ลำดับตอนที่ #27
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : ภาพนิมิต
เมื่อคืนนี้ผมนอนหลับสบายไปหน่อยเลยตื่นสายเสียได้ แต่เอาจริง ๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยตื่นเช้านอกจากตอนไปโรงเรียนล่ะนะ ตาเฒ่าไม่อยู่บ้านสงสัยว่าจะออกไปเก็บของป่าแต่เช้าแน่ ๆ เลย เมื่อวานนี้เล่นทุบโต๊ะจนมือแทบพังทำเอาเป็นห่วงแต่สงสัยจะไม่เป็นอะไรมาก แล้วนี่จะเอายังไงกับชีวิตดีล่ะเนี่ยเรา?
"ฮ่าห์!"
จังหวะนั้นเองที่หูของผมได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังตั้งสมาธิจดจ่ออยู่ไม่ไกล เลยเดินออกไปดูเสียหน่อย ตอนแรกก็นึกว่าอยู่ข้าง ๆ กระท่อมเสียอีก ที่ไหนได้เจ้าของเสียงนั้นอยู่ห่างจากบ้านของตาแก่ไปตั้งเกือบสองร้อยเมตรเชียว นี่หูของตรูดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? และที่สำคัญกว่านั้นคือเจ้าของเสียงดังกล่าวคือสาวสวยที่ผมเคยพอเจอเมื่อครั้งที่ปะทะกับพวกสมิงหนุ่มเสียด้วย! เธอกำลังซุ่มฝึกวิชาอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนการกวัดแกว่งกระบี่ไปมาทั้งที่ไม่ได้ถืออะไรในมือแท้ ๆ แล้วทำไมถึงต้องแอบมาฝึกวิชาแบบลับ ๆ ล่อ ๆ กลางป่ากลางเขาแบบนี้ด้วยนะ ผมรีบหลบหลังต้นไม้ใหญ่เพื่อสอดแนมพฤติกรรมอันน่าสงสัยนี้ ไม่วายโดนสาวเจ้าจับได้อีก
"ใครกัน! ปรากฏตัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ!"
ปราณสายฟ้าพุ่งจากปลายนิ้วของสาวสวยเข้าปะปะที่โคนต้นไม่ไกลจากที่ผมแอบอยู่เท่าไรนัก เพียงแค่นั้นก็ผ่าแยกลำต้นอันหนาของต้่้นไม้ให้ขาดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ด้วยความตกใจผมรีบชูแขนทั้งสองข้างขึ้นและเดินออกมาต่อหน้าอีกฝ่ายในทันที
"ยอมแล้ว ๆ ข้าไม่ใช่คนร้ายหรือพวกไม่ประสงค์ดีหรอกนะ!"
"เจ้า! เจ้าคือคนเมื่อตอนนั้นนี่นา?"
ดูเหมือนว่าเธอเองก็จำผมได้เช่นกัน แอบเขินเลยนะเนี่ยที่คนสวย ๆ แบบนี้จำหน้ากันได้ ทว่าแทนที่จะได้คุยกันฉันหนุ่มสาวปกติก็กลายเป็นว่าแม่คุณชักกระบี่เล่มยาวออกมาจ่อคอหอยผมเสียก่อนนี่
"เจ้าลอบติดตามข้ามาด้วยเหตุใดกัน? รีบตอบมิเช่นนั้นหัวจะหลุดจากบ่า!"
โอยคนของสำนักหมาป่าเงินทำไมถึงได้มือไวใจเร็วกันขนาดนี้ เมื่อคราวของเจ้าหลิวเย่อจื่อก็ทีนึงล่ะเอะอะชอบเอากระบี่พาดคอชาวบ้านเล่นตลอด แต่ฝีมือของแม่สาวคนนี้ยังไม่ได้ครึ่งของหมอนั่นหรอก เมื่อเธอเผลอเปิดช่องว่างผมก็จัดการเบี่ยงปลายกระบี่ออกแล้วปลดอาวุธจากมือมาถือไว้เอง ครั้นกระหยิ่มนึกว่าชนะแล้วก็เจอทีเด็ดสาวน้อยซัดด้วยวิชาดรรชนีในทันที แม้ว่าพลังจะอ่อนด้อยแต่สายฟ้าที่แฝงมากับลมปราณทำให้ผมรู้สึกช็อตตัวชาไปนิดหน่อยเหมือนกัน
"ยังคิดขัดขืนอีกนะ ข้าจะจับเจ้ามัดไว้แล้วรีดเบาะแสคนบงการให้จงได้!"
"เอาไว้ชนะได้ก่อนแล้วค่อยโม้นะสาวน้อย"
พลังปราณขั้นสีม่วงส่องประกายเจิดจ้าที่ฝ่ามือของผม หลายวันมานี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายและมันก็ช่วยขัดเกลาฝีมือการควบคุมพลังภายในของตนเองให้ดียิ่งขึ้น สาวสวยม่ทันระวังเลยโดนซัดเข้าไปเต็ม ๆ หนึ่งดอกแถวซี่โครง นี่ขนาดผมออมแรงไว้เยอะแล้วแต่สีหน้าของเธอก็ยังดูเจ็บปวดมาก
"เอาล่ะ... ทีนี้ก็มานั่งจับเข่าคุยกันดี ๆ ไม่มีเกรียนได้แล้วนะ!"
ผมจับเธอมัดด้วยเถาวัลย์ที่หาได้จากบริเวณนั้นเพื่อไม่ให้อาละวาดอีก แล้วจึงค่อย ๆ อธิบายเหตุผลที่โผล่หน้ามาเจอตอนอีกฝ่ายกำลังซุ่มฝึกวิชาพอดี สาวน้อยได้ยินผมเล่าก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง ท่าทางเธอจะมีโจทก์อยู่ไม่น้อยถึงได้ระมัดระวังตัวเสียเหลือเกิน เท่าที่นึกออกก็พวกสมิงหนุ่มล่ะแน่นอนหนึ่งกลุ่ม
"ทีนี้ตาข้าถามบ้างว่าทำไมเจ้าถึงมาฝึกวิชาลับ ๆ ล่อ ๆ ในป่าเขาแบบนี้ ไม่ไปฝึกในสำนักของตัวเองกันเล่า?"
"หึ! มันไม่ใช่กงการอะไรของเจ้าสักหน่อย!"
อ้าวปากเสียแบบนี้เดี๋ยวได้โดนอีกดอกหรอก ผมนี่เงื้อมือเตรียมจะซัดอีกซักป้าบสองป้าบให้หลาบจำ คุณเธอเลยต้องเปิดปากเล่าว่าที่ไม่ฝึกในสำนักหมาป่าเงินก็เพราะทนความกดดันไม่ไหว เนื่องด้วยทุกคนต่างก็เอาแต่เปรียบฝีมือเธอกับพี่ชายอยู่เสมอ
"เฮ้ ๆ พี่ชายที่ว่านี่หรือจะเป็น..."
"ใช่! ไอ้คนบ้าที่ชื่อหลิวเย่อจื่อนั่นแหละที่เป็นพี่ชายของข้า!"
@@@@@@@@@@@@
จอมมารนั่งหน้านิ่วอยู่กับมัจจุราชอเวจีและพวกพ้องแห่งเทียนซาน เมื่อคืนมันแทบไม่ได้นอนเลยเนื่องจากสอบเค้นความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่ตาแก่นี่อยู่เบื้องหลัง แม้มัจจุราชจะไม่เปิดปากเล่าอะไรให้ฟังมากนักแต่เส้าเทียนอิ้งก็ยังให้บรรดาลูกสมุนรุมขู่กรรโชกสารพัด
"ฮ่า ๆ น่าขันเหลือเกินจอมมาร! ขนาดคราวที่แล้วเจ้าปะทะกับข้าด้วยตนเองยังกินกันไม่ลง แล้วมีหรือที่ฝีมือพวกสวะปลายแถวเช่นนี้จะระคายผิวข้าได้?"
เส้าเทียนอิ้งเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกสมุนของตนจะชิงชัยกับเจ้าปิศาจตนนี้ได้หรอก เพียงแต่ตอนนี้มันมีแค่รอเวลาให้ได้ร่างของตนกลับคืนมาภายในจันทร์เพ็ญครั้งหน้าก็เท่านั้น ในระหว่างนี้ต้องคอยจับตามองไม่ให้มัจจุราชใช้แผนชั่วร้ายอะไรมาดักทางกันอีก
"ถ้าข้าคิดเอาจริง พวกเจ้าคงม้วยมรณาสิ้นสูญทั้งพรรคไปเรียบร้อยแล้ว"
"แล้วใยเจ้าจึงไม่คิดเอาจริงเสียทีเล่า?"
ได้ยินดังนี้แววตาของมัจจุราชก็เปลี่ยนไป มันไม่สบตากับจอมมารแต่ใช้วิธีพูดกับลมฟ้าอากาศทางอื่นแทน
"เวลาเริ่มงวดเข้ามาทุกขณะแล้ว... อันที่จริง เวลา ก็เป็นเพียงแค่ปัจจัยเล็ก ๆ เท่านั้น ก่อนที่พายุลูกใหญ่จะถาโถมเข้าทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนราบพนาสูร แม้ข้ามัจจุราชอเวจีผู้นี้จะยิ่งใหญ่ทรงพลังเพียงไหนก็ไม่อาจหยุดยั้งได้"
"จะเพ้อเจ้ออะไรมันก็เรื่องของเจ้า ข้าสนแค่เรื่องของข้าเท่านั้น เอาล่ะตอบมาว่าเจ้าวางแผนทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกัน!"
จอมมารไม่สนใจเรื่องพายุหรือเหตุการณ์ไร้สาระที่มัจจุราชยกมาอ้างเพื่อเบี่ยงประเด็น มันสนแค่เรื่องที่เจ้านี่บังอาจขัดขวางพิธีการอันสำคัญยิ่ง แถมยังวางแผนลักพาตัวภาชนะอันทรงคุณค่ามาเก็บซ่อนไว้ในป่าแห่งนี้อีก
"สนแค่เรื่องของเจ้า? เจ้าแน่ใจแล้วหรือที่พูดแบบนี้ มาสิข้าจะให้เจ้าดูนิมิตบางอย่าง ทีนี้เจ้าช่วยตอบข้าหน่อยว่าหายนะครั้งนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าจริง ๆ"
แล้วตาเฒ่าก็เนรมิตภาพลวงตาที่มีเพียงเส้าเทียนอิ้งและมันเท่านั้นสามารถมองเห็น ภาพของเจ้าสัตว์ประหลาดร่างยักษ์สีดำทมิฬยืนสูงตระหง่านบดบังรัศมีแห่งดวงอาทิตย์จนมิด ร่างของมันประกอบไปด้วยโลหะและกลไกมากมายท่าทางน่าสยดสยองราวกับเทพมรณา และพื้นที่เจ้าสัตว์ประหลาดยืนอยู่ก็คืออาณาบริเวณที่เต็มไปด้วยเศษซากปรักแห่งแว่นแคว้นอันยิ่งใหญ่ของต้าหลง ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน สิ้นหวังและทุกข์ทรมานของผู้คนภายใต้เปลวเพลิงดั่งภาพจากนรกอเวจี ที่ตรงนั้นจอมมารเห็นตนเองกำลังยืนประจันหน้ากับเจ้าสัตว์ยักษ์มหึมานั่น บาดเจ็บสาหัสอาบเลือดนองกาย ได้แต่ฝืนยืดหยัดอยู่เพียงลำพังอย่างอ้างว้างเดียวดาย
ก่อนที่ภาพนิมิตนั้นจะเลือนหายไป...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น