เนื้อเรื่องย่อ
ชินระ คัมพานี (Shin-Ra Company) แรกเริ่มเป็นบริษัทเล็กๆที่ทำการค้นคว้าพัฒนาอาวุธ แต่ภายในหนึ่งชั่วอายุคน ชินระก็ได้กลายเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองระดับโลกเพราะว่าการค้นพบพลังงานมาโกะ (mako energy) ซึ่งเป็นพลังงานที่ได้มาจากการสกัดสสารสีเขียวที่เกิดขึ้นภายในแกนของดวงดาว (โลก) การนำมาโกะนี้มาใช้งานนั้นสามารถทำได้โดยใช้เตาปฏิกรณ์มาโกะ (mako reactors) ทางบริษัทได้ค้นพบหลังจากนั้นอีกไม่นานว่า มาโกะสามารถนำมาใช้งานได้สองอย่างคือ สร้างพลังงาน และสร้างวัตถุทรงกลมขนาดเล็กที่เรียกว่า "มาทีเรีย" (materia) ซึ่งทำให้มนุษย์มีพลังเวทมนต์ และยิ่งไปกว่านั้น ชินระได้เรียนรู้อีกว่า ถ้านำพลังงานมาโกะมาถ่ายทอดเข้าไปโดยตรงในคนที่มีร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์ จะทำให้คนๆนั้นได้ครอบครองความสามารถเหนือมนุษย์อย่างถาวร
จากการที่ชินระเป็นผู้ครอบครองพลังงานมาโกะและการสร้างมาทีเรีย ทำให้ชินระสามารถผลิตนักรบเหนือมนุษย์ขึ้นมาเรียกว่า "โซลเจอร์" (SOLDIER) ต่อมาได้มีการส่งกองกำลังทหารนี้ออกมาเพื่อยุติความขัดแย้งระดับโลกที่ยืดเยื้อมากกว่าสองสามปีได้อย่างรวดเร็ว และสภาพสังคมหลังสงครามนั้น ทำให้ชินระซึ่งมีทั้งพลังงานมาโกะและมารีเรีย ได้เป็นผู้ครอบครองโลกนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เมืองเล็กๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของชินระได้ถูกรวมกันเป็นเมืองเมืองเดียว เมืองใหม่นี้มีชื่อว่า มิดการ์ (Midgar) การประเคนความสุขต่างๆให้กับผู้เป็นใหญ่ของชินระนี้เอง ทำให้ชินระละเลยการเอาใจใส่ต่อประชาชนที่มีฐานะไม่สู้ดีของเมืองมิดการ์ ชินระได้มีการสร้างตึกสูงเสียดฟ้าเพื่อเป็นฐานทำการใหญ่และสร้างแผ่นโลหะขนาดยักษ์ปิดเหนือเมืองด้านล่างเพื่อให้เป็นที่ทำงานของคนผู้มีฐานะ ปล่อยให้เมืองด้านล่างหรือที่เรียกว่า สลัม (slums) ถูกบดบังแสงอาทิตย์และท้องฟ้าไปหมด และทำให้อากาศเป็นพิษอีกด้วย เพราะเหตุนี้เอง ผู้คนมากมายที่อาศัยอยู่ในสลัมมีสุขภาพที่ทรุดโทรมลงและพิกลพิการ โดยที่ชินระไม่ใส่ใจนักที่จะช่วยเหลือพวกชาวเมือง
การดำเนินการของชินระเริ่มที่จะพบกับอุปสรรคจากกลุ่มคนที่เชื่อว่าการใช้พลังงานมาโกะนั้นกำลังทำให้แก่นของจิตวิญญาณของโลกหมดไปการเติบโตขึ้นของแก่นจิตวิญญาณถูกเรียกว่า"ไลฟ์สตรีม"(Lifestream)ซึ่งระบุอยู่ในปรัชญาชื่อการศึกษาชีวิตแห่งดวงดาว ในปรัชญานี้ได้กล่าวว่ากระแสพลังงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงพลังงานชีวิตของโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพลังของทุกชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกด้วย เมื่อชีวิตใดๆได้เกิดขึ้นบนโลกนี้ พลังงานงานส่วนหนึ่งจากโลกจะถูกดึงไปเพื่อให้ชีวิตนั้นดำเนินต่อไป เมื่อชีวิตนั้นเติบโตขึ้น ประสบการณ์ต่างๆจะทำให้จิตวิญญาณของชีวิตนั้นเติบโตขึ้นด้วย ต่อมาหากชีวิตนั้นดับลง จิตวิญญาณที่เติบโตและเต็มไปด้วยประสบการณ์ของชีวิตนั้นจะกลับคืนสู่โลก ทำให้ไลฟสตรีมเติบโตขึ้น ดังนั้น ผู้ที่เชื่อหลักคำสอนของปรัชญานี้ได้โต้ตอบชินระว่า การกระทำของชินระที่กำลังทำอยู่คือการดูดพลังงานของโลกให้หมดไปอย่างช้าๆ ผลลัพธ์สุดท้ายจะทำให้ชีวิตทุกชีวิตบนโลกดับสลายลง
หนึ่งในผู้ศรัทธาหลักปรัชญาได้ตัดสินใจว่ามีหนทางเดียวที่จะป้องกันการทำลายโลกของชินระ คือการต่อต้านชินระโดยใช้วิธีรุนแรง โดยมีการรวมกลุ่มและตั้งเป็นองค์กรขึ้นมาชื่อว่า "อะวาลานช์" (AVALANCHE) โดยองค์กรนี้เริ่มที่จะทำสงครามยืดเยื้อกับชินระ มุ่งเน้นไปที่การโจมตีเตาปฏิกรณ์มาโกะและความพยายามที่จะสังหารประธานของชินระด้วย ต่อมา ถึงแม้ว่ากลุ่มอะวาลานช์กลุ่มแรกๆได้ถูกกวาดล้างไปโดยทีมสังหารของชินระที่ชื่อ "เติกส์" (The Turks) แต่ก็ยังมีบุคคลคนหนึ่งของอะวาลานช์ที่ยังเหลืออยู่และมุ่งที่จะสานต่อจุดมุ่งหมายดั้งเดิม บุคคลนั้นชื่อ "บาร์เร็ต วอลเลซ" (Barret Wallace) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของไฟนอลแฟนตาซีภาคนี้
ตัวละครหลัก
ตัวละครหลักในเกม ชายหนุ่มผู้สูญเสียความทรงจำ ปรากฎตัวในชุดทหารชั้นสูงของ ชินระ คัมพานี เพื่อรับจ้างทำงานบางอย่างให้ผู้ว่าจ้าง ซึ่งทราบภายหลังว่าคือ บาร์เร็ต วอลเลซ
ชายร่างยักษ์ผู้มีมือขวาเป็นปืน ผู้นำกลุ่มต่อต้าน ชินระ คัมพานี ไม่ใช่เพราะเหตุผลในการปกป้องโลก แต่เป็นเพราะความหลังอันโหดร้ายที่ ชินระ คัมพานี เป็นผู้ก่อ
หญิงสาวผู้รอคอยคำสัญญา ผู้เป็นหนึ่งในกลุ่ม อะวาลานช์ ที่ต่อต้านและคอยขัดขวางการสร้างเตาปฏิกรณ์พลังงานมาโกะ ของ ชินระ คัมพานี เพื่อดูดพลังงานจากแกนโลกขึ้นมาใช้ เธอเป็นผู้คืนความทรงจำบางส่วนให้กับคลาวด์
หญิงสาวผู้มีสายเลือดโบราณ ปรากฎตัวในฉากหนึ่งของสลัม ในขณะที่ คลาวด์ กำลังหาทางกลับไปรวมกลุ่มกับบาร์เร็ต เธอมีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลกจากความพินาศเนื่องจากการที่ถูกดึงพลังงานมาโกะไปใช้มากจนเกินไป
สัตว์โบราณที่ถูกจับมาทดลองโดย ชินระ คัมพานี และเนื่องจากความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีจึงละทิ้งชื่อเดิม และใช้ชื่อที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ตั้งให้ (เขาเป็นสัตว์ทดลองหมายเลข 13) ปรากฎตัวครั้งแรกในห้องทดลองอาวุธชีวภาพของ ชินระ คัมพานี หลังจากได้เข้าร่วมกับกลุ่มของคลาวด์ แล้วจึงได้มีโอกาสกลับไปยังบ้านเกิดแก้ปมเขื่องในจิตใจ แต่ก็เลือกที่จะร่วมเดินทางไปถึงที่สุด
แอริธ เกนส์เบอรู เรดXII คลาวด์ สไตรฟ์ บาร์เร็ต วอลเลซ
เด็กสาวนินจาผู้ออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ใช้ชูริเคนขนาดยักษ์เป็นอาวุธ โดยถ้าเดินเรื่องผิดไปแม้แต่นิดเดียวจะไม่ได้เธอเข้ามาร่วมกลุ่มแต่จะโดนขโมยของแล้วก็หายไป บ้านเกิดของเธอเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของเกม และถ้าผู้ที่เดินเรื่องไปถึงและอ่านรายละเอียดพอสมควร แล้วจะรู้ว่าการที่เธอเข้ามาร่วมเดินทางนั้น มีเหตุผลที่...
ตัวละครอมตะนิรันดร์กาลของเกม โดยในภาคนี้รับบทเป็นชายวัยกลางคนที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนทุกอย่างที่คล้ายเครื่องบิน ใช้อาวุธยาวประเภทหอก หรือ ทวนเป็นอาวุธ ปรากฎตัวในเมืองที่ ชินระ คัมพานี เคยสร้างจรวดในการทดลองแต่เนื่องจาก ซิด ผู้ที่เป็นหัวหน้างานทำงานผิดพลาด จึงล้มเลิกโครงการนี้ไป
ตัวละครประหลาดในเกมที่ออกมาเป็นแพ็กเกจคู่ โดยมีแมวนั่งอยู่บนหัวของสัตว์อีกชนิดนึง เป็นสปายที่ ชินระ คัมพานี ส่งมาจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มพระเอก ถ้าใครชอบท่าไม้ตายแปลกๆ ตลกๆ และเสี่ยง ก็อาจจะชอบตัวละครนี้
ชายหนุ่มผู้ที่ถูก ชินระ คัมพานี นำไปทดลองจนมือข้างซ้ายกลายเป็นมือปีศาจ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะนำเขามาร่วมในกลุ่มหรือไม่ เขาเป็นอีกผู้นึงที่มีความเกี่ยวข้องเศษเสี้ยวความทรงจำของคลาวด์ แต่เศษเสี้ยวนั้นเป็นสิ่งที่เริ่มต้น และเชื่อมเหตุการณ์สำคัญที่สุดของคลาวด์
- เซฟิรอธ
อดีตทหารมือหนึ่งของ ชินระ คัมพานี ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจและเลวร้ายที่สุดในเกม เขาล่วงรู้ความลับของ ชินระ คัมพานี และถอนตัวออกไปโดยได้แบกความลับและความเจ็บปวดที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้เอาไว้ ความจริงที่ก่อให้เกิดความแค้น ความแค้นที่ทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นสุภาพบุรุษต้องเปลี่ยนไปเป็นฆาตกรหฤโหด ผู้ที่กำความลับของจุดเริ่มต้นและจุดจบแห่งเรื่องราวทั้งหมด
ความคิดเห็น