icetoy01
ดู Blog ทั้งหมด

เรื่องเจ้าสาวไร้ราคา

เขียนโดย icetoy01
   เจ้าสาวไร้ราคา ตอนที่ 6 [ผู้แต่ง : วลีวรรณา]
 
มาช้ายังดีกว่าไม่มา แหะแหะ ก่อนอื่นต้องขอโทษนะคะที่ล่าช้าไปมาก เพราะมีงานด่วนแทรกเข้ามาค่ะ เลยทำให้แต่งได้ทีละนิดทีละหน่อย ก่อนอื่นขอตอบกระทู้เก่าก่อนนะคะ


nattitik >> เหอๆ เล่นมัดมือชกยังงี้เลยเหรอคะ ใจอ่ะอยากอัพบ่อยๆ ให้เห็นข้อดีของฐานะคะ แต่เวลามันไม่เอื้ออ่ะจ้ะ แบบว่างานเข้าเหมือนฐาแหละจ้ะ 55555


mini >> ง่า...หวังว่าใจคงไม่ขาดไปแล้วนะคะน้อง mini ตอนใหม่มาแว้ววววว....


sai >> ใช่ๆ พี่ก็ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกันแน่ๆ เลยเนอะ (มีใครจะบอกพี่ไหมว่า มาอัพช้าๆ หน่อยนะคะอิอิ)


สิเกด >> ถูกต้องไหมเอ่ย มีเฉลยในตอนไหนก็ไม่รู้ 5555555 เดากันต่อไปค่ะ


มีนา >> บอกให้พี่มาอัพช้าๆ บ้างสิคะ อิอิอิอิ


theme >> น่านสิคะ พี่เองก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ สงสัยพี่ตี้เล่นของแน่ๆ เลย หรือว่าคนเขียนเล่นของหว่า? 5555


sasi >> ขอบคุณค่ะที่ชอบ เป็นกำลังใจให้พี่โขเลยค่ะ จะพยายามรีบแต่งมาให้สนุกต่อนะคะ


papa >> ผู้หญิงในรูปก็คือแฟนเก่านายเมธพระเอกของเราค่ะ (ตอบแบบกำปั้นทุบดินไปไหมคะเนี่ยเอิ๊กกกกกกกกกก)


ลิงน้อย >> สอยๆ ลิงน้อยลงจากคานมาอ่านเร้ววววววว


jomm >> ง่ะ...ผงะอย่างแรง ปฏิเสธโบกมือเป็นพัลวัน ป้ายังม๊ะแก่น๊า....



กุ๊กไก่ >> ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ <<อันนี้ฐานนันท์ฝากบอกมาค่ะ


พิมภัทรา>> ค่ะทีแรกพี่ก็คิดยังงั้นแหละค่ะ แต่พอมีงานด่วนเข้ามามันก็เลยผิดพลาดดังที่เห็นค่ะ ลองอ่านไดอารี่ชวนฝันแก้เซ็งไปก่อนได้นะคะ สนุกและมันส์ไม่แพ้กันค่ะ พระเอกก็บ้าอำนาจส่วนนางเอกก็ไม่เคยยอมลงให้ใคร สนุกค่ะ รับรอง


------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 6 เจ้าสาวที่(ผม)ไม่ได้เลือก


ฐานนันท์เดินเข้าไปในห้องเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบซองจดหมายประทับตรา Air mail ที่ยับยู่ยี่ขึ้นมา แล้วหยิบรูปในนั้นขึ้นมาเทียบกับรูปที่วรญาให้มา ทั้งรูปร่าง หน้าตาผิวพรรณ ไม่ผิดตัวแน่ เพื่อความแน่ใจ หล่อนจึงรีบโทรหาวรญาทันที

“ฮัลโหลพี่ตี้คะ”

“จ้ะ แหมโทรมาไวทันใจดีจัง ตกลงว่าไงล่ะเรา”

“ยังค่ะพี่ตี้ พอดีฐามีเรื่องจะรบกวนถามพี่ตี้หน่อยหนึ่งค่ะ”

“ว้า...นึกว่าจะได้รับข่าวดีเสียอีก ว่าไงล่ะ ถามมาสิ”

“คือคุณแนนซี่นี่ มีชื่อจริงไหมคะ”

“มีสิ ยายนี่เค้าชื่อจริงชื่อณัฏฐริณีย์ ปราการชัยพฤกษ์จ้ะ”

“ปราการชัยพฤกษ์...” ฐานนันท์เอ่ยนามสกุลด้วยน้ำเสียงเบาดุจดั่งคนละเมอ

“ฮัลโหลยายฐา ยายฐา ฮัลโหลๆ ได้ยินเสียงพี่ไหมฐา” เสียงวรญาเรียกดังมาตามสายเมื่อเสียงของหญิงสาวขาดหายไปนานผิดสังเกต

“เอ่อ...ค่ะ ได้ยินค่ะพี่ตี้”

“เห็นเงียบไปตั้งนาน เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ พี่นึกว่าสายหลุดไปเสียอีก ว่าแต่เราถามทำไมเหรอ”

“เปล่าค่ะพี่ตี้ พอดีแค่อยากหาข้อมูลคู่ต่อสู้เอาไว้บ้างก็เท่านั้น เผื่อว่า รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งจะได้ชนะทั้งร้อยครั้งยังไงล่ะคะ”

“เออดีๆ ใช้ได้นี่เรา พูดแบบนี้แสดงว่าโอเคแล้วใช่ไหมฐา”

“ค่ะ”

“โหย...ขอบใจมากๆ ยายฐา ขอบใจจริงๆ นี่ถ้าตาเมธรู้เข้าคงดีใจแน่ๆ เลยเชียว”

“ค่ะ ฐาเองก็ต้องขอบคุณพี่ตี้เหมือนกันค่ะ”

“ไม่ต้องมาขอบคุงขอบคุณอะไรพี่หรอกนะ นึกเสียว่าต่างคนต่างช่วยกันไปละกัน”

“ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะพี่ตี้ สวัสดีค่ะ”

“จ้าสวัสดีจ้ะ”

หลังวางสายฐานนันท์หยิบรูปในมือขึ้นมาดูอีกครั้ง ดวงตาเปล่งประกายแข็งกร้าว วรญาคงไม่มีวันรู้หรอกว่าที่หล่อนกล่าวขอบคุณเธอไปนั้น หาใช่เพราะเธอช่วยเหลือมารดาของหล่อนไม่ หากแต่ฐานนันท์ขอบคุณที่วรญามอบโอกาสแห่งการแก้แค้นและการทวงทุกสิ่งทุกอย่างที่มารดาและเธอต้องสูญเสียไปกลับคืนมาต่างหากล่ะ

…… ‘แล้วเราจะได้เจอกัน’ ……



เสียงมือถือฐานนันท์ดังขึ้นในค่ำคืนหนึ่ง เป็นชนิสราที่โทรมาหา พอได้ยินเสียงฐานนันท์เจ้าหล่อนไม่พูดพล่ามทำเพลงโวยวายมาตามสายจนฐานนันท์ต้องยื่นโทรศัพท์ออกไปให้ห่างหูเป็นวา

“ยายฐา...”

เสียงแหลมมาแบบนี้ดูท่าว่าคงมีเรื่องอะไรไม่พอใจมาแหง๋ๆ

“จ้า...จ้า...เสียงดังลั่นมาแต่ไกลเลยนะนิ เล่นเอาแก้วหูฐาแทบแตกแน่ะ”

“ไม่ต้องมาทำไก๋เลย สารภาพมาซะดีๆ นะว่า ฐาไปทำอะไรมา”

“ฐาก็ไปทำงานมาไง”

“ไม่ตลก ฝืดสนิทเลยฐา จะบอกนิมาดีๆ หรือจะบอกทั้งน้ำตาหือ”

“ทำไมน้อวันนี้เพื่อนฐามามาดโหดจังเลย แล้ววันนี้ไม่มีสวดศพคุณย่าหรือจ๊ะนิ”

“มีจ้ะ ตอนนี้พักทานอาหารกันอยู่ เอ้ยไม่ใช่...อย่าเฉไฉนอกเรื่องสิฐา”

...รู้ทันอีกแฮะ...

“เมื่อกี้นิโทรไปหาพี่ตี้มา แล้วพี่ตี้บอกว่าฐาอาสารับแสดงเป็นภรรยาให้คุณเมธแทนนิ จริงหรือเปล่าฐา”

‘ป่าวรับอาสา โดนจ้างต่างหาก’ ฐานนันท์ตอบเพื่อนสาวในใจในขณะที่ปากกลับตอบไปคนละเรื่อง

“จริงจ้ะ แล้วไม่ดีเหรอนิ”

“ดี? ดีตรงไหน”

“ก็ดีตรงที่เป็นฐาไง”

“หา? นิไม่เข้าใจอ่ะ อธิบายมาซิ”

“ก็ถ้าหากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ฐา คุณเมธของนิก็คงถูกคนอื่นงาบไปกินแล้วน่ะสิ”

“ยังไงนิก็ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย นิเห็นฐาไม่ชอบคุณเมธจะตายไป แล้วทำไมจู่ๆ ฐากลับยอมไปช่วยเขา ฐามีเหตุผลอะไรกันแน่ บอกนิมาตามตรงนะ นิไม่เชื่อหรอกว่าฐาจะยอมทำเรื่องแบบนี้เพราะนิ”

...ช่างรู้ดีเสียเหลือเกินนะนิ...แต่ฐานนันท์ก็ยอมรับว่า มันคือเรื่องจริง แต่จะให้หล่อนบอกความจริงไป คงไม่

“แล้วทำไมฐาจะทำเรื่องแบบนี้เพื่อนิไม่ได้ล่ะ มากกว่านี้ฐายังทำให้นิได้เลย”

“เชื่อตายล่ะ ยังไงนิก็ไม่เชื่อฐาหรอก ไว้ให้นิเสร็จเรื่องคุณย่าก่อนเถอะ แล้วนิจะลงไปจัดการฐาเอง กล้ามาปิดบังนินะ”

“งั้นไว้รอนิลงมาก่อนแล้วกัน ฐาค่อยบอกนินะ งั้นแค่นี้ก่อนนะนิ บ๊ายบายจ้ะ”

“เดี๋ยว...” นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ฐานนันท์ได้ยินก่อนปิดมือถือหนี

“ขอโทษนะนิที่ฐาไม่ได้บอกนิ แต่ฐามีเหตุผลของฐา เป็นเหตุผลที่ฐาบอกใครไม่ได้จริงๆ “ หญิงสาวพึมพำออกมาเพียงลำพัง



“นี่นายจะตามกันมาทำไมเนี่ย งานการไม่รู้จักไปทำ” วรเมธบ่นเมื่อภรันเพื่อนเกลอขอตามติดเขามาที่สตูดิโอของวรญา

“ตามมาเป็นเพื่อนและมาให้กำลังใจแกไง” นั่นคือเหตุผลของเขา แต่ความจริง...

“กันว่านายอยากมาดูสาวๆ ที่สตูฯ ของพี่ตี้ซะมากกว่าล่ะไม่ว่า”

พอได้ยินคำพูดโดนใจเข้า ภรันหัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังลั่นด้วยความชอบใจที่เพื่อนรู้ใจ เลยเดินเคียงพร้อมโอบคอเพื่อนไปด้วย

“ขอบใจว่ะเกลอที่รู้ใจ นี่ถ้าเป็นหญิงนะ ข้าเอาเอ็งเป็นเมียข้าแน่ๆ เลยว่ะ“

“ขอบใจ แต่ถ้ากันเป็นหญิงจริง กันขออยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตดีกว่า” ว่าพลางยกมือเพื่อนออกจากการโอบกอดตนออก

“ระวังเหี่ยวเฉาตายนะแก ฮ่าฮ่า”

“เอ่อ...สวัสดีครับคุณโรส” วรเมธชะงักทักทายหญิงสาวที่กำลังเปิดประตูออกมาจากสตูฯ พอดี

“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณเมธ มาหาพี่ตี้เหรอคะ” หญิงสาวยิ้มรับด้วยรอยยิ้มที่สวยเก๋อ่อนหวาน ทำเอาคนที่เดินตามวรเมธมาข้างๆ ตาเชื่อมชะงักค้างตะลึงงันในความงามนั้น

“ครับ มาหาพี่ตี้ครับ สวัสดีครับ ผมภรันครับ เพื่อนไอ้เมธเอ้ยนายเมธครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณโรส” คนที่ตอบแทนกลับเป็นภรันที่ฉากตัวแทรกไปยืนบังหน้าวรเมธ พลางแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ แถมยังยื่นมือหมายให้หญิงสาวจับอีกต่างหาก แต่ทว่า...

“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” รสิตากลับพนมมือไหว้แทน ทำเอาภรันหน้าแตกหดมือกลับแทบไม่ทัน

“งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ ไป...เข้าไปหาพี่ตี้กันเถอะ” วรเมธพูดกลั้วหัวเราะขำที่เพื่อนหน้าแตกไม่เป็นท่าแบบนั้น

“ลาก่อนนะครับคุณโรส หวังว่าเราคงมีวาสนาต่อกันอีกนะครับ บ๊ายบาย โชคดีครับ” ภรันยังไม่ละความพยายาม(เจ้าชู้) จนวรเมธต้องลากดึงตัวเข้าไปด้านใน ในขณะที่รสิตาหัวเราะขันในความกะล่อนของเขา



“จริงๆ เล้ย นายนี่ไม่เข็ด”

“บ่นเป็นพ่อแก่ไปได้นะแก เคยได้ยินไหมวะ ผู้หญิงด่าเขาว่าผู้หญิงรัก ผู้หญิงเมินเฉยเขาว่าให้ท่าโว้ย”

“สำนวนบ้าอะไร กันไม่เคยได้ยิน”

“อ่ะมากันและ ทำไมช้าจังตาเมธ” เสียงวรญาตะโกนแทรกมาแต่ไกลเมื่อหันมาเห็นสองหนุ่มที่เดินทุ่มเถียงกันเข้ามาในห้อง

“สวัสดีคร้าบบบบบ...พี่ตี้สุดสวยแสนดี๊แสนดี” ภรันแถหน้ายื่นพนมมือไหว้พี่สาวเพื่อนด้วยความเคยคุ้น

“ย่ะ ไม่ต้องมาทำปากหวานกะชั้น ชั้นไม่หลงน้ำตาลเน่าๆ บูดๆ ของเราหรอกนะนายรัน”

“แหะ แหะ” คำพูดเหน็บแนมตามตำรับของคุณวรญาดูท่าว่าจะใช้ได้ผลกับภรัน ทำเอาชายหนุ่มยิ้มแหยแต่ก็แค่พักเดียว ไม่นานเขาก็ทะเล้นต่อด้วยรู้ดีว่า วรญาพูดไปอย่างนั้น ไม่ได้จริงจังอะไร และเขาเองก็สนิทสนมกับสองพี่น้องนี้มานานแล้วเช่นกัน ไม่เหมือนพี่เหมือนน้องก็เหมือนล่ะ

“ไปแต่งตัวไปตาเมธ นิดๆ มาพาคุณเมธไปห้องแต่งตัวไป เร็วด้วยนะ” วรญาสั่งเด็กให้จัดการแต่งตัวให้วรเมธ เพราะวันนี้เป็นวันที่หล่อนต้องจัดการให้ทั้งคู่มาถ่ายรูปสร้างหลักฐานปลอมเรื่องการแต่งงานและความรัก เพื่อแสดงให้คนรักเก่าของวรเมธเห็น แล้วจะได้ไปจากชีวิตของน้องชายหล่อนไปตลอดกาล

“แหะแหะ พี่ตี้คร้าบบบบบ...” ภรันยื่นหน้าแหลมเข้ามาจนหน้าแทบจะชนหน้าของวรญา

“ยื่นหน้าแหลมๆ ของเราออกไปเลยนะนายรัน อย่ายื่นเข้ามาใกล้ชั้น เดี๋ยวน้ำลายกระเด็นมาโดนหน้าชั้นจะว่าไงหือ” ว่าพลางจิ้มหน้าเขาให้ออกห่างไปจากหน้าเธอ แต่ภรันกลับไม่นึกโกรธอะไรหญิงสาวเพราะเข้าใจดีว่าเจ้าหล่อนพูดไปยังงั้น

“แหมพี่ตี้ก็ ว่าแต่พี่ตี้ฮะ คนไหนเหรอที่เป็นเจ้าสาวของไอ้เมธมัน” ถามพลางเหลียวซ้ายแลขวาชะเง้อมองหา

“มองหาให้ตายก็ไม่เจอย่ะ ตอนนี้เค้าไปแต่งตัวอยู่ ยังไม่เสร็จ งั้นเดี๋ยวพี่ขอไปดูก่อนนะว่าเป็นยังไงบ้าง” วรญาตั้งท่าออกเดินแต่แล้วก็หันหลังขวับกลับมาทำให้ภรันเบรกไม่ทันจนเกือบจะชนหล่อนเข้าให้

“เย่ย...หยุดทำไมครับพี่ตี้”

วรญายิ้มหวานนัยน์ตาพราวระยับแฝงเลศนัย

“ที่พี่หยุดก็เพราะจะบอกเราว่า ไม่ต้องตามพี่มา!!! และที่สำคัญช่วยกรุณาดูแลสถานเสาวภาบนหัวเราด้วย อย่าได้เที่ยวปล่อยให้มันออกมาเพ่นพ่านในสตูฯ พี่ล่ะ เข้าใจมั้ย” พูดจบวรญาหัวเราะชอบใจเดินจากไป ปล่อยให้คนถูกเหน็บร้องลั่นตามหลัง

“โหย...พี่ตี้คร้าบบบบบ...ว่าน้องชายที่น่ารักคนนี้แบบนั้นได้ไงอ่ะ ใจร้ายยยยยยยย...คนสวยใจดำ”



ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือ ภาพของเจ้าสาวในชุดเดรสแขนกุดสีครีมซึ่งทำจากผ้าเดรปตกแต่งลวดลายด้วยผ้าตาข่ายสีทองประดับลูกไม้ลายดอกบริเวณช่วงอกถึงเอว ปล่อยชายกระโปรงไล่ระดับชายผ้ายาวลดหลั่นลงมากรอมเท้าด้านหน้า และยกจีบชายกระโปรงด้านหลังห้อยระย้าประดุจพู่พวงใหญ่ ใบหน้าถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างวิจิตรบรรจงอย่างเป็นธรรมชาติกลมกลืนสวยงาม ทรงผมเกล้าสูงปล่อยชายผมที่ถูกม้วนดัดปลายพอสวยงามยาวลงมาระลาดไหล่งาม ต่างหูพลอยเนื้ออ่อนถูกนำมาประดับขับดวงหน้าให้ลอยแลเด่นงดงามสะดุดตาและอ่อนหวานไปพร้อมกัน ทำให้เจ้าสาวแลดูสวยงามแบบลึกล้ำ ชวนมอง เพลินตาไม่รู้เบื่อ ยิ่งพิศยิ่งงามมีเสน่ห์มากขึ้นตามลำดับ สมกับเป็นฝีมือของมืออาชีพตัวจริงที่สามารถมองทะลุกรอบแห่งความเรียบง่ายเข้าไปถึงเนื้อแก่นในของความงดงามดังกล่าวได้

วรเมธกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ยอมรับนับถือฝีมือและสายตาของพี่สาวตนว่า แน่จริงสมคำร่ำลือ ก็ดูเอาเถิด ขนาดกับผู้หญิงธรรมดาที่ดูจืดชืดเรียบเฉยไม่มีอะไรน่าชื่นชมเลยอย่างฐานนันท์ พี่สาวเขายังสามารถจับมากะเทาะเปลือกนอกที่สุดแสนธรรมดานั้นออกไปจนหมดสิ้น ทำให้เหลือแต่เนื้อในที่เป็นทองคำอันวิจิตรหลงเหลืออยู่แทน บัดนี้เขาเชื่อแล้วว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งจริงสมดังคำกล่าวนั้น

วรเมธมองเจ้าสาวของเขาตรงหน้าราวกับต้องมนต์สะกด เขายอมรับว่า ฐานนันท์งดงามจริงๆ โดยเฉพาะประกายตาคมกล้าที่ไม่เคยยอมแพ้และเกรงกลัวใครนับแต่แรกเจอที่ทำให้เขาสะดุดตา และบัดนี้แววตาแบบนั้นก็ยังคงอยู่เช่นเดิมหาได้เปลี่ยนแปลงไปไม่ ซึ่งเป็นเพียงข้อกังขาเดียวที่อยู่ในใจเขาว่า สายตาแบบนี้น่ะหรือ ที่ยินยอมช่วยเหลือเขาโดยไม่มีข้อแม้ใดใด สายตาแบบนี้น่ะหรือที่ยินยอมช่วยเขาจริงๆ เขาไม่ใช่เด็กอมมือที่จะอ่านแววตานั้นไม่ออกว่ามันบ่งบอกอาการและความรู้สึกเช่นไร สมเพช ชิงชัง เยาะหยัน เหยียดเย้ย หรือดูถูกเขา แล้วทำไม? นั่นเป็นคำถามที่เขาอยากรู้คำตอบมากที่สุด

“ว้าว! ว้าว! สุดยอด!” เสียงร้องด้วยความชื่นชมของภรันดังลั่นเมื่อเห็นหน้าเจ้าสาวของเพื่อนรักชัดๆ

“สวัสดีครับ ผมภรันครับ เพื่อนนายเมธครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณ…” ถลันตัวเสนอหน้าแนะนำตัวเองอีกตามเคย

ฐานนันท์มองหน้าชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนเหยียดเยาะมุมปาก

‘หึ...น่าเบื่อจริงๆ พวกเจ้าชู้ไก่แจ้’

“สวัสดีค่ะ ดิฉันฐานนันท์ค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงอาการใดออกมา

“แหะแหะครับคุณฐานนันท์ วันนี้คุณสวยมากเลยนะครับ เสียดายจริงๆ ไม่น่าไปเป็นเจ้าสาวให้ไอ้เมธมันเลย” ภรันกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเสียดายในความสวยของหญิงสาวตามประสาหนุ่มเจ้าสำราญ แต่แล้วจู่ๆ กลับมีมือยื่นเข้ามาตบหัวเขาจนหน้าแทบคะมำ

ผลัวะ!

“นี่แน่ะ พูดมากไปแล้วนายรัน” เป็นวรญาที่เดินตามมาทันได้ยินคำพูดนั้น แล้วอดหมั่นไส้เพื่อนน้องชายไม่ได้นั่นเอง

“โธ่! พี่ตี้ครับ เจ็บนะครับพี่” ภรันโอดครวญพลางลูบหัวตัวเองปร้อยๆ

“ดี! ทีหลังจะได้ไม่ปากเสีย ไปตาเมธยายฐาไปถ่ายรูปได้แล้ว ทีมงานเค้ารอนานแล้ว ไป” วรญาว่าพลางผลักดันคู่บ่าวสาวกำมะลอให้เดินเข้าไปยังฉากที่ถูกเตรียมเอาไว้พร้อมสำหรับการถ่ายภาพเซ็ทอัลบั้มแต่งงานของคนทั้งสอง

กว่าทั้งคู่จะถ่ายรูปเสร็จก็เล่นเอามืดค่ำ หลังจากแยกย้ายไปเปลี่ยนชุด ทั้งสองก็ออกมาจ๊ะเอ๋กันที่ประตูทางออกสตูฯ พอดี

“เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ” วรเมธแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ

“หรือจะให้ผมไปส่งก็ได้นะครับ” ภรันรีบเสนอตัวอีกคน แต่ฐานนันท์กลับส่ายหน้าปฏิเสธ

“อย่าดีกว่าค่ะ ไม่อยากรบกวนใคร”

“รบกวนอะไรกันครับ ผมต่างหากล่ะที่ต้องรบกวนคุณที่อุตส่าห์ช่วยเหลือ”

“ดิฉันก็ทำไปตามหน้าที่ที่ควรทำเท่านั้นแหละค่ะ”

“หน้าที่? หน้าที่อะไรครับ”

“ก็หน้าที่ของ...” ก่อนที่ฐานนันท์จะเอ่ยต่อวรญาก็เข้ามาขัดจังหวะพอดิบพอดี (โถ...ขืนชักช้าไปกว่านี้ก็เสียเรื่องสิ)

“หน้าที่ของเพื่อนที่ดียังไงล่ะตาเมธ ถามได้ สงสัยอะไรไม่เข้าท่าเลยนะเรา เราอีกยายฐา พูดจาอะไรก็ระวังไว้บ้าง” ตอนท้ายวรญาเบาเสียงกระซิบข้างหูหญิงสาว

“เมธกับรันกลับกันไปก่อนนะ ส่วนพี่จะขับไปส่งฐาเค้าเอง ไปกันเถอะจ้ะฐา” ไม่รอคำตอบวรญาดึงตัวหญิงสาวให้ตามออกไป

“ว้า! เจ๊เราคาบไปต่อหน้าต่อตาเฉยเลย ไรวะ แกอีกคน ชักช้าอืดอาด อดไปส่งคุณฐาเขาเลย เซ็งเป็ดจริงๆ พับผ่าเด่ะ” ภรันบ่นโวยวายที่วรเมธทำอะไรชักช้าไม่ได้ดังใจตนเอง

“ทำไม? นายอยากไปส่งคุณฐาเค้าเหรอ”

“ก็เออสิวะ ถามได้”

“สนใจเค้ารึไง”

“เออ...สน แล้วไงจะยกให้ข้าไหมล่ะเอ็ง”

“กันไม่มีสิทธิ์ไปยกใครให้ใครนี่หว่า มันขึ้นอยู่กับตัวคุณฐาเค้า กันไม่เกี่ยว”

“งั้นตกลงแล้วนะโว้ยเกลอ ถ้าหากจบงานนี้ ข้าจีบคุณฐามาเป็นแฟนข้าสำเร็จ ข้าจะพาแกไปเลี้ยงมื้อใหญ่เลยเพื่อน ฮ่าฮ่าฮ่า” ภรันหัวเราะลั่นด้วยความชอบใจที่เพื่อนชายไม่ขัดขวางความรักของเขา

“ก่อนที่นายจะมาหัวเราะ กันว่านายเข้าไปให้ถึงตัวเค้าก่อนดีกว่านะ กันว่าดูท่าจะยากนะ คุณเธอน่ะ ตั้งกำแพงซะสูงขนาดนั้น มิหนำซ้ำยังโบกปูนซะหนาตึ้บขนาดนั้นอีก”

“เอาน่าเพื่อน เชื่อมือนายภรันเจ้าพ่อคอมมานโดผู้พิชิตกำแพงใจสาวๆ คนนี้เถอะ” ภรันชูกำปั้นประดุจกำชัยชนะไว้ในมือ แต่วรเมธกลับส่ายหน้าไปมา ด้วยเขาเชื่อว่า เขาดูคนไม่ผิด การจะชนะใจคนอย่างฐานนันท์คงไม่ง่ายอย่างที่เพื่อนของตนคิดเอาไว้แน่



ด้านวรญาที่ขับรถมาส่งหญิงสาวที่คอนโดก็เอ่ยเตือนเรื่องที่ฐานนันท์เกือบเผลอหลุดปากไปเรื่องว่าจ้าง

“ทำไมพี่ตี้ถึงไม่ให้ฐาบอกคุณเมธเขาไปล่ะคะว่าพี่ตี้จ้างฐามา” ฐานนันท์สงสัยและไม่เข้าใจเมื่อวรญาบอกว่าหล่อนปิดเรื่องนี้ไม่ให้วรเมธรู้

“ก็ถ้าหากนายนั่นรู้นะ มีหวังยกเลิกทุกอย่างแน่ๆ พอดีแผนที่วางไว้พังไม่เป็นท่าน่ะสิ ถามได้”

“คุณเมธเนี่ยนะคะจะยอมยกเลิกง่ายๆ ไม่น่าเชื่อ” ฐานนันท์เยาะในน้ำเสียงเมื่อนึกถึงหน้าคนที่พวกตนเอ่ยถึง

“ทำไมฐาถึงคิดว่านายเมธจะไม่ยอมยกเลิกล่ะ น้องชายพี่คนนี้น่ะ เขามีความเป็นสุภาพบุรุษเกินร้อย ดีเกินล้าน เพราะงี้ไงล่ะ ยายแนนซี่นั่นถึงคิดหวนกลับมาหาไงล่ะ เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนดีกับหล่อนเท่าตาเมธน่ะสิ”

“หรือไม่ก็ คงไม่มีผู้ชายคนไหนหน้าโง่เท่าเขา” ฐานนันท์เสริมให้อย่างลืมตัว ทำเอาวรญาหันกลับมามองหน้า นั่นจึงทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว

“ขอโทษค่ะพี่ตี้ ฐาไม่ได้ตั้งใจ”

“หึ ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ พูดไปอีกทีมันก็จริงอย่างเราว่า เพราะความโง่นี่แหละ ถึงทำให้นายเมธไม่ยอมมีแฟนใหม่และไม่ยอมรักใครซักที พี่ถึงกลัวยังไงล่ะฐา กลัวว่าถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาอีก พี่ถึงอยากกันเอาไว้ก่อนยังไงล่ะ”

“แต่ถ้าคุณเมธเขาเต็มใจให้มันคุล่ะคะพี่ตี้”

“ก็ถ้าหากมันเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือซะว่าเป็นเวรกรรมของนายเมธที่มาเจอคนอย่างแนนซี่ ถึงไงพี่ก็ฝากนายเมธด้วยนะฐา ขัดขวางทุกทางอย่าให้ไฟเก่ามันคุ สาดน้ำให้มันดับสนิทไปเลยยิ่งดี”

“ค่ะ ฐารับปากค่ะพี่ตี้ ว่าฐาจะทำมันเต็มที่และให้มันออกมาดีที่สุด บางที...อาจดีจนพี่คาดไม่ถึงก็ได้นะคะ” ท้ายเสียงแฝงความหมายที่วรญามิอาจเข้าใจ หล่อนจึงได้แต่พยักหน้ารับ

“ถึงที่พักฐาแล้ว ขอบคุณนะคะพี่ตี้”

“จ้ะแล้วเจอกัน อ้อ! พรุ่งนี้เตรียมตัวนะ เก็บของให้พร้อมแล้วย้ายไปอยู่บ้านพี่ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะอีกสองวันยายนั่นก็มาแล้วล่ะ พี่ไปก่อนนะบ๊ายบาย”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฐานนันท์โบกมือยืนส่งวรญาจนรถลับสายตา แต่หญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่

...อีกสองวันสินะ ที่เราจะได้เจอกันอย่างเป็นทางการ แล้วเจอกัน ณัฏฐริณีย์ ปราการชัยพฤกษ์...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ตามมาอ่านจาก sirinda เลยนะ นึกว่าจะมีตอนใหม่กว่ามาลง แล้วทีนี้จะไปตามหาเว็บ sirinda ได้ที่ไหนล่ะเนี่ย  แต่ไม่เป็นไร ยังดีที่มีให้อ่านนะ