั้ยคะ?” 


    ตอนนี้ฉันรู้ล่ะว่าเขาไม่ตื่น  ฉันเลยไล่มือแตะผ้าชุบน้ำเช็ดไปตามเนื้อตามตัวเขาไปเรื่อยๆก่อนจะยกแขนพี่มิณทร์ขึ้นมากอดไว้แล้วใช้ผ้าเช็ดไปตามท่อนแขนจนไปถึงปลายนิ้ว  กลิ่นคุ้นเคยอันเป็นกลิ่นประจำตัวของพี่มิณทร์ปะปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งไปในอากาศ  หัวใจฉันเต้นแรงมากถึงแม้ฉันจะนั่งคุกเข่าเช็ดตัวให้เขาเฉยๆ  


    คาริสม่าพี่มิณทร์รุนแรงมากอ่ะ..
              

    กลิ่นของพี่มิณทร์  ความอบอุ่นที่สัมผัสได้จริงมันต่างจากที่ฉันเฝ้าฝัน  ฉันคิดมาตลอดว่าถ้าฉันได้อยู่กับพี่มิณทร์สองคนฉันจะทำหน้ายังไง  ฉันจะวางตัวแบบไหน แต่สุดท้ายอะไรที่ฉันคิดไว้มันก็ไม่ได้เป็นอย่างใจสักเรื่องเลย
              

    “ซอลเช็ดตัวให้พี่แล้ว พี่รู้สึกสบายขึ้นบ้างมั้ยคะ?” 


    ให้ฉันนั่งมองหน้าพี่มิณทร์ตอนหลับ สาบาน..ว่าฉันสามารถนั่งมองเขาได้ยันเช้าเลย ถ้าเวลามันหยุดลงตรงนี้ได้ก็คงจะดีนะ?  ที่ผ่านมาฉันทำได้แค่ฝันและวันนี้ฉันก็ดันฝันดีสุดๆ  ดี..จนไม่อยากจะตื่น ฉันจับมือพี่มิณทร์มากอดไว้.. ไม่รักฉันไม่เป็นไรแต่ได้โปรดอย่ารักใครแล้วกลับมาทำร้ายตัวเองแบบนี้เลย  ฉันเจ็บมากกว่าเขาหลายพันเท่านัก..
              

    “พี่มีค่ากับซอลเสมอนะคะ” ใครจะดูถูกเกียร์ยังไงก็ช่าง  แต่สำหรับฉันเขามีค่ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด  สิ่งเดียวที่ฉันอยากได้มากที่สุดในโลกแต่ฉันไม่เคยได้  ฉันยกมือพี่มิณทร์ขึ้นจรดปากจูบอย่างแผ่วเบาแล้วกดแช่อยู่แบบนั้น
              

    “พี่อย่าทำร้ายตัวเองอีกนะคะ  ซอลไม่อยากเห็นพี่เจ็บแบบนี้อีกแล้ว” 


    ฉันปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้  ยิ่งเห็นเขาเจ็บ..ฉันยิ่งเจ็บกว่าที่เห็นเขาเสีย ใจ  เขาจะรักใครที่ไม่ใช่ฉันก็ได้ฉันแต่ฉันไม่อยากเห็นเขาเสียใจแบบนี้อีกแล้ว
              

    หมับบ!!  


    จู่ๆมือหนาของพี่มิณทร์ก็ตวัดโอบรอบเอวฉัน  ฉันตั้งหลักไม่ทันได้แต่ตกใจหน้าตาตื่น  เปลือกตาเรียวสวยตวัดลืมขึ้นและรั้งตัวฉันไปกอดใกล้ๆ เหมือน อากาศรอบๆตัวโดนสูบไป  สายตาคมกริบของคนตรงหน้าทำให้ฉันเริ่มหายใจไม่ออก


     


    MIN’S TALK

            

    ผมกำลังฝัน.. 
              

    มันอื้ออึงจับทิศทางไม่ถูกเท่าไหร่หรอกนะแต่ตอนนี้มึนหัวฉิบหายเลยว่ะแมร่ง มันลอยๆ  พะอืดพะอม  ทุกอย่างเป็นสีขาวไปหมดและผมก็อึดอัดมาก ผมรู้สึกเหมือนถูกหิ้วปีกไปมา  ทุกอย่างมันโคลงเคลงและกระอักกระอ่วนไปหมด  
              

    ความร้อนของแอลกอฮอล์ยังคงฉีดพล่านอยู่ในร่างกาย  ผมรู้สึกมึนหัวคล้ายจะเป็นไข้พอๆกับร่างกายที่เริ่มคลายความร้อนจนอุณหภูมิตามเนื้อตามตัวเริ่มสูงขึ้น


    เชี่ยเอ้ยย โคตรของโคตรจะไม่สบายตัวเลยว่ะ อยากลืมตาก็ลืมไม่ขึ้นอีกทั้งยังโคตรคัน ตอนนี้สมองผมไม่รับรู้อะไรนอกจากรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่สบายตัวท่าเดียว  
              

    ใช่.. ผมกำลังฝัน  เพราะถึงแม้ผมจะรู้สึกไม่สบายตัวและพะอืดพะอมเพราะฤทธิ์เหล้าแต่ผมก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆลอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ  หอมจนอยากรู้ว่ากลิ่นอะไรเพราะท่ามกลางกลิ่นเหล้าที่เหม็นจนแสบจมูกกลับมีกลิ่นนี้เตะจมูกผมเป็นระยะๆ 
             

     อา หอมจัง.. 
              

    และผมคงกำลังฝันนั่นล่ะ เพราะนอกจากจะรู้สึกเวียนหัวเหมือนโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนจะอ้วกแล้วผมยังรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มๆที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมๆอีกด้วย  


    อืมม.. ทั้งนุ่มทั้งหอมและโคตรน่าขย้ำ และยิ่งกว่านั้นผมยังรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนหวานที่ค่อยๆบรรจงลูบศีรษะผมอย่างอ่อนโยนด้วย 
              

    อืมม รู้สึกดีจัง  สัมผัสเย็นๆที่ลากซับไปตามใบหน้าทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้น กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึ๊กที่เหม็นไปทั้งตัวเริ่มจางหายไป  ความร้อนผ่าวของร่างกายเหมือนถูกสัมผัสเย็นๆดูดซับไปหมด  หัวสมองผมเริ่มโปร่งและอาการพะอืดพะอมเริ่มดีขึ้น  กลิ่นหอมยังคงลอยวนเวียนอยู่พร้อมกับสัมผัสร้อนๆที่บรรจงแตะอยู่ที่หลังมือ  
              

    ใครกันนะ? 
              

    เสี้ยววินาทีนั้น.. ผมสะบัดมือออกจากการเกาะกุมและกอดล็อคเจ้าของกลิ่นหอมไว้แน่น  คนในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลักแล้วพยายามขืนตัวไว้เล็กน้อยแต่ก็ยังแรงเท่ากับมดอยู่ดี ผมกระชับอ้อมแขนและกอดเจ้าของกลิ่นหอมแน่นขึ้นก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมาดูอย่างช้าๆ  แววตาตื่นตระหนกของใบหน้าสวยตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้ผมแม่งฝันดีจัง..  และก็เป็นความฝันที่ค่อนข้างชัดและเหมือนจริงซะด้วย  
            

    ผมฝันเห็นกุญแจซอล
              

    “พะ พี่มิณทณ์!!” กุญแจซอลในอ้อมแขนผมขืนตัวและดิ้นไปมาชุดใหญ่  แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่มนุ๊มมนุ่ม  แหมม.. หื่นในฝันไม่ผิดใช่ป่ะ? 
              

    “ไงคะ” ผมเอ่ยทักกุญแจซอลในฝัน  ถ้าความจริงตื่นมาแล้วเราได้พูดคุยกันเหมือนในฝันก็คงดี  ผมส่งยิ้มให้กับกุญแจซอลขณะที่กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
              

    “พะ พี่มิณทร์ตื่นนานแล้วหรอคะ..” กุญแจซอลคนสวยในฝันยังคงโวยวายไม่เลิก ผมหัวเราะนิดหน่อยทั้งที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ก็นะ..ไปไงมาไงไม่รู้แต่จะเอาอะไรกับความฝันล่ะ?
              

    “ตื่นอะไรกันคะ หนูเข้ามาในฝันพี่เอง” กุญแจซอลทำหน้างงขณะที่ผมจรดสาย ตากวาดมองใบหน้าหวานไปเรื่อยๆ  กุญแจซอลยังสวยน่ารักเหมือนเดิมเลยแฮะ..
              

    “พี่มิณทร์ว่าอะไรนะคะ”
              

    “หนูนี่ใจจืดจังเลยค่ะ  ที่ผ่านมาไม่คิดที่จะคุยกับพี่หน่อยหรอ” 
             

     “พี่มิณทร์??”
              

    “พี่คิดถึงหนูจังเลยค่ะ  เราไม่ได้กินบิงซูด้วยกันนานแล้วนะคะหนูซอล” ผมมองดวงหน้าหวานของกุญแจซอลแล้ว
    แพร่มถึงอดีตไปเรื่อย  ก็นี่เป็นฝันของผมเพราะงั้นผมจะพูดอะไรก็ได้..ใช่ป่ะ
               

     “นี่พี่มิณทร์รู้ตัวมั้ยคะว่ากำลังพูดอะไรอยู่?” เรียวคิ้วสวยของกุญแจซอลขมวดมุ่นไปพร้อมๆกับทำหน้างงๆ  จนผมอดที่จะกอดเด็กใจดำไว้ในอ้อมอกแน่นขึ้นไม่ได้


    อา..กลิ่นหอมที่โชยออกมาเป็นของซอลจริงๆ  ทำไมฝันคราวนี้เหมือนจริงจังวะ?
              

    “ถ้าพี่ตื่นมาแล้วหนูหายโกรธพี่ก็ดีสิคะ” ผมพึมพำในสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ เพราะตั้งแต่วันที่ซอลเดินออกจากชีวิตผมไปเราก็ไม่ได้พูดคุยกันอีก และผมก็ทำได้แค่ขอโทษซอลในฝันเท่านั้น  ภาพฝันกุญแจซอลคืนนี้ชัดเจนกว่าทุกๆครั้งและไหนจะสัมผัสนุ่มนิ่มและกลิ่นหอมนี่อีก  ฝันเหมือนจริงแบบนี้  ชอบบ  
               

    วอดก้านี่เหมือนมีเวทมนตร์เลยว่ะ
              

    “นี่.. พี่เมาหรือซอลงงคะ?  ถ้าพี่สร่างแล้วก็ปล่อยซอลค่ะ!” กุญแจซอลฮึดฮัดและพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดผม  แต่ผมบอกแล้วไง.. นี่เป็นฝันของผมป่ะ?
              

    “นี่เป็นความฝันของพี่เพราะงั้นพี่จะทำอะไรก็ได้ค่ะ” 


    ผมจงใจรัดกุญแจซอลในฝันแน่นขึ้นจนซอลหัวคะมำจมอยู่ในแผ่นอกผม “จะกอดหนูให้แน่นๆให้สมกับที่หนูใจร้ายกับพี่กว่านี้ก็ย่อมได้” 
              

    “พี่มิณทร์!!” 
            

    “ขา ว่าไงคะ”
              

    “ไม่ต้องมาทำพูดเล่น พี่มิณทร์ปล่อยซอลเลยนะ!”
            

    “ไม่ค่ะ จนกว่าหนูจะยอมพูดกับพี่ดีๆ กอดกันอยู่แบบนี้ก็อุ่นดีออก” ยิ่งผมต่อล้อต่อเถียงกุญแจซอลยิ่งน่าหงิก  ยังขี้เอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด  แม่ง น่ารักว่ะ..
              

    “ชอบใจร้ายกับซอลแล้วยังจะชอบแกล้งซอลอีกหรอคะ” ขนาดในความฝันซอลยังตัดพ้อผมไม่เลิกเลย  ดวงตากลมโตฉายแววแสนงอนอย่างน่ารัก
              

    “พี่แค่อยากกอดหนูเฉยๆเองไม่ได้หรอคะ” ยิ่งกุญแจซอลทำหน้าง้ำผมยิ่งอยากกอดรัดซอลให้แน่นยิ่งกว่าเดิมอีก เหมากอดแบบนี้ไปอีกทั้งอาทิตย์เลยได้ป่ะ
              

    “มะ ไม่ได้ค่ะ ซอลไม่ให้พี่มิณทร์กอด พี่มิณทร์รีบปล่อยซอลเลยนะ!!”  
              

    “แต่เราก็กอดกันอยู่..นี่ไงคะ” 


    ผมกระชับอ้อมแขนกอดกุญแจซอลแน่นขึ้นจนซอลถลำจมลงในอ้อมอก “ เพราะงั้นอย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลยนะคะ ยังไงซะนี่ก็เป็นฝันของพี่  ขอให้พี่กอดหนูให้หายคิดถึงหน่อยไม่ได้หรอคะ” 
              

    “ตะ แต่ซอลไม่ใช่พี่มิ้นท์นะคะ!” และแม้แต่ในฝันกุญแจซอลก็ยังมีท่าทีเจ็บปวดเรื่องของมิ้นท์  และนั่นก็เป็นความผิดผมเองทั้งนั้น
              

    “ไม่เอา..ไม่พูดถึงคนอื่นสิคะ” ผมลูบหลังศีรษะกุญแจซอลอย่างปลอบใจ ดวงตาคู่สวยมีท่าทีเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด “พี่ขอโทษนะคะที่ทำให้หนูเจ็บ” 

     

    “พี่มันเหี้ยเอง พี่ขอโทษค่ะ”
    MIN SAID

             
    ผมเป็นคนสร้างบาดแผลเรื่องมิ้นท์ให้กับซอลเอง  ผมมันเหี้ยมาตั้งแต่ต้นเอง มันก็สมควรแล้วที่ซอลจะโกรธ  “พี่มันเหี้ยเอง พี่ขอโทษค่ะ”
              

    ท่ามกลางความเงียบงัน.. แม้แต่ในความฝันผมก็ยังทำซอลร้องไห้  หยาดน้ำตาใสของกุญแจซอลค่อยๆไหลอาบแก้มลงมาอย่างช้าๆ  
              

    “พี่มิณทร์จะขอโทษซอลทำไมคะ..” 
                 

    “พี่ขอโทษที่พี่คบกับมิ้นท์ค่ะ” 


    ทั้งที่กุญแจซอลไม่ได้อยู่ในฐานะที่ผมจะรู้สึกอะไรด้วยได้ด้วยซ้ำแต่ผมก็ดันรู้สึกไปแล้ว และผมเองที่เป็นคนทำให้เรื่องมันแย่และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราเป็นได้แค่เส้นขนานกัน
              

     “รับรักซอลแต่แรก พี่ก็ไม่ต้องอกหักยับแบบนี้หรอกค่ะ” ขนาดแม่คุณยังน้ำตายังคลอเบ้าอยู่นะยังจิกกัดผมได้เลย ให้ตายผมคิดถึงปากกรรไกรคมกริบของซอลจัง
              

    “แหมม ก็คนเค้าว่าอย่าคบเด็กสร้างบ้านนี่คะ” ผมหยิกปลายจมูกโด่งรั้นของกุญแจซอลด้วยความเอ็นดู  ผมเริ่มสนุกที่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับซอลในฝัน
              

    “อ๋อ  เพราะงั้นถึงได้ดอดไปคบกับดาวอักษรสินะคะ” 
              

    “ผิดแล้วค่ะ  พี่ไม่ได้คบกับดาวคณะแต่พี่คบระดับดาวมหาลัย”
              

    “พี่มิณทร์!!”คราวนี้ดูเหมือนกุญแจซอลจะโกรธผมไปกันใหญ่  เพราะนอกจากจะแผดเสียงใส่แล้วกุญแจซอลยังโกรธจนหน้าแดง น้ำตาที่คลออยู่เมื่อกี้หายวับ           
              

    “แต่ตอนนี้พี่อกหักอยู่.. เจ็บจังค่ะ” ผมเอามือกุมที่ใจอย่างน่าสงสารขณะที่กุญแจซอลเบะปากอย่างหมั่นไส้
             

     “หึ..ก็สมน้ำหน้าพี่แล้วนี่ค่ะ”
            

      “สมน้ำหน้าแล้วรับดามมั้ยคะ?” และเพราะนี่คือความฝัน เพราะงั้นผมถึงกล้าพูดทำนองจีบซอลเป็นครั้งแรก  กุญแจซอลทำหน้างงๆ ก่อน  
              

    “พี่นี่..นอกจากขี้เมาแล้วยังพูดไม่รู้เรื่องอีกนะคะ” 
             

     “ถึงพี่จะพูดไม่รู้เรื่อง แต่พี่พูดคำว่า ‘รัก’ชัดค่ะ”
              

    “โอ้ยยยยย  พี่มิณณณณทร์!!!!”
           

    “นี่พี่อ่อยอยู่หนูไม่รู้หรอคะ?” 
         

    “พี่มิณทร์พอได้แล้วค่ะ!” 
            

    “ไม่ได้หรอกค่ะพี่เรียกคะแนนสงสารอยู่ เผื่อเด็กแถวนี้จะเมตตาเห็นใจ” 


    จากที่เคยคิดว่าจะไม่.. จะไม่.. สุดท้ายกุญแจซอลกลับมามีอิทธิพลกับหัวใจผมเฉยเลย ผมกวาดสายตาไล่ไปตามใบหน้าเรียวสวยที่แดงเรื่อเพราะความเขิน  แต่ก่อนก็ว่าสวยแล้ว แต่ตอนนี้กุญแจซอลสวยหนักจัดเต็มยิ่งกว่าเดิมอีก  สวย..จนใจละลาย
              

    “ขี้เมาอย่างพี่ซอลไม่สงสารหรอกค่ะ”
              

    “สงสารพี่หน่อยเถอะนะคะ  พี่เจ๊บบบเจ็บ” ผมทำเสียงออดอ้อนก่อนจะกระชับอ้อมกอดกอดซอลแน่นขึ้น ดวงหน้าสวยถลำลงมาใกล้ผมแค่ลมหายใจ  และเพราะมันเป็นความฝันเพราะงั้นผมจะทำอะไรก็ได้  ผมเลยทำตามใจโดยการกอดกุญแจซอล แน่นขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย           
                 

    “พี่มิณณณณณทร์  พี่ปล่อยซอลเลยนะ!” 
             

    “หนูรู้มั้ยคะ..กอดแน่นแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องปล่อย ฝันดีแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องตื่น การที่พี่มีหนูอยู่ในฝันแบบนี้พี่มีความสุขจังเลยค่ะ” ผมจรดสายตามองดวงหน้าหวานของกุญแจซอลในฝัน  ถึงสุดท้ายผมต้องตื่นแต่แค่นี้ผมก็พอใจแล้วล่ะ  แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้วด้วยซ้ำสำหรับคนที่เคยทำร้ายหัวใจกุญแจซอลอย่างผม
             

    “พี่มิณทร์??”
              

    “ไว้ขอพี่ฝันถึงหนูแบบนี้อีกนะคะ” ผมทำใจไว้แต่แรกแล้วล่ะว่าขมแค่ไหนก็ต้องกลืน.. คนนี้มึงแตะไม่ได้ไอ้มิณทร์  มึงท่องไว้ในใจจำไม่ได้รึไงวะ
              

    “พี่มิณทร์..นี่พี่คิดว่ากำลังฝันอยู่จริงๆหรอคะ”
              

    “หนูพูดงี้เล่นเอาซะพี่เคลิ้มไม่อยากตื่นเลยค่ะ” 
              

    “ถ้า.. ถ้าสมมุติว่าเราอยู่ในความฝัน  ถ้างั้นซอลขอถามอะไรพี่หน่อยได้มั้ย..”

             


     

    (LOADING 100%)


     

    *********
    ซะเคลิ้มตามเลยเนอะ
    >__<

     

    ขอให้อ่านอย่างมีความสุขค่ะ
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ

     

     

     


     

     


     

     

     



     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×