ลำดับตอนที่ #101
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #101 : ค่ำคืนแห่งการเตรียมใจ
กว่าหลิวเสียะหัวจะเดินทางไปถึงสำนักมังกรทองเวลาก็ล่วงไปกว่าค่อนคืนแล้ว สถานการณ์ส่วนใหญ่ตกอยู่ในความสงบ เหลือไว้เพียงความวุ่นวายในการจัดการกับความเสียหายจากศึกและศพของผู้ตายเท่านั้น ลูกศิษย์ของสำนักพาเจ้าสำนักเข้าไปยังเรือนรับรองเพื่อพักผ่อนเพราะจางเหอลู่หลับไปแล้วหลับจากรับศึกหนักมา เสียะหัวไม่มีทางเลือกจึงเข้าพักเพื่อรอพบปะสหายเก่าในวันรุ่งขึ้นแทน
"แล้วพวกพรรคมารล่ะ?"
"พวกเราจัดเรือนแยกทางด้านหลังสำนักเอาไว้ให้พวกมันครับ อย่างไรเสียก็ยังไม่มีใครวางใจให้พวกมันเข้ามาพักภายในนี้หรอกครับท่าน"
หลิวเสียะหัวพยักหน้าก่อนจะเข้าไปพักผ่อนในเรือนรับรองที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับตนเอง เขาออกคำสั่งให้ลูกพรรคที่ติดตามมาแบ่งหน้าที่ช่วยเหลือพวกมังกรทองคอยเฝ้ายามระวังภัย ทั้งจากภายในและภายนอกกันเลยทีเดียว เนื่องด้วยยังมิอาจไว้ใจพวกมารได้มากนัก ไว้รอถึงรุ่งเช้าค่อยสะสางเรื่องราวต่าง ๆ กับสหายจะดีกว่า หลิวเสียะหัวเลือกมุมเหมาะตรงข้างหน้าต่างก่อนจะหย่อนกายลงนั่งพลางถอนหายใจยาวออกมา
"เหอลู่เอย... การณ์มันเริ่มจะไม่เป็นไปตามที่พวกเราคาดไว้เสียแล้วสินะ"
เจ้าสำนักหมาป่าเงินพร่ำรำพันกับตัวเองในขณะที่จ้องมองดวงจันทร์กลมโตสุกสว่างที่ด้านนอกหน้าต่าง เฝ้าคิดคำนึงถึงเหตุการณ์มากมายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอีกหลายเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยความประหวั่นใจเกรงว่าโศกนาฎกรรมในครั้งนี้อาจจะไม่จบลงง่าย ๆ เป็นแน่ แต่อย่างไรเสียในฐานะเจ้าสำนักใหญ่และหัวอกของผู้เป็นบิดา เขาย่อมมิอาจเพิกเฉยได้แน่หากคนสำคัญของตนตกอยู่ในวิกฤตอันตรายใด ๆ ไม่ว่านั่นจะหมายถึงการที่ต้องเสียสละชีพของตนเองก็ตามที...
@@@@@@@@@@@@
"ชิ! พวกมันโคตรดูถูกเราเลย ดันให้ที่พักสกปรกเหม็นอับอย่างกับรูหนูแบบนี้น่ะ!"
ผมบ่นเป็นหมีกินผึ้งในระหว่างที่ขับลมปราณไล่ฝุ่นที่เกาะหนาตามพื้นและฝ้าเพดาน รวบฝ่ามือดึงผงสกปรกเหล่านั้นเข้ามารวมกันไว้กลายเป็นก้อนทรายอัดแข็งขนาดเท่าศีรษะเด็ก ตอนนี้พลังฝีมือของผมรุดหน้าขนาดที่เล็งควบคุมการปล่อยลมปราณได้อย่างลึกซึ้งและแม่นยำหาใดเปรียบ กระนั้นยังไม่วายเจอน้องหมาตัวแสบค่อนแขวะไม่เลิกอีก
"ไอ้หนูอย่าได้ประมาทอีกฝ่ายไปเชียว ข้าสังหรณ์ใจว่านอกจากเกาฟานเฉียงแล้ว เจ้าสำนักอื่นเองที่มิได้เข้าพวกกับเทียนซานก็อาจคิดเหิมเกริมสวามิภักดิ์กับศัตรูจากบนฟ้าแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นจงเตรียมพร้อมรับมือพวกมันให้ดีเถอะ!"
พวกองค์รักษ์แห่งเทียนซานที่เหลือซึ่งถูกควบคุมตัวไว้กลับมาสมทบกันอีกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งข่าวว่าฝ่ายศัตรูเตรียมแผนใหญ่เพื่อจัดการกับพวกเราโดยใช้พวกห้าสำนักเป็นเบื้ยล่าง ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนก็ได้รับรู้ไปแล้วผ่านการศึกอันดุเดือดเมื่อครู่ อย่างไรก็ดี... ตอนนี้ทางเทียนซานยังคงถือไพ่เหนือกว่าเพราะมีตัวประกันคนสำคัญอย่างองค์หญิงอยู่ในกำมือ แต่ในเมื่อฝั่งนั้นเพิ่มจำนวนไพ่ที่ใช้เล่นเกมอันตรายแบบนี้เข้ามาอีก นั่นย่อมหมายถึงพวกมันเองก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกันและถ้าฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำไปก่อนก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
"แล้วตอนนี้ชาล็อตยังปลอดภัยดีอยู่หรือเปล่า?"
ผมถามพวกสมุนเทียนซาน จอมมารได้ยินดังนั้นถึงกับแค่นหัวเราะออกมาเลยทีเดียว
"ชาล็อตงั้นรึ? นี่เจ้าเรียกชื่อนังหนูนั่นอย่างสนิทสนมเลยเชียว? แถมยังใช้คำว่าปลอดภัยอีกด้วย หรือว่าบางที..."
"หนวกหูน่า! ชั้นก็แค่เป็นห่วงว่าตัวประกันจะปลอดภัยดีหรือเปล่าเท่านั้นแหละไอ้บ้า!!!"
ผมรีบตะโกนกลบเกลื่อนในทันที รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมานิดนึงแต่พยายามไม่ตอบโต้อะไรไปมากกว่านี้ ยัยนั่นมันก็แค่ตัวประกันเท่านั้นแหละน่าไม่มีอะไรไปมากกว่านี้หรอก ที่สำคัญกว่านั้นคือจากนี้เราจะเคลื่อนไหวยังไงต่อ? ในเมื่อพวกห้าสำนักปัญญาอ่อนมันไม่คิดจะร่วมมือกับเราอีกต่อไปแล้วเนี่ย...
"เราจะทำตามแผนเดิมคือหาทางบุกเข้าวังหลวง ชิงตัวองค์ฮ่องเต้และจัดการวางเพลิงให้ทั่วบริเวณไปเลย ฮ่า ๆ"
โอ้โหแผนของน้องหมาก็ยังคงร้ายกาจและแสบสันต์เหมือนเดิม โดยเริ่มจากการลอบเข้าไปข้างในวังหลวงผ่านทางลับที่เคยใช้เมื่อครั้งก่อน จากนั้นจึงเสาะหาแหล่งที่ใช้คุมขังฮ่องเต้ซึ่งจากการคาดเดาของจอมมารก็คงไม่พ้นคุกใต้ดินเป็นแน่ ในระหว่างนั้นพรรคพวกที่เหลือจะเริ่มลงมือวางเพลิงตามจุดสำคัญต่าง ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมัน แยกกองกำลังของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากกันให้มากที่สุดแล้วจากนั้นผมและน้องหมาจะจัดการไล่เก็บทีละส่วนไปเรื่อย ๆ เพื่อตัดกำลังของศัตรู หากดูท่าไม่ดีพวกเราก็สามารถถอนตัวหนีออกมาตามทางลับใต้ดินได้ตลอดเวลา ว่าง่าย ๆ นี่คือการรบแบบกองโจรดี ๆ นี่เอง
"ความเสี่ยงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือก็คือเราไม่รู้ว่าไอ้พวกที่มาใหม่มันจะเก่งแค่ไหนสินะ?"
จากเบาะแสล่าสุดเห็นว่าระหว่างที่เราเดินทางเข้าเมืองหลวง พวกศัตรูได้มีกำลังเสริมลงมาจากบนฟ้าอีกรอบ คราวนี้เป็นยานลำเล็ก ๆ ไม่สะดุดตาเท่าไหร่นัก เห็นว่าเป็นข้าหลวงใหญ่จากสหราชอาณาจักรหรืออะไรเนี่ยแหละ และในเมื่อทางเราไม่มีข้อมูลของอีกฝ่ายแบบนี้ก็คงเป็นการยากที่จะเตรียมแผนรับมือได้
"บางทีนี่อาจจะเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทียนซานเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ คืนนี้พวกเจ้าจงพักผ่อนให้เพียงพอ หลังจากนี้จะหันหลังกลับไม่ได้อีกแล้วจำไว้!"
แม้ว่าแผนของเส้าเทียนอิ้งจะสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่มันก็คงใช้ได้เพียงครั้งเดียวเพราะพวกมันย่อมไม่เปิดโอกาสให้เราบุกเข้าไปได้อีกครั้งแน่ ดังนั้นต้องทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อเล่นงานให้ศัตรูบอบช้ำได้มากที่สุด หลังจากนั้นเมื่อพวกห้าสำนักใหญ่เห็นว่าอีกฝ่ายเสียท่าแบบนี้ ก็คงไม่ยอมรับใช้เป็นเบี้ยล่างต่อไปอีกแน่ ๆ กระนั้นในใจผมกลับรู้สึกถึงความกดดันบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ บางอย่างในแผนการนี้กำลังจะนำพาพวกเราไปสู่หายนะ หรือว่านี่จะเป็นสังหรณ์ร้ายกันนะ?
"ไอ้หนูคืนนี้พักผ่อนให้พอเถอะ แล้ววันพรุ่งนี้ช่วงหัวค่ำเราจะดำเนินตามแผนที่วางเอาไว้ ไม่ต้องกังวลไปหรอกมีข้าเส้าเทียนอิ้งอยู่ด้วยทั้งคน ฮ่า ๆ"
ดูท่าน้องหมาจะอ่านใจผมออก จึงบอกให้รีบไปนอนโดยไม่โวยวายเหมือนทุกที เพราะถึงยังไงแผนการนี้จะสำเร็จได้ก็ต้องพึ่งพาความสามารถและพลังทุกอย่างที่มีอยู่ในตัวของผม และนั่นเองที่ทำให้โคตรกดดันเลยให้ตายสิ!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น