ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รับสมัคร!! ABYSS HABITATION: New York City แนว RE

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 2 Beginning of Hell (จุดเริ่มต้นของนรก)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 101
      1
      1 ก.ค. 55

    Chapter 2 Beginning of Hell (จุดเริ่มต้นของนรก)
     
    15 มิถุนายน 2020
    20.30 น.
    สถานที่ซ้อมยิงธนูห่างจากมหาลัย NYU ประมาณ 500 เมตร
    ภายในห้องซ้อมยิงธนู
     
     
    ฉึก!
     
    ลูกดอกจากคันธนูปักเข้าตรงกลางเป้าเป๊ะ
     
    “ยังแม่นเหมือนเดิมเลยนิ อเลน” มาติน เพื่อนของอเลนเอ่ยชม
     
    “นายก็เหมือนกัน” อเลนบอก และเดินไปเก็บลูกดอกที่ปักอยู่ประมาณ 4-5 อันที่เป้าซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ๆตรงกลางเป้า
     
    มาติน กู้ดแมน ชายผมสั้นสีทอง นัยน์ตาสีฟ้า ร่างกายกำยำ สูงกว่าอเลนเล็กน้อย เขาเป็นเพื่อนของอเลนตั้งแต่ปี 1 เรียนมาสายอาชีพเดียวกันและ ยังชื่นชอบในการยิงธนูเหมือนกันจึงเปรียบได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของอเลน มาตินเป็นคนเฮฮาผิดกับอเลน แต่ชอบทำก่อนที่จะคิด ทำให้อเลนต้องค่อยห้ามหรือเบลคบ่อยๆ
     
    ก้อกๆๆๆ
     
    เสียงประตูห้องซ้อมดังขึ้น ทั้งคู่หันมามองที่เสียงประตูพร้อมกัน มาตินเดินไปเปิดประตูห้องซ้อมทันที เมื่อเขาเปิดประตูก็พบกับคนดูแลที่ซ้อม
     
    “มีอะไรเหรอครับ” มาตินถาม
     
    “อีกครึ่งชั่วโมงที่นี้ปิดแล้วนะครับ”
     
    “อ๋อ โอเคครับ” มาตินตอบ และคนดูแลก็โค้งให้เล็กน้อยก่อนจะปิดประตู
     
    “มีอะไรเหรอ” อเลนถาม ในขณะที่มาตินเปิดกลับมาหาเขา
     
    “ไม่มีอะไรหรอก คนดูแลแค่มาบอกเฉยๆนะว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะปิด รีบซ้อมเหอะ” มาตินหยิบธนูของเขาและลูกดอกขึ้นมา ง้างเตรียมตัวยิง
     
    ปังๆๆๆๆ เสียงกระแทกประตูดังลั่น ทำเอามาตินและอเลนสะดุ้งเฮือกพร้อมกัน
     
    “โอ้ย อะไรอีกเนี้ย เกิดอะไรขึ้น” มาตินร้องอย่างตกใจ วางธนูลงที่โต๊ะ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
     
    “เหวออออออ อะไรวะ” มาตินร้องลั่นเพราะคนดูแลได้กระแทกประตูต้องที่เขาเปิด พุ่งเข้ามาหาเขา นัยน์ตาแดงก่ำ น้ำลายไหลย้อย พยายามที่จะกัดเด็กหนุ่ม แต่เขาเอามือดันไว้ก่อนได้ ก่อนที่จะล้มลงและโดนขึ้นคร่อม คนดูแลก็ยังตระเกียกตระกายกัดเขาอยู่
     
    อเลนหยิบเก้าอี้ข้างตัว ฟาดไปเต็มแรงที่หลังของคนดูแล ทำให้คนที่คร่อมอยู่หยุดนิ่งสงบลง มาตินผลั่กตัวของคนดูแลออก หอบหายใจแรงด้วยความตกใจ
     
    “เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นวะ” มาตินพูดในขณะที่หายใจหอบ
     
    “ไม่รู้สิ” อเลนช่วยพยุงตัวเพื่อนของเขาให้ลุกขึ้น แต่แล้วคนดูแลก็ลุกขึ้นมาด้วย
     
    “นี้ คุณ คิดจะทำอะไรนะ เฮ้ย!” มาตินร้องอีกครั้งเพราะคนดูแลยังพุ่งตรงมาหาเขาชายหนุ่มผมทองอีก คราวนี้อเลนคว้าธนูที่อยู่ที่โต๊ะและ
     
     
    ฉึก! เขายิงไปที่ลำตัวของคนดูแล แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดได้

    ฉึก! เขายิงไปนัดที่สอง ลูกดอกพุ่งไปที่หน้าอก แต่คนดูแลก็แค่ชะงักไปเท่านั้น
     
    ฉึก! ครั้งที่สาม คราวนี้ลูกดอกพุ่งเข้าเต็มหน้าผาก ได้ผล! คนดูแลล้มลง ไม่ไหวติง
     
    “เฮ้ย เอาตายเลยเหรอ” มาตินถามหน้าตาเลิกลั่ก เพราะเพื่อนฆ่าคนตายต่อหน้าต่อตาของเขา
     
    “ป้องกันตัว” อเลนบอก เดินไปดูที่ศพคนดูแล ที่นอนนิ่งอยู่
     
    “คราวนี้มันคงจะไม่ลุกขึ้นมาอีกแล้วใช่ปะ” มาตินเดินตามไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
     
    “ไม่แล้วมั้ง” อเลนเดินสำรวจศพ ซึ่งเขาพบว่า สายตาของมันแดงผิดปกติ มีเมือกสีเทาเคลือบที่ม่านตา เส้นเลือดที่แขนและขาปูดขึ้น
     
    “ไปจากที่นี้เถอะ” มาตินบอกเพื่อนชาย เก็บของสัมภาระลงกระเป๋า อเลนไม่พูดอะไรเก็บข้าวของตัวเองและเดินตามมาตินออกจากห้องแล้วปิดประตูห้อง
     
    เมื่อมาตินและอเลนออกจากอาคารซ้อมยิงธนู ซึ่งตอนนี้เวลา 20.45 น. ก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งนอนหงายอยู่ที่พื้นและมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆซึ่งหันหลังอยู่ ก้มหน้าก้มตาทำอะไรบางอย่างอยู่
     
    “เดินไปบอกพวกนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นดีไหม” มาตินกระซิบถามอเลน
     
    “ก็ดี” อเลนตอบ มาตินจึงเดินไปหาผู้ชายและผู้หญิงคู่นั้น
     
    “เออ ขอโทษนะครับ คือ...จ้ากกก” มาตินถอยหลังอย่างรวดเร็ว เพราะผู้ชายคนนั้นกำลังกัดกินแขนของผู้หญิงที่โดนกัดคอนอนนิ่งเสียชีวิตไปแล้ว และตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นมา เดินโซเซมาทางพวกเขา
     
    “เกิดโรคระบาดอะไรขึ้นรึเปล่าเนี้ย” อเลนเอ่ย เมื่อพวกเขามองไปตรงข้ามถนน ก็พบกับผู้ชายอีกสองคนที่เดินโซเซไปมา มุ่งหน้ามาทางเด็กหนุ่มทั้งสอง และด้านหลังซอมบี้ทั้งสอง ก็มีอีกราว 4-5 คนเดินมาอีก
     
    “เอาไงดีเพื่อน” มาตินถามเพื่อนชาย
     
    “อืม...” อเลนคิ้วขมวดใช้ความคิดอย่างหนัก
     
     
     
    Event!
    ตอนนี้อเลนจะต้องคิดแล้วครับว่าจะทำเช่นไรดี
     
    1. สู้กับมัน
    2. หนีกลับคอนโด
    3. หันหลังกลับไปที่โรงฝึกและขอความช่วยเหลือ
    4. วิ่งหนีหาคนช่วย
    5. อื่นๆนอกจากนี้ (คิดเองเลยครับว่าจะเอายังไง)
     
    หมดเขตตอบวันพุธที่ 4 นะครับ ถ้าไม่ตอบผมจะตอบเอง ซึ่งก็จะมีเปอร์เซนที่จะตายสู้ขึ้นนะครับ
     
     
    15 มิถุนายน 2020
    20.30 น.
    ณ ศูนย์บัญชาการหน่วย CHARLIE
     
    “สวัสดีครับ ผมคริสเตียน แบร็กวู้ด ผู้สื่อข่าวจาก CNN ในตอนนี้ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นภายในเมือง Manhattun ครับ ผู้คนมากมายหลายคนได้กลายเป็นผีดิบหรือซอมบี้โดยที่เจ้าหน้าที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ว่าคนที่ถูกกัดหรือข่วนจะกลายเป็นซอมบี้ไปด้วยครับ ซึ่งในตอนนี้โรคนี้ได้กระจายไปอย่างรวดเร็ว ขอให้ทุกคนระวังตัวด้วยครับ เฮ้ย มันมาแล้วหนีเร็ว!” คริสเตียน ผู้สื่อข่าวภายในเมือง ผู้มีผมทรงออลแบกสีทอง บอกตากล้อง เพราะตอนนี้ซอมบี้ได้เดินมาทางด้านหลังพวกเขาเป็นฝูง ทำให้คริสเตียนต้องวิ่งหนีไปเสียก่อนและรายการก็ตัดเข้าช่วงโฆษณา
     
    ปิ้บ! เสียงปิดทีวี และหน้าจอทีวีก็กลายเป็นจอสีดำ
     
    “เอาละ อย่างที่รู้ ตอนนี้เกิดเหตุการณ์วิกฤตที่ Manhattun ซึ่งประชากรในเมืองมีประมาณ 1,500,00 คน ผู้คนจำนวนมากได้กลายเป็นซอมบี้คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว หน้าที่ของพวกเราคือเข้าไปช่วยอพยบผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ครูซ ไนท์ฮอร์ค หัวหน้าหน่วย CHARLIE บอกลูกทีมราว 20 คนที่นั่งอยู่ที่ห้องประชุม
     
    “ท่านประธานาธิปดีเคนดริคได้เปิดไฟเขียวให้พวกเราแล้ว เจอซอมบี้ตัวไหนสามารถฆ่าได้เลย ไม่ต้องยั้ง”
     
    “แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นคนใครเป็นซอมบี้ละครับ” เจ้าหน้าที่หน่วย CHARLIE คนหนึ่งถาม
     
    “แล้วนายจะรู้เองเมื่อเห็น เอาละ ขอให้ทุกคนไปเจอกันที่จอด ฮอ เราจะออกเดินทางเลยทันที” สิ้นเสียงทุกคนก็ลุกขึ้นไปหยิบข้าวของและอาวุธประจำตัวของตัวเอง ซึ่งอาวุธที่ครูซเลือกคือ SCAR-H และ Desert Eagle
     
    ชายหนุ่มหน้าคมเดินแบกปืนและสัมภาระไปที่จอด ฮอ ด้านหลังศูนย์บัญชาการ
     
    “ทุกทีมกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายและขอให้ทุกคนโชคดี” ครูซบอกก่อนจะเดินที่ฮอของตัวเอง นางิซึ่งตอนนี้อยู่ในชุดเครื่องแบบเต็มยศยืนรออยู่ เมื่อครูซเดินมาถึง เธอก็ขึ้นไปนั่งฮอก่อนแล้วครูซก็ค่อยปีนตามขึ้นมา
     
    “ได้ข่าวอะไรจากทีม Delta บ้าง” ครูซถามระหว่างที่ฮอค่อยๆบินออกจากศูนย์บัญชาการมุ่งหน้าที่ทาง New York
     
    “ทีม Delta ไปถึงก่อนแล้วคะ” นางิบอก
     
    “ทำงานกันเร็วกว่าพวกเราเช่นเคย”
     
    “แล้วพวกเราจะไปที่ไหนก่อนคะ” นางิยื่นแผนผังเมืองให้หัวหน้าทีมดู ครูซรับมันมาดู เอามือเท้าคางใช้ความคิด
     
     
    Event!!!
     
    ครูซและนางิจะต้องช่วยกันคิดนะครับว่าพวกเขาจะไปช่วยเหลือประชาชนที่ไหนก่อน
     
    1. โรงพยาบาล Lenox Hill Hospital
    2. Central Park
    3. NYU
    4. Empire State
    5. Time Square
    6. Wall Street
     
    Deadline วันพุธที่ 4 นะครับ ถ้ายังไม่ตอบผมก็จะตอบแทนนะครับ
     
     
    15 มิถุนายน 2020
    20.40 น.
    Time Square
     
    “วิ่งๆๆ!! เร็วเข้า!!” แพทริกซ์ นิวแลนท์ หัวหน้าทีม Delta บอกผู้คนให้วิ่งหนีจากซอมบี้ซึ่งตอนนี้เดินหน้ามาเป็นร้อยที่ถนนใหญ่ ประชาชนวิ่งหนีร้องกรี้ดเอาตัวรอด บางคนก็ขับรถหนี บางคนวิ่งหนีไม่ทันก็กลายเป็นเหยื่อของซอมบี้ บางคนก็ถูกเบียดล้มและโดนเหยียบย่ำโดยคนข้างหลัง
     
    แพทริกซ์เห็นประชาชนคนหนึ่งกำลังจะโดนซอมบี้โจมตี เขารีบใช้ปืนHK-416 ของตัวเองช่วยทันที
     
    ปัง!! ไม่พลาด เข้าหัวของซอมบี้เหมือนจับวาง
     
    “หนี เร็วเข้า!” แพทริกซ์ตะโกนบอก
     
    “หัวหน้าครับ ผมว่าเราต้านไม่อยู่แน่ครับ พวกมันมากันเยอะมาก” ลูกทีมของเขาบอกหัวหน้าด้วยสีหน้าหวาดวิตก
     
    “ต้านเท่าที่จะทำได้! นำทางพวกเขาไปที่สะพานบรูคลินให้ได้ ตอนนี้ทีม CHARLIE ก็กำลังมาแล้วด้วย” แพทริกซ์บอก ยิงไปที่หัวของซอมบี้อีกสองตัวที่กำลังจะทำร้ายคนที่วิ่งหนีอยู่
     
    “เอรีน สถานการณ์เป็นไงบ้าง” แพทริกซ์ใช้วิทยุสื่อสารถามเอรีนที่ตอนนี้อยู่บนอาคารสูง ใช้ปืนไรเฟิลเก็บเสียงสนับสนุน
     
    “ไม่ดีเลยคะ จำนวนพวกมันเยอะมาก ถ้าคำนวนดูแล้ว เราจะต้านได้อย่างมากสุดก็ 10 นาทีเท่านั้น”
     
    “แล้วหน่วย CHARLIE จะมาถึงอีกนานไหม”
     
    “อีกประมาณ 15 นาทีถึงคะ” ปัง! เสียงเอรีนยิงซอมบี้ที่เข้ามาใกล้ตัวประชาชนที่กำลังหนีอยู่
     
    แพทริกซ์กัดฟันกรอด ตอนนี้เขาจะต้องเลือกแล้วว่าจะเอายังไง
     
    Event!!!
    ในสถานการณ์ในตอนนี้แพทริกซ์จะต้องเลือกแล้วว่าจะเอายังไงดี
     
    1. รอทีม CHARLIE มาช่วยซึ่งนั้นก็คือเขาจะต้องยอมเสี่ยงต้านซอมบี้ที่ตอนนี้มากันเป็นฝูง
    2. ถอยไปตั้งหลักก่อน แต่นั้นก็คือทิ้งประชาชนส่วนมากนั้นเอง
     
    Deadline วันพุธที่ 4 นะครับ ถ้ายังไม่ตอบผมก็จะตอบแทนนะครับ
        
     
     
    15 มิถุนายน 2020
    20.45 น.
    White House
     
    ขณะที่ประธานาธิปดี เคนดริค สคราฟ กำลังก้มหน้ากลุ้มอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ห้องทำงาน Oval Office
     
    “ไมเคิล ริเวอร์ มาถึงแล้วครับ” เสียงบอดี้การ์ดหน้าห้องบอก
     
    “ให้เข้ามาได้เลย” เคนดริคเอ่ย และประตูก็เปิดออกเผยให้เห็นถึงชายร่างสูง ผมสั้นเตียนสีดำ ใบหน้าดูน่าเกรงขาม อายุราว 30 กว่าๆ สวมชุดเครื่องแบบหน่วย SWAT เดินเข้ามาในห้องยืนตัวตรง ตะเบ๊ะ
     
    “กระผม ไมเคิล ริเวอร์ หัวหน้าหน่วย SWAT ประจำเมือง New York ครับ” ไมเคิลแนะนำตัวด้วยเสียงที่ห้าว
     
    “เอาละ เข้าเรื่องเลยนะ ตอนนี้ลูกสาวผม มาเรีย ได้ติดอยู่ในเมือง Manhattun ซึ่งตอนนี้ผมไม่สามารถติดต่อใครในนั้นได้เลย ผมจึงอยากจะให้หน่วยของคุณเข้าไปช่วยเหลือลูกสาวเป็นอย่างเป็นความลับและเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี้ข้อมูลของลูกสาวผม” เคนดริคยื่นซองเอกสารให้ ไมเคิลรับมันมาก่อนจะเปิดอ่าน
     
    “ถ้าจำไม่ผิดผมจำได้ว่า ผมมีลูกน้องฝีมือดีคนหนึ่งอยู่ในเมืองนั้นพอดี ผมจะลองพยายามติดต่อเธอคนนั้นดู” ไมเคิลเอ่ยในขณะที่อ่านเอกสารที่เคนดริคให้
     
    “เธอ?” เคนดริคคิ้วขมวด
     
    “ใช่ครับ ‘เธอ’”
     
     
     
    15 มิถุนายน 2020
    20.50 น.
    อาคาร HFE
     
    เพล้ง!!! ผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดออกมาจากกระจกห้องการประชุม HFE
     
    “มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี้ย” หญิงสาวพูดกับตัวเอง และเริ่มวิ่งหนีไปที่ลิฟท์ มีซอมบี้ตัวหนึ่งขวางหน้าเธอ หญิงสาวสไลค์ตัวหลบกงเล็บของมันไถลตัวเข้าไปในลิฟท์พอดี แล้วรีบกดปิดก่อนจะกดไปที่ชั้นล่าง
     
    “แฮ่กๆๆ ทำไมทุกคนถึงได้กลายเป็นซอมบี้ไปหมดเลยเนี้ย” แต่เธอไม่ทันได้พักหายใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำเอาเธอสะดุ้งเฮือก
     
    “คะ” เธอรับสาย
     
    “เจสจิก้า นี้ฉันเอง ไมเคิล”
     
    เจสสิก้า จัง หญิงสาวชาวเกาหลีใต้ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลและอดีตหน่วย SWAT เธอมีรูปหน้าทรงไข่ คิ้วโก่ง ผิวขาวอมชมพู แต่ตอนนี้มีรอยบาดแผลเล็กน้อย ผมของเธอยาวถึงกลางหลังสีน้ำตาล รูปร่างสูงโปร่งและหน้าตาไปทางคนเอเชีย  
     
    “มีอะไรเร่งด่วนไหม ตอนนี้ฉันไม่ว่าง” เจสสิก้าพูดพลางหอบไปพลาง “อีกอย่างฉันไม่ได้อยู่หน่วย SWAT แล้วนะ ถ้าเธอจำไม่ได้”
     
    “มี ตอนนี้ฉันอยู่กับท่านประธานาธิปดีเคนดริค และรู้ว่าเธอตอนนี้อยู่ในเมือง Manhattun ท่านต้องการให้เธอตามหาลูกสาวที่ชื่อว่า มาเรีย ข้อมูลต่างๆ ฉันจะส่งไปให้ที่มือถือ”
     
    “โห! จะบ้าเหรอไง!! แค่เอาตัวเองก็แทบจะไม่รอดอยู่แล้ว เธอรู้ไหมเนี้ยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น” เจสสิก้าพูดน้ำเสียงดูโมโห
     
    “ฉันรู้หมดแล้ว”
     
    “แล้วยังจะให้ฉันทำงานนี้อีกเหรอไง”
     
    “ถ้าเธอยอมทำงานนี้ ท่านประธานาธิปดีจะช่วยออกค่ารักษาแม่ของเธอที่อยู่โรงพยาบาลทั้งหมด รวมถึงค่าสวัสดิการทุกอย่างด้วย”
     
    เจสสิก้าคิดอยู่ไปสักพัก ก่อนจะ
     
    “ตกลง”
     
    “โอเค ถ้ามีอะไรอัพเดทก็ช่วยติดต่อกลับมาด้วย แล้วมีอาวุธไหม”
     
    เจสสิก้าหยิบปืน MP5 ที่ใส่ที่เก็บเสียงมาตรวจดูกระสุน
     
    “มี” เจสสิก้ากระแทกซองกระสุนกลับไป “และมีแทบเล็ตด้วย ช่วยส่งแผนที่มาให้หน่อยก็แล้วกัน”
     
    “ได้ ขอให้โชคดี” และไมเคิลก็วางสายไป
     
    ไม่นานนักไมเคิลก็ส่งแผนที่มาให้เจสสิก้าในระหว่างที่ลิฟท์กำลังลงไปสู่ชั้นล่าง
     
    “เอาละ จะเริ่มจากที่ไหนก่อนดีนะ” เจสสิก้าดูแผนที่และครุ่นคิด
     
     
    Event!!!!
     
    เอาละครับ เจสสิก้าจะเลือกแล้วละครับว่าจะเริ่มที่ไหนก่อน
     
    1. โรงพยาบาล Lenox Hill Hospital
    2. Central Park
    3. NYU
    4. Empire State
    5. Time Square
    6. Wall Street
     
    ตัวเลือกจะคล้ายๆกับของ ครูซและนางินะครับ Deadline คือวันพุธ ไม่ตอบผมจะเลือกคำตอบเองนะครับ
     
    ใครที่ยังไม่ได้ออก จะออกในตอนหน้านะครับ รับรองได้ออกหมดแน่นอนครับ
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×