ในวันนี้เป็นวันที่ได้จัดการธุระและส่งต้นฉบับสัญญาฯ กลับไปที่สนพ. แต่ต้องยอมรับเลยว่าทุลักทุเลไม่น้อย อินเองก็เพิ่งจะผ่าตัดไส้ติ่ง แต่ก็อยากให้งานดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีกว่าถ้าเกิดต้องกลับไปทำงานประจำแล้วคงจะไม่มีเวลามาแก้ไขและทุ่มเทกับงานเขียนมากนัก และอาจยิ่งทำให้ล่าช้าเข้าไปใหญ่ (ทำไงได้ล่ะเนอะ ชีวิตมันต้องกินต้องใช้ อิอิ) อยากรู้เหมือนกันว่า คนอย่างอินเจ้นจะได้เป็นนักเขียนกับเขาได้มั้ย? พิสูจน์กันไปเลย ตอนนี้ก็ถือว่ามาได้ 45% แล้ว เหลืออีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัย แต่อีกนิดเดียวที่ว่านี่ก็ไกลเกินครึ่งนะ 555+
อย่างน้อยให้มีโอกาสได้มีผลงานตีพิมพ์เป็นของตัวเองสักเล่ม ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงไม่รู้ เพราะตลอดทางอินถือว่านั่นเป็นความเสี่ยงมาเสมอ ตั้งแต่เริ่มวางพล๊อตเรื่อง ถึงกระทั่งหนังสือวางจำหน่ายสู่สายตาประชาชน ทุกขั้นตอนถือว่ามีความเสี่ยงแทบทั้งสิ้น เมื่อเราเริ่มคิดที่จะเขียน ความเสี่ยงก็เกิดขึ้น เสี่ยงว่าเราจะมีโอกาสได้ลงมือเขียนมั้ย ลงมือเขียนแล้วจะจบมั้ย จบมาก็เสี่ยงอีกว่าต้นฉบับที่ส่งให้สนพ. พิจารณาจะผ่านมั้ย ผ่านแล้วจะมีอุปสรรคอะไรอีกรึเปล่า แม้กระทั่งวางแผงแล้วก็ยังเสี่ยงอีกว่า “นิยายจะขายได้มั้ยน้อ?” ต้องคิดแม้กระทั่ง “คนอ่านจะชื่นชอบผลงานเรามั้ยเนี่ย?” เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่จะได้อยู่ต่อในวงการงานเขียน (แหม่ ทำยังกับประกวด AF 555+)....คิดๆ แล้วไม่ง่ายเลยเนอะ -_-‘
เอาเป็นว่าร่วมลุ้นและติดตามเป็นกำลังใจให้อินต่อไปแล้วกันนะคะ กับผลงานเรื่องแรก ดูสิว่าจะมีนิยายเป็นของตัวเองได้ก่อนอายุสามสิบรึเปล่า อิอิ
สำหรับนามปากกา อินเปลี่ยนแล้วนะคะ เพราะไม่อยากให้ซ้ำกับใคร ไม่อยากให้มีปัญหา ไม่ว่าใครจะหยิบยกขึ้นมาใช้ก่อนใช้หลังก็ตาม นามปากกาที่เป็นเอกเทศย่อมดีและบ่งบอกถึงความเป็นเราได้ดีที่สุด ตอนนี้อินตกลงปลงใจอยู่กับนามปากกาที่ชื่อว่า “อินพรรดิ์” ค่ะ ตีความหมายไปถึงความยิ่งใหญ่ มันดูอลังการดี อินชอบ ^_^
สำหรับวันนี้พอก่อนดีกว่าค่ะ บ๊ายบายนะ เจอกันคราวหน้า กับความคืบหน้าของ “ลิขิตรักเหนือคำทำนาย”
ปล. ถ้าอยากจะติดต่ออินให้เมล์หรือแอดมาที่ ingen_2004@hotmail.com ค่ะ
ความคิดเห็น