คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Thirteen ✿ Lovesick
13
Lovesick.
ไข้ใจ(adj.) รู้สึกว่าโหยหาความรัก
“ งื่ออออออ ”
“ งื่ออออออ ”
“ งื่ออออออ ”
“ ...ชานยอลอ่า ”
เสียงครางงื่อๆ ดังใกล้หูนี่เอง ชานยอลเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบากเพราะมันหนักจนแทบลืมไม่ขึ้น มืออุ่นๆ แนบลงมามันยิ่งทำให้เขาร้อนจนต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ชานยอลเริ่มไอหนักขึ้น ไอจนตัวงอคุดคู้อยู่บนเตียง อ่า...ให้ตายเถอะ เกิดอะไรขึ้นกับเขาวันนี้เนี่ย?
“ ชานยอลอ่า ”
“ แค่กๆๆ ”
แค่ลืมตาขึ้นมองเพดานโลกก็โคลงเคลงจนเวียนหัวไปหมด ดวงตาพร่ามัวแต่ยังเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มชะโงกเข้ามาใกล้ แบคฮยอนเบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ น่ารักนะแต่ตอนนี้ไม่มีแรงชม ชานยอลครางเรียกชื่อแบคฮยอนของเขาเสียงแหบแห้ง
“ ...แบคฮยอน ”
“ ไม่สบายนะ เป็นไข้ด้วย เสียงก็แหบ ”
“ อือ...เจ็บคอ ”
“ ฮื้อออ ชานยอลอ่าาา ”
แบคฮยอนทำเสียงงอแงเล็กน้อยก่อนจะฟุบลงมาซบหน้าอกเขาถูไถไปมาแล้วค่อยยืดตัวขึ้นจุ๊บปากชานยอลที่กำลังสะลึมสะลือไปหนึ่งที ร่างชานยอลถูกตัวกระจิ้ดริ้ดนิดเดียวของแบคฮยอนพยุงขึ้นพิงกับหมอนใบโต เขาไอแค่กๆ ปรือตามองแบคฮยอนวิ่งดุ๊กๆ ไปรินน้ำมาให้
“ ดื่มน้ำหน่อยนะ ”
“ อือ ”
ความเย็นสดชื่นของน้ำที่ไหลผ่านลำคอช่วยบรรเทาความแสบจากการไอได้ดีระดับหนึ่ง พอดื่มเสร็จแบคฮยอนของชานยอลก็นั่งจ้องตาแป๋วตรงปลายเตียง จ้องกันไปจ้องกันมาก็เกิดอาการอยากอ้อนคลานเข่ามาจุ๊บปากชานยอลอีกซะงั้น
“ อืออ ไม่เอานะแบคฮยอน เดี๋ยวจะติดหวัด ”
“ นิดเดียวเองไม่เป็นไรหรอก ”
“ วันนี้ไม่ได้ กลับบ้านไปได้แล้ว ”
“ กล้าไล่เหรอ? ”
ปกติต้องมีเบะปากทำน้ำตาคลอนะแต่นี่แบคฮยอนกลับยังซบคลอเคลียออดอ้อนชานยอลไม่ยอมห่าง เปลี่ยนสภาพจากลูกหมาแซบซ่ามาเป็นลูกแมวขี้อ้อนซะแล้วเหรอ?
“ วันนี้จะอยู่กับชานยอลลลล นะนะนะ ”
“ เดี๋ยวติดหวัด ”
“ ถึงจะป่วยแต่ตามใจแฟนนิดนึงนะ ”
“ ไม่ได้ ”
เสียงชานยอลแหบจนไม่มีอะไรจะไปเถียงคนปกติแล้ว แบคฮยอนยิ้มแป้น เออ...น่าหยิกดี กระโดดลงเตียงไปหยิบยาสองสามเม็ดโยนเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม ชานยอลห้ามไม่ทันหรอก เจ้าคนน่ารักกระโดดขึ้นเตียงเหมือนเดิมแล้วซบหน้าลงกับขาชานยอลอีกครั้ง
“ แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวป่วยแล้ว ”
“ ...เด็กดื้อ ”
“ ชานยอลนั่นแหละนิสัยไม่ดี ใครเขามาป่วยตอนฤดูใบไม้ผลิกัน ”
“ ดูแลแฟนดื้อจนป่วยน่ะสิ ”
“ หยุดพูดน่า! ”
แบคฮยอนของชานยอลยกมือขึ้นปิดปากเขาแล้วตีหน้าดุใส่ น่ารักซะไม่มีแหละคนเรานี่นะ ชานยอลขัดขืนนิดหน่อยตอนที่แบคฮยอนพยายามประคองเขานอนลงเหมือนเดิม ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมดแล้ว แขนขานี่อ่อนเปลี้ยไม่มีแรงจะดึงคนแถวนี้มากอดฟัดให้สมใจ
“ เช็ดตัวหน่อยนะ ”
“ ไม่เอา ”
“ หัดดื้อเหรอชานยอล? อยากให้โหดใช่มั้ย? ”
“ ไม่เอาสิแบคฮยอนครับ... ”
เขาพยายามออดอ้อนเจ้าคนน่ารัก ตอนนี้แรงจะขยับตัวยังแทบไม่มี สถานการณ์ตอนนี้แบคฮยอนของเขากำลังเป็นต่อสุดๆ ก็เล่นมองชานยอลสายตาแพรวพราวขนาดนั้นน่ะสิ ชานยอลเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากแดงๆ ที่โฉบมาจะจุ๊บเขาอีก
“ เดี๋ยวติดหวัด ”
“ ไม่เป็นไรน่าาา ”
น่าอายเป็นบ้าที่โดนคนตัวเล็กกว่าตัวเอง(มาก)ปล้ำถอดเสื้อไปได้อย่างง่ายดาย แบคฮยอนหัวเราะคิกๆ พอเห็นว่าเขาไม่มีแรงสู้ ผ้าเย็นๆ เปียกๆ แนบผิวเนื้อทำชานยอลสะดุ้งก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้แบคฮยอนของเขาเช็ดตัว
“ ชานยอลอ่า ใส่เสื้อหน่อยน้าาา ”
แบคฮยอนใส่เสื้อให้เขาทุลักทุเลกว่าตอนถอด มีความพยายามได้น่ารักเกินจะบรรยาย พอโดนจับลดตัวลงนอนชานยอลก็รีบซุกหน้าลงกับตักเล็กทันที เขาครางงึมงำ ปวดไปทั้งตัวแล้วยังหายใจไม่ค่อยออกอีก แบคฮยอนหัวเราะก่อนจะจูบขมับเขาหนักๆ ไปทีนึง
“ อ้อนเหรอเราอ่ะJ? ”
“ อือ...คนป่วยก็อ้อนงี้ ”
เจ้าคนน่ารักอมยิ้มแก้มตุ่ยระดมจุ๊บปากชานยอลชนิดที่ว่าไม่กลัวหวัดเลยสักนิดเดียว แบคฮยอนกอดรัดเขาเหมือนเป็นตุ๊กตาหมี แก้มชานยอลถูกฟัดไปหลายครั้งจนจะช้ำอยู่แล้ว
แบคฮยอนเหมือนเด็กเก็บกดมานาน
โอเค...ยอมให้ฟัดวันนึง
“ กินยากันเถอะ! ”
“ อือ ”
“ อ้าปากเร็ว! ”
แบมือให้จนแล้วจนเล่าแบคฮยอนของชานยอลก็ยังส่ายหน้าไปมาไม่ยอมวางยาลงบนมือสักที เจ้าคนน่ารักยิ้มหวาน จู่โจมชานยอลซะจนหน้าเหวอ(เขาป่วยอยู่นะ!)
“ ป้อนด้วยปาก...น่าจะกินง่ายกว่านะ ”
“ แบคฮยอน...ไม่เอา...เดี๋ยวติดหวัด ”
“ แล้วไงอ่ะ? ”
มันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ เลย! ร่างอ่อนเพลียของชานยอลถูกคนตัวเล็กกว่ากอดรัด แบคฮยอนโยนยาเข้าปากแล้วหันมายักคิ้วให้สองสามที สายตาแพรวพราวแบบนั้นอีกแล้ว...แต่เอาเข้าจริงพออีกฝ่ายยื่นหน้ามาใกล้ชานยอลกลับยอมเผยอปากให้แต่โดยดี
ไหนขัดขืน? ไหนกลัวติดหวัด?
รสชาติขมแผ่กระจายทั่วโพรงปาก แบคฮยอนใช้ลิ้นดันเม็ดยาที่กำลังละลายให้เข้าไปลึกมากที่สุด พวกเขาพากันล้มหงายลงไปบนเตียง ชานยอลจับเอวเล็กของคนที่คร่อมเขาเอาไว้หลวมๆ แบคฮยอนน่ะทำเลยเถิดมากกว่าแค่ป้อนยาแล้วล่ะ...
“ ...พอแล้วคนดี ”
“ ชานยอลอ่าาา ”
“ รังแกคนป่วยไม่ได้นะ แค่กๆ ”
เอียงคอกับทำตาแป๋วดาเมจเข้าใส่อย่างเลือดเย็น หัวใจชานยอลกระตุก แบคฮยอนยิ้มโชว์เขี้ยว
“ ก็คนป่วยทำตัวน่ารักทำไมอ่ะ ”
เขาว่ากันว่าคนป่วยแล้วจะขี้อ้อน
เขาว่ากันว่าคนป่วยแล้วจะทำตัวน่ารัก
เขาว่ากันว่าคนป่วยจะชอบส่งสายตาหวานๆ
เขาว่ากันว่าคนป่วยน่ะเหมือนลูกแมวตัวโตๆ เลย
เขาที่ว่า...ก็หนีไม่พ้นชื่อพยอนแบคฮยอนอีกนั่นแหละ
เหมือนกับรอให้ต้นไม้ออกผลเป็นเพชรนั่นแหละ ชานยอลน่ะป่วยยากมากชนิดที่แบบว่ากระโดดดิ่งพสุธาพิสูจน์รักให้แบคฮยอนเห็นยังไม่ตาย(เว่อร์) แต่บทจะป่วยก็กะทันหันจนทำคนอื่นเขาหัวหมุนไปหมดอย่างเช่นก่อนหน้านี้ไงที่แบคฮยอนจะต้องคอยหยิบยา หยิบน้ำ เช็ดตัวให้
แบคฮยอนตื่นเต้นนิดหน่อยที่ได้มีโอกาสนอนมองใบหน้าแสนจะดูดีของชานยอล ก็เพราะตอนปกติชานยอลอ่ะชอบตื่นก่อนมาจ้องหน้าแบคฮยอนประจำแหละ หู้ย! คนบ้าอะไรไม่รู้ชอบทำให้เขิน คนป่วยกับคนไม่ป่วยนอนหันหน้าเข้าหากันบนเตียงขนาดพอเหมาะ
ใบหน้าของชานยอลตอนนอนหลับตาพริ้มนี่น่ารักชะมัด แบคฮยอนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงหยิบหนังสือที่ชานยอลอ่านค้างเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาอ่านรอเวลาให้ยาคนป่วย ขยับแค่นิดหน่อยชานยอลกลับสะดุ้งตื่น ปรือตาขึ้นมองตาหวานเชื่อมครางงึมงำ
“ ...แบคฮยอน ”
“ อยู่ตรงนี้ไง อย่างอแงนะ ”
“ แค่กๆๆ ”
แล้วคนป่วยก็ไอค่อกแค่กจนหน้าดำหน้าแดงดูทรมาน แบคฮยอนรีบประคองชานยอลขึ้นมานอนซบอกตัวเอง ทุลักทุเลเอามากกว่าจะได้ส่งน้ำให้อีกคนดื่ม ชานยอลซุกหน้าเข้าหาซอกคอวาดแขนอ่อนแรงกอดเอวแบคฮยอนแน่น
“ …แบคฮยอน ”
“ หื้ม? อะไร? ”
“ ...หนาว ”
ในเมื่อแฟนป่วยก็ต้องตามใจแฟนใช่มั้ยล่ะ? ชานยอลถูไถจมูกกับซอกคอแบคฮยอนอย่างออดอ้อน ทำเสียงงุ้งงิ้งๆ ใกล้หูน่ารักซะไม่มี คนป่วยทำตัวน่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะก้มไปฟัดแก้มให้หนำใจสักหลายๆ ที คนตัวเล็กกว่าลดตัวลงนอนหนุนหมอนพาตัวโตๆ ของแฟนลงมานอนกอดกันกลมแนวราบตามปกติ
พอหัวถึงหมอนคนป่วยก็เริ่มเลื้อยเข้ามากอดแบคฮยอนแนบแน่น เด็กชายปาร์คชานยอลเป็นเด็กขาดความอบอุ่นที่แบคฮยอนอยากจะมอบความอบอุ่นให้จนตัวสั่นเลยล่ะ แบคฮยอนตามใจแฟนป่วยแม้กระทั่งยอมให้อีกคนสอดมือเข้ามาในเสื้อยืดแย่งชิงความอบอุ่นของผิวเนื้อไป
“ เด็กชายปาร์คชานยอล ”
“ อือออ ”
“ อ้อนเป็นแมวเลยพาโบยาเอ๊ย! ”
แล้วยัง...จะเบียดจะซุกจะถูไถไปไหนเนี่ย คิดว่าป่วยแล้วแบคฮยอนจะไม่กล้าทำอะไรเหรอ คิดว่าป่วยแล้วอ้อนงี้แบคฮยอนจะยอมเหรอ นึกล่ะหมั่นเขี้ยว...แบคฮยอนกัดปากล่างคนป่วยไปทีนึง
“ อือ ”
“ เด็กชายปาร์คชานยอล ”
“ … ”
ขออีกนิดนะ ขอนิดเดียวก่อนที่จะปล่อยให้คนป่วยพักผ่อนจริงๆ สักที
“ เด็กชายปาร์คชานยอลเป็นของใคร? ”
“ .แค่กๆ ของแบค...ของแบคฮยอนนะ ”
“ เด็กดี ”
แบคฮยอนระบายยิ้มหวานให้คนป่วยที่ยิ้มหวานกว่า ไม่ใช่ว่าไม่รู้ในคำตอบของชานยอลนะ ต่อให้ถามสักพันครั้งหมื่นครั้งหรือแสนครั้งแบคฮยอนก็ยังรู้ดีว่าชานยอลจะตอบแบบเดิมเสมอ
แต่บางครั้งแบคฮยอนก็ยังอยากได้ยินคำบอกรักจากชานยอลซ้ำๆ
เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันให้เขารักชานยอลได้ดีกว่าเดิม
ถึงจะพากันนอนกอดกันกลมบนเตียงพร้อมหลับตาได้ทุกเมื่อ แต่คนป่วยอย่างชานยอลกลับไม่ยอมหลับตาลงสักทีแม้ตาจะปรือลงเรื่อยๆ ดวงตากลมโตคู่นั้นที่แบคฮยอนรักที่จะจ้องมองกำลังกระพริบปริบมองเขาอยู่อย่างนั้น
“ นอนได้แล้วเด็กดี ”
นี่เลียนแบบคำพูดที่ชานยอลพูดกับตัวเองบ่อยๆ มาใช้กับเจ้าตัวเลยนะเนี่ย
“ แบคฮยอน... ”
“ อย่าพูด พอแล้ว เสียงแหบหมดแล้วนะชานยอลอ่า ”
“ ขอนิดนึง ”
“ ก็ได้ รีบพูดแล้วรีบนอนนะ ”
อะไรคือมีการช้อนตามอง? โง้ยยย แบบนี้แบคฮยอนจะเอาอะไรไปสู้ได้ล่ะคนบ้านี่!
“ ขอคนป่วยอ้อนนิดนึงนะครับ...นะ ”
“ อะ...อื้อ! ”
พวกเขาขยับเข้าหากันมากขึ้นทั้งที่มันไม่มีช่องว่างแล้ว นอนหันหน้าเข้าหากัน ใช้ปลายจมูกคลอเคลียกันไปมาพร้อมกับนิ้วมือที่สอดประสานแนบแน่น สายตาชานยอลทำแบคฮยอนละลายได้ทุกครั้งไป และมันไม่มีครั้งไหนเลยที่ความรักที่มีจะลดลง
“ ฉันเคยคิดว่าแบคฮยอนเป็นความฝัน... ”
เพราะชานยอลวาดฝันให้ในทุกช่วงชีวิตของเขามีแบคฮยอนอยู่ด้วย
“ แต่แบคฮยอนก็เป็นความจริง... ”
ความจริงที่เรายังกอดกันแนบแน่นแบบนี้
“ ...รู้แล้วชานยอลอ่า ”
“ อ้อนแล้วต้องรักให้มากนะ ”
“ ได้สิ ”
“ แบคฮยอน ”
“ อะไรอีกกก ”
ชานยอลกดจูบแผ่วเบาตรงมุมปากของแบคฮยอนก่อนจะเปลี่ยนมานอนซุกหน้ากับซอกคออีกครั้ง
“ ...รักมาก ”
“ รัก...จนยังกลัวใจตัวเอง ”
“ กลัวว่าจะตายเพราะรักแบคฮยอนมากขนาดนี้ ”
“ ...รัก...รักแบคฮยอน ”
อ้อมแขนแบคฮยอนนั้นเล็กเกินกว่าจะสามารถโอบกอดตัวโตๆ ของชานยอลได้ทั้งหมด แต่เพื่อชานยอลแล้วจะให้เขาสละความอบอุ่นเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น กอดได้เท่านี้ก็ไม่เป็นไร...
“ ไม่ต้องห่วงนะ ความรักของชานยอลเราจะรับไว้หมดเลย ”
ผ่านไปสอง...สาม...หรืออาจจะสี่ชั่วโมงแบคฮยอนก็ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองเพดานห้องปริบๆ ความอึดอัดทำให้แทบจะขาดใจตายคาเตียงเพราะคนป่วยกำลังนอนทับอยู่ข้างบนตัวเมื่อไหร่ตอนไหนก็ไม่รู้ ชานยอลหายใจเข้าออกสม่ำเสมอซบหน้าลงบนอกแบคฮยอนเหมือนเด็กน้อย
คนตัวเล็กค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากพื้นเตียงทีละนิดพาร่างปวกเปียกของคนป่วยลงไปนอนกับหมอน ตัวชานยอลเย็นขึ้นมากแล้วแต่สงสัยยังจะเพลียอยู่ แบคฮยอนถือโอกาสตอนชานยอลหลับปุ๋ยลุกไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีคนที่คิดว่าหลับกลับลืมตามองปริบๆ อยู่บนเตียงโน่น
“ ตื่นแล้วเหรอ? รู้สึกดีขึ้นมั้ย? ”
“ ดีนะ...แต่เจ็บคอ ”
“ ต้องกินน้ำเยอะๆ นะชานยอลอ่า ”
“ ได้ ”
คนป่วยกวักมือเรียกเดี๋ยวเดียวตัวแบคฮยอนนี่แทบจะปลิวตามขึ้นเตียงทันที ฉีกยิ้มน่ารักๆ เอาใจแฟนป่วยแล้วจุ๊บจมูกโด่งๆ ไปหลายที ชานยอลหัวเราะเสียงแหบแห้งก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย แบคฮยอนรีบพลิกตัวขึ้นนอนทับบนร่างคนป่วย
เห็นท่าทางปวกเปียก แววตาออดอ้อนแล้วมันน่ารังแก
ชานยอลเผยอริมฝีปากเมื่อแบคฮยอนโน้มหน้าลงไปใกล้ ลิ้นเริ่มขยับพันเกี่ยวกันแนบแน่น ความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นแบคฮยอนกลัวว่าชานยอลอาจจะหายใจไม่ทันเลยจำต้องถอนจูบออกมาก่อน แต่...ปัญหาอยู่ที่คนป่วยไม่ยอมนี่สิ ชานยอลไม่ยอมผละริมฝีปากออกจากแบคฮยอนง่ายๆ พยายามดันร่างอ่อนแรงขึ้นจากเตียงตามดูดลิ้นแบคฮยอนไม่ลดละ น่ารักมากซะจนต้องกดให้นอนลงกับเตียงตามเดิม
“ ...แบคฮยอน ”
“ …แบคฮยอน ”
แบคฮยอนขยับลุกขึ้นเปลี่ยนมานั่งคร่อมบนตัวคนป่วย แลบลิ้นเลียริมฝีปากบวมเจ่อของตัวเองเล็กน้อย ชานยอลส่งเสียงออดอ้อนอยู่เป็นระยะ
แล้วคนไม่ป่วยก็ต้องหน้าแดงวาบ
ฝ่ามือใหญ่วางบนเนินสะโพกบังคับร่างแบคฮยอนให้บดเบียดลงมาในตำแหน่งที่โดนแล้วก็รู้เลยว่าต้องการอะไร แต่ชานยอลป่วยอยู่นะ! แบคฮยอนหัวเราะแล้วพยายามขยับสะโพกหนีจากตำแหน่งอันตรายนั้น แต่...ชานยอลกลับกลายร่างเป็นเด็กดื้อ
“ ป่วยอยู่นะ ”
ป่วยแล้วยังมาทำแบบนี้อีก ถ้าแบคฮยอนเกิดยอมขึ้นมาชานยอลต้องสลบคาเตียงแน่ๆ เชื่อสิ
“ ไม่เป็นไรครับ...นิดนึงเองนะ ”
“ เสียงไม่มียังจะซ่าอีกเหรอ ฮึ...ไม่เอาอ่ะ เอามือออกไปเลยคนลามก ”
“ แฟนป่วยต้องตามใจไม่ใช่เหรอ... ”
แฟนป่วยแต่ดันมาลามกนี่ควรจะตามใจมั้ยล่ะ?
“ ...นิดนึง ”
“ ไม่ ”
“ แบคฮยอนอ่า ”
ฝ่ามือใหญ่นั้นร้อน ถึงปากจะบอกปฏิเสธเสียงดังฟังชัดแต่แบคฮยอนกลับกัดปากแอ่นตัวให้คนป่วยสัมผัสไปทุกส่วนตามใจชอบ ยิ่งสัมผัสซอกซอนมากขึ้นแบคฮยอนก็ยิ่งหายใจติดๆ ขัดๆ จนเหมือนจะป่วยเองซะให้ได้
“ พอแล้ว ”
เป็นอีกครั้งที่ปากกระซิบห้ามแต่ร่างกายกลับขยับบดเบียดแนบชิด สัมผัสผ่านเนื้อผ้าเสียดสีกันไปมาทำให้ใจสั่นระรัว แบคฮยอนก้มลงสบตาคนใต้ร่างที่ทำตาเยิ้มรับสัมผัสเนิบนาบขณะที่มือฟอนเฟ้นเอวเขาไปด้วย ชานยอลหายใจถี่แบคฮยอนก็ยิ่งร้อน
นี่เรียกว่ารังแกคนป่วยมั้ยนะ? สีหน้าของชานยอลไม่ได้เหมือนคนโดนบังคับขืนใจด้วยซ้ำ...ไม่ใกล้เคียงเลย แบคฮยอนจึงเลือกจะกดสะโพกแนบกับตำแหน่งอันตรายโดยไม่หวั่นเกรงอะไรอีก
เบียดและขยับเป็นจังหวะให้เหมือนเวลาที่...
“ แบคฮยอนอยู่นี่มั้ย!? ”
ประตูห้องถูกกระชากให้เปิดออกด้วยฝีมือคนมาใหม่ หวงจื่อเทาชะงักค้างเหมือนโดนน็อคด้วยหมัดที่มองไม่เห็นกลางอากาศ นี่อยากจะแกล้งตายตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่คิดว่าคงไม่เนียน
หน้าของจื่อเทาเริ่มร้อนเมื่อเห็นเต็มตาว่าตัวเล็กๆ ของเพื่อนรักที่มาเฝ้าแฟนป่วยในตอนนี้กลับกำลัง ร่อน? โยก? ขย่ม? เสียดสี? อยู่บนตัวของปาร์คชานยอลที่จะดูล่องลอยไปไหน อย่ามาหาว่าจื่อเทาใช้ศัพท์สิบแปดบวกเลยนี่พูด! แต่สภาพของแบคฮยอนที่นั่งทับบนตัวชานยอลมันเป็นแบบนั้นจริง!
แบคฮยอนเพื่อนรักค่อยๆ เอี้ยวตัวมามองหน้าจื่อเทาอย่างตกใจก่อนจะรีบลงจะร่างปาร์คชานยอล แต่ช็อตเด็ดมันอยู่ตรงที่...
“ ทำต่อไม่ได้เหรอแบคฮยอนอ่า... ”
ชัดเลย! ชัดเลยว่าคนป่วยมันหลอกล่อคนไม่ป่วย!
ปาร์คชานยอลเจ้าคนร้ายกาจเอ๊ย!
“ จะ...จื่อเทา ”
“ เอ่อ...โทษทีที่ไม่ได้เคาะประตู ฉันไม่รู้นี่นาว่าพวกนายจะกำลังแบบว่า...มีเวลาส่วนตัว ”
แบคฮยอนหน้าแดงไปถึงลำคอ สองเพื่อนรักสบตากันเงียบๆ จื่อเทาหน้าแดงแบคฮยอนก็หน้าแดง ต่างคนต่างหัวเราะเก้อๆ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำท่าเงอะงะใส่กัน
“ จะต่อก็ได้นะ ”
“ เฮ้ยบ้า! เรา...เรา... ”
“ เดี๋ยว...ลงไปเจอกันข้างล่างแล้วกัน ”
ธุระสำคัญของเพื่อนจื่อเทารอได้...
“ ก็แบบว่า...แวะมาหานายก่อนไงแต่แม่นายบอกว่านายมาเฝ้าปาร์คชานยอล ”
“ ...ก็ใช่ ”
“ คราวหลังจะเคาะประตูนะ ”
“ จื่อเทา!!! ”
ทำมาเป็นเสียงดังใส่เพื่อนนะคนใจแตก นี่ขนาดให้เวลาจัดการธรุส่วนตัวกันแล้วทำไมไอ้คนป่วยอย่างปาร์คชานยอลถึงตามลงมานัวเนียถึงข้างล่าง? อย่าคิดว่าจื่อเทาไม่เห็นนะ มือปาร์คชานยอลแตะนั่นไล้นี่ไปทั่ว แบคฮยอนก็เหลือเกิน...ยอมเขาไปหมด!
“ แล้วมาหานี่มีอะไรกับเราอ่ะ ”
“ ไม่มี จุนมยอนออกไปทังานแต่เช้ามืด เบื่อเลยออกมาหา ”
“ วันนี้เราไม่ว่างเล่นกับจื่อเทาหรอก ”
“ เออ ก็พอรู้ ”
“ เลิกยิ้มแบบนั้นนะ! ”
แน่ะ ทำเสียงดังกลบเกลื่อนความเขนอีกละ นี่คิดว่าจื่อเทาไม่เขินไง๊? ใครจะไปคิดว่าเพื่อนนิสัยง้องแง้งแถมยังขี้แงจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมปาร์คชานยอลขนาดนั้นกันล่ะ อ่า...คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ
“ กินอะไรมั้ยเดี๋ยวทำให้ ”
“ งี้สิ! อยากได้โกโก้ร้อนๆ สักแก้ว ”
“ รอแป๊บ ชานยอลอ่า...อยู่ตรงนี้นะ ”
“ ...อือ ”
ลับหลังแบคฮยอนเดินหายไปในห้องครัวท่าทางปวกเปียกออดอ้อนของคนป่วยก็หาย...หายวับไปกับตา จื่อเทาเหงื่อตกกับสายตานิ่งเรียบของปาร์คชานยอล(หมอนี่มันไม่ได้ป่วยหรอกเหรอวะ!)ที่มองมา ปาร์คชานยอลลูบหลังคอตัวเองท่าทางแบดบอยสุดๆ แล้วถอนหายใจ
“ ขัดเวลาเมคเลิฟของคนอื่นนี่คิดดีแล้วหรือยัง? ”
“ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ใครจะไปรู้ล่ะ ”
“ กลับบ้านได้ละ ”
“ ห๊ะ? แต่ฉันเพิ่งมาถึงนะ ”
ปาร์คชานยอลลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง ไหนคนป่วย? ไหนล่ะไหน? แถมยังกระตุกยิ้มมุมบอยแบบพวกตัวร้ายในละครมาให้เล่นซะจื่อเทาใจสั่น(ถุย!)
“ ไม่กลับก็ตามใจ ”
แล้วปาร์คชานยอลก็เดินหายเข้าไปในห้องครัวให้จื่อเทาแปลกใจไปงั้น
ถ้าไม่กลับแล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?
“ อ๊ะ! ชะ...ชานยอล ”
เสียงกระเส่าแบบนี้นี่มัน...
“ อย่า...อย่าเพิ่งนะ...จื่อเทายังอยู่ ”
จื่อเทาพาตัวเองขยับเข้าใกล้ประตูห้องครัวมากขึ้น หรือว่า...
“ แบคฮยอนอ่า ”
“ แยกขาออกหน่อย... ”
ตัวเล็กๆ ของเพื่อนรักสั่นระริกเกาะเคาน์เตอร์ห้องครัวเอาไว้แน่นโดยมีร่างของปาร์คชานยอลบดเบียดอยู่ทางด้านหลัง พอปาร์คชานยอลขยับเข้าหาแล้วจื่อเทาเห็นเพื่อนรักเชิดหน้าขึ้นหอบหายใจทรมานแบบนั้น...กระตุกเป็นพักๆ แบบนั้น...
อื้อหือ
...ชัดเจน
“ แบคฮยอนอ่า... ”
“ กะ...กลับก่อนนะแบคฮยอน! ”
หลับหูหลับตาตะโกนออกไปก่อนจะรีบคว้าข้าวของวิ่งออกจากบ้านแทบไม่ทัน เสียงแปลกๆ ในห้องครัวนั่นกำลังจะทำให้จื่อเทาเตลิด ปาร์คชานยอลไอ้คนเจ้าเล่ห์! หมอนั่นหลอกใช้ความบื้อของแบคฮยอนเพื่อนรักกักตุนผลกำไรจนอื้อหือ ไอ้คนเลว!
#ฟิคพาโบ
จัดว่าเรทบวกรึเปล่านะ...น่าจะใช่ 555555 เราจะทำให้เธออยากแล้วจากไป
เอ็นซงเอ็นซีไม่มีร้อกกกกก ไว้ไปมโนกันเองนะ #จะโดนแบนป่ะ?
ฟิคโฟโต้เปิดจองแล้วนะทุกคน ถ้ายอดสั่งไม่ถึงสามสิบเราคงต้องยุบโครงการนี้ ; _ ;
จองฟิคโฟโต้
ความคิดเห็น