ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #41 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 882
      34
      1 พ.ย. 60


         และแล้วการประลองก็ดำเนินมาจนถึงคู่ที่ห้า  ซึ่งบรรยากาศนั้นทั้งตึงเครียดและคุกรุ่นยิ่งกว่าเดิม  เหตุเพราะจางเหอลู่ประกาศก้องว่าในการประมือครั้งนี้  หนุ่มน้อยหน้าใหม่แห่งวงการจะดับฝันของยอดฝีมือประมุขพรรคสำนักพยัคฆ์แดงได้นั่นเอง  จึงถือเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟที่ระอุอยู่แล้วให้เดือดพล่านยิ่งกว่าเดิม  เกาฟานเฉียงที่เครื่องร้อนเต็มที่จึงแค่นหัวเราะพลางเย้ยหยันใส่อีกฝ่าย

         "โฮ่! แล้วใยยอดฝีมืออันดับหนึ่งในใต้หล้าจึงไม่ลงมาประลองด้วยตัวเองเลยเล่า?  หรือท่านหวาดกลัวพลังที่แท้จริงของข้ากระมัง!"

         จางเหอลู่มิได้ตอบคำ  มันถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนที่จะกระทำสิ่งอันมหัศจรรย์เหลือนั่นคือหลังจากถอนหายใจเสร็จ  ร่างของประมุขมังกรทองบนบัลลังก์ก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยท่ามกลางความตกตะลึงของสายตาทุกคู่ที่จับจ้องอยู่  สักชั่วครู่หนึ่งจึงตระหนักได้ว่าบัดนี้มันลงมาหยุดยืนที่ด้านข้างเกาฟานเฉียงเสียแล้ว

         "ขุนเขายิ่งใหญ่  ผืนฟ้ากว้างไกล  สรรพใดในโลกย่อมเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับมวลจักรวาล  เฉกเช่นปัญญาของเจ้าไง!"

         ประมุขแห่งมังกรทองกล่าวไว้เช่นนี้ก่อนที่จะหายตัวไปอีกครั้ง  แต่คราวนี้ทุกคนพอจะคาดเดาได้ว่ามันย้อนกลับไปนั่งบนบัลลังก์เช่นเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เท่านี้เกาฟานเฉียงก็เสียหน้าจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี  นอกจากจะตามความเร็วของอีกฝ่ายไม่ทันแล้ว  แม้แต่จะปะทะคารมยังไม่มีโอกาสเลย  มันส่งเสียงคำรามดังกึกก้อง  ดุจดั่งราชสีห์ที่ตกในห้วงโทสะแยกเขี้ยวกางเล็บพร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่งตรงหน้าให้แหลกละเอียด

         "จางเหอลู่! แล้วเจ้าจะได้เห็นดีกัน  ข้าจะบดขยี้ไอ้หน้าละอ่อนนี่ซะ  หลังจากนั้นจะช่วยประดับหลุมศพของเจ้าไว้ว่าได้ตายลงด้วยน้ำมือของจ้าวยุทธจักรก็แล้วกัน!"

         ไม่พูดพร่ำทำเพลงประมุขแห่งพยัคฆ์แดงชิงลงมือก่อนทันที  หมายจะจัดการศึกที่ห้าให้เรียบร้อยในพริบตาและตามไปเล่นงานเจ้านั่นให้สาสม  ทว่าหลิวเย่อจื่อแม้ยังเยาว์แต่ความสามารถจัดว่าไม่ธรรมดา  ทั้งกรงเล็บและพลังหมัดมิได้เฉียดใกล้ตัวของเด็กหนุ่มเลยด้วยซ้ำ  ท่วงท่าพริ้วไหวมองดูคล้ายผ้าไหมที่ปลิวสะบัดไปมาท่านกลางพายุพิโรธของอีกฝ่ายบ่งบอกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มีพรสวรรค์แถมยังรวดเร็วไม่เบา

         "ผู้อาวุโสข้าขอล่วงเกิน!"

         เมื่อเห็นว่าอยู่ในระยะปลอดภัยจากคมเขี้ยวศัตรูแล้ว  มันจึงชักกระบี่คู่ใจออกจากฝักในที่สุด  ประกายดาบสะท้อนแสงตะวันอย่างชัดเจน  ก่อนจะเลื่อนไหลไปยังเป้าหมายทั้งช่วงท้อง  หน้าอกและแขนขาของคู่ต่อสู้อย่างแม่นยำ  กระนั้นการรับมือกับเพลงกระบี่ของเกาฟานเฉียงก็เยี่ยมยอดไม่แพ้กัน

         "ฮ่า! ดีมากไอ้หนู  เดี๋ยวข้าจะให้เจ้าได้เห็นของดีก่อนตาย!"

         เดิมเกาฟานเฉียงไม่คิดเอาชีวิตใครในการประลอง  แต่ในยามเลือดขึ้นหน้ามันจึงเกร็งพลังเต็มที่จนกระดูกลั่นไปทั้งร่าง  หลิวเย่อจื่อรู้ดีว่าหากพลาดท่าโดนเข้าสักครั้งคงเจ็บหนักปางตาย  จึงเร่งโคจรลมปราณไปยังกระบี่เร็วจี๋  ลำแสงแลบแปลบปลาบมองดูคล้ายอสุนีบาตร่ายรำไปมา

         "ระวัง!"

         เสี้ยวจังหวะก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะกัน  หลิวเสียะหัวผู้บิดาจับสังเกตความผิดปกติบางอย่างได้จึงร้องตะโกนบอกลูกชาย  มันเล็งเห็นลมหายใจของเกาฟานเฉียงที่ผ่อนคลายลงชั่วขณะ  บ่งบอกถึงท่าไม้ตายซึ่งกำลังจะตามมา

         "วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้ว!"

         กระบวนท่าลับพยัคฆ์เหนือตะวันส่งให้เกาฟานเฉียงสามารถเคลื่อนไหวได้เกินขีดจำกัดของมนุษย์เสียอีก  มันมองเห็นปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามาใกล้และหลบได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด  คมดาบได้แต่ถากหัวไหล่เรียกเลือดนิดหน่อย  แล้วกรงเล็บก็แทงเข้าที่ลิ้นปี่ของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำราวจับวาง  ทีแรกมันนึกว่าจะได้อาบโลหิตของเหยื่อที่ทะลักออกมา  ที่ไหนได้เมื่อครู่นี้มันแทงร่างมายาหรือภาพติดตาต่างหาก  หาใช่ตัวจริงไม่  เพราะหลิวเย่อจื่อเองก็คอยสังเกตกระบวนท่านี้อยู่  ต้องขอบคุณต้าเหยียนกังที่ทำให้จับเคล็ดของวิชาได้  เด็กหนุ่มจึงรอดพ้นอันตรายมาแบบหวุดหวิด  จากนั้นปราณกระบี่ของจริงก็พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ซึ่งไร้การป้องกันในทันที

         "ไม่น่าเชื่อ... นี่คือตัวจริงของกระบวนท่าลับงั้นหรือ?"

         แม้แต่สินหุ่ยและบรรดาองค์รักษ์แห่งเทียนซานต่างอดที่จะตะลึงมิได้  หลิวเย่อจื่อแทงกระบี่เข้าไปอย่างเหมาะเหม็งกลับเป็นฝ่ายเสียท่า  เพราะหลังจากมือแรกของเกาฟานเฉียงที่แทงโดนร่างเงา  อีกมือก็สวนทางการตีโต้ของปราณกระบี่จนพุ่งเข้าเสียบบริเวณต้นแขนแทนเสียอย่างนั้น

         "อั่ก!"

         หลิวเย่อจื่อตกใจจนเสียสมาธิไปชั่วครู่  ครั้นอีกฝ่ายเร่งพลังจะตีซ้ำมันจึงรีบหลบออกมาให้พ้นรัศมี  พลางคิดคำนวนไปด้วยถึงเหตุที่พลาดท่าเสียที  ปราณกระบี่ของตนนั้นรวดเร็วไม่ผิดแน่  แต่ยังไม่เร็วขนาดตอบโต้กระบวนท่าพยัคฆ์เหนือตะวันได้ 

         "ไอ้หนูคิดเทียบชั้นกับข้ายังเร็วไปสิบปี!"

         เกาฟานเฉียงหายใจหนัก  ท่าทางว่าการใช้กระบวนท่าลับจะเริ่มออกผลข้างเคียงบ้างแล้ว  ด้านหลิวเย่อจื่อเองก็บาดเจ็บเช่นกันแต่ไม่หนักหนาเท่าไหร่  มันเร่งโคจรพลังลดอาการเจ็บปวดและเสิรมปราณกระบี่ให้เหนือล้ำขึ้นไปอีก

         "ขออภัยผู้อาวุโส  ข้าเห็นแล้วว่าวิชาธรรมดาคงมิอาจเทียบ  เพราะฉะนั้นลองดูทีเด็ดข้าบ้าง"

         ปราณกระบี่วชิระไร้พ่ายมิได้มีดีที่เร็วอย่างเดียว  แต่อำนาจในการกดดันคู่ต่อสู้ก็ไม่เป็นสองรองใคร  หลิวเย่อจื่อเปลี่ยนกลยุทธจากเน้นพลังความเร็วมาใช้การแทงกระบี่รุกระรัวดุดันราวสายฝนโปรย  ในแต่ละดาบล้วนแฝงด้วยปราณสายฟ้าจนแสบตาผู้ชมทั่วบริเวณ  ทำให้เกาฟานเฉียงเร่งรับมือเป็นพัลวัน

         "ดูท่าจะแย่... ข้าเตือนเจ้าแล้วนะเด็กโง่"

         หลิวเสียะหัวเริ่มเป็นกังวล  เห็นได้ชัดว่าเมื่อเปลี่ยนจากแทงเต็มพลังเป็นแทงรัวกำลังย่อมตก  ไม่มีสิทธิ์เผด็จศึกใครได้  แม้ดูคล้ายได้เปรียบเพราะอีกฝ่ายออกมือเท้าไม่ได้  แต่นานเข้าก็ย่อมต้องหมดแรงสูญเสียลมปราณโดยใช่เหตุ  หากว่าเกาฟานเฉียงเล็งจังหวะนั้นอยู่ย่อมส่งผลร้ายต่อลูกชายแน่

         "ต้องการความช่วยเหลือสิท่า?"

         หยางจิวเทียนส่งเสียงกระซิบลอยมาตามสายลม  เจ้าสำนักเหยี่ยวดำผู้ช่ำชองและคร่ำหวอดในวงการมานานพอจะคาดเดาสถานการณ์ได้  จึงใช้กำลังภายในส่งเสียงสื่อสารกับหลิวเสียะหัวเป็นการส่วนตัว  ทำให้เจ้าสำนักหมาป่าเงินต้องคิดหนักเพราะข้อเสนอนี้ต้องมีราคาแพงแน่ ๆ


    จบตอน   
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×