ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #103 : แกรแฮม เบเกอร์ ตอนที่01

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 164
      6
      16 มี.ค. 62


         ไม่มีใครทราบภูมิหลังของชายที่ชื่อว่าเกรแฮม เบเกอร์มากนัก  อันที่จริงแม้แต่ชื่อเกรแฮมเองก็หาใช่ใช่ชื่อจริงของเขาด้วยซ้ำ  เพราะตัวเขาคือหนึ่งในเด็กน้อยนิรนามซึ่งกำพร้าพ่อแม่ในระหว่างสงครามอันยาวนานของสหราชอาณาจักรและสมาพันธ์ความร่วมมือแห่งทางช้างเผือกที่ดำเนินมากว่าหนึ่งร้อยปี  แน่นอนว่าเกรแฮมต้องเผชิญกับความทุกข์ยากนานับประการกว่าจะเติบโตฟันฝ่าขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ดังเช่นทุกวันนี้ 

         "เกรแฮม?"

         ชาล็อตไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง  เพราะตอนนี้ในมือของบุรุษที่เธอเคยไว้เนื้อเชื่อใจกลับมีปืนด้ามโตจ่อศีรษะของตนเอาไว้  แววตาและลมหายใจของเขาสงบนิ่ง  เยือกเย็นอย่างกับไม่ใช่ชายที่ชื่อเกรแฮมซึ่งเธอเคยเห็นมาก่อน

         "ถ้ากลัวก็จงหลับตาลงเถอะครับ  รับรองว่ามันจะรวดเร็วและไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ แน่นอนผมรับประกันได้เลย!"

         "...ทำไมเธอถึงได้ทำแบบนี้  ตกลงว่าเราไม่ใช่พวกเดียวกันหรอกเหรอ?"

         แม้จะเผชิญความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม  หากแต่องค์หญิงกลับสงบเยือกเย็นจนกระทั่งตัวเองยังประหลาดใจ  ไม่มีอาการสั่นกลัวหรือตื่นตระหนก  ถ้าจะมีความรู้สึกใด  นั่นก็คงจะเป็นความสงสัยระคนโกรธแค้นชายผู้รับหน้าที่ดูแลตนเองด้วยดีตลอดมาคนนี้มากกว่า  ว่าทำไมถึงต้องหักหลังกันเช่นนี้

         "อา... ถ้าจะถามหาเหตุผลล่ะก็หยุดเถอะครับ  เอาเป็นว่ามันคือหน้าที่ก็แล้วกันนะ!"

         เกรแฮมกระทุ้งเข่าใส่หน้าท้องของชาล็อตอย่างรุนแรงจนอีกฝ่ายตัวงอเป็นกุ้งและสลบไปในทันที  กะว่าหลังจากนี้จะหิ้วตัวไปหาทำเลเหมาะ ๆ ในการฆ่าปิดปากเสียหน่อย  เจ้ากรรมโทมัสดันโผล่มาได้จังหวะพอดีทำให้เขาต้องระงับแผนการนี้ไว้ก่อนชั่วคราว

         "เกรแฮม! ขอบคุณพระเจ้าที่นายปลอดภัยนะ  แต่พวกเราต้องรีบหนีออกไปก่อนที่ถ้ำนี้จะถล่มลงมาเสียก่อน!"

         ว่าแล้วชายวัยกลางคนก็วิ่งนำหน้าออกไป  เกรแฮมกัดฟันกรอด  อีกนิดเดียวเขาก็จะแยกตัวจากกลุ่มออกไปเชือดยัยนี่ได้แล้วเชียว  แต่ช่างเถอะ  โอกาสยังพอมีอยู่ตอนนี้แกล้งทำเป็นวิ่งออกไปสมทบกับพวกคนอื่น ๆ ก่อน

         "ว่าแต่องค์หญิงปลอดภัยดีใช่มั้ยแล้วเธอโดนอะไรเข้าไปน่ะถึงได้หมดสติไปแบบนี้?"

         "เกรงว่าน่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่พวกมันแอบใส่ไว้ในอาหารขององค์หญิงน่ะสิ  แต่ตอนนี้ช่างมันก่อน  เราต้องรีบหนีออกไปโดยเร็วที่สุดล่ะ!"

         เขาโกหกส่ง ๆ ไปก่อนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย  ถึงแม้โทมัสจะอยู่ฝ่ายเดียวกันแต่ก็ไม่ได้รับรู้ในเรื่องภารกิจลับนี้แม้แต่น้อย  และสำคัญว่าเนื้องานก็คือการจำกัดการรับรู้ข้อมูลรวมถึงเก็บกวาดเป้าหมายอย่างเงียบเชียบหมดจด  ดังนั้นจึงเสี่ยงให้คนอื่นล่วงรู้ถึงภารกิจนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด

         "แล้วพวกลูกทีมของนายล่ะ?"

         "บาวกับชางยังติดอยู่ข้างในถ้ำครับ  แต่พวกเขาบอกว่าจะหาทางออกกันเองตอนนี้พวกเรารีบหนีไปจากตรงนี้ก่อนเถอะ!"

         ได้ยินเช่นนั้นหัวหน้ากองยานที่สามสิบสองก็ฉุกใจบางอย่างจนถึงกับหยุดวิ่งเลยทีเดียว  เขาหันกลับมามองหน้าเกรแฮมและองค์หญิงชาล็อตที่อีกฝ่ายหิ้วปีกเอาไว้  โทมัสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงบางเบาว่า

         "นายจะทิ้งลูกทีมเอาไว้ที่นี่ในดงของพวกศัตรูงั้นหรือ?  เพิ่งเคยได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของนายนี่แหละ" 

         เกรแฮมเองก็ชะงักไปเหมือนกัน  จากประสบการณ์ที่ได้สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกทีมคนอื่นในสมรภูมิที่ห่างไกลจากที่นี่  ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากเพียงใดเขาก็ไม่เคยทิ้งใครเอาไว้ที่เบื้องหลัง  แต่ในคราวนี้มันติดตรงที่ภารกิจลับที่ส่งตรงมาหาเขาเพียงเท่านั้นเอง...

         "นายแน่ใจนะว่าไม่ได้มีอะไรปิดบังไว้น่ะเกรแฮม!"

         โทมัสพยายามคาดคั้นเอาความจริง  และสิ่งที่เขาได้กลับมาก็คือกระสุนที่พุ่งเฉียดไหล่ขวาออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น  นัดแรกมีไว้ขู่แต่นัดถัดไปถ้ายังไม่เลิกตื้อ  มันจะพุ่งเจาะสมองอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

         "ขอโทษด้วยนะครับโทมัส เห็นทีว่าเราคงต้องแยกกันเพียงเท่านี้แล้ว..."

         หัวหน้ากองยานที่สามสิบสองแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเองเช่นเดียวกับองค์หญิงเมือก่อนหน้านี้  ร้อยเอกเกรแฮมผู้ยึดมั่นในหน้าที่และหลักการมาโดยตลอดตอนนี้กำลังจะลงมือสังหารผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไร้พิษสงได้ลงคอเลยเชียวหรือ?

         "ยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับตัวเองเท่านั้นล่ะครับโทมัส  ลาก่อน!"

         ว่าแล้วเกรแฮมก็ปลีกตัวจากอดีตสหายร่วมรบแล้วมุ่งหน้าเข้าป่าไป  เขาเสาะหาทำเลเหมาะ ๆ ที่จะลงมือสังหารเหยื่อ  เมื่อเจอหุบเล็ก ๆ ใกล้กับลำธารก็เลือกใช้เป็นพื้นที่ปฎิบัติการโฉดในทันที  เกรแฮมวางองค์หญิงลงบนโขดหินเตี้ยข้างหุบเขาแล้วควักมีดเดินป่าเล่มโตออกมา  ขั้นแรกเขาจะเชือดลำคอเพื่อดับลมหายใจชาล็อตเสียก่อน  หลังจากนั้นจึงค่อยเฉือนเนื้อบางส่วนให้เลือดชโลมทั่วกาย  หลังจากนั้นพวกหมาป่าในละแวกนี้คงทำงานในส่วนที่เหลือให้เอง  แล้วก็ป้ายความผิดให้พวกเทียนซานว่าเป็นคนนำตัวองค์หญิงมาทิ้งไว้ให้พวกสัตว์รุมขย้ำเพราะแค้นใจที่โดนบุกทำลายสำนัก  เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็เรียบร้อย...

         "ปัทโธ่ว้อย!"

         แต่ในขณะที่เขากำลังจะลงมือเชือดต้นคอองค์หญิง  เกรแฮมก็นึกเสียใจว่าควรจะลงมือปลิดชีพโทมัสเสียตั้งแต่ตอนนั้น  เพราะหากปล่อยให้มีคนระแคะระคายในภารกิจลับนี้อาจไม่ปลอดภัย  แต่เขาเองก็ไม่สามารถจัดการกับสหายรักซึ่งผ่านศึกต่าง ๆ มามากมายได้  ไม่เหมือนกับพวกลูกทีมคนอื่น ๆ ที่เพิ่งได้ร่วมปฎิบัติงานกันไม่นานมานี้เอง   และโทมัสเองก็เป็นคนฉลาดเฉลียว  เมื่อได้เห็นผลงานที่เขาทิ้งไว้กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่  ก็คงพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหลายได้เอง  แล้วเข้าใจถึงความสำคัญของภารกิจนี้จนไม่แพร่งพรายออกไปแน่  ดังนั้นตอนนี้ควรตั้งสมาธิกับเป้าหมายตรงหน้าก่อนดีกว่า

         "อย่าโกรธแค้นกันเลยนะ  ถ้าจะแค้นก็ไปแค้นพวกบรรพบุรุษกระหายสงครามของพวกเธอเอาเองเถอะ!"


    จบตอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×