ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Babo - ya 」chanbaek krislay taoho

    ลำดับตอนที่ #16 : Thirteen ✿ Lovesick

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.69K
      25
      27 ก.ย. 57








    13

    Lovesick.




    ไข้ใจ(adj.) รู้สึกว่าโหยหาความรัก




     

                “ งื่ออออออ

                “ งื่ออออออ

                “ งื่ออออออ

                “ ...ชานยอลอ่า

                เสียงครางงื่อๆ ดังใกล้หูนี่เอง ชานยอลเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบากเพราะมันหนักจนแทบลืมไม่ขึ้น มืออุ่นๆ แนบลงมามันยิ่งทำให้เขาร้อนจนต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ชานยอลเริ่มไอหนักขึ้น ไอจนตัวงอคุดคู้อยู่บนเตียง อ่า...ให้ตายเถอะ เกิดอะไรขึ้นกับเขาวันนี้เนี่ย?

                ชานยอลอ่า

                “ แค่กๆๆ

                แค่ลืมตาขึ้นมองเพดานโลกก็โคลงเคลงจนเวียนหัวไปหมด ดวงตาพร่ามัวแต่ยังเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มชะโงกเข้ามาใกล้ แบคฮยอนเบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ น่ารักนะแต่ตอนนี้ไม่มีแรงชม ชานยอลครางเรียกชื่อแบคฮยอนของเขาเสียงแหบแห้ง

                ...แบคฮยอน

                “ ไม่สบายนะ เป็นไข้ด้วย เสียงก็แหบ

                “ อือ...เจ็บคอ

                “ ฮื้อออ ชานยอลอ่าาา

                แบคฮยอนทำเสียงงอแงเล็กน้อยก่อนจะฟุบลงมาซบหน้าอกเขาถูไถไปมาแล้วค่อยยืดตัวขึ้นจุ๊บปากชานยอลที่กำลังสะลึมสะลือไปหนึ่งที ร่างชานยอลถูกตัวกระจิ้ดริ้ดนิดเดียวของแบคฮยอนพยุงขึ้นพิงกับหมอนใบโต เขาไอแค่กๆ ปรือตามองแบคฮยอนวิ่งดุ๊กๆ ไปรินน้ำมาให้

                ดื่มน้ำหน่อยนะ

                “ อือ

                ความเย็นสดชื่นของน้ำที่ไหลผ่านลำคอช่วยบรรเทาความแสบจากการไอได้ดีระดับหนึ่ง พอดื่มเสร็จแบคฮยอนของชานยอลก็นั่งจ้องตาแป๋วตรงปลายเตียง จ้องกันไปจ้องกันมาก็เกิดอาการอยากอ้อนคลานเข่ามาจุ๊บปากชานยอลอีกซะงั้น

                อืออ ไม่เอานะแบคฮยอน เดี๋ยวจะติดหวัด

                “ นิดเดียวเองไม่เป็นไรหรอก

                “ วันนี้ไม่ได้ กลับบ้านไปได้แล้ว

                “ กล้าไล่เหรอ?

                ปกติต้องมีเบะปากทำน้ำตาคลอนะแต่นี่แบคฮยอนกลับยังซบคลอเคลียออดอ้อนชานยอลไม่ยอมห่าง เปลี่ยนสภาพจากลูกหมาแซบซ่ามาเป็นลูกแมวขี้อ้อนซะแล้วเหรอ?

                วันนี้จะอยู่กับชานยอลลลล นะนะนะ

                “ เดี๋ยวติดหวัด

                “ ถึงจะป่วยแต่ตามใจแฟนนิดนึงนะ

                “ ไม่ได้

                เสียงชานยอลแหบจนไม่มีอะไรจะไปเถียงคนปกติแล้ว แบคฮยอนยิ้มแป้น เออ...น่าหยิกดี กระโดดลงเตียงไปหยิบยาสองสามเม็ดโยนเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม ชานยอลห้ามไม่ทันหรอก เจ้าคนน่ารักกระโดดขึ้นเตียงเหมือนเดิมแล้วซบหน้าลงกับขาชานยอลอีกครั้ง

                แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวป่วยแล้ว

                “ ...เด็กดื้อ

                “ ชานยอลนั่นแหละนิสัยไม่ดี ใครเขามาป่วยตอนฤดูใบไม้ผลิกัน

                “ ดูแลแฟนดื้อจนป่วยน่ะสิ

                “ หยุดพูดน่า! ”

                แบคฮยอนของชานยอลยกมือขึ้นปิดปากเขาแล้วตีหน้าดุใส่ น่ารักซะไม่มีแหละคนเรานี่นะ ชานยอลขัดขืนนิดหน่อยตอนที่แบคฮยอนพยายามประคองเขานอนลงเหมือนเดิม ครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมดแล้ว แขนขานี่อ่อนเปลี้ยไม่มีแรงจะดึงคนแถวนี้มากอดฟัดให้สมใจ

                เช็ดตัวหน่อยนะ

                “ ไม่เอา

                “ หัดดื้อเหรอชานยอล? อยากให้โหดใช่มั้ย?

                “ ไม่เอาสิแบคฮยอนครับ...

                เขาพยายามออดอ้อนเจ้าคนน่ารัก ตอนนี้แรงจะขยับตัวยังแทบไม่มี สถานการณ์ตอนนี้แบคฮยอนของเขากำลังเป็นต่อสุดๆ ก็เล่นมองชานยอลสายตาแพรวพราวขนาดนั้นน่ะสิ ชานยอลเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากแดงๆ ที่โฉบมาจะจุ๊บเขาอีก

                เดี๋ยวติดหวัด

                “ ไม่เป็นไรน่าาา

                น่าอายเป็นบ้าที่โดนคนตัวเล็กกว่าตัวเอง(มาก)ปล้ำถอดเสื้อไปได้อย่างง่ายดาย แบคฮยอนหัวเราะคิกๆ พอเห็นว่าเขาไม่มีแรงสู้ ผ้าเย็นๆ เปียกๆ แนบผิวเนื้อทำชานยอลสะดุ้งก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้แบคฮยอนของเขาเช็ดตัว

                ชานยอลอ่า ใส่เสื้อหน่อยน้าาา

                แบคฮยอนใส่เสื้อให้เขาทุลักทุเลกว่าตอนถอด มีความพยายามได้น่ารักเกินจะบรรยาย พอโดนจับลดตัวลงนอนชานยอลก็รีบซุกหน้าลงกับตักเล็กทันที เขาครางงึมงำ ปวดไปทั้งตัวแล้วยังหายใจไม่ค่อยออกอีก แบคฮยอนหัวเราะก่อนจะจูบขมับเขาหนักๆ ไปทีนึง

                อ้อนเหรอเราอ่ะJ?

                “ อือ...คนป่วยก็อ้อนงี้

                เจ้าคนน่ารักอมยิ้มแก้มตุ่ยระดมจุ๊บปากชานยอลชนิดที่ว่าไม่กลัวหวัดเลยสักนิดเดียว แบคฮยอนกอดรัดเขาเหมือนเป็นตุ๊กตาหมี แก้มชานยอลถูกฟัดไปหลายครั้งจนจะช้ำอยู่แล้ว

     

                แบคฮยอนเหมือนเด็กเก็บกดมานาน

              โอเค...ยอมให้ฟัดวันนึง

               

                กินยากันเถอะ! ”

                “ อือ

                “ อ้าปากเร็ว! ”

                แบมือให้จนแล้วจนเล่าแบคฮยอนของชานยอลก็ยังส่ายหน้าไปมาไม่ยอมวางยาลงบนมือสักที เจ้าคนน่ารักยิ้มหวาน จู่โจมชานยอลซะจนหน้าเหวอ(เขาป่วยอยู่นะ!)

                ป้อนด้วยปาก...น่าจะกินง่ายกว่านะ

                “ แบคฮยอน...ไม่เอา...เดี๋ยวติดหวัด

                “ แล้วไงอ่ะ?

                มันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ เลย! ร่างอ่อนเพลียของชานยอลถูกคนตัวเล็กกว่ากอดรัด แบคฮยอนโยนยาเข้าปากแล้วหันมายักคิ้วให้สองสามที สายตาแพรวพราวแบบนั้นอีกแล้ว...แต่เอาเข้าจริงพออีกฝ่ายยื่นหน้ามาใกล้ชานยอลกลับยอมเผยอปากให้แต่โดยดี

     

                ไหนขัดขืน? ไหนกลัวติดหวัด?

               

                รสชาติขมแผ่กระจายทั่วโพรงปาก แบคฮยอนใช้ลิ้นดันเม็ดยาที่กำลังละลายให้เข้าไปลึกมากที่สุด พวกเขาพากันล้มหงายลงไปบนเตียง ชานยอลจับเอวเล็กของคนที่คร่อมเขาเอาไว้หลวมๆ แบคฮยอนน่ะทำเลยเถิดมากกว่าแค่ป้อนยาแล้วล่ะ...

                ...พอแล้วคนดี

                “ ชานยอลอ่าาา

                “ รังแกคนป่วยไม่ได้นะ แค่กๆ

                เอียงคอกับทำตาแป๋วดาเมจเข้าใส่อย่างเลือดเย็น หัวใจชานยอลกระตุก แบคฮยอนยิ้มโชว์เขี้ยว

     

                ก็คนป่วยทำตัวน่ารักทำไมอ่ะ










     














     

                เขาว่ากันว่าคนป่วยแล้วจะขี้อ้อน

                เขาว่ากันว่าคนป่วยแล้วจะทำตัวน่ารัก

                เขาว่ากันว่าคนป่วยจะชอบส่งสายตาหวานๆ

                เขาว่ากันว่าคนป่วยน่ะเหมือนลูกแมวตัวโตๆ เลย

     
     

                เขาที่ว่า...ก็หนีไม่พ้นชื่อพยอนแบคฮยอนอีกนั่นแหละ

     
     

                เหมือนกับรอให้ต้นไม้ออกผลเป็นเพชรนั่นแหละ ชานยอลน่ะป่วยยากมากชนิดที่แบบว่ากระโดดดิ่งพสุธาพิสูจน์รักให้แบคฮยอนเห็นยังไม่ตาย(เว่อร์) แต่บทจะป่วยก็กะทันหันจนทำคนอื่นเขาหัวหมุนไปหมดอย่างเช่นก่อนหน้านี้ไงที่แบคฮยอนจะต้องคอยหยิบยา หยิบน้ำ เช็ดตัวให้

                แบคฮยอนตื่นเต้นนิดหน่อยที่ได้มีโอกาสนอนมองใบหน้าแสนจะดูดีของชานยอล ก็เพราะตอนปกติชานยอลอ่ะชอบตื่นก่อนมาจ้องหน้าแบคฮยอนประจำแหละ หู้ย! คนบ้าอะไรไม่รู้ชอบทำให้เขิน คนป่วยกับคนไม่ป่วยนอนหันหน้าเข้าหากันบนเตียงขนาดพอเหมาะ

                ใบหน้าของชานยอลตอนนอนหลับตาพริ้มนี่น่ารักชะมัด แบคฮยอนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงหยิบหนังสือที่ชานยอลอ่านค้างเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาอ่านรอเวลาให้ยาคนป่วย ขยับแค่นิดหน่อยชานยอลกลับสะดุ้งตื่น ปรือตาขึ้นมองตาหวานเชื่อมครางงึมงำ

                “ ...แบคฮยอน

                “ อยู่ตรงนี้ไง อย่างอแงนะ

                “ แค่กๆๆ

                แล้วคนป่วยก็ไอค่อกแค่กจนหน้าดำหน้าแดงดูทรมาน แบคฮยอนรีบประคองชานยอลขึ้นมานอนซบอกตัวเอง ทุลักทุเลเอามากกว่าจะได้ส่งน้ำให้อีกคนดื่ม ชานยอลซุกหน้าเข้าหาซอกคอวาดแขนอ่อนแรงกอดเอวแบคฮยอนแน่น

                “ …แบคฮยอน

                “ หื้ม? อะไร?

                “ ...หนาว

                ในเมื่อแฟนป่วยก็ต้องตามใจแฟนใช่มั้ยล่ะ? ชานยอลถูไถจมูกกับซอกคอแบคฮยอนอย่างออดอ้อน ทำเสียงงุ้งงิ้งๆ ใกล้หูน่ารักซะไม่มี คนป่วยทำตัวน่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะก้มไปฟัดแก้มให้หนำใจสักหลายๆ ที คนตัวเล็กกว่าลดตัวลงนอนหนุนหมอนพาตัวโตๆ ของแฟนลงมานอนกอดกันกลมแนวราบตามปกติ

                พอหัวถึงหมอนคนป่วยก็เริ่มเลื้อยเข้ามากอดแบคฮยอนแนบแน่น เด็กชายปาร์คชานยอลเป็นเด็กขาดความอบอุ่นที่แบคฮยอนอยากจะมอบความอบอุ่นให้จนตัวสั่นเลยล่ะ แบคฮยอนตามใจแฟนป่วยแม้กระทั่งยอมให้อีกคนสอดมือเข้ามาในเสื้อยืดแย่งชิงความอบอุ่นของผิวเนื้อไป

                เด็กชายปาร์คชานยอล

                “ อือออ

                “ อ้อนเป็นแมวเลยพาโบยาเอ๊ย! ”

                แล้วยัง...จะเบียดจะซุกจะถูไถไปไหนเนี่ย คิดว่าป่วยแล้วแบคฮยอนจะไม่กล้าทำอะไรเหรอ คิดว่าป่วยแล้วอ้อนงี้แบคฮยอนจะยอมเหรอ นึกล่ะหมั่นเขี้ยว...แบคฮยอนกัดปากล่างคนป่วยไปทีนึง

                อือ

                “ เด็กชายปาร์คชานยอล

                “ … ”

                ขออีกนิดนะ ขอนิดเดียวก่อนที่จะปล่อยให้คนป่วยพักผ่อนจริงๆ สักที

                “ เด็กชายปาร์คชานยอลเป็นของใคร?

                “ .แค่กๆ ของแบค...ของแบคฮยอนนะ

                “ เด็กดี

                แบคฮยอนระบายยิ้มหวานให้คนป่วยที่ยิ้มหวานกว่า ไม่ใช่ว่าไม่รู้ในคำตอบของชานยอลนะ ต่อให้ถามสักพันครั้งหมื่นครั้งหรือแสนครั้งแบคฮยอนก็ยังรู้ดีว่าชานยอลจะตอบแบบเดิมเสมอ

     

                แต่บางครั้งแบคฮยอนก็ยังอยากได้ยินคำบอกรักจากชานยอลซ้ำๆ

              เพราะมันจะเป็นแรงผลักดันให้เขารักชานยอลได้ดีกว่าเดิม

             

                ถึงจะพากันนอนกอดกันกลมบนเตียงพร้อมหลับตาได้ทุกเมื่อ แต่คนป่วยอย่างชานยอลกลับไม่ยอมหลับตาลงสักทีแม้ตาจะปรือลงเรื่อยๆ ดวงตากลมโตคู่นั้นที่แบคฮยอนรักที่จะจ้องมองกำลังกระพริบปริบมองเขาอยู่อย่างนั้น

                นอนได้แล้วเด็กดี

                นี่เลียนแบบคำพูดที่ชานยอลพูดกับตัวเองบ่อยๆ มาใช้กับเจ้าตัวเลยนะเนี่ย

                แบคฮยอน...

                “ อย่าพูด พอแล้ว เสียงแหบหมดแล้วนะชานยอลอ่า

                “ ขอนิดนึง

                “ ก็ได้ รีบพูดแล้วรีบนอนนะ

                อะไรคือมีการช้อนตามอง? โง้ยยย แบบนี้แบคฮยอนจะเอาอะไรไปสู้ได้ล่ะคนบ้านี่!

                “ ขอคนป่วยอ้อนนิดนึงนะครับ...นะ

                “ อะ...อื้อ! ”

                พวกเขาขยับเข้าหากันมากขึ้นทั้งที่มันไม่มีช่องว่างแล้ว นอนหันหน้าเข้าหากัน ใช้ปลายจมูกคลอเคลียกันไปมาพร้อมกับนิ้วมือที่สอดประสานแนบแน่น สายตาชานยอลทำแบคฮยอนละลายได้ทุกครั้งไป และมันไม่มีครั้งไหนเลยที่ความรักที่มีจะลดลง

                ฉันเคยคิดว่าแบคฮยอนเป็นความฝัน...

               

                เพราะชานยอลวาดฝันให้ในทุกช่วงชีวิตของเขามีแบคฮยอนอยู่ด้วย

     
     

                แต่แบคฮยอนก็เป็นความจริง...

     
     

                ความจริงที่เรายังกอดกันแนบแน่นแบบนี้

     
     

                ...รู้แล้วชานยอลอ่า

                “ อ้อนแล้วต้องรักให้มากนะ

                “ ได้สิ

                “ แบคฮยอน

                “ อะไรอีกกก

                ชานยอลกดจูบแผ่วเบาตรงมุมปากของแบคฮยอนก่อนจะเปลี่ยนมานอนซุกหน้ากับซอกคออีกครั้ง

                ...รักมาก

                “ รัก...จนยังกลัวใจตัวเอง

                “ กลัวว่าจะตายเพราะรักแบคฮยอนมากขนาดนี้

                “ ...รัก...รักแบคฮยอน

                อ้อมแขนแบคฮยอนนั้นเล็กเกินกว่าจะสามารถโอบกอดตัวโตๆ ของชานยอลได้ทั้งหมด แต่เพื่อชานยอลแล้วจะให้เขาสละความอบอุ่นเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น กอดได้เท่านี้ก็ไม่เป็นไร...


                ไม่ต้องห่วงนะ ความรักของชานยอลเราจะรับไว้หมดเลย

     






     

              ผ่านไปสอง...สาม...หรืออาจจะสี่ชั่วโมงแบคฮยอนก็ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองเพดานห้องปริบๆ ความอึดอัดทำให้แทบจะขาดใจตายคาเตียงเพราะคนป่วยกำลังนอนทับอยู่ข้างบนตัวเมื่อไหร่ตอนไหนก็ไม่รู้ ชานยอลหายใจเข้าออกสม่ำเสมอซบหน้าลงบนอกแบคฮยอนเหมือนเด็กน้อย

                คนตัวเล็กค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากพื้นเตียงทีละนิดพาร่างปวกเปียกของคนป่วยลงไปนอนกับหมอน ตัวชานยอลเย็นขึ้นมากแล้วแต่สงสัยยังจะเพลียอยู่ แบคฮยอนถือโอกาสตอนชานยอลหลับปุ๋ยลุกไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีคนที่คิดว่าหลับกลับลืมตามองปริบๆ อยู่บนเตียงโน่น

                ตื่นแล้วเหรอ? รู้สึกดีขึ้นมั้ย?

                “ ดีนะ...แต่เจ็บคอ

                “ ต้องกินน้ำเยอะๆ นะชานยอลอ่า

                “ ได้

                คนป่วยกวักมือเรียกเดี๋ยวเดียวตัวแบคฮยอนนี่แทบจะปลิวตามขึ้นเตียงทันที ฉีกยิ้มน่ารักๆ เอาใจแฟนป่วยแล้วจุ๊บจมูกโด่งๆ ไปหลายที ชานยอลหัวเราะเสียงแหบแห้งก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย แบคฮยอนรีบพลิกตัวขึ้นนอนทับบนร่างคนป่วย

     

                เห็นท่าทางปวกเปียก แววตาออดอ้อนแล้วมันน่ารังแก

               

                ชานยอลเผยอริมฝีปากเมื่อแบคฮยอนโน้มหน้าลงไปใกล้ ลิ้นเริ่มขยับพันเกี่ยวกันแนบแน่น ความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นแบคฮยอนกลัวว่าชานยอลอาจจะหายใจไม่ทันเลยจำต้องถอนจูบออกมาก่อน แต่...ปัญหาอยู่ที่คนป่วยไม่ยอมนี่สิ ชานยอลไม่ยอมผละริมฝีปากออกจากแบคฮยอนง่ายๆ พยายามดันร่างอ่อนแรงขึ้นจากเตียงตามดูดลิ้นแบคฮยอนไม่ลดละ น่ารักมากซะจนต้องกดให้นอนลงกับเตียงตามเดิม

                ...แบคฮยอน

                “ …แบคฮยอน

                แบคฮยอนขยับลุกขึ้นเปลี่ยนมานั่งคร่อมบนตัวคนป่วย แลบลิ้นเลียริมฝีปากบวมเจ่อของตัวเองเล็กน้อย ชานยอลส่งเสียงออดอ้อนอยู่เป็นระยะ

     

              แล้วคนไม่ป่วยก็ต้องหน้าแดงวาบ

     

                ฝ่ามือใหญ่วางบนเนินสะโพกบังคับร่างแบคฮยอนให้บดเบียดลงมาในตำแหน่งที่โดนแล้วก็รู้เลยว่าต้องการอะไร แต่ชานยอลป่วยอยู่นะ! แบคฮยอนหัวเราะแล้วพยายามขยับสะโพกหนีจากตำแหน่งอันตรายนั้น แต่...ชานยอลกลับกลายร่างเป็นเด็กดื้อ

                ป่วยอยู่นะ

                ป่วยแล้วยังมาทำแบบนี้อีก ถ้าแบคฮยอนเกิดยอมขึ้นมาชานยอลต้องสลบคาเตียงแน่ๆ เชื่อสิ

                ไม่เป็นไรครับ...นิดนึงเองนะ

                “ เสียงไม่มียังจะซ่าอีกเหรอ ฮึ...ไม่เอาอ่ะ เอามือออกไปเลยคนลามก

                “ แฟนป่วยต้องตามใจไม่ใช่เหรอ...

               

              แฟนป่วยแต่ดันมาลามกนี่ควรจะตามใจมั้ยล่ะ?

               

                ...นิดนึง

                “ ไม่

                “ แบคฮยอนอ่า

                ฝ่ามือใหญ่นั้นร้อน ถึงปากจะบอกปฏิเสธเสียงดังฟังชัดแต่แบคฮยอนกลับกัดปากแอ่นตัวให้คนป่วยสัมผัสไปทุกส่วนตามใจชอบ ยิ่งสัมผัสซอกซอนมากขึ้นแบคฮยอนก็ยิ่งหายใจติดๆ ขัดๆ จนเหมือนจะป่วยเองซะให้ได้

                พอแล้ว

                เป็นอีกครั้งที่ปากกระซิบห้ามแต่ร่างกายกลับขยับบดเบียดแนบชิด สัมผัสผ่านเนื้อผ้าเสียดสีกันไปมาทำให้ใจสั่นระรัว แบคฮยอนก้มลงสบตาคนใต้ร่างที่ทำตาเยิ้มรับสัมผัสเนิบนาบขณะที่มือฟอนเฟ้นเอวเขาไปด้วย ชานยอลหายใจถี่แบคฮยอนก็ยิ่งร้อน

                นี่เรียกว่ารังแกคนป่วยมั้ยนะ? สีหน้าของชานยอลไม่ได้เหมือนคนโดนบังคับขืนใจด้วยซ้ำ...ไม่ใกล้เคียงเลย แบคฮยอนจึงเลือกจะกดสะโพกแนบกับตำแหน่งอันตรายโดยไม่หวั่นเกรงอะไรอีก

     
     

                เบียดและขยับเป็นจังหวะให้เหมือนเวลาที่...

     
     

                แบคฮยอนอยู่นี่มั้ย!? ”

                ประตูห้องถูกกระชากให้เปิดออกด้วยฝีมือคนมาใหม่ หวงจื่อเทาชะงักค้างเหมือนโดนน็อคด้วยหมัดที่มองไม่เห็นกลางอากาศ นี่อยากจะแกล้งตายตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่คิดว่าคงไม่เนียน

                หน้าของจื่อเทาเริ่มร้อนเมื่อเห็นเต็มตาว่าตัวเล็กๆ ของเพื่อนรักที่มาเฝ้าแฟนป่วยในตอนนี้กลับกำลัง ร่อน? โยก? ขย่ม? เสียดสี? อยู่บนตัวของปาร์คชานยอลที่จะดูล่องลอยไปไหน อย่ามาหาว่าจื่อเทาใช้ศัพท์สิบแปดบวกเลยนี่พูด! แต่สภาพของแบคฮยอนที่นั่งทับบนตัวชานยอลมันเป็นแบบนั้นจริง!

                แบคฮยอนเพื่อนรักค่อยๆ เอี้ยวตัวมามองหน้าจื่อเทาอย่างตกใจก่อนจะรีบลงจะร่างปาร์คชานยอล แต่ช็อตเด็ดมันอยู่ตรงที่...

                ทำต่อไม่ได้เหรอแบคฮยอนอ่า...

     
     

                ชัดเลย! ชัดเลยว่าคนป่วยมันหลอกล่อคนไม่ป่วย!

              ปาร์คชานยอลเจ้าคนร้ายกาจเอ๊ย!

     
     

                “ จะ...จื่อเทา

                “ เอ่อ...โทษทีที่ไม่ได้เคาะประตู ฉันไม่รู้นี่นาว่าพวกนายจะกำลังแบบว่า...มีเวลาส่วนตัว

                แบคฮยอนหน้าแดงไปถึงลำคอ สองเพื่อนรักสบตากันเงียบๆ จื่อเทาหน้าแดงแบคฮยอนก็หน้าแดง ต่างคนต่างหัวเราะเก้อๆ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำท่าเงอะงะใส่กัน

                จะต่อก็ได้นะ

                “ เฮ้ยบ้า! เรา...เรา...

                “ เดี๋ยว...ลงไปเจอกันข้างล่างแล้วกัน  

     

              ธุระสำคัญของเพื่อนจื่อเทารอได้...

     

























     

                “ ก็แบบว่า...แวะมาหานายก่อนไงแต่แม่นายบอกว่านายมาเฝ้าปาร์คชานยอล

                “ ...ก็ใช่

                “ คราวหลังจะเคาะประตูนะ

                “ จื่อเทา!!! ”

                ทำมาเป็นเสียงดังใส่เพื่อนนะคนใจแตก นี่ขนาดให้เวลาจัดการธรุส่วนตัวกันแล้วทำไมไอ้คนป่วยอย่างปาร์คชานยอลถึงตามลงมานัวเนียถึงข้างล่าง? อย่าคิดว่าจื่อเทาไม่เห็นนะ มือปาร์คชานยอลแตะนั่นไล้นี่ไปทั่ว แบคฮยอนก็เหลือเกิน...ยอมเขาไปหมด!

                “ แล้วมาหานี่มีอะไรกับเราอ่ะ

                “ ไม่มี จุนมยอนออกไปทังานแต่เช้ามืด เบื่อเลยออกมาหา

                “ วันนี้เราไม่ว่างเล่นกับจื่อเทาหรอก

                “ เออ ก็พอรู้

                “ เลิกยิ้มแบบนั้นนะ! ”

                แน่ะ ทำเสียงดังกลบเกลื่อนความเขนอีกละ นี่คิดว่าจื่อเทาไม่เขินไง๊? ใครจะไปคิดว่าเพื่อนนิสัยง้องแง้งแถมยังขี้แงจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมปาร์คชานยอลขนาดนั้นกันล่ะ อ่า...คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

                กินอะไรมั้ยเดี๋ยวทำให้

                “ งี้สิ! อยากได้โกโก้ร้อนๆ สักแก้ว

                “ รอแป๊บ ชานยอลอ่า...อยู่ตรงนี้นะ

                “ ...อือ

                ลับหลังแบคฮยอนเดินหายไปในห้องครัวท่าทางปวกเปียกออดอ้อนของคนป่วยก็หาย...หายวับไปกับตา จื่อเทาเหงื่อตกกับสายตานิ่งเรียบของปาร์คชานยอล(หมอนี่มันไม่ได้ป่วยหรอกเหรอวะ!)ที่มองมา ปาร์คชานยอลลูบหลังคอตัวเองท่าทางแบดบอยสุดๆ แล้วถอนหายใจ

                ขัดเวลาเมคเลิฟของคนอื่นนี่คิดดีแล้วหรือยัง?

                “ ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ใครจะไปรู้ล่ะ

                “ กลับบ้านได้ละ

                “ ห๊ะ? แต่ฉันเพิ่งมาถึงนะ

                ปาร์คชานยอลลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง ไหนคนป่วย? ไหนล่ะไหน? แถมยังกระตุกยิ้มมุมบอยแบบพวกตัวร้ายในละครมาให้เล่นซะจื่อเทาใจสั่น(ถุย!)

                ไม่กลับก็ตามใจ

                แล้วปาร์คชานยอลก็เดินหายเข้าไปในห้องครัวให้จื่อเทาแปลกใจไปงั้น


              

              ถ้าไม่กลับแล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?

     
     

                อ๊ะ! ชะ...ชานยอล

                เสียงกระเส่าแบบนี้นี่มัน...

                อย่า...อย่าเพิ่งนะ...จื่อเทายังอยู่

                จื่อเทาพาตัวเองขยับเข้าใกล้ประตูห้องครัวมากขึ้น หรือว่า...

                แบคฮยอนอ่า

                “ แยกขาออกหน่อย...

                ตัวเล็กๆ ของเพื่อนรักสั่นระริกเกาะเคาน์เตอร์ห้องครัวเอาไว้แน่นโดยมีร่างของปาร์คชานยอลบดเบียดอยู่ทางด้านหลัง พอปาร์คชานยอลขยับเข้าหาแล้วจื่อเทาเห็นเพื่อนรักเชิดหน้าขึ้นหอบหายใจทรมานแบบนั้น...กระตุกเป็นพักๆ แบบนั้น...

     

                อื้อหือ

              ...ชัดเจน

     
     

                แบคฮยอนอ่า...

                “ กะ...กลับก่อนนะแบคฮยอน! ”

                หลับหูหลับตาตะโกนออกไปก่อนจะรีบคว้าข้าวของวิ่งออกจากบ้านแทบไม่ทัน เสียงแปลกๆ ในห้องครัวนั่นกำลังจะทำให้จื่อเทาเตลิด ปาร์คชานยอลไอ้คนเจ้าเล่ห์! หมอนั่นหลอกใช้ความบื้อของแบคฮยอนเพื่อนรักกักตุนผลกำไรจนอื้อหือ ไอ้คนเลว!

                           

                





    #ฟิคพาโบ










     





    จัดว่าเรทบวกรึเปล่านะ...น่าจะใช่ 555555 เราจะทำให้เธออยากแล้วจากไป
    เอ็นซงเอ็นซีไม่มีร้อกกกกก ไว้ไปมโนกันเองนะ #จะโดนแบนป่ะ? 



    ฟิคโฟโต้เปิดจองแล้วนะทุกคน ถ้ายอดสั่งไม่ถึงสามสิบเราคงต้องยุบโครงการนี้ ; _ ;



    จองฟิคโฟโต้





     


    (c)  Porcelain theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×