คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ◆ how to 10 : ชีวิตบนโลกใบใหญ่ (100%)
" พี่เซฟโว้ย เห้ย พี่เซฟ ” เหมือนได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อผมระหว่างที่ผมต้องเดินกลับไปเอาลำโพงที่ลืมไว้ในห้องเรียนไปใช้ที่แสตน
“ อ้าว ว่าไงมึงไอ้ปิง ” ผมหันไปก็พบหน้าไอ้ปิง เด็กน้อยวัยม.4 ยืนอยู่พร้อมแฟ้มเอกสารบางๆในมือ
“ อาจารย์ศิรดา บอกให้พี่เซฟให้พี่ๆประธานสีทุกคนเซ็นแล้วก็เอาไปให้พี่ดลด้วย ผมไปละพี่ ” มันยื่นแฟ้มพร้อมอธิบายผมอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งหายออกไปทางสนามบอล สรุปว่าตกลงคือมันเอาภาระมายัดเยียดให้ผมแบกไปทำต่อนั่นเอง
หลังจาก แบกลำโพงไปให้ไอ้คิม ไอ้ฟิล และพวกที่ช่วยผมคุมแสตนทั้งหลายไปใช้ซ้อมเชียร์น้องแล้ว ผมก็ต้องทำหน้าที่ไปเดินหาประธานสีแต่ละคนเพื่อให้มันเซ็นเอกสารขอเบิกงบ ประมาณและฝ่ายต่างๆในสี ซึ่งไอ้ประธานแต่ละตัวดันไม่ได้อยู่ที่แสตนเหมือนกันหมด อย่างไอ้เหม่ง เอ่อ ตามจริงมันชื่อเม้งแต่หัวเถิกผมเลยเรียกเหม่ง ฮ่าๆๆๆ ประธานสีชมพูแม่งไปคุมพาเหรดน้อง ไอ้เดลประธานสีส้มที่แม่งเสือกมีฝาแฝดหน้าเหมือนกันชิบหายแบบแยกไม่ออกชื่อ ดิว ผมเดินวนหาไอ้เดลรอบโรงเรียนก็เจอแต่ไอ้ดิว ไอ้ดิว และก็ไอ้ดิว - - ไอ้ครี ประธานสีฟ้า ผมมีเบอร์มัน แต่แม่งดันไม่อยู่กับที่เลย ทีแรกบอกอยู่โรงอาหาร โทรไปอีกทีบอกว่าอยู่หอธ. โทรไปอีกทีบอกอยู่แสตน พอมีหนทางสว่างเกิดขึ้นหน่อยเพราะแสตนสีฟ้าอยู่ข้างๆสีเขียว ผมเลยโทรบอกให้ไอ้ฟิลให้ล๊อคตัวไอ้ครีไว้ให้
กว่าจะ ล่าลายเซ็นไอ้สามตัวนี้ก็ปาเข้าไปเกือบสิบเอ็ดโมง ผมก็ต้องลากหน้ามันๆ เสื้อเปียกเหงื่อไปหาไอ้ดลที่ห้องสภา เปิดประตูห้องสภานักเรียนเข้ามาและเห็นสภาพแล้ว บอกตรงๆเลยว่า
โคตรอิจฉาไอ้ดลลลลล
จะไม่ ให้อิจฉาได้ไงครับ ห้องเปิดแอร์เย็นเฉียบ ห้องทั้งห้องมีมันนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะคนเดียว แฟ้มงานประมาณสามกอง และสมุดของโรงเรียนกระจายเกลื่อนกลาดทั่วโต๊ะ
“ อ้าวเซฟ มีไรวะ ” ผมเงยหน้าขึ้นมาทักผมแล้วถอดแว่นวางไว้ตรงหน้ามันก่อนจะหลับตาซักพักนึง
“ กู เอาเอกสารงบประมาณคณะสีมาให้ มึงแม่งโชคดีได้ทำงานแอร์เย็นๆ กูอย่างเซ็งอ่ะเชี่ยแม่ง กว่าจะตามหาไอ้เดลกับไอ้ครีเสร็จกูนี่แทบเป็นลมตาย ขอแวบอยู่แช่แอร์กับมึงหน่อยละกัน ” ผมบ่นๆก่อนจะวางแฟ้มไว้ตรงหน้ามันแล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่
“ โห งั้นมาแลกหน้าที่กันเลยไหม เดี๋ยวกูไปลั๊ลลาแถวแสตนแล้วมึงมานั่งทำงานแบบกู กูนั่งตรวจเอกสารตั้งแต่เช้า แล้วก็ปั่นการบ้านตัวเองไปด้วย โคตรปวดตาอ่ะ เมื่อคืนกว่ากูจะได้นอนก็เกือบตีสาม ตื่นหกโมงมาโรงเรียน แล้วก็มานั่งทำงานต่อ ” ไอ้ดลนั่งหลับตาร่ายยาว
“ มึงเรียนห้อง 51 แม่งก็เหนื่อยอยู่แล้ว เสือกไปหางานหาการมาให้ตัวเองเหนื่อยทำไม กูก็ไม่เข้าใจ ” ผมบ่นๆก่อนจะกระโดดไปที่ตู้เย็นในห้องสภานักเรียน ก่อนจะหยิบนมเปรี้ยที่ใครไม่รู้ทิ้งไว้ออกมากิน โดยไม่ลืมที่จะหยิบมาเผื่อไอ้ดลด้วย
“ เออขอบใจ แต่นี่มัน ของพี่โด้ เดี๋ยวกูต้องซื้อมาคืนพี่เค้า ” มันรับไปก่อนจะเจาะแล้วดูดนิดๆ
“ กุไปละ ” หลังจากได้กินนมเปรี้ยวฟรี ผมก็ตบไหล่ไอ้ดลแล้วเดินออกมาเจอกับความร้อนข้างนอกต่อ โห่ ประดุจกลับจากฝรั่งเศสมาอียิปต์
“ เชี่ยเซฟฟฟ อยู่นี่เอง กูตามหาตั้งนาน เหนื่อยสัดอ่ะ ” ไอ้ไกด์ เพื่อนผมวิ่งเข้ามาในสภาพเหงื่อท่วมตัว
“ มีอารายยยยย ” ผมลากเสียงยาวถาม
“ น้องเนม กับ น้องบิ๊วต่อยกัน ” มันหอบหนักๆแล้วตอบผม
ชิบหายแล้ววว !
__________________________________________________
ซวยสอง ต่อแท้ๆ ผมไม่ได้ไปทะเลาะด้วยแต่ดันโดนหางเลขไปเต็มๆในข้อหา เป็นทั้งรุ่นพี่พ่วงตำแหน่งประธานสีและเลขาชมรมกีฬา ทำไมปล่อยให้น้องทะเลาะกัน จะบอกว่าผมแว๊บไปกินนมเปรี้ยวฟรีของไอ้ดลก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนหนักกว่าเดิม เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตารับฟังอาจารย์บ่นไปชุดใหญ่ แถมโดนหักคะแนนคณะสีไปอีก เจริญ !
“ ทำเหี้ยไรกัน ห๊ะ ทำเหี้ยไรกัน ” ผมว๊ากใส่ไอ้เนมและไอ้บิ๊วเสียงดัง หลังจากออกมาจากห้องพักอาจารย์ ซึ่งไอ้เด็กสองตัวก็สะดุ้งแล้วก็เงียบเหมือนเดิม
“ กูถาม ทำไมไม่พูด อมเชี่ยไรอยู่ ตอบ ” ผมยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่เมื่อถามแล้วไม่ได้รับคำตอบ เกิดบันดาลโทสะกระจากคออเสื้อไอ้บิ๊วขึ้นมา
“ เห้ย เซฟใจเย็นๆ ” ไอ้โจ ไอ้ทูว์เค้ามาจับน้องบิ๊วแยกจากผม
“ มึง ทำเหี้ยอะไรกัน มึงเห็นไหม คนอื่นเค้ามีหน้าที่ต้องทำให้สีได้คะแนนเพิ่ม แล้วพวกมึงทำอะไรกัน กูบอกให้มึงซ้อม มึงกลับเอาเวลามาต่อยกันเนี่ยหรอ มึงไม่อายน้องปอสามปอสี่ที่เค้าขึ้นแสตนเจอแดดร้อนๆหรือไง ไอ่เหี้ย ” ผมปาใบหักคะแนนใส่หน้าไอ้เด็กสองตัวที่นั่งก้มหน้าอยู่ หงุดหงิดโว้ย
“ ก็ไอ้เนมแม่งมาพูดดูถูกผมว่าเป็นตัวสำรองฝีมือห่วยอ่ะพี่เซฟ ถ้าเป็นพี่พี่จะทนไหวปะ ” ไอ้น้องบิ๊วตอบขึ้นมาก่อน ผมมองไอ้บิ๊วแล้วหันไปมองหน้าไอ้น้องเนมเป็นเชิงถาม
“ ก็มันห่วยจริงหนิพี่ แม่งห่วยขนาดนี้พี่ยังรับมันเข้ามาเล่นอีกได้ไง ” ไอ้เนมเถียง
“ มึงเป็นเด็กมีสิทธิ์เหี้ยไรมาเสือกกับการตัดสินใจของกู แล้วมึงเอาอะไรไปวัดไอ้บิ๊ว ” ผมย่างสามขุมเข้าไปว๊ากใส่อย่างโมโห
“ เห้ย มึงใจเย็นดิ๊ เนมมึงอย่าปากดี พวกกูเป็นรุ่นพี่มึงนะ ” ไอ้โจเข้ามาจับผมไว้ก่อนที่ผมจะได้เข้าไปซัดปากไอ้เนมซักที
“ ตกลงเอาไง จะได้ไปกินข้าว นี่จะเที่ยงแล้ว เดี๋ยวต้องไปเคลียร์แสตนอีก ” ไอ้เกมเดินเข้ามาสมทบผมก่อนจะมองไอ้เด็กสองคนที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่
“ ปลด ไอ้เนม มึงไปเป็นตัวสำรอง ถ้าไม่เป็นก็ออกไป ส่วนไอ้บิ๊ว มึงต้องซ้อมกับกูทุกวันเช้า กลางวัน หรือเย็นก็ได้ เลือกเอา ถ้าไม่เอาก็เชิญออกไปได้เลย ” ผมตอบแบบเซ็งๆ
“ ครับ ผมขอโทษละกันพี่เซฟสำหรับเรื่องวันนี้ ผมขอตัว ” ไอ้เนมยกมือไหว้ผมก่อนจะเดินออกไป
“ แล้วมึงจะยังไง ก็ตอบมา เร็วๆเสียเวลากู ” ผมหันไปมองไอ้บิ๊ว
“ ได้ครับพี่ งั้นผมว่าขอตอนเที่ยงละกัน แล้วผมก็ขอโทษกับเรื่องวันนี้มากๆครับพี่ ผมไปละ ขอโทษจริงๆนะพี่ ” ไอ้บิ๊วรีบพูดก่อนจะวิ่งปรู๊ดหายออกไป ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยแล้ววิ่งไปช่วยพวกไอ้คิมเก็บแสตน
“ เชี่ย แม่งเอ๊ยยย อะไรของแม่งวะ บ้าป่ะเนี่ย ” ผมหันไปมองตามเสียงขณะที่กำลังเก็บขวดน้ำ ซองขนมที่น้องๆตัวน้อยทิ้งไว้อยู่บนแสตน
“ มึงเป็นไรวะอาร์ตี้ ” ไอ้คิมกระโดดจากแสตนชั้นสามลงมาที่พื้นแล้วเดินไปกอดคอไอ้ตี้หน้าบูดที่เพิ่งเสร็จจากการซ้อมหลีดให้น้อง โดยมีไอ้จ๊ะเดินมาตามหลัง
“ เจย์ลิน บ้าละ ตอนกูจะไปหาก็บอกว่าไม่ว่าง มาถามกูว่าว่างมากนักหรอ พอตอนกูไม่ไปหา ก็หาว่ากูไม่สนใจ ” ไอ้ตี้กระแทกเสียงใส่ไอโฟนในมือมันก่อนจะนั่งลงตรงแสตนชั้นล่างสุด
“ เจย์ก็เป็นแบบนี้ตั้งนานละ มึงยังไม่ชินอีกอ่อวะ เอาน่า อย่าไปซีเรียส ” ไอ้ฟิลผู้มองโลกในแง่บวกตลอดเวลาเดินเข้ามาตบไหล่มันก่อนจะยกกระติกไปล้างกับไอ้คิม
“ ผู้หญิง ก็แบบนี้แหละ แต่เบลล์ไม่ได้เป็นขนาดนี้ โชคดีที่กูมีแฟนดี โอ๊ย ใครให้พินกูกับไอ้เชี่นเพ้นท์ไปวะ แม่งทักกูทั้งวันหยั่งกะเป็นแฟนกัน รำคาญนะเนี่ย แฟนกูยังไม่ยุ่งกับกูตลอดเวลาขนาดนี้เลย ” ไอ้จ๊ะโวยวาย อ้าววว ใครให้ไปล่ะทีนี้ ฮิ้ววววว
___________________________________________
กว่าจะ ซ้อมบาสกับไอ้น้องบิ๊วเสร็จก็เกือบๆห้าโมง ถึงจะอากซ้อมมันนานกว่านี้แต่สังขารมันไม่ไหวครับ ผมนั่งกินฮาจิบังกับไอ้คิมเบสเฟรนด์ ท่ามกลางหน้าตาบูดๆของไอ้ตี้ที่กำลังทะเลาะกับเจย์ลินอย่างหนัก
“ ตี้มึงหยุดทำหน้าแบบนี้ที กูเห็นและทาโกะกูเปรี้ยว ” ไอ้คิมพูดขึ้นมาระหว่างมองสีหน้าไอ้ตี้ที่กำลังกดไอโฟนมันยิกๆ
“ เออ เค้าติดธุระมาหามึงไม่ได้ก็อย่าไปเซ้าซี้ดิวะมึง เดี๋ยวก็โดนเจย์ด่าเข้าให้ ” ผมเสริมขึ้นมาหลังจากกลืนชาชูเมนลงคอไปอย่างรวดเร็ว
“ กู ก็อยากจะรู้ว่ามาไม่ได้จริงๆหรือมากับคนอื่นแล้วโกหกกู กูเกลียดคนโกหก คนผิดนัดที่สุดพวกมึงก็รู้ เจย์บอกวันนี้ซ้อมดรัม แต่กิ๊ฟเพื่อนกูที่อยู่โรงเรียนเดียวกับเจย์บอกว่าวันนี้ไม่ได้ซ้อม กูถึงไม่ยอมเงียบง่ายๆไง ” ไอ้ตี้ร่ายยาวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆตามฉบับ มึงอย่าเป็นแบบนี้กูกลัว …
“ เออ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปดูหนังสือที่Kino เป็น เพื่อนกูหน่อยดิ กูคิดแบบอินทีเรียผับแอนด์เรสเตอรองที่พี่โต้งให้มาทำเป้นการบ้านไม่ออก ว่าจะไปซื้อหนังสือเดคเคอร์ของฝรั่งมาดูหน่อย ” ไอ้ตี้เงียบไปพักก่อนจะพูดออกมา ซึ่งพวกผมก็พยักหน้าเออออกันไป
“ เห้ย นั่นไอ้ดลนี่หว่า ” ไอ้คิมพูดขึ้นเสียงดังขณะที่รอไอ้ตี้เดินเลือกหนังสือในKino ก่อนจะชี้ไปยังคู่นักเรียนชายในชุดโรงเรียนเดียวกับผม ที่กำลังหยอกล้อกับเด็กสาวโรงเรียนใกล้ๆสยาม
“ มากับคนนี้ที่เคยเห็นวันนี้ที่บ้านหญิงอ่ะ ” ผมพูด
“ สงสัยแฟนแม่งแน่เลย ต้องไปกระจายข่าวหน่อยละว่าไอ้ดลมีแฟนน่ารัก มึงดูดิ ขาว หุ่นดี นางแบบชัดๆ ” ไอ้คิมพูดเสียงหื่นจนผมอดโบกหัวมันไม่ได้
“ เห้ย นั่นของเพื่อนๆ ”
“ มึงคุยอะไรกันอยู่วะ ” ไอ้ตี้ที่หอบนิตยาสารเดคเค่อร์ของมันถามอย่างงงๆ ก่อนจะร้องอ๋อเมื่อเห็นไอ้ดลกับคนที่สันนิฐานว่าเป็นแฟนมันหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
“ อ้าว เซฟ คิม ตี้ มาทำอะไรวะ ไม่ทักกันเลยนะเนี่ย ” เหมือนไอ้ดลจะรู้ตัวว่ามีคนมองอยู่เลยหันมาเจอพวกผมเข้า เอาล่ะสิครับ อายนะเนี่ย โดนเค้าจับได้ว่าแอบดู
“ กูก็มาซื้อหนังสือเป็นเพื่อนไอ้ตี้ไง มาร้านหนังสือจะมาทำอะไร อ่อ หรือพาสาวมาเดทป่ะครับท่านดลวิทย์ ” ไอ้คิมแซวไอ้ดล ส่วนผู้หญิงคนสวยที่มากับมันก็อมยิ้มหน้าแดงเลยครับ
“ เห้ย มึงก็ไปแกล้งเพื่อน เห็นไหมเค้าหน้าแดงหมดละ ไม่รู้เรื่องเลย พวกกูไปละ ไม่อยากเป็นกขค. ป่ะไอ้ตี้ จ่ายตังค์ ” ผมพูดแก้สถานการณ์ก่อนจะพาไอ้คิมออกมาจากตรงนั้น
หลังจากแบงค์สีม่วงๆของไอ้ตี้กระเด็นออกไปจากกระเป๋าก็ได้หนังสือเดคเค่อร์ในถุงกระดาษมาให้ไอ้ตี้ถือ ฮื่อ มันคุ้มกันไหมวะเนี่ย
“ ไปไหนต่อดีวะ ดูหนังกันป่ะ เรื่องนี้เข้าละกูอยากดูมาก ” ไอ้คิมชวนขึ้นมาหลังจากเรามายืนอยู่ตรงบันไดเลื่อนที่ขึ้นไปอีกสองชั้นจะเป็นโรงหนัง
“ เออ น่าสน ไอ้ตี้มึงดูด้วยกันป่ะ ” ผม พยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยก่อนจะหันมาถามไอ้ตี้ที่ยืนเปิดนิตยาสารราคาหูฉี่ นั่นดูด้วยท่าทางแฮปปี้ ไอ้ตี้ก็พยักหน้าเป็นเชิงว่า ก็ไปดิ !
“ เห้ยตี้ไปไหน ” พวกผมเรียกไอ้ตี้เสียงหลง เพราะขณะที่ขึ้นบันไดเลื่อนจากชั้นสามไปชั้นโรงหนังอยู่ดีๆไอ้ตี้ก็วิ่งขึ้นไปก่อนทิ้งผมยืนงงอยู่กับไอ้คิม
“ เจย์ลิน ” ผมตาโตเมื่อเห็นสาวน้อยที่ลงบันไดเลื่อนสวนผมลงไป ผมหันมามองไอ้คิมที่งงอ้าปากหวอไม่ต่างกับผมก่อนที่จะได้สติลากแขนไอ้คิมวิ่งตามไอ้ตี้ไป
“ ไหนบอกว่าซ้อมดรัมไง ” ไอ้ตี้วิ่งสวนลงบันไดมาเร็วปานสายฟ้า ก่อนจะกระชากแขนเจย์ลินไว้
“ โอ๊ย ปล่อย เจย์เจ็บนะ ” เจย์ลินบิดแขนตัวเองออกจากอุ้งมือของไอ้ตี้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ บอกว่าซ้อมดรัมแล้วมาทำเหี้ยไรที่นี่ ” ไอ้ตี้แหกปากขึ้นอย่างไม่อายคนที่เดินผ่านไปผ่านมา หน้ามันตอนนี้นิ่งแบบฆ่าคนได้เลย
“ ก็ถ้าเจย์บอกว่ามาดูหนังกับเพื่อน ตี้จะให้มาไหมล่ะ ” เจย์ลินพูดด้วยสีหน้าเหวี่ยงๆ
“ แล้ว แจน แคท มิ้วก็ซ้อมหลีด ไอ้กิ๊ฟเพื่อนตี้ก็เป็นดรัมสีเดียวกับเจย์มันยังอยู่ซ้อมเลย แล้วเจย์มากับแอนเนี่ยนะ ถ้าจะมาดูหนังทำไมไม่บอกว่าจะมาดูหนังกับเพื่อน โกหกตี้ทำไมว่าซ้อมดรัม ” ไอ้ตี้กำต้นแขนภายใจ้เสื้อนักเรียนแขนยาวของเจย์ลินแน่นจนเธอน้ำตาไหล
“ นี่ เลิกบ้าซักทีเหอะ ” แอนที่มากับเจย์ลินเดินเข้ามาผลักไอ้ตี้จนเซออกมา แล้วดึงตัวเจย์ลินเข้ามากอดปลอบ
“ แอนไม่เสือกซักเรื่องได้ป้ะ ” ไอ้ตี้ตะคอกพลางจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง
“ ตี้เป็นแบบนี้เพราะยัยกิ๊ฟฟ้องอะไรตี้อีกล่ะ ” เจย์ลินพูดออกมาทั้งน้ำตา
“ มันไม่เกี่ยวกับกิ๊ฟหรอก ”
“ ทำไมจะไม่เกี่ยว เจย์กับกิ๊ฟไม่ถูกกันตี้ก็รู้ ”
“ แต่กิ๊ฟก็ไม่เคยว่าอะไรเจย์ ” ผม หันไปมองตี้ที เจย์ลินที นี่เมื่อกี้มึงสองคนเถียงกันเรื่องมาดูหนังไม่ใช่หรอวะ ไปๆมาๆทำไมดึงกิ๊ฟมาเกี่ยว ? อ่อ เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง กิ๊ฟที่ว่าคือเพื่อนผู้หญิงของไอ้ตี้ อยู่โรงเรียนเดียวกับเจย์ลิน ไอ้ตี้กับกิ๊ฟสนิทกันมากเพราะแม่ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่ไอ้ตี้กับ กิ๊ฟอยู่ป.1 แต่กิ๊ฟกับเจย์ลินเป็นอะไรที่ไม่ถูกกันมาตั้งแต่เด็กเช่นกัน
“ ก็ต่อหน้าตี้มันไม่ว่าเจย์ไง รู้บ้างรึเปล่าว่าตอนตี้ขอคบเจย์ยัยกิ๊ฟร้องไห้จนเหมือนคนบ้า โอ๊ย ” เจย์ ลินตั้งหน้าตั้งตาเถียงฉอดๆ ไม่ได้ดูคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก่อนที่ผมหางม้าที่ย้อมสีน้ำตาลอ่อนดัดเป็นลอนๆของเธอจะถูกมือขาวๆของคนที่ มาใหม่ดึง
“ พูดอะไรหรอเจย์ลิน ” เสียงหวานที่คุ้นเคยมาพร้อมกับสาวตากลม ผิวขาว แก้มอมชมพูที่โผล่มาข้างๆเจย์ลิน ทั้งที่มือของเธอยังกำผมหางม้าของเจย์ลินอยู่
“ กิ๊ฟ มึงทำไร ปล่อยแฟนกู ” ไอ้ตี้วิ่งเข้าไปดึงกิ๊ฟออกมา แต่ก็โดนผลักจนเกือบล้ม โอ้โห ความโมโหของผู้หญิงนี่มันช่างมีอานุภาพร้ายแรงจริงๆ อาเมนท์ ….
“ ทำไม แกกลัวตี้รู้หรือไง ว่าแกแอบชอบเพื่อนตัวเอง แอบชอบมาตั้งเป็นเด็กแล้ว ” เจย์ลินกรี๊ดออกมาเสียงดัง แอนวิ่งจะเข้ามาช่วยแต่ก็โดนกิ๊ฟผลักอออกไป โอย ตาลาย ชุลมุนอะไรขนาดนี้
“ กิ๊ฟ ใจเย็นๆเว่ย แกปล่อยเจย์ลินก่อนนะ แอนอย่าทำอะไรให้มันยุ่งไปมากกว่านี้ได้ป่ะ ช่วยยืนเฉยๆถ้าจะทำให้กันได้ ” ผมพูดกับกิ๊ฟอย่างใจเย็น ก่อนะจะหะนไปเสียงดังใส่แอนที่กำลังจะเข้ามาทำร้ายกิ๊ฟเพื่อช่วยเจย์ลิน
กิ๊ฟ หน้าแดงมาก ไม่รู้เพราะอายหรือโกรธก็เดินแยกออกมาอยู่อึกฝั่งหนึ่ง ส่วนเจย์ลินก็สะอึกสะอื้นร้องไห้โดยมีแอนปลอบอยู่ ส่วนไอ้ตี้รับยาดมจากไอ้คิมมาดมด้วยความปวดหัว
“ กิ๊ฟ มึง เจย์ โอ๊ย ไอ่เหี้ยเอ๊ย กูไม่รู้จะพูดอะไร ” ไอ้ตี้วะบัดหน้าไปมาด้วยความสับสน ไอ้แต่มองหน้าเจย์ลินที มองหน้ากิ๊ฟที
“ กิ๊ฟ อยากกลับบ้านก่อนไหม เดี๋ยวเซฟไปส่งที่บีทีเอส ” ผมเอ่ยอย่างนุ่มนวลพร้อมจับแตะไหล่กิ๊ฟเบาๆ
“ อือ ตี้ กูไม่มีอะไรจะพูด ไม่ขออะไรมาก แค่ ….. อย่าเกลียดกูก็พอ ” กิ๊ฟ ตอบรับผมด้วยเสียงอือในลำคอ ก่อนจะหันไปพูดกับไอ้ตี้ทั้งน้ำตาก่อนจะเดินไปกับผม ระหว่างทางผมกับกิ๊ฟไม่ได้พูดอะไรกับเพราะเธอเอาแต่ร้องไห้ พูดจริงๆว่าสงสารเธอมาก
“ กิ๊ฟอย่าร้องไห้ดิ ร้องไห้มากเดี๋ยวตาบวมไม่สวยน้า เช็ดหน้าก่อน ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงแจ่มใสก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าของผมให้เธอเช็ดหน้า
“ รู้สึกแย่อ่ะเซฟ กิ๊ฟกลัวตี้เกลียดกิ๊ฟ กิ๊ฟแคร์ตี้มากนะเซฟ กิ๊ฟไม่บอกตี้เพราะกลัวตี้จะไม่เหมือนเดิม ” เธอโผกอดผมแล้วร้องไห้ใหญ่ โอย เกลียดน้ำตาผู้หญิงที่สุดในชีวิตเลย เพราะเวลาผู้หญิงร้องไห้นี่มัน ยากจะหยุดจริงๆ
“ ไม่เกลียดหรอกกิ๊ฟ กิ๊ฟกับมันคบกันมาตั้งหลายปี มันจะเกลียดกิ๊ฟเพราะเรื่องแค่นี้ เซฟจะหนวกแม่งให้เอง หยุดร้องได้แล้วเว่ย ” ผมยิ้มให้ก่อนจะเดินไปส่งกิ๊ฟที่บีทีเอสก่อนจะเดินกลับไปหาพวกไอ้ตี้ที่ร้าน มอส เบอร์เกอร์
“ อ้าว เจย์อ่ะ ? ” ผมถามเมื่อเห็นไอ้คิมนั่งอยู่กับไอ้ตี้แค่สองคน ไร้เงาของเจย์ลินกับแอน
“ กูไล่กลับไปละ ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย โมโหเรื่องหลอกกูก็โมโห แถมยังทำไอ้กิ๊ฟร้องไห้อีก ” ไอ้ตี้พูดอย่างเซ็งๆแล้วคว้าแก้วโค้กมาดูด
“ กูไม่รู้จะพูดอะไรกับเจย์ลิน และแอน ทั้งสองคนดูเป็นคนแบบ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ” ไอ้คิมพูดขณะที่มันยังคงเปิดดูนิตยาสารเกี่ยวกับรถอยู่
“ อย่าไปพูดถึงแม่งเลยกูรำคาญ อ้าวดล มายังไงวะเนี่ย ” ไอ้ตี้พูดอย่างเหวี่ยงๆก่อนจะตาโตเมื่อเห็นคนมาใหม่
“ อ้าวไอ้ดล แฟนมึงไปไหนแล้วล่ะ ” ผมทักก่อนจะขับเข้าไปนั่งข้างในเพื่อให้มันนั่งที่ว่างข้างผม
“ บ้า แฟนที่ไหน นั่นเฟิร์นเพื่อนกู ” มันแก้ตัวแล้วหัวเราะออกมา ก่อนจะมาฉกแก้วโค๊กของผมไปกินหน้าตาเฉย สงสัยจะแก้แค้นเรื่องผมไปกินนมเปรี้ยวของพี่โด้ฟรี
“ เพื่อนจริงหรอว๊า ” ไอ้คิมถามอย่างสนอกสนใจ แหม่ะ รู้ทันหรอกครับ ไอ้คิมน่ะปิ๊งเฟิร์นเพื่อนไอ้ดลเข้าซะแล้วแหละ
“ เออ จริงดิวะ กูจะโกหกทำไมไม่ใช่คนแบบนั้น ถามทำไม ชอบเฟิร์นหรอ ติดต่อให้ป่ะ ฮ่าๆๆ ” ไอ้ดลถามอย่างอารมณ์ดี
“ ก็จะดีมากถ้าพี่ดลจะกรุณา ” ไอ้คิมยิ้มกว้างแล้วทำเป็นมาบีบๆนวดๆให้ไอ้ดล
“ ถ้าน้องคิมอยากได้ พี่ก็จะจัดให้ ”
_______________________________________________
โชคดี มากมายที่มีเพื่อนอย่างไอ้คิม เพราะหลังจากไอ้ตี้เริ่มหงุดหงิดจนทนไม่ไหวเลยกลับบ้านไปตอนทุ่มครึ่งแล้ว มันก็กลับไปพร้อมไอ้ตี้ทิ้งผมไว้กับไอ้ดลสองคน ซึ่งไอ้ท่านประธานรุ่นก็ลากผมเข้าไปเดินซุปเปอร์ในพารากอนเพื่อไปซื้อนม เปรี้ยวคืนพี่โด้
“ เห้ย ได้นมแล้วกก็ไปจ่ายเงินดิ๊ มึงจะไปไหน ” ผมดึงหลังเสื้อมันไว้เมื่อมันหยิบนมเปรี้ยวแล้วเดินเข้าไปอีก
“ โฟมล้างหน้า โรลออนและโคโลญจ์กูหมด เข้าไปซื้อเป็นเพื่อนหน่อย ” มันว่าแล้วก็เดินเข้าไป สรุปว่าผมก็ต้องเดินตามอยู่ดี
หลังจาก เดินไปซื้อโฟมล้างหน้า โรลออน โคโลญจ์เสร็จแล้ว มันก็ลากผมขึ้นไปซื้อหมึกเติมเครื่องปริ้นเป็นเพื่อนอีก ทำเหมือนกูเป็นเมียมึงเลยเนอะดล - -
“ คุณหนูดลจะไปซื้ออะไรอีกไหมครับเนี่ย นี่จะสี่ทุ่มละนะครับ กูก็ลูกมีพ่อมีแม่นะครับ กลับดึกไปเดี๋ยวกูจะโดนเทศน์กัณฑ์ใหญ่ ” ผมบ่นอย่างเซ็งๆขณะที่เดินออกมาจากร้านไอทีชั้นสามพารากอน
“ อ้าว พูดแบบนี้ กูก็มีพ่อมีแม่เหมือนกันนะเนี่ย โอ๋เอ๋ๆ เสร็จละเว่ย โทษทีเดี๋ยวกูไปส่งมึงเอง ” มันว่าก่อนจะรวบถุงที่ฝากผมถือไว้แล้วเดินนำลิ่วๆไปที่ลานจอดรถ
“ ดล มึงใส่ชุดนักเรียนแล้วเอารถมาได้ไง ” ผมดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดแล้วหันไปถามมัน มันยิ้มๆก่อนจะตอบว่า
“ กูเก่ง ” เอ่อะ ! ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่ทำปากเป็ดใส่มัน
“ ฮ่าๆๆ ไอ้ประธานเป็ด กูล้อเล่น ก็ใส่เสื้อคลุมทับ แค่นั้นเอง หน้ากูแก่ สบายอยู่แล้ว ” มันหัวเราะออกมาแล้วเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อคลุมกันหนาวมาสองตัวแล้วโยนให้ผมใส่ตัวนึง
“ เซฟนี่มันวันธรรมดาทำไมเธอกลับดึกขนาดนี้ แล้วนี่กลับมายังไงเนี่ย ” หม่าม๊าผมเดินออกมาเปิดประตูให้พร้อมกับบ่นเสียงแหลมตามสไตลล์แก
“ เอ่อออ ไปซื้อของทำรายงานกับเพื่อนอ่ะม๊า แล้ววันนี้ซ้อมกีฬาให้น้องด้วยเลยมาช้า ”
“ สวัสดีครับคุณแม่ ” ผมอ้าปากค้างมองไอ้คิ้วเข้มตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ นี่มึงเป็นลูกแม่กูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ไอ่ห่า !
“ สวัสดีจ้ะลูก ใจดีจังอุตส่าห์จับรถมาส่งเซฟถึงบ้าน เข้ามากินน้ำกินท่าในบ้านก่อนมาลูก จะได้หายเหนื่อย มาๆๆ ” ม๊า - - เห็น คนหล่อไม่ได้เลยนะ ลืมลูกตัวเองเลย ผมว่าผมรู้แล้วแหละว่าเจ๊ซอลลี่ได้เชื้อใครมา ผมได้แต่แบกเป้เดินตามหม่าม๊าที่จูงไอ้ดลเข้าบ้านไป
“ ม๊า กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ” เจ๊ซอลลี่ผีเข้าอีกตามเคยหลังจากเห็นม๊าพาไอ้ดลเข้าบ้าน มันก็วิ่งกรี๊ดขึ้นไปชั้นสองเลย
“ เซฟ ไปเอาน้ำเอาขนมมาให้เพื่อนสิ เค้าอุตส่าห์มาส่ง ว่าแต่ หนูชื่ออะไรคะลูก ” ม๊าจัดแจงไล่ผมไปเอาน้ำมาให้ไอ้ดลกินก่อนจะหันไปคุยกับมันอย่างสนุกสนาน ดีไหมล่ะหม่าม๊าผม
“ อ่อ ผมชื่อดลครับ ” ไอ้ดลตอบพลางยิ้มอบอุ่นให้แม่ผมตามสไตลล์มัน
“ ดลมีใบขับขี่แล้วหรอลูกถึงได้ขับมาส่งตาเซฟได้ ” หม่าม๊าถามด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุนก่อนจะหยิบแก้วน้ำจากมือผมไปส่งให้ไอ้ดล
“ ก็ ฮ่าๆ ยังหรอกครับ แต่ผมขับรถมาตั้งแต่สมัยมอสี่มอห้าแล้ว หน้าก็แก่ด้วย เลยไม่มีปัญหาเรื่องไปชนชาวบ้านเค้า ” มันตอบแล้วยิ้มๆตามสไตลล์ มุกทำมาหากินมึงเลยนะไอ้รอยยิ้มอบอุ่นเนี่ย
“ ดี แล้วลูก เห็นไหมตาเซฟ เพื่อนเค้าก็อายุเท่าเราเค้ายังรูจักขับรถออกไปเอง เรานี่มัวแต่บ้าบออยู่กับฟิกเกียร์คันละหลายๆหมื่น ขับรถมันสะดวกกว่าแล้วก็ปลอดภัยกว่าอีก ” อ้าว โดนผมซะงั้น
“ คุณแม่ครับ นี่ก็ดึกแล้ว งั้นดลขอตัวกลับก่อนนะครับ เดี่ยวทางบ้านจะเป็นห่วงเอา ” มันยกนาฬิกาข้อมือราคาเกือบหมื่นของมันขึ้นมาดูแล้วเอ่ยลาแม่ผม
“ เออ ใช่ๆแม่ลืมดูเวลาไปเลย จ้ะ งั้นก็กลับบ้านดีๆนะลูก ว่างๆก็มานอนเล่นบ้านเซฟได้ ตาเซฟออกไปส่งเพื่อนหน่อยไปลูก ”
“ ขับรถระวังๆ กลับดีๆละกันนะมึง ” ผมพูดกับมันหลังจากส่งไอ้ดลขึ้นรถแล้ว
“ อือ เจอกันพรุ่งนี้นะเว่ย ” มันยิ้มรับก่อนจะขับรถออกไปในความมืด
TBC.
ความคิดเห็น