ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : เหตุวิกฤตหลังม่านพลังเขตมิติ
"เจ้านี่ฝีมือไม่เบาเลยนะ"
สาวสวยเจ้าของจี้ห้อยคอคนนั้นวิ่งตามมาจนเจอตัวผม ที่แท้เธอรู้ตัวว่าทำของตกเอาไว้จึงย้อนกลับมา แล้วได้เห็นการต่อสู้เท่ ๆ ระหว่างตัวผมเองกับพวกชายโฉดนั่นเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าไอ้เราก็ต้องทำคะแนนเพิ่มด้วยการยื่นจี้เส้นนั้นคืนให้กับเจ้าของและเสยผมสักทีนึง
"พอดีผมเห็นว่าพวกมันคิดจะขโมยสร้อยเส้นนี้ ก็เลยต้องสั่งสอน... แอ๊ก!!!"
ยังไม่ทันพูดจบประโยคดีเลย แม่สาวจอมโหดก็จัดการถีบเข้าให้พร้อมกับแย่งจี้ห้อยคอแล้ววิ่งหนีไป อะไรวะเนี่ย! คนเค้าอุตส่าห์เก็บไว้ให้แต่ดันทำตัวไม่มีมารยาทแบบนี้คงต้องอบรมนิสัยกันสักหน่อยแล้ว ผมไล่ตามสาวสวยคนนั้นไปในทันที ซึ่งด้วยพลังยุทธที่มีทำให้ตามทันในเวลาไม่นานนัก ครั้นแม่นั่นจะกระโจนขึ้นหลังคาเพื่อหลบหนีก็ไม่พ้นเจอคว้าจับไว้ได้เสียก่อน
"ว๊าย! เจ้าจะทำอะไรน่ะไอ้คนไร้มารยาท!"
"เอ็งต่างหากล่ะที่ไร้มารยาทน่ะ! มีอย่างที่ไหนคนเค้าเก็บของมาคืนให้ดันทำร้ายกันแบบนี้?"
สาวเจ้าไม่ยอมจึงออกมือเท้าต่อสู้ ไอ้เราก็ไม่ค่อยอยากทำร้ายคนสวย ๆ จึงตกเป็นฝ่ายตั้งรับเสียนี่ แต่ดู ๆ ไปแล้วแม่นี่หน้าตาคุ้น ๆ อยู่นะ? เหมือนเคยเห็นหรือเจอกันที่ไหนมาก่อนแต่ดันนึกไม่ออกเลยแฮะ
"เฮ้ยพอ ๆ หยุดสักทีเถอะแม่คู๊ณณ!!!"
ผมรู้สึกรำคาญจึงซัดฝ่ามือเข้าไปแถว ๆ หน้าท้อง แม้อีกฝ่ายจะระวังตัวและยกท่อนแขนขึ้นป้องกันเอาไว้ได้แต่ก็ยังเจ็บจุกเสียดไม่เบา เธอนั่งคุกเข่าลงหอบหายใจแรงทว่ายังไม่ยอมแพ้ ใช้วิชาฝ่ามือพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วจนผมตั้งรับแทบไม่ทัน อา... นึกออกแล้ว! ไอ้พลังสายฟ้าที่ฉาบไปทั่วมือทั้งสองข้างของแม่สาวนี่มันเป็นวิชาแบบเดียวกับคนที่ชื่อหลิวเย่อจื่อเลยนี่หว่า แถมพอสังเกตดี ๆ แล้วหน้าตาก็ยังมีส่วนคล้ายกันอีก
"เธอเป็นญาติกับคนที่ชื่อหลิวเย่อจื่อใช่มั้ย?"
เท่านั้นแหละสาวสวยพลันหยุดมือในทันที ดูเหมือนเธอจะแปลกใจมากที่จู่ ๆ ก็มีคนทักขึ้นมาแบบนี้จึงได้จ้องหน้าผมเขม็งเลย
"เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้น?"
"ก็ชั้นได้เห็นพลังสายฟ้านั่นมาก่อนแล้วที่... เอ๊ย! เคยได้ยินคนพูดกันถึงวิชานี้น่ะสิ"
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ขืนบอกไปว่าได้เห็นที่พรรคเทียนซานเมื่อวันก่อนเดี๋ยวกลายเป็นเรื่องเป็นราวให้ปวดหัวกันอีก สาวน้อยได้ยินเช่นนั้นก็ลดมือและผ่อนท่าทีอันตึงเครียดลง แต่ไม่วายจ้องผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกับกำลังมองมนุษย์ต่างดาวยังไงยังงั้นแหละ
"เจ้านี่แปลกคนนะ พูดจาไม่เหมือนชาวบ้านซ้ำยังแข็งแกร่งจนผิดปกติอีก หรือว่าเจ้าจะมาจากนอกด่าน?"
@@@@@@@@@@@@
ในระหว่างที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวกำลังยืนสนทนากันอยู่ เจ้าตาแก่ขี้เมาก็ร่ำสุราอยู่บนแนวกำแพงวัดใกล้กันนั้น เฝ้าสังเกตพฤติกรรมและลอบฟังทุกบทสนทนาของเด็กหนุ่มผู้เป็นร่างทรงเส้าเทียนอิ้งอย่างตั้งอกตั้งใจ ทันใดนั้นเองมันรับรู้ได้ถึงเหตุวิกฤตที่อีกฟากของม่านมิติกาลเวลา ตาแก่ไม่รอช้ารีบเหาะเหินเดินอากาศข้ามเส้นแบ่งรอยต่อมิติไปยังห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ท่ามกลางมวลหมู่ทะเลดาวนั่น กองทัพหุ่นรบที่มีโครงสร้างตัวถังแบบเดียวกับมนุษย์กำลังทำสงครามต่อสู้กับเผ่าต่างดาวอย่างดุเดือด ที่บริเวณหัวไหล่ของหุ่นรบทุกตัวมีติดสัญลักษณ์เป็นรูปผืนธงสี่เหลี่ยมสีขาว ประดับด้วยดาวสีทองรายล้อมเงาศีรษะราชสีห์แดงหันด้านข้าง อันเป็นเครื่องหมายของ สหราชอาณาจักร ซึ่งทำสงครามแย่งชิงดวงดาวมานักต่อนัก
"TFG-3684 กำลังลดระดับลงสู่ชั้นบรรยากาศ เจ้าหน้าที่รวมถึงนักบินทุกคนโปรดเข้าประจำตำแหน่งสถานีรบ!"
เสียงแจ้งเตือนผ่านทางอินเตอร์คอมดังไปทั่วลำยานอวกาศ มนุษย์ทุกคนในนั้นต่างเร่งเข้าประจำตำแหน่งหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด ไม่นานนักยานรบขนาดมหึมาก็เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดวงดาวบ้านเกิดเหล่าเอเลี่ยนเผ่า วอนอชบี ท่ามกลางการยิงปะทะของเจ้าบ้านอย่างเข้มข้น
"เกียร์ออร์ก้า ทุกลำประจำตำแหน่งที่ท่าส่งพร้อมออกปฎิบัติการแล้วครับ!"
เสียงโอเปอร์เรเตอร์บนห้องควบคุมแจ้งแก่กัปตันยานรบ เมื่อได้อาณัติสัญญาณไฟเขียวก็ออกคำสั่งให้ทุกหน่วยออกจู่โจมศัตรูในทันที เหล่าหุ่นรบขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปกติสักราวเมตรครึ่งก็ถูกปล่อยจากแท่นส่ง เข้าโรมรันกับแนวรับของพวกวอนอชบีอย่างรวดเร็วรุนแรง หุ่นรบเหล็กพวกนี้ทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพจนทัพฝ่ายเอเลี่ยนแตกกระเจิงไม่เป็นท่า ใช้เวลาสักหกชัวโมงเศษก็สามารถจัดการกับป้อมปืนต่อสู้อากาศยานและฐานเก็บอากาศยานของศัตรูได้แทบทั้งหมด เรียกว่าเป็นกลยุทธเด็ดปีกเวหาของอีกฝ่ายเพื่อครองน่านฟ้าโดยสมบูรณ์ โดยทางนี้เสียเกียร์ออร์ก้าไปราวสิบสามตัวเท่านั้น
"ของหมู ๆ เท่านี้ดาวดวงนี้ก็จบเห่ล่ะนะ!"
หนึ่งในทีมผู้ควบคุมเกียร์ออร์ก้าด้วยระบบบังคับระยะไกลผิวปาก แต่โดนหัวหน้าเขกหัวเข้าให้พร้อมกับบอกว่าอย่าประมาท เพราะพวกวอนอชบีนั้นเก่งกาจในด้านสงครามกองโจร อีกทั้งพื้นที่กว่า 80% บนพื้นผิวดาวดวงนี้ยังเป็นป่ารกชัฎที่มีพืชยืนต้นขนาดยักษ์สูงถึงเกือบสิบหกเมตร ทำให้เกียร์ออร์ก้าไม่สามารถปฎิบัติการได้เต็มที่ในภูมิประเทศเช่นนี้
"โธ่บอส! กะอีแค่ดาวเลเวล B+ แบบนี้มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว? จำไม่ได้เหรอตอนไปลุยกะพวก ทีมูมูมบา ระดับ A+ น่ะโหดสัสกว่านี้ตั้งเยอะนา"
บางคนถึงกับเสนอให้ทิ้งบอมแบบปูพรมเผาป่าทำลายศัตรูในคราวเดียวไปเลย แน่นอนว่าเจอเขกกะโหลกกันไปอีกรอบ เพราะเป้าหมายหลักในสงครามครังนี้ก็คือทรัพยากรทั้งไม้เนื้อดีและแร่ธาตุตามหน้าผิวดินและอัญมณีที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ชั้นดิน ขืนเผาวอดจนหมดป่าก็เท่ากับทุบหม้อข้าวตัวเองน่ะสิ ใครมันจะบ้าทำแบบนั้นกัน
"จะบอกว่าความประมาทคือหนทางแห่งความพ่ายแพ้สินะคะ ยังเป็นคนรอบคอบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะหัวหน้าเนี่ย"
ชาล็อต ซี ฟอนบราวน์ สาวสวยผมสีบลอนด์เดินเข้ามายังห้องควบคุมระบบเกียร์ออร์ก้าที่อยู่ใต้สะพานเดินเรือ ทุกคนในห้องต่างลุกขึ้นทำความเคารพในทันที เนื่องด้วยฐานันดรอันสูงส่งของเธอ หลานสาวของ ราชินีคลาวเดีย ผู้เป็นจ้าวแห่งสหราชอาณาจักรปกครองดวงดาวต่าง ๆ ในย่านใกล้เคียงกับระบบสุริยะ
"ท่านผู้หญิงชาล็อตเดินทางมาเยี่ยมเยียนสถานีรบถือเป็นเกียรติอย่างสูงครับ!"
หัวหน้าหน่วยกล่าวอย่างแข็งขัน ก่อนจะให้ทุกคนเข้าประจำตำแหน่งทำหน้าที่ตามเดิมโดยมีคุณหนูผู้สูงศักดิ์ยืนชมสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ พร้อมรอยยิ้ม เธอเฝ้ามองความพินาศของอีกหนึ่งอารยธรรมผ่านทางมอนิเตอร์บนยานด้วยความกระหายอยากได้ทั้งลาภยศ อำนาจ เสียงสรรเสริญและทรัพยากรอันมีค่าของดาวดวงนี้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะยอมหรือไม่ก็ตามที...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น