ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    exo「 Babo - ya 」chanbaek krislay taoho

    ลำดับตอนที่ #8 : Seven ✿ Bloom

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.1K
      23
      17 ก.ย. 57










    07

    Bloom




     

    ความลับของคนโสด คือ...

    มีคนที่แอบชอบ แต่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ J


     

                ร่างสูงโปร่งกับผิวติดจะออกสีแทนสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัวเดินล้วงกระเป๋าชิลๆ ในถนนย่านทงแดมุน เขาดูดีและหล่อเหลาแถมยังเท่สะบัดอันนั้นจื่อเทารู้ตัว ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนมองตามกันเป็นแถว เพราะแบคฮยอนเอาแต่เดินตามแฟนตัวเองต้อยๆ เขาเลยไม่มีเพื่อนมาเดินเล่นด้วย ปาร์คชานยอลก็นะ...ชอบกันแบคฮยอนออกห่างเขาตลอดไม่รู้จะหวงไปไหน!

                วันนี้จื่อเทาโดนหม่ามี๊เรียกตัวกลับบ้านหลังจากมัวแต่ซุกหัวอยู่แต่คอนโดมาหลายอาทิตย์ อันที่จริงบ้านจื่อเทาก็อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยนักหรอก ห่างจากคอนโดเขาไปไม่กี่กิโลเอง เมื่อจื่อเทายกนาฬิกาขึ้นมาดูก็พบว่าเขาเดินเล่นเพลินจนลืมเวลานัดไปเลย โทรศัพท์สั่นพร้อมกับโชว์เบอร์บ้านจื่อเทาก็อดขนลุกไม่ได้

                [ จื่อเทา!!! นี่มันเลยเวลานัดมากี่สิบนาทีแล้วหาลูกบ้า! เดี๋ยวนี้หัดเถลไถลใช่มั้ย! ]

                “ หม่ามี๊...เค้าขอโทษ เค้าลืมอ่ะ

                [ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน! เดี๋ยวหม่ามี๊จะตัดค่าขนมเลยนะ แบรนด์เนมไม่ต้องใช้! ]

                “ ไม่เอานะ เดี๋ยวเค้าจะรีบไปเลย อย่าตัดค่าขนมเค้านะ! ”

                [ ให้มันได้ยังงี้สิลูกบ้า ]

                “ … ”

                [ จุนมยอนนาเขากลับมาทั้งที... ]

     

                เคยรู้สึกเหมือนว่าหยุดหายใจไปชั่วขณะมั้ย?

              จื่อเทาเกือบจะลืมไปแล้วว่าคนๆ นึงมีอิทธิพลต่อหัวใจมากขนาดไหน

     
     

              กลับมาจนได้นะ...

              ไม่ใช่ความผิดของจื่อเทาสักหน่อย...ที่ปากแข็งน่ะ

     

     

     

              ถึงจะชอบเล่นกีฬาเป็นประจำแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่วิ่งเอาเป็นเอาตายขนาดนี้มาก่อน จื่อเทาวิ่งจากย่านทงแดมุนมาจนถึงหน้าบ้านตัวเอง หอบจนตัวโยนแล้วหัวใจก็เต้นโครมคราม เมคอัพแทบจะหลุดออกมาพร้อมกับเหงื่ออยู่รอมร่อ บ้านของเขาเปิดประตูรั้วทิ้งเอาไว้ เสียงพูดคุยปนไปกับเสียงหัวเราะสนุกสนาน จื่อเทายืนหยุดอยู่กับที่แล้วเอาแต่จ้องมอง

                กลับมาคราวนี้จะอยู่ถาวรเลยมั้ยจ้ะจุนมยอนนา?

                “ คงจะอย่างนั้นครับ ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นจนเบื่อแล้วล่ะ

                “ ดีจังเลยจ้ะ! ว่างๆ ต้องแวะมาทานข้าวกับเราให้ได้นะ

                “ ได้สิครับ

                จื่อเทาเห็นหม่ามี๊ยืนยิ้มให้ผู้ชายตัวเล็กคนนึง เสื้อผ้าสีอ่อนแบบนั้นมีไม่กี่คนรอบตัวจื่อเทาเท่านั้นแหละที่จะใส่ แผ่นหลังเล็กมองไกลๆ ว่าคุ้นแล้วเสี้ยวด้านข้างของใบหน้าขาวๆ นั่นยิ่งคุ้นกว่า

     
     

                กลับมาแล้ว

     
     

                จื่อเทาลูกบ้า ไปยืนทำอะไรตรงนั้นน่ะ! ”

                เสียงตะโกนเรียกของหม่ามี๊ทำให้ใครอีกคนหันมามองตาม จื่อเทาเผลอกลั้นหายใจ หัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆ จนเหมือนจะหยุดเต้นไป จุนมยอนนายิ้มสดใสเหมือนดอกไม้...ดวงตายิบหยีลงเป็นเส้นโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว แล้วจื่อเทาก็พบว่าหัวใจเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ

                จื่อเทา! ”

                จุนมยอนนากวักมือเรียกเขาเข้าไปใกล้ๆ ท่าทางตื่นเต้นดีใจที่เจอกัน

                โตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย! ”

               

                ก็หวังว่าจะโตพอน่ะนะ...

     
     

                จำได้มั้ย? นี่จุนมยอนนาของนายไง

                “ จุนมยอนนา...

     
     

                ...ใครกันจะลืมรักแรกของตัวเองได้

     
     














                “ แบคฮยอนมาแปรงฟัน

                มีแต่ความเงียบ...ชานยอลถอดเสื้อนอนออกโยนใส่ในตะกร้าส่งๆ ยืนบีบยาสีฟันลงบนแปรงฟันสองอันแล้วถือค้างเอาไว้เพราะเจ้าคนขี้เซาที่หอบข้าวของมาค้างกับเขายังนั่งสัปหงกอยู่บนเตียงอยู่เลย ชานยอลชะโงกหน้าออกไปมองแล้วก็ยิ้มขำ วันนี้ตาของแบคฮยอนดูเหมือนขีดเดียวเลย คงเพราะเมื่อคืนเอาแต่ดูซีรี่ย์ร้องไห้ไปหลายฉากเลยตาบวมขนาดนี้

                ลุกเร็วเข้า! ”

                นึกภาพลูกหมาตัวเล็กขนปุกปุยวิ่งดุ๊กดิ๊กๆ มาหาเวลาคุณเรียกมั้ยครับ? นั่นแหละ...แบคฮยอนในตอนนี้เป็นแบบนั้นเลย เพียงแต่ดูเชื่องช้าแล้วก็ขี้เกียจมากไปหน่อย

                ชานยอลดึงแขนคนที่ยังเดินงัวเงียขยี้ตาเข้ามาในห้องน้ำ จับมายืนตรงหน้าอ่างล้างหน้า ตัวเล็กๆ ของแบคฮยอนของชานยอลมีชุดนอนของชานยอลสวมอยู่ ไซส์มันใหญ่กว่าตัวแบคฮยอนสองเท่าแขนเสื้อก็เลยยาวปิดมือ ขากางเกงก็ลากพื้น(ขนาดพับขากางเกงให้แล้วนะนั่น) แต่ชานยอลก็ไม่ซีเรียสกับมันหรอก น่ารักจะตายเวลาแบคฮยอนของเขาเดินเตาะแตะๆ เหมือนเพนกวิน

                มัดผมด้วยสิเดี๋ยวเปียกน้ำ

                “ อือ...

                ขานรับไปงั้นแต่ดันไม่ยอมขยับตัว แบคฮยอนไม่ยอมลืมตาขึ้นเลยด้วยซ้ำ...ดูเหมือนว่าจะลืมตาไม่ขึ้นมากกว่า ชานยอลกลั้นขำแล้วจึงจับผมหน้าแบคฮยอนมามัดเป็นจุกน้ำพุ อืมมม ก็ยังน่ารักอยู่ดีนั่นแหละ ทำทรงนี้เหมือนล่อให้ชานยอลจุ๊บเหม่งเลยเถอะ

                ฮือออ ปวดตาจังเลยชานยอลอ่าาา

                “ อย่างอแงเลย แบคฮยอนร้องไห้ขนาดนั้นตาบวมก็ไม่แปลกหรอก

                “ แต่พระเอกกำลังจะตายนะ! ”

                ยิ่งเถียงยิ่งน่าหมั่นเขี้ยวแบคฮยอนไม่รู้รึไง? แก้มแบคฮยอนเป็นรอยแดงจางๆ เพราะเจ้าตัวนอนเอาแก้มแนบอกชานยอลท่าเดิมทั้งคืน นอนซุกอย่างกับลูกหมาแน่ะ

                รีบแปรงฟันแล้วจะได้ลงไปกินข้าวเช้า

                “ รู้แล้วล่ะน่า! ”

                แต่สุดท้าย...ชานยอลก็ได้จับแบคฮยอนของเขาแปรงฟันด้วยตัวเอง แปรงฟันสีฟ้าอ่อนขยับแปรงฟันซี่เล็กขึ้นลงอย่างอ่อนโยน แบคฮยอนยอมยีฟันอ้าปากให้เขาแปรงฟันให้แต่โดยดี สบายเกินไปมั้ยเนี่ย? ถึงจะแอบบ่นๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมชานยอลต้องยอมทำทุกอย่างให้เจ้าคนน่ารักนี่ด้วย

     

                การทำเพื่อใครสักคนไม่ยักจะมีเหตุผล

              ถ้าจะมี...คงจะเป็นเพราะ รัก คำเดียว

     
     

                แปรงฟันแต่งตัวเสร็จแล้วก็พากันเดินลงไปข้างล่าง คุณนายปาร์คดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษที่มีแบคฮยอนมาค้างที่บ้านด้วย เห็นหน้าแบคฮยอนของชานยอลทีไรก็พุ่งมาหอมมาฟัดจนแบคฮยอนช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วมั้งเนี่ย! คนเป็นลูกแอบเขม่นคนเป็นแม่ก็ยิ้มล้อเลียน

                หัวกลมๆ เอนซบไหล่ชานยอลแม้ว่าพวกเขาจะนั่งกินข้าวเช้ากันอยู่ คุณนายปาร์คทำอาหารดีๆ ทิ้งไว้ให้ก่อนจะรีบออกไปทำงาน ชานยอลจิ้มอะไรส่งให้กินแบคฮยอนก็อ้าปากรับไปเคี้ยวหยับๆ ดูขี้เกียจสิ้นดี แต่เขาก็ยิ้มนะ เพราะแบคฮยอนทำให้โลกของเขาสดใสเสมอ

                ขี้เกียจ

                แบคฮยอนพูดออกมาสั้นๆ แล้วมือของชานยอลมันก็ไปเองโดยอัติโนมัติ เขาดึงทิชชู่ไปเช็ดปากเลอะๆ ของเจ้าคนน่ารัก ส่งน้ำให้เจ้าคนน่ารักดื่มแล้วค่อยจูบซับความชื้นบนริมฝีปากสีสด แบคฮยอนบอกว่าอิ่มแล้วก็ลุกโซเซไปนอนแหมะบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เหลือแต่ชานยอลต้องนั่งจัดการอาหารส่วนตัวเอง

                อยู่ๆ เสียงโปรแกรมแชทอะไรสักอย่างก็ดังขึ้น แบคฮยอนไม่แม้แต่จะสนใจมาดู(จริงๆคือหลับไปแล้วแน่ๆ) ชานยอลเลยถือโอกาสนี้เช็คโทรศัพท์แฟนตัวเองไปในตัวซะเลย เผื่อแบคฮยอนของเขามีกิ๊กจะได้ตามไปอัดเรียงตัวถูกไง

               

              อย่างแบคฮยอนไม่มีกิ๊กหรอก

              มั่นใจซะอย่าง ชานยอลน่ะมีดีพออยู่แล้ว

     
     

                ไอ้คนที่แชทมาคือจื่อเทานั่นเอง รูปจื่อเทาเด้งขึ้นมาไม่ถึงสิบวินาทีก็ดับไป ชานยอลกดดูข้อความที่หมอนั่นส่งมาให้แบคฮยอนของเขาแล้วก็รู้สึกเหมือน...เงิบ ไม่ใช่เงิบธรรมดานะ แต่เป็นเงิบมากๆ

     
     

    ทาโอ :

                คนเราจะตกหลุมรักคนๆ เดียวได้กี่ครั้งวะ?

     
     

                หวงจื่อเทาไอ้คนที่โสดมาหลายปีกำลังมีความรัก!?! เพื่อนคนจีนหน้าตาหม่นหมองของแบคฮยอนกำลังมีความรักยังงั้นเหรอ? แล้วไอ้ที่แขวะพวกเขาแทบทุกวันนี่คืออะไร?

     
     

    เบ เบ เบค่อน :

                ถ้ารักเขาคงไม่ใช่แค่ครั้งเดียว

     
     

                ดูอย่างแบคฮยอนของชานยอลสิ รายนั้นทำให้เขาตกหลุมรักได้ทุกวันทุกนาทีทุกวินาที ไม่มีการตกหลุมรักครั้งไหนที่โงหัวขึ้นเลยจริงๆ มีแฟนน่ารักน่าชังไปทั้งเนื้อทั้งตัวก็แบบนี้แหละนะ

                แล้วจื่อเทาก็ไม่ได้ส่งอะไรมาอีกนอกจากเปิดอ่านแล้วออฟไลน์ไป...

                
     












     

              ตรงหน้าของจื่อเทามีคนนึงกำลังยิ้มจนตาหยี...ซึ่งมันน่ารักมาก

     
     

                กว่าจะกลับมาได้นะจ้ะจุนมยอนนา นึกว่าจะอยู่ที่โน่นถาวรแล้วซะอีก

                “ ช่วงฝึกงานน่ะครับเลยยุ่งนิดหน่อย

                “ กลับมาครั้งนี้มาพักร้อนเฉยๆ ใช่มั้ยจ้ะ?

                “ ถึงจะแค่พักร้อนแต่ก็มีเวลาตั้งหลายเดือนแน่ะครับ

                จุนมยอนนายังเป็นคนที่พูดจาน่าฟังเสมอ เสียงโทนนุ่มนวล สุภาพ และฟังดูอ่อนหวานนิดหน่อยเหมือนจะดึงสติจื่อเทาที่นั่งฝั่งตรงข้ามไปซะหมด จุนมยอนนายังคงสว่างเหมือนเคย ไม่ใช่ผิวของเขาแต่จื่อเทาหมายถึงตัวตนของเขาในความทรงจำของจื่อเทาเอง

    เมื่อก่อนตอนจุนมยอนนาอยู่จื่อเทาแทบไม่ไปไหนเลยนะจ้ะ พอจุนมยอนนาไปจื่อเทาก็ย้ายออกไปอยู่คอนโดคนเดียว เจ้าเด็กนี่มันกล้าจริงๆ

    พี่ชายข้างบ้านเพียงแค่ยิ้มรับ เขาดูไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จื่อเทาย้ายออกไปอยู่ข้างนอก

    จื่อเทาโตแล้วนี่ครับ จะไปอยู่ข้างนอกคนเดียวก็ไม่แปลก ใช่มั้ยจื่อเทา?

    คนโดนถามเกิดอาการประหม่าทำอะไรไม่ถูก พยายามหลยสายตาแต่ไม่เป็นผลเพราะจุนมยอนนาเอาแต่มองแล้วก็ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม! สายตาของจุนมยอนนาทำให้จื่อเทารู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่เด็กน้อย

    ใช่ ก็โตแล้ว จะมีแฟนเดี๋ยวนี้ยังได้เลย

    เขาโดนหม่ามี๊บิดแขนไปหนึ่งทีเนื่องจากพูดจาเลอะเทอะ(แต่เขาโตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ นี่!) จุนมยอนนาร้องโอ้โหได้น่าหมั่นไส้สุดๆ ก่อนที่พี่ชายข้างบ้านจะนั่งเท้าคางมองจื่อเทาด้วยสายตาเอ็นดูปนขบขัน

    โอเค โตแล้วก็โตแล้ว คนที่ชอบน่ารักมากมั้ยล่ะ?

    ก็ไม่เท่าไหร่ ชอบแกล้งโง่

    ไว้วันหลังพามาแนะนำบ้างสิ

    จะเจอไปทำไม เคยเจอไปแล้วนี่

    คราวนี้จุนมยอนนาทำหน้าตื่นตาตื่นใจที่ดูยังไงก็แกล้งทำ จื่อเทาทำเสียงจิ๊จ๊ะ ตัดบทด้วยการแกะเปลือกกุ้งแล้วตักใส่จานให้พี่ชายข้างบ้านเงียบๆ ไม่ใช่ว่าจำได้หรอกนะ...แต่มันเผอิญแวบขึ้นมาน่ะว่าจุนมยอนนาแกะกุ้งไม่เป็น นี่ไม่ได้ห่วงแต่แค่เทคแคร์แขกของหม่ามี๊

    ขอบคุณนะจื่อเทา

     

    ยิ้มแบบนี้คิดว่าจะใจสั่นรึไง?

     


     

                ใกล้จะเที่ยงแล้วก็ถึงเวลาแยกย้ายกันไปสักที หม่ามี๊มีนัดกับเพื่อนๆ ไปช็อปปิ้ง จุนมยอนนาบอกว่าจะไปพักผ่อนสักหลายๆ งีบแล้วค่อยออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาแถวนี้ จุนมยอนนากำลังล่ำลากับหม่ามี๊อยู่หน้าบ้าน มองไกลๆ ยังเห็นชัดเจนว่าเขายิ้มหวานขนาดไหน จื่อเทาเดินไปมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ตรงประตูบ้าน ก้มมองช่อดอกไม้ในมือที่เพิ่งแวบไปซื้อมาได้ไม่กี่นาที

                จุนมยอนนาชอบดอกลิลลี่สีขาว...ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อแต่มันเป็นมารยาทใช่มั้ยล่ะ จื่อเทาไม่อยากให้ใครครหาว่าทำตัวเย็นชาหรอกนะ เขาแค่รอจังหวะให้หม่ามี๊เดินเข้าบ้านแล้วก็รีบวิ่งฉิวสวนออกไปทันที

                จะไปไหนน่ะ! ”

                เห็นจุนมยอนกำลังจะเปิดประตูรั้วแล้วจื่อเทาก็รีบเข้าประชิดตัวอีกคนทันที จุนมยอนนาเซมาข้างหลังเล็กน้อยตามแรงดึงของจื่อเทา พี่ชายข้างบ้านเบิกตากว้าง จื่อเทารีบโยนช่อดอกลิลลี่ใส่อกจนจุนมยอนนารับแทบไม่ทัน

                ...นี่

                “ ให้

                “ ให้เหรอ?

                “ ก็ให้ไง ไม่เอางั้นเอาคืนมา

                จุนมยอนนาซ่อนชื่อดอกลิลลี่ไว้ด้านหลัง ยิ้มหวานจนใกล้คล้ายน้ำตาลไอซิ่งไปทุกที จื่อเทาเมินหน้าไปทางอื่น ไม่ได้เขิน! ไม่ได้ร้อนตัวด้วย! ไม่เขินสักนิด! เรื่องแค่นี้ใครจะไปเขิน!

                “ ขอบใจนะจื่อเทา

                จุนมยอนนายิ้ม ...เป็นยิ้มที่ออกมาจากใจจริงๆ

                คิดถึงจื่อเทาที่สุดเลยนะ

                คนพูดกอดช่อดอกลิลลี่ไว้ในอ้อมแขนทะนุถนอมสุดใจ จื่อเทาพยายามกลั้นยิ้มแต่เขาก็เผลอหลุดยิ้มออกมาเป็นระยะ สุดท้ายเลยได้แต่กระแอมไอเรียกสติตัวเอง

                “ คิดถึงจริงทำไมต้องไป?

                “ ไปตั้งหลายปีด้วย เกือบมีแฟนอยู่แล้ว

                ทำท่าขึงขังทั้งที่หน้าแดงมันเป็นเรื่องพลาดที่สุด เพราะจุนมยอนนาเอาแต่หัวเราะชอบใจ รอยยิ้มสดใสของจุนมยอนนาทำให้จื่อเทารู้สึกเหมือนมีดอกไม้บานสะพรั่งรอบตัว

                ก็ไม่มีคนรั้งนี่นา

                “ รั้งแล้ว

                “ เมื่อไหร่ล่ะ

                “ ในใจ

                ก็คนมันปากแข็งมาแต่เกิดอยู่แล้ว จะให้มาขอร้องอ้อนวอนมันไม่ใช่ป้ะ? นี่หวงจื่อเทานะไม่ใช่พยอนแบคฮยอนที่ทำตัวง้องแง้งเป็นเด็กอนุบาลได้ทุกวี่วัน เพราะยังงี้จุนมยอนนาถึงไปงั้นสิ? แค่ไม่รั้งต้องทำกันขนาดนี้เลยรึไงกัน

                จุนมยอนนา...

                “ หืม?

                “ โตแล้วนะ

                “ …? ”

                โตพอจะจีบจุนมยอนนาได้รึยัง?

     
     

                พี่ชายข้างบ้านยิ้มเอียงอาย

              แล้วจื่อเทาก็ได้คำตอบจากคำถามของตัวเองว่าคนเราจะตกหลุมรักคนๆ เดิมได้กี่ครั้ง

              









    #ฟิคพาโบ






     

     
    จะตายกับซัมเมอร์ให้ได้ T..T อ่ออกกก
    ใครได้ปิดเทอมโชคดีมากนะ!

    ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหนนนนน แบบไหนนน แบบไหนนน
     
     
     


    (c)  Porcelain theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×