คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : ◆ how to 34 : one of the kind of people who like you , Am I ?
“ มึงกินเร็วๆได้ไหมล่ะสัด นี่มันจะเจ็ดโมงครึ่งแล้วนะ !!! ”
ผมโวยวายใส่ไอ้คุณชายที่กำลังพยามยัดข้ามต้มปลาร้อนๆเข้าปาก เห็นแล้วก็อดสงสารมันไม่ได้ สุดท้ายเลยบอกให้มันกินแบบตามสบาย วันนี้ผมมากินข้าวเช้ากับไอ้ดลครับ เพราะตอนกำลังออกจากบ้านมันไลน์มาชวน แล้วผมก็หิวพอดี และหม่าม๊าและแม่นางซอลลี่ก็ไม่ได้ทำอะไรไว้ให้กินเลย เลยตอบตกลงไป
“ อื้อๆ พี่ครับเก็บตังเลยครับ ” ไอ้ดลวางช้อนก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม เหงื่อเต็มไรผม เต็มหน้าหล่อๆของมันเต็มไปหมด แถมปากมันยังแดงจัดเป็นสีแอปเปิ้ลด้วยความร้อนของข้าวต้มที่มันรีบซด ดลกูขอโต๊ดดดด TT
“ มึงกินต่อให้หมดเหอะ เอาตามสบายกุไม่รีบๆ ” ผมรีบพูดเมื่อมองข้าวต้มที่แสนน่ากิน ถูกทิ้งไว้เกินครึ่งอยู่ในชาม มันน่าเสียดาย
“ ไม่อ่ะ เดี๋ยวเซฟไปเรียนไม่ทัน อีกอย่างกูไม่ค่อยชอบกินไรร้อนๆด้วย ” มันพูดพลางยิ้มให้ มึงหยุดยิ้มซักทีได้ไหมมม กูหลง !
“ อ้าวทำไมไม่บอกแต่แรกว่าไม่กินของร้อนวะ ” ผมถาม ก็มันไม่บอกอะไรเลยนี่ครับ แค่ถามว่าผมอยากกินไร แล้วก็บอกว่าตามใจผม
“ ก็เซฟอยากกินนี่ ”
คำตอบของมันทำเอาผมยิ้มออกมาคุมตัวเองไม่ได้ ก่อนจะหยิบกระเป๋านักเรียนตัวเองแล้วเดินออกไปยืนรอมันหน้าร้าน เดี๋ยวมันเห็นว่ายิ้มแล้วมันได้ใจ หรือได้ไปแล้ววะ ><
“ เซฟยิ้มอะไรอ่ะเมื่อกี้ ” หลังจากไอ้คนตัวสูงมันจ่ายค่าข้ามต้มแล้ว มันก็เดินมาหาผม พร้อมกับคำถามที่เกือบทำเอาข้าวต้มที่ผมกินเข้าไปแทบพุ่ง เอ่าไอ่สัดด ยังอุตส่าห์เห็นอีก
“ ไม่ได้ยิ้ม ข้าวติดฟัน ” ผมโกหกไปด้วยเหตุผลที่โคตรอุบาท ก็เพิ่งคิดได้เมื่อกี้อ่ะครับ แหะๆ
“ โห เซฟ มึงสกปรกว่ะ ” ไอ้ดลทำหน้ารังเกียจ ก่อนจะผลักหัวผมเล่นเบาๆ
“ นี่ๆๆๆ ” ผมแกล้งมันด้วยการเขย่งตัวขึ้นไปยิงฟันเหล็กของผมใส่หน้าไอ้คุณชายดล แต่ก็เป็นการลำบากครับ เพราะมันสูงชิบหายย (ตั้ง185แน่ะ อิจฉา!) แล้วผมก็เกือบเสียหลักเมื่อจู่ๆ หน้าหล่อๆนั่นก็ก้มมาหาผมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว จนจมูกโด่งคมนั่นฉียดจมูกผมไปเบาๆ
“ ไอ่เชี่ยดลลล ” ผมชกต้นแขนมันไปเบาๆทีนึง ก็ดูมันเล่นสิครับ ทำเอาผมตกใจหมด
“ อ้าว ทำไม กูยังไม่ทำไรเล๊ยย ” มันลอยหน้าลอยตาพูดขณะเรากำลังเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยกัน ถึงตอนนี้จะเลยเวลาเข้าแล้วก็เหอะ แต่ไอ้คนหล่อมันดันใช้เส้นเด็กสภานักเรียนพาผมเข้าไปได้แบบไม่โดนด่า ไม่โดนกักตัวเลยซักนิด แหม่ะ เป็นเด็กสภานี่มันสบายแบบนี้นี่เอง
“ วี๊ววิ๊ววว ผัวเมียมาด้วยกันอีกแล้วว หลักฐานฟ้องขนาดนี้ยังจะมาปากแข็งอีก โด่ววว ” หมาพันธุ์อะไรก็ตามที่ไอ้คิมเลี้ยงไว้ในปากกระโจนออกมาทักทายผมทันทีเมื่อผมเดินเข้าห้องเรียนมา ส่วนไอ้ดลก็แยกย้ายไปเข้าห้องเรียนมัน
“ พอๆ หาเมียไม่ได้ อย่าไปอิจฉาเค้าๆ ” ไอ้จ๊ะเพื่อนรักแก้ให้ผมทำเอาไอ้คิมหน้าบูด ช่วงนี้ไอ้คิมชอบบ่นเหงาครับ เหงาบ้าบออะไรของมันวะ เห็นผู้หญิงมาเม้นเฟสไม่ซ้ำหน้า ส่วนไอ้จ๊ะก็ชีวิตดีแฮปปี้ขึ้น มันดูดีกว่าวันที่เลิกกับเจ้เบลล์แรกๆ แต่ก็ดูหงอยไปกว่าเมื่อก่อนมาก
“ เชี่ยจ๊ะ ทับถมกูได้ตามสบายเลยครับบบ ตอกย้ำคนเหงามันเข้าไป ” ไอ้คิมทำเป็นงอแง ซึ่งก็โดนไอ้จ๊ะเอาไม้บรรทัดพลาสติกที่มันหยิบมาจากโต๊ะไอ้ตี้แกล้งตีปากมันไปทีนึง
“ สัด อย่าตอแหล เห็นเมื่อเช้ามีคนมาฟ้องกูว่ามึงขึ้นบีทีเอสมากะเด็กเตรียม ” ไอ้ฟิลมาสมทบ รุมแกล้งใครไม่สนุกเท่ารุมแกล้งไอ้คิมครับ มันชอบพยามสู้ แต่สู้ไม่ได้ตลอด ฮ่าๆ
“ เมื่อวานเห็นเดินสยามอยู่กับคอนแวนต์ ขาวสวยหมวยเอ็กซ์อึ๋มมาก ชอบบ่นเหงาๆ เหงาหรือ เ-ยน ” ไอ้ตี้ที่นั่งทำงานวาดรูปอยู่ก็ช่วยรุมด้วย ไอ้ตี้ไม่ค่อยพูดหรอกครับ แต่พูดทีแรงมากกก
“ โห่ อุตส่าห์ถ่อมตัว รู้ทันกูหมดเลยพวกมึงเนี่ย แม่งเอ๊ย อยากขี้เหร่ว่ะ ” ทันทีที่ไอ้ตี๋คิมพูดจบ พวกผมก็รุมส่งเสียงอ้วกออกมาใส่มัน แต่ที่มันพูดมาก็จริงอ่ะครับ ไอ้คิมอ่ะสเป็กผู้หญิงส่วนใหญ่ทั้งนั้น ขาวสุดๆตามแบบลูกคนจีนแท้ ตัวสูง หน้าตี๋ คารมดี แถมยังเทคแคร์ดีสุดๆ ใครไม่หลงก็แย่แล้ว
“ อากาศก็ซ้ำเติมคนโสดอย่างกูจัง ยิ่งเหงาๆอยู่แล้ว เสือกหนาวอีก แล้วคริสมาสต์ปีนี้กูจะไปเที่ยวกะใครวะ ” เพื่อนรักหน้าสวยของผมพูดขึ้นมา ประกอบกับสีหน้าเซ็งสุดๆ สงสารมันเหมือนกันนะครับ ตั้งแต่เลิกกับพี่เบลไป ก็มีผู้หญิงเข้ามาหามันไม่น้อยเลยอ่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบมันมาตั้งแต่ก่อนเป็นแฟนพี่เบล หรือเป็นคนใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตมัน แต่มันก็ไม่ให้โอกาสใครซักคน
ว่าแต่ พูดถึงไอ้จ๊ะแล้ว ก็นึกถึงไอ้เพ้นท์ มันหายหน้าหายตาไปจากพวกผมนานเลย
“ เออจ๊ะ ไอ้เพ้นไปไหนวะ ไม่เจอมันเลย ” ผมเอ่ยปากถามไป เพราะเห็นมันสนิทกะไอ้จ๊ะสุดละ
“ ตายห่าไปแล้ว ไม่ต้องถามถึงมันจากกูอีกนะ ” ไอ้จ๊ะตอบพร้อมสีหน้าเหวี่ยงระดับสิบตามสไตลล์มัน ทั้งสีหน้า และน้ำเสียงของไอ้จ๊ะบอกได้เลยว่า มันต้องมีปัญหาอะไรกันแน่ๆ และถ้าถามมันก็คงได้เหวี่ยงใส่ผมอีกคน ไม่ถามก็ได้โว๊ย
“ เห้ย ทะเลาะอะไรกันวะ ” แน่ะ ไอ้คิมวอนโดนระเบิดเหวี่ยงละ
“ ฟังกูป่ะ ว่าไม่ต้องมาถามอะไรเรื่องมันจากกู ไม่ได้ยินหรอวะ ” ไอ้จ๊ะหันมาเหวี่ยงใส่อีกรอบ แล้วมันก็ลุกไปนั่งที่อื่น ทิ้งไอ้คิมหน้าเหวออยู่ข้างๆผม
“ เชี่ยจ๊ะ สงสัยเมนส์มา เออมึง พรุ่งนี้เย็นกูจัดปาร์ตี้พรีคริสมาสต์ที่บ้านนะ ป๊าม๊าไม่อยู่ พาอาม่าไปเที่ยวฮ่องกง เซินเจิ้น มีกูอยู่บ้านกะแคนดี้ มานะ เดี๋ยวแคนดี้ก็พาเพื่อนมาด้วย สาวๆเยอะแน่นอน ” ไอ้คิมทำท่าระริกระรี้ แค่น้องแคนดี้อยู่คนเดียวพวกผมก็ฟินละครับ น้องแคนดี้น่ารักมากๆ ตาโต แก้มป่อง ขาวจนแก้มเป็นสีชมพู เหมือนจียอนวง T-ARA ไม่รู้น้องแคนดี้เอาตาไอ้คิมไปรึเปล่า เพราะไอ้คิมตาตี่จนคนชอบแซวว่ามันหลับตาอยู่
“ เหยดโด้ววววววว ไปครับไป ไม่พลาดด น้องเอมมาป่ะ เพื่อนน้องแคนดี้อ่ะ ” ผมรีบตอบตกลงแบบไม่คิดเลย
“ มาอยู่แล้วแหละ สนิทกันขนาดนั้น ” ไอ้คิมตอบ แต่ก่อนที่เราจะกระดี๊กระด๊าแฮปปี้ไปมากกว่านี้ อาจารย์ขนิษฐาก็เข้ามาพอดี เลขขข วิชาเลขมากอีกแล้ววววว TT
__________________________________________________________________
ผมนั่งหอบแฮ่กเป็นหมาอยู่ตรงสแตนริมสนามบอล หลังจากพอออดเลิกเรียนดังปุ๊บพวกผมก็รีบกระโจนเข้ามาจับจองพื้นที่ของสนามบอลกันทันที โรงเรียนชายล้วนแม่ง กี่สนามก็ไม่พอครับ หลังจากซัดไปหลายลูกจนสมชื่อรองประธานชมรมกีฬาแล้ว ผมก็มานั่งหอบนี่แหละครับ
“ อ่ะ ” จู่ๆก็มีขวดเกลือแร่สปอร์นเซอร์ขวดสีเหลืองยืนมาตรงหน้า ผมไล่สายตาขึ้นไปมองเจ้าของมือก็พบไอ้คนคิ้วเข้มยืนอยู่ ไอ้ดลมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นอย่างเคย
“ ขอบใจ มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย คิดว่ากลับไปแล้วซะอีก ” ผมรับขวดมาถือไว้แต่ยังไม่ดื่ม เพราะขืนดื่มตอนนี้ จุกชัวร์ครับ กำลังเหนื่อยอยู่เลย
“ มาเมื่อกี้ ยังไม่กลับหรอก ช่วยพวกพี่ม.6 เคลียร์งานอยู่อ่ะ สงสารพวกพี่ๆเค้าจะสอบแล้วไม่ค่อยมีเวลา ” มันตอบ ก่อนจะนั่งลมข้างผม กลิ่นโคโลญจน์สปอร์ตที่มันชอบใช้กระทบจมูกผม มันตัวหอม ..
“ คนดีจังเว้ย เออ พรุ่งนี้เย็นไอ้คิมจัดพรีคริสมาสต์ปาร์ตี้ที่บ้าน ไปนะ ” ผมหันไปชวน ซึ่งหน้าหล่อๆนั่นก็ยิ้มรับ เป็นอันว่ามันตกลง
“ อะหึ๊ย หึ๊ย หึ๊ยยยยยยย ผัวมาหาเมียอีกละอ้า ” ไอ้ม่อน เพื่อนร่วมรุ่มผมตะโกนแซวลั่นสนาม ระหว่างที่มันหอบหน้ากวนๆวิ่งจากใต้ตึกเข้ามาร่วมจอยกับเพื่อนในสนาม เสียงดังๆของมันทำเอาคนทั้งสนามฝั่งที่พวกเราเล่นกันหันมามองเป็นตาเดียว พร้อมกับเสียงโห่ราวกับจะมีคนแห่ขันหมากดังขึ้นพร้อมกัน ไอ้เชี่ยม่อนนนน !
“ กูก็ว่าแล้ววว ทำไมเดี๋ยวนี้เชี่ยเตี้ยเซฟแม่งเพ่นพ่านอยู่แถวห้องสภาบ่อย ส่วนไอ้คุณชายประธานแม่งก็ป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แต่งเมื่อไหร่ เดี๋ยวกูหาขันหมากให้ ” ไอ้เดล ฝาแฝดของไอ้ดิวรับมุก แหม ไอ้พวกห่า มีคนจุดประเด็นไม่ได้เลยนะ
“ ตกลงมึงนี่เป็นเพื่อนพ้องท้องชนใช่ไหม อะหิ้ววววว ” เมื่อไอ้เดลได้กล่าวทำร้ายผมไปแล้ว ไอ้ดิวฝาแฝดมันก็รับช่วงต่อทันที แม่งงง ไอ้แฝดนรกก
“ ก็ไม่มีอะไรนี่ ” ไอ้คนข้างผมมันดันไม่สะทกสะท้าน ตอบหน้านิ่งพร้อมรอยยิ้มโคตรคนดีของมัน ที่สำคัญแม่งเสือกเอาแขนมาพาดคอผมอีก ไอ้พวกเพื่อนๆปากหมาผมยิ่งได้ใจ แซวกันไม่หยุด เอ้ออ ไอ้เชี่ยย แซวได้แซวไป อย่าให้กูเอาคืนนะ !
“ เห้ย ปลั๊ก ฟู แอมเมอร์ ฟ้อนท์ มึงรีบไปไหนวะ ” ผมทักไอ้พวกรุ่นน้องชมรมกีฬา เพราะเห็นพวกมันวิ่งกันหน้าตาตื่นไปทางหน้าประตูโรงเรียน ซึ่งตอนนี้ที่หน้าประตูก็มีคนมุงโคตรเยอะ
“หน้าโรงเรียนแม่งสงสัยมีมวยแน่เลยครับ เห็นพี่บอลยกพวกเดินออกไปละ ได้ยินว่ามีโรงเรียนวัด ,, มันดันแหลมมาถิ่นเรา ไปดูป่ะพี่ ได้ข่าวไอ้คนนี้แม่งโหด ฉายาเพ้นท์ ตีนลั่น เออแล้วแต่พี่นะ แต่ผมไปดูก่อนละ ” ไอ้น้องปลั๊กตอบอย่องรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งไล่หลังพวกเพื่อนๆของมันไป ซึ่งคำตอบมันก็ทำเอาผมตาโต
เพ้นท์ตีนลั่น แม่งมีอยู่คนเดียวแหละ
ผมมองไปทางไอ้จ๊ะ มันหน้าซีด ก่อนจะเงยหน้ามองหน้าผม
“ เห้ย ไอ้จ๊ะ รอกูด้วย ” ไอ้คิมตะโกนไล่หลัง เมื่ออยู่ดีๆไอ้คนหน้าสวยก็วิ่งออกไปทางประตูโรงเรียนทันที พวกผมไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบวิ่งตามมันออกไป เพราะรู้ว่าเพ้นท์เองก็ไม่ใช่คนใจเย็น อีกทั้งชื่อเสียงเรื่องตีต่อยของมันก็ดังไปทั่ว ส่วนพวกพี่บอลก็ปกป้องน้องๆ การให้มันเผชิญหน้ากับรุ่นพี่ผมคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“ ผมไม่ได้มาหาเรื่อง ผมมาหาเพื่อน ” เมื่อผมแหวกฝูกชนเข้าไปก็พบไอ้เพ้นท์ในชุดนักเรียนยืนประจัญหน้ากับกลุ่มรุ่นพี่ของพวกผมอยู่
“ ใครเพื่อนมึง อย่ามาหาเรื่องน้องพวกกู มึงกลับไปซะถ้าไม่อยากมีปัญหา ” พี่บอลจ้องหน้าไอ้เพ้นท์เขม็ง ก่อนจะชี้หน้าหล่อคมของไอ้เพ้นท์
“ ผมไม่กลับอ่ะ ผมมาหาเพื่อน ถ้าผมได้เจอเพื่อนแล้วจะกลับ ” ไอ้เพ้นท์ตอบหน้านิ่ง มันไม่ได้กลัวพี่บอลเลยแหละดูแล้ว ส่วนไอ้จ๊ะเองก็ไม่ยอมออกมาให้ไอ้เพ้นท์เห็น มันยืนอยู่ข้างหลังกำแพงทึบด้วยสีหน้าเรียบเฉย มองดูเหตการณ์ตรงหน้าราวกับว่ามันแค่ดูหนังที่น่าเบื่อๆเรื่องหนึ่งอยู่
“ พี่บอลครับ นี่เพื่อนผมเองครับ ” ไอ้ตี้แทรกกลุ่มน้องๆพี่ๆที่มายืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ออกไปหาพี่บอล พี่บอลมองหน้าไอ้ตี้อย่างไม่ค่อยเชื่อซักเท่าไหร่
“ เพื่อนมึงแน่นะ ”
“ ครับพี่ เพื่อนผมชัวร์ ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับพี่ พี่กลับเข้าไปข้างในเหอะ เดี๋ยวผมเคลียร์เอง ” ไอ้ตี้พูด พี่บอลมองหน้ามันอย่างชั่งใจ ก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าประตูโรงเรียนไป โดยไม่วายจะหันกลับมามองไอ้เพ้นท์อย่างคาดโทษ แหม ก็พี่บอล กับเด็กโรงเรียนไอ้เพ้น์เคยแย่งหญิงกันนี่ จะไปชอบหน้ากันง่ายๆมันก็คงไม่ใช่
“ เชี่ยเพ้นท์ จะมาก็ไม่บอกกูก่อนวะ ” ไอ้ตี้บ่นใหญ่
“ ก็กูไม่ได้มาหามึง ” คำตอบของไอ้เพ้นท์ทำเอาไอ้คนหน้าสวยที่หลบอยู่หลังกำแพงสะดุ้ง ขณะที่ไอ้จ๊ะจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในโรงเรียน ผมก็รีบดึงเสื้อมันไว้ ผมล่ะรำคาญเต็มที่ละ โกรธอะไรกันก็ไม่พูด มาเงียบใส่กันแบบนี้เมื่อไหร่มันจะจบวะ
“ มีอะไรมึงก็ไปเคลียร์เหอะจ๊ะ จะได้จบๆไปไม่ต้องค้างคา ” ผมพูดกับมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไอ้จ๊ะทำท่าเหมือนจะไม่ยอมออกไปคุย แต่ผมก็ไม่ยอมให้มันกลับเข้าไปข้างใน
“ กูไม่อยากเห็นหน้ามันอ่ะ ไม่อยากคุย ไม่อยากเหี้ยไรทั้งนั้น ” ไอ้คุณหนูลูกท่านฑูตงอแง แม่งน่าเตะมากกกก
“ แต่มึงต้องออกไปคุย กูจะออกไปส่ง ” ผมกอดคอไอ้จ๊ะเดินออกมาหน้าประตู
เมื่อผมเหนแววตาที่ไอ้เพ้นท์มองไอ้จ๊ะ ผมก็รู้ได้โดยเซ้นส์เลยว่า ระหว่างไอ้สองคนนี้มันต้องมีอะไรซับซ้อนที่ผมยังไม่รู้แน่ๆ แต่ในเมื่อมันยังไม่บอก ผมก็ไม่คาดคั้นหรอก เอาไว้มันอยากบอกเดียวมันก็บอกเอง แค่ตอนนี้ผมต้องให้มันสองคนเคลียร์กันให้จบๆไป จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย
“ ไปคุยกะกูหน่อยได้ไหม ตรงร้านกาแฟตรงใต้บีทีเอสก็ได้ ” ไอ้เพ้นท์ก้าวเข้ามาหา ไอ้จ๊ะหันมามองผมเหมือนจะขอความช่วยเหลือ แต่นี่แหละคือความช่วยเหลือของผม คือให้มันสองคนได้เคลียร์กัน สุดท้ายไอ้จ๊ะเลยเลยต้องเดินออกไปด้วยกันแม้หน้ามันจะโคตรบ่งบอกเลยว่าไม่พอใจ เหวี่ยงชิบหาย ระหว่างระยะห่างระหว่างมันสองคน ผมเห็นเส้นใยบางๆที่ผูกข้อมือมันไว้ด้วยกัน และหวังว่ามันจะไม่ขาดหายไป …
“ กูอยากดูหนังจัง ” อยู่ดีๆไอ้ท่านประธานมันก็พูดขึ้นมาระหว่างที่เราเดินกลับเข้าไปในโรงเรียน ผมเหล่มัน
“ บอกทำไม ”
“ ไปดูหนังกันมะ กูเลี้ยง ” ไอ้ดลพูด อืมมมม วันนี้ผมก็ว่างๆไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว
“ ไปดิ !! ”
พอผมหลวมตัวมากับไอ้คุณชายประธาน คิดว่าตอนนี้ผมกำลังนั่งหนาวอยู่ในโรงหนังใช่ไหมครับ หึหึ ไม่ใช่เลย ตอนนี้ผมกำลังนอนกินป๊อบคอร์นนอนดูหนังจากโฮมเธียร์เตอร์ในห้องไอ้คุณชายอยู่ครับ เพราะเราตกลงกันไม่ได้ซักทีว่าจะไปดูที่ไหน ดูเรื่องอะไร สุดท้ายมันเลยบอกว่าให้มาดูบ้านมันนี่แหละ ก็ดีที่ไม่เสียค่าตั๋ววะ !
ฟี๊ ~
เสียงฟี๊เบาๆจากข้างๆ ทำให้ผมต้องหันไปมองทั้งที่ป๊อบคอร์นรสคาราเมลเต็มปาก เออ ดีนะ ชวนกูมาดูหนัง เสือกมาหลับให้หนังดู ผมมองหน้าหล่อๆของดลวิทย์ ประธานรุ่นที่อยู่โรงเรียนกับผมมาเกือบสิบสองปีเต็ม ดลก็ยังเป็นดล ตอนเด็กๆหน้าแบบไหนโตมาก็หน้าแบบนั้น ใช่ครับ ไอ้ดลมันหล่อแต่เด็กเลย เมื่อก่อนผมอิจฉามันมาก และวันนี้ก็ยังอิจฉาอยู่ ฮ่าๆ ดลเป็นคนที่มีเสน่ห์ครับ มีเสน่ห์มาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่หล่อคมเข้ม หุ่นดีราวกับนายแบบ น้ำเสียงทุ้มนุ่มหู คำพูดคำจาที่สุภาพ นิสัยโอบอ้อมอารีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือ มันเลยไม่แปลกเลยที่ใครจะชอบมัน เยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
แล้วผมล่ะ กำลังเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ชอบมันอยู่รึเปล่า
“ แอบมองกูขนาดนี้ ปี้กันเลยไหม ” คำพูดอันกวนอวัยวะเบี้ยงล่างดังออกมาจากปากของคนที่ผมที่ว่าหลับไปแล้ว ผมเลยดีดหน้าผากเนียนนั่นไปหนึ่งทีเป็นการแก้แคน
“ โอ๊ย เจ็บนะ ” มันพูด ก่อนจะจับมือผมไว้ ตอนนี้หน้าของเราสองคนใกล้กันมา ไอ้ดลเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมช้าๆจนเริ่มรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย จนปากนุ่มๆนั่นเกือบจะแตะปากผม แต่ผมก็เป็นฝ่ายเบี่ยงหน้าหลบมาก่อน ไม่ใช่เพราะรังเกียจหรืออะไรดลหรอกนะครับ ผมกลัวใจตัวเองมากกว่า ไม่อยากให้เราทั้งสองคนมองหน้ากันไม่ติดในอนาคตเพราะเรื่องอารมณ์ชั่ววูบแบบนี้
“ หิวอ่ะ ” ผมพูดขึ้นมาแก้เก้อ ทั้งที่ซัดป๊อปคอร์น Garrett ไซส์จัมโบ้หมดไปครึ่งถัง แอบเกรงใจไอ้เจ้าของบ้านเบาๆ เพราะมันยกมาให้ผม ก่อนจะหลับไปเลย ทิ้งผมนั่งกินอยู่คนเดียว(อย่างสบายใจ)
“ รอก่อนนะ เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวป้าจะตั้งโต๊ะกินข้าวแล้ว ” ไอ้ดลพูด ก่อนจะลุกไปที่หน้าคอมมัน เมื่อกี้เห็นมีใครทักเฟสแชทมันมาไม่รู้
“ แน่ะๆ ใครทักแชทมาครับ ” ผมแซวเมื่อเห็นมันพิมอะไรยาวๆตอบคนที่ทักแชทมัน
“ เฟิร์นอะ ชวนไปดูหนัง ” มันตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับมาหาผม เชี่ยยย บ๊อกเซอร์มึงก็ขากว้างไปนะ เห็นไปถึงต่อมลูกหากละมั้ง - -
“ แต่ไม่ไป ป่ะๆ ลงไปทานข้าวกันดีกว่า ” มันตอบสีหน้าสดใสพร้อมกับโดดมาจากเก้าอี้คว้าข้อมือผมลงไปข้างล่าง
บนโต๊ะไม้โอ๊คขัดมันมีอาหารหน้าตาน่ากินวางไว้หลายอย่าง ถึงแม้กระเพราะผมจะได้รับป๊อบคอร์นไปเกือบถังแล้ว แต่ก็อดน้ำลายไหลไม่ได้ คุณแม่ของไอ้คุณชายนั่งรอเราอยู่แล้วด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ฝั่งตรงข้ามเป็นผู้ชายท่าทางดูภูมิฐาน หน้าตาคมเข้มเหมือนไอ้ดลหยั่งกับแกะ ไม่ต้องสงสัยคนนี้คือพ่อของดลแน่นอน
“ มาๆ รีบมากิน เดี่ยวกับข้าวจะเย็นหมด ” พ่อดลกวักมือเรียกผมกับไอ้คุณชายไปนั่ง
“ ไม่รู้อาหารจะถูกปากน้องเซฟไหมนะจ๊ะ ดลบอกแม่ว่าหนูไม่กินของเผ็ด ” คุณแม่พูดกับผมด้วยท่าทางใจดี พร้อมตักผัดผักกุ้งสดใส่จานให้ผม
“ แค่เห็นก็รู้แล้วครับว่าอร่อยแน่ๆ ขอบคุณคุณแม่มากนะครับ ” ผมยิ้มให้ ก็จริงอะครับ ทั้งหน้าตาอาหาร ทั้งกลิ่นก็บอกแล้วว่ามื้อนี้ผมได้กินของอร่อยแน่ๆ ไข่เจียวหนานุ่ม ผัดผักหลากสีกับกุ้งตัวโตๆ แกงจืดเต้าหู้ไข่สีครีมน่ากิน ปลาทับทิมทอดกระเทียมสีทองพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอแล้ว
มื้อเย็นผ่านไปทำเอาผมพุงแทบแตก หลังจากดูนาฬิกาแล้วผมก็คิดว่าตัวเองควรจะกลับบ้านได้แล้วก่อนที่รถจะติดไปมากกว่านี้ ซึ่งคุณชายเจ้าของบ้านก็ดันทำตัวป๋ามาส่งผมอีก โดยมีข้ออ้างว่าทำตามคอนเซปหล่อ ใจดี สปอร์ต กทม - - เห็นหน้าหล่อๆ ไม่คิดว่าจะปัญญาอ่อนก็เป็นนะมึ๊ง !
TBC.
เค้าขอโต๊ด เค้าหายไปป
ปิดเทอมแล้ววว จะมาต่อให้เรื่อยๆนะคะ
ดีใจที่ยังมีคนคิดถึงหนุ่มๆอยู่ ><
ความคิดเห็น