ไฮเวย์สุดหลอน ผีดิบที่ตระเวนหาผู้บริสุทธิ์ หรือแวมไพร์ที่กำลังหิวเลือด ทั้งหมดคือสิ่งที่คนมาเลเซียกำลังหลงใหลกับเรื่องราวของผีระดับตำนาน
วันนี้หนังผีเขย่าประสาทกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและกำลังมีส่วนทำให้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของมาเลเซียเติบโตขึ้นด้วย หลังจากหนังประเภทที่ว่านี้ถูกแบนเนื่องจากถือว่าขัดกับหลักศาสนาอิสลาม
นับตั้งแต่มหาเธร์ มูฮัมหมัด ผู้นำของประเทศลงจากอำนาจในปี ค.ศ.2003 และกระแสป๊อปเริ่มแผ่ขยายเข้าไปในมาเลเซีย กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เคยเข้มงวดก็ดูเหมือนจะเริ่มผ่อนคลาย และหนังเขย่าขวัญก็ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพด้วย หนัง 3 ใน 6 เรื่องที่ติดอันดับความน่ากลัวถูกสร้างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ไม่เพียงหนังเขย่าขวัญเท่านั้นที่เติบโตเพราะหนังแอ๊คชั่นและแนวตลกเองก็ เติบโตด้วยเช่นกัน ราคาตั๋วหนังเองก็ถีบตัวสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 5 เท่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปีที่แล้วมีรายได้ถึง 100 ล้านริงกิต หรือราว 1,000 ล้านบาท
“ความนิยมของหนังผีนั้นเป็นผลมาจากพื้นฐานของคนมาเลเซียเองโดยเฉพาะวัฒนธรรม ชุมชนที่มีความเชื่อเรื่องผีสางเทวดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนังสยองขวัญค่อนข้างใกล้ชิดกับวัฒนธรรมของเรา หากคุณอยากเข้าใจในวัฒนธรรมของชนชาติใดจะดูได้จากภาพยนตร์เขย่าขวัญ” อาหมัด อิดัม อาหมัด นาซรี ผู้กำกับชื่อดังติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อปี ค.ศ.2011 ระบุ
ภาพยนตร์เรื่องโกสต์ พิลเลียน ไรเดอร์ (Ghost Pillion Rider) ที่เขากำกับเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักซิ่งที่ถูกผีสาวสองตนซึ่งเสียชีวิต เพราะมอเตอร์ไซค์ของเขา ตามหลอกหลอนโดยทำรายได้ถึง 8.53 ล้านริงกิต หรือราว ๆ น้อยกว่า 85 ล้านบาท น้อยกว่าหนังแอ๊คชั่นอย่างเคแอลแก๊งสเตอร์ 3 ล้านริงกิต หรือ 30 ล้านบาท
หลังอยู่ในภาวะหยุดนิ่งมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 หนังเรื่องฟราแกรนท์ ไนท์ แวมไพร์ (Fragrant Night Vampire) ก็ผ่านการเซ็นเซอร์และเข้าฉายจนกลายเป็นหนังยอดนิยมในปี ค.ศ.2004
“ผู้สร้างหนังของมาเลเซียรู้ดีว่าหนังสยองขวัญจะทำรายได้ให้มากมาย พวกเขาจึงมักจะเดินตามรอยคนที่เคยประสบความสำเร็จเหล่านั้น” แอนดริว ฮอค ซุน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ของมหาวิทยาลัยโมนาช ออสเตรเลีย วิทยาเขตมาเลเซีย ระบุ
คนมาเลเซียมีความเชื่อในเรื่องของจิตวิญญาณก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเข้ามาใน ช่วงศตวรรษที่ 15 โดยเชื่อว่าวิญญาณจะยังคงอยู่แม้ว่าจะแยกออกจากร่างกายแล้ว ขณะที่มนต์ดำเองก็ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
หนึ่งในคาแรกเตอร์แบบมาเลเซียก็คือ โอราง มินยัก หรือมนุษย์น้ำมัน เรื่องราวของปิศาจในน้ำมันสีดำขลับที่จะออกล่าหญิงบริสุทธิ์เพราะเชื่อว่าจะ ทำให้เป็นอมตะ ซึ่งครั้งหนึ่งมันก็ถูกนำมาสร้างเป็นหนังในปี ค.ศ.1958 โดยพี. รามลี หนึ่งในนักสร้างสร้างชื่อดังของมาเลเซีย ซึ่งมักจะนำเรื่องราวที่พบเห็นในชีวิตจริงมาสร้างเป็นภาพยนตร์
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นของมาเลเซียรายงานว่า ในชุมชนชานเมืองไม่ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ ต้องมีการจัดหน่วยลาดตระเวนตามถนนหลังจากมีการพบโอราง มินยัก 2 ตน
ขณะที่โรงเรียนแห่งหนึ่งทางตะวันออกของรัฐปาหังก็เคยเกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อนักเรียน 35 คน ดูเหมือนกับจะเป็นโรคประสาทขึ้นมาพร้อมกัน จนต้องมีการทำพิธีปัดรังควานตามความเชื่อเพื่อไล่ภูตผีปิศาจออกไปจาก โรงเรียน
อาหมัด อิดัม เล่าว่า ลูกทีมของเขา 2 คนก็เคยเป็นโรคประสาทขึ้นมาระหว่างการถ่ายทำ ขณะที่สตั๊นต์แมนคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเนื่องมาจากการถ่ายทำ คนในกองถ่ายต่างโจษจันว่าเป็นเพราะพลังเหนือธรรมชาติ ดังนั้นก่อนที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ทุกครั้ง เขาจึงมักจะขอพรจากพระอัลเลาะห์เสมอ
แม้จะเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญยอดนิยม แต่อาหมัด อิดัมเองก็อยากที่จะสร้างหนังแนวอื่นบ้าง แต่เขาบอกว่าเมื่อนักสร้างหนังจะทำเรื่องที่แปลกออกไป เพียงแค่เริ่มต้นคิดเท่านั้น ผู้คนก็เริ่มที่จะไม่เข้าใจแล้ว.
หนังสยองขวัญกำลังฮิตในมาเลย์
เขียนโดย
dinn
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
6 เม.ย. 55
1,430
2
ความคิดเห็น