คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ◆ how to 18 : color of life
จ๊ะ : มีมึงอยู่ในชีิวิตนี่ก็ดีเหมือนกันนะ
ผมหอบเป็นหมาอยู่บนลู่วิ่งไปฟ้าในฟิตเนต ถึงเค้าจะเปิดแอร์ให้พอไม่ร้อน แต่ตอนนี้เงื่อท่วมไปทั้งตัวเลยครับ วันนี้หลังจากเราเลิกเรียนแล้ว ไอ้เซฟก็เกิดความคิดอันมีสาระของมันขึ้นมาว่าวันนี้เราควรจะมาฟิตเนตกันบ้าง หลังจากร้างลาไปจีบสาว ติดเมียกันจนพุงเริ่มออกกันหมดแล้ว ซิ่งก็เป็นความคิดที่ดีทีเดียวเพราะสามารถยกทั้งแก๊งค์เรามาได้ เว้นแต่ไอ้ตี้ที่ต้องไปเรียนวาดรูปถึงวังหลัง
แต่ก็ไม่ค่อยขาดสีสันเท่าไหร่ เพราะมีไอ้ดลและไอ้กุมารดำ เอ่ออ ไอ้เพ้นท์น่ะครับ ที่พวกเราก็เพิ่งรู้ว่ามันสมัครสมาชิกไว้ที่สาขา Q HOUSE เหมือนกับเรามาเล่นด้วยกัน
“ ไม่น่าหยุดไปตั้งเดือนนึงเลยว่ะ กูยกบาร์เบล 10 กิโลไม่ค่อยไหวแล้ว ” ไอ้เซฟที่กำลังนอนยกบาร์เบล 10kg อยู่บ่นด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อย
“ บ่นเยอะนะหนูเซฟ ยกไปเหอะบาร์เบลของมึงอ่ะ เดี๋ยวนี้กินไอติมเยอะ ต้องเบิร์นนะครับเดี๋ยวกลายเป็นช้างก่อนได้เมีย ” ไอ้คิมที่กำลังฟิตกล้ามหลังส่งเสียงแซว
“ โห่ แค่นี้ก็หอบละ อ่อนว่ะ ” ไอ้เพ้นท์ที่เพิ่งออกจากห้องซาวน่าเดินมายืนกวนผมอยู่ข้างๆ โห่ ใครจะไปเชื่อว่าไอ้เพ้นท์หุ่นดีขนาดนี้ ซิกแพกซ์มันขึ้นครบ 6 แพกซ์เลยครับ แถมมี V shape ชัดๆอีกต่างหาก
“ มึงเก่งตายล่ะ เห็นยกบาร์ได้แปปเดียวก็หนีเข้าห้องซาวน่า ” ผมกวนกลับ รู้สึกว่าตั้งแต่มารู้จักกับไอ้เพ้นท์จริงๆจังๆมันเป้นคนที่น่าคบมากคนนึงเลยล่ะครับ ถ้าไม่ติดว่ามันชอบหอมแก้มผม ถ้าไม่เคยเห็นความเจ้าชู้ของมันเวลาเจอผู้หญิงเยอะๆ นี่ผมคงคิดว่ามันเป็นเกย์ไปแล้ว
“ มึงเหงื่อออกหมดตัวละมั้งน่ะ พักก่อนมา ” ซึ่งผมก็คิดว่าดีเหมือนกัน ก่อนจะรับขวดเกลือแร่ที่มันส่งให้เปิดจิบนิดนึง
“ นี่มันเกลือแร่ที่ฉันชงเองนะพี่ชาย ทำไมพี่ชายไม่เอามาให้คิมบ้างน่ะ ” ไอ้คิมแซว ปากนะปาก ไม่สงสัยเลยทำไมเพื่อนผมคนนี้หาแฟนไม่ได้
“ พี่ไม่เข้าใจฉันเลยน่ะ ฉันหยิบมาขวดเดียว ” เอิ่มมม ผมกัดหลอดสปอนเซอร์ค้างไว้แล้วหันไปมองหน้าไอ้คนตอบ สาบานว่านี่คือคำพูดของมึง กุมารดำ
“ เห่ยอะไรอ่ะ ทำไมมีกูไม่ได้สปอนเซอร์อยู่คนเดียว ไอ้ดลก็เอามาให้ไอ้เซฟ ฟิลเพื่อนรัก มึงไม่หวานเลี่ยนอย่างที่กูรู้สึกบ้างหรอ ไม่ใช่คู่รักแถวนี้หรอก กูหมายถึงสปอร์นเซอร์อ่ะ ” ไอ้คิมมองไปรอบตัวแล้วโวยวาย ก่อนจะแอบกัดพวกผมคนละนิด ขี้อิจฉาจริงไอ้ห่านี่
“ ขี้อิจฉาว่ะ ” ไอ้เซฟพูด เอาจริงๆผมก็สัมผัสได้นะว่าเดี๋ยวนี้ไอ้เซฟกับไอ้ดลมันสนิทกันมากจริงๆ อยู่โรงเรียนเดียวกันมาสิบเอ็ดปีก็ไม่เคยเห็นขนาดนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะมันทำงานด้วยกันบ่อยก็ได้ และพวกผมก็ไม่รังเกียจเลยถ้าไอ้ดลจะมาเป็นเพื่อนกัน เพราะมันเป็นคนดี และนิสัยดีมากจริงๆ
_____________________________________________
หลังจากนั้นสองชั่วโมง แต่ละคนบ้าพลังกันจนจนหมดแรงแล้ว พวกเราก็แยกย้ายร่างกายออกมาจากฟิสเนตด้วยความหิวเหมือนคนไม่ได้กินข้าวมาสามวัน (เว่ออ) และมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าตอนนี้ต้องการอาหารอร่อยๆที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ไม่งั้นคงได้มีใครเป็นลมตายกันอย่างแน่นอน
“ กินสเต๊กสามย่าน ” ความคิดของไอ้กุมารดำ เพราะมันบอกว่าร้านอยู่แค่ตลาดสามย่านนี่เอง ไปถึงเร็ว และอาหารก็ได้เร็ว
ปรากฏว่าถึงร้านเร็ว และอาหารก็ได้เร็วอย่างที่ไอ้เพ้นท์มันว่าจริงๆครับ คือมองจานแล้วผมสตั้นไปยี่สิบวิว่าจานนึงสี่คนจะหมดไหม เพราะจานที่วางอยู่ข้างหน้าผมประกอบด้วยกองหมู ไก่ ไส้กรอก กุ้งชุบแป้ง เบคอน เนื้อ ยังไม่รวมส่วนของสลัด และเฟรนช์ฟรายอีกกอง ทั้งขนมปังปิ้งอีก2แผ่น ขอย้ำนะครับว่าแม่งเป็นกองๆอยู่ในจานเดียวกัน ให้ทายว่าจานนี้ของใคร
“ เพ้นท์ มึงกะจะแดกมื้อนี้แล้วอดข้าวอีกสามเดือนรึเปล่าวะ ” ไอ้เซฟมองก่อนจะกระพริบตาปริบๆทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากสเต๊กมหาประลัยจานนั้น
“ มันไม่เยอะเลยมึง แปปเดียว เดี๋ยวก็หมดแล้ว นี่กูก็สั่งมาเผื่อพวกมึงด้วยไง จะได้ช่วยกันกิน ” ไอ้กุมารดำตอบ ก่อนจะจิ้มไส้กรอกมาจ่อที่ปากผม ซึ่งวินาทีนี้ไม่ปฎิเสธครับ หิวมากจริงๆ แต่ถ้าปกติรับรองว่ามันจะไม่ได้ป้อนผมแบบนี้หรอก
“ เห้ยๆ นั่นเจย์ลินแฟนไอ้ตี้ป่ะวะ ” ไอ้คิมทักขึ้นมาก่อนจะชี้ต่ำๆไปให้เรามองเจย์ลินกะเพื่อนสาวของเธอ ผมจำได้ว่าชื่อแอน พวกผมสะดุ้งกันเป็นแถบ เหมือนเจย์ลินจะมีญาณทิพย์ว่ามีคนมองอยู่ เธอหันมาพอดีก่อนจะโบกมือให้เราเป็นการทักทาย เห็นน่ารักๆแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าบทจะร้ายจะทำไอ้ตี้ปวดหัวได้ขนาดนั้น
“ มึง อย่าหาว่ากูอกุศลเลยนะ แต่พวกมึงไม่รู้สึกแปลกๆบ้างหรอวะ เจย์ลินกะแอนอ่ะ ” ไอ้คิมพูดขึ้นมาหลังจากสเต๊กของมันหมดไปแล้ว พวกผมเงยหน้ามองหน้ากันแบบงงๆ
“ ก็พวกมึงไม่รู้สึกหรอวะ ว่าเพื่อนอะไรทำไมมันตัวติดกันขนาดนี้ ” ไอ้คิมพูด อือ ก็ถูกของมันอ่ะ แต่เค้าเป็นเพื่อนสนิทกันนะ ผู้หญิงมีอะไรที่ผู้ชายอย่างเราๆไม่เข้าใจเยอะจะตายไป ขืนเก็บเรื่องทุกเรื่องของผู้หญิงมาคิด ผมคงได้ตายตั้งแต่ยังไม่มีหลานให้คุณแม่อุ้มแหง
“ ไอ่รุ้สึกมันก็รู้สึก แต่ผู้หญิงเค้าก็ชอบอยู่กะเพื่อนสนิทกันตลอดเวลาอยู่แล้วไม่ใช่อ่อ ” ไอ้ฟิลพูดขึ้นมาบ้าง ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมันนะ
“ มึง แต่นี่มันถึงเนื้อถึงตัวเลยนะเว่ย แตะตัวกันตลอดเวลา กอดกัน กูพนันเลยว่าไอ้ตี้แม่งไม่เคยทำถึงขนาดนี้ ” ไอ้คิมเถียงพลางสังเกตเจย์ลินกะแอนที่ตอนนี้เจย์ลินป้อนเฟรนซ์ฟรายให้แอนอยู่
“ แม่งทำยิ่งกว่านี้ล่ะไม่ว่า กูเห็นรอยมดกัดที่คอมันเมื่อวันก่อน แถมคืนนั้นเจย์ยังไปนอนบ้านตี้มาอีก มึงคิดว่าเพื่อนเรามันใช่เล่นไหมล่ะ ” ผมแก้ให้ จะเรียกว่าแก้ดีไหม เรียกว่าบอกเท่าที่รู้ดีกว่า ถึงเจย์ลินจะเป็นผู้หญิง แต่ไอ้ตี้เป็นเพื่อนผม คงไม่ต้องคิดกันให้มากว่าผมจะเข้าข้างใคร จริงไหม
“ อยากทำบ้างป่ะล่ะ ไอ้รอยมดกัดเนี่ย ” เสียงหื่นๆแบบนี้ ให้ทายว่าใครถามผม
“ ไม่ต้อง มีแล้ว ” ผมยักคิ้วกวนๆให้ไอ้เพ้นท์ ทำเอามันหน้าเหวอเลย หึหึ
________________________________________________________
หลังจากกินเสร็จ ไอ้เพ้นท์ที่เอารถมาก็ขับมาส่งพวกเราที่สยาม โดยไอ้เซฟ ไอ้ดล ไอ้คิม และไอ้ฟิล เดินขึ้นบีทีเอสกลับบ้านไปแล้ว เพราะบ้านพวกแม่งไปทางสายสีลม ไอ้เซฟอยู่ช่องนนทรี ไอ้ดลอยู่เจริญกรุง ไอ้คิมอยู่สี่พระยา ส่วนไอ้ฟิลอยู่ฝั่งธน เหลือผมที่ตอนนี้เดินเล่นดูน้ำหอมอยู่ในพารากอนกับไอ้เพ้นท์
“ จะซื้อหรอ ” มันถามขึ้นมาระหว่างผมกำลังยกขวดน้ำหอมยี่ห้อดังขึ้นมาเทสต์ แต่ผมก็ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ ดีแล้ว มึงไม่ต้องฉีดน้ำหอมหรอก กลิ่นมึงจริงๆมีเสน่ห์จะตาย ” ไอ้กุมารดำก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผม เชี่ย สยิว ><
“ เลิกใช้สารส้มดิ จะได้ตัวหอมเหมือนกู” ผมทำหน้าตายกลบเกลื่อน ก่อนจะเดินออกมาอีกทางนึง พูดเลยครับ ว่าเกิดมาเพิ่งเคยเขินผู้ชายด้วยกันครั้งแรกในชีวิต
สุดท้ายเมื่อผมเดินไปเดินมา ไม่มีอะไรทำแต่ก็ยังไม่กลับซักที ไอ้คนเผด็จการณ์เลยลากผมมาดูหนังรอบสามทุ่มกว่า ถามว่าอยากดูไหมก็ไม่นะ แต่จะกลับบ้านไปตอนนี้ก็ขี้เกียจ ขอขยับตัวย่อยสเต๊กจานเท่าโอ่งที่กินมาเมื่อกี้ก่อนละกัน
ผมนั่งฮาจนซิกแพกซ์แทบขึ้นกับหนังไทยรายได้สูงสุดในตอนนี้ ทีแรกกะจะดูหนังดราม่า แต่ไอ้เพ้นท์บังคับให้ดูเรื่องนี้ เพราะมันบอกว่าหัวเราะเยอะๆปอดจะได้แข็งแรง เกี่ยวป่ะ ? เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ แต่มันก็ลากผมมาดูจนได้
“ เห้ย ตื่นได้ละขี้เซา น้ำลายหยดใส่กูป่ะเนี่ย ” ถึงหนังจะสนุกแค่ไหน แต่ด้วยพลังที่ผมใช้ไปหมดแล้วสำหรับวันนี้ก็ทำให้ผมหลับคาโรงหนังได้อยู่ดี ผมยกหัวที่พิงแขนไอ้เพ้นท์ขึ้นอย่างขี้เกียจๆ
“ นอนในโรงเลยได้มะ แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยไปโรงเรียน ” ผมบ่น ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียดด้วยความเมื่อย
“ นอนคอนโดกูไหมล่ะ อยู่ราชเทวีนี่เอง ” มันชวน หึ นอนคอนโดมันอ่ะหรอ ไม่มีทาง เห็นผมเป็นแบบนี้ ผมไม่ง่ายนะครับบ
“ รู้นะคิดอะไรอยู่ อย่าแม้แต่คิดครับ ” ผมยักคิ้วให้มันแล้วเราก็พากันเดินออกมาจากโรง ทีแรกผมจะนั่งบีทีเอสกลับเอง แล้วเดี๋ยวค่อยนั่งมอไซค์เข้าบ้าน แต่ไอ้เพ้นท์ ซึ่งแม่งก็เยอะเกิ๊น บอกว่าเป็นผู้ชายหน้าแบบนี้นั่งมอไซค์เข้าบ้านดึกๆป่านนี้ (สี่ทุ่มครึ่งเองนะ) มันไม่ดี อันตรายมาก แถมแม่งแช่งอีกว่าถ้าไม่ให้ไปส่ง ขอให้มีผัวแว๊นภายในคืนนี้ มีเมียก๊อยยังพอไหว เชี่ยย แล้วใครจะกล้าไปล่ะครับ
ชีวิตที่มึงมึง ก็สนุกดีเหมือนกันนะ : )
ความคิดเห็น