ลำดับตอนที่ #43
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่06
เราจะแยกความฝัน ภาพมายา และความจริงออกจากกันได้อย่างไร? เพราะผู้ไม่รู้ย่อมไร้ซึ่งหนทางจำแนกความแตกต่างของเส้นแบ่งระหว่างเรื่องสมมุติและเรื่องจริง หากว่าเราหลับฝันเห็นตัวตนของผีเสื้อ เช่นนั้นแล้วเราคือตัวเราผู้ที่นอนฝัน หรือว่าทั้งหมดนั้นเป็นแค่มโนของผีเสื้อว่าเป็นมนุษย์?
อันที่จริงแล้วทั้งสองสิ่งนี้ล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานที่แตกต่างกัน มายาคือภาพที่สร้างขึ้นในใจคน มันกำเนิดจากความคิดอ่านและจินตนาการอันโลดแล่น แต่ก็ยังมิอาจตัดขาดจากโลกความจริงที่ภายนอก มายาจึงเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายใต้อาณัติหนึ่งของความเป็นจริงนั่นเอง ดังที่จางเหอลู่ได้มองเห็นกลลวงกลับกลอก ซับซ้อนยอกย้อนเกินบรรยาย มันได้ยินเสียงกระซิบของภูติร้ายแห่งบรรพกาลและหลงวนเวียนอยู่ในห้วงทุกข์ สิ่งที่ไขว่คว้ามาได้มีเพียงความมืดมิดไร้ก้นบึ้งเท่านั้นเอง วิชาเซียนจำแลงก็เป็นเพียงแค่ภาพมายาที่ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเป็นความจริง ซึ่งนำพาไปสู่วิถีแห่งเซียน เพียงแต่มันเป็นทางอ้อมที่เต็มไปด้วยปิศาจและภูติร้ายคอยยุยงและซ้ำเติมให้มีแต่ความพินาศชิบหายในระหว่างทางเท่านั้น...
@@@@@@@@@@@@
"เป็นอะไรไปเย่อจื่อ ไม่คิดจะต่อสู้แล้วหรือไร?"
เจ้าสำนักมังกรทองเย้ยหยันเด็กหนุ่มที่หน้าสะบัดไปซ้ายทีขวาทีอย่างไร้ทางป้องกัน แต่หลิวเย่อจื่อยังฝืนถอยออกมาตั้งหลักได้ พลังปราณกระบี่วชิระปะทุขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้อย่าว่าแต่จะได้ใช้เลย แค่เวลาจะกะพริบตายังไม่มีเพราะจางเหอลู่เคลื่อนที่เข้าหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าที่ช่วงท้อง เด็กหนุ่มส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดในขณะที่ร่างกระเด็นกระดอนไม่เป็นท่า ดูเหมือนแค่ฝ่ามือเดียวก็ทำให้ซี่โครงหักไปสองท่อนได้ ปรากฏไอสีดำแผ่ซ่านออกมาจากบริเวณที่ซัด
"นี่มันวิชาอะไรกันหรือขอรับ"
สินหุ่ยและศิลามังกรต่างตกตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลันของจางเหอลู่ นอกเหลือจากพลังฝีมือที่เพิ่มพูนมหาศาลแล้ว นิสัยใจคอยังเปลี่ยนไปชนิดจำแทบไม่ได้ เดิมเจ้าสำนักมังกรทองอาจจะมีความหยาบช้าเจ้าเล่ห์อยู่บ้าง แต่ก็มิได้อำมหิตขนาดลงมือรังแกผู้ที่ด้อยกว่าเช่นนี้ บางทีความลับอาจจะซ่อนอยู่ในวิชาใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักนี้ก็เป็นได้
"แม้แต่ข้าเส้าเทียนอิ้งผู้อยู่มาถึงหกร้อยปีก็ยังไม่รู้จักวิชาดังกล่าว ไม่แน่ว่าอาจเป็นเคล็ดลับที่เก่าแก่ยิ่งกว่านั้น บางทีคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ท่านอาจารย์ข้าหลงเหลือไว้ในหอฌาน..."
แน่นอนว่าเส้าเทียนอิ้งรู้จักหลักแหล่งของหอฌานแห่งเทียนเหอ เพียงแต่มันไม่คิดว่าในนั้นจะมีวิชาลับใดที่อาจารย์ทิ้งไว้ในชนรุ่นหลังซึ่งตนเองก็ไม่รู้จัก เพราะก่อนที่จะสำเร็จวิชามารประสานจิต เทพประสานใจ มันก็เคยเข้าไปเก็บตัวที่ภายในหอฌานมาก่อนเช่นกัน
"น่ากลัวว่าเจ้านี่จะเป็นคู่ประลองที่ร้ายกาจสุด ๆ ไอ้หนู! เอ็งเตรียมพร้อมไว้เลย จบศึกนี้เมื่อไหร่ข้าจะลงไปสู้เอง!"
ถึงจะบอกว่าออกสู้ด้วยตนเอง แต่เส้าเทียนอิ้งก็ยังแอบหวั่นใจเพราะบัดนี้ร่างของตนตกอยู่ในมือคนอื่น หากเป็นเมื่อก่อนมันคงกระโดดลงไปแยกทั้งคู่และจัดการกำราบจางเหอลู่ด้วยตนเองแล้ว แถมยังเป็นวิชาลึกลับที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังจึงต้องขอศึกษาจากการต่อสู้ของหลิวเย่อจื่ออีกสักนิด
"หลิวเย่อจื่อ! เจ้าหยุดต่อสู้ได้แล้ว กลับมาที่นี้เดี๋ยวนี้!"
หลิวเสียะหัวเป็นห่วงลูกชายถึงขนาดออกคำสั่งหักหน้าเย่อจื่อต่อสาธารณะ ด้วยรู้ว่าจางเหอลู่ในตอนนี้นั้นอันตรายยิ่งนัก หากดื้อดึงต่อไปไม่แน่ว่าแม้แต่ชีวิตก็อาจรักษาเอาไว้ไม่ได้ ทว่าจากนิสัยหัวรั้นของเด็กหนุ่มก็ทำให้มันยังคงมิอาจตัดใจจากการประลองได้ หลิวเย่อจื่อลุกขึ้นยืนอย่างทรนง มันใช้วิชาจี้จุดเฉพาะทางเพื่อลดความเจ็บปวดและเริ่มร่ายรำเพลงกระบี่ตามแบบฉบับของสำนักหมาป่าเงินที่เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษ
" เพลงกระบี่เงาจันทร์ งั้นรึ ช่างเหมือนเสียะหัวมาด้วยตนเองเสียจริง!"
ในช่วงวัยหนุ่ม ทั้งจางเหอลู่และหลิวเสียะหัวเคยปะทะกันมาหลายครั้งในฐานะผู้ชิงตำแหน่งความเก่งกาจในยุทธภพ และก็พลัดกันแพ้พลัดกันชนะมาโดยตลอดแต่ทางด้านจางเหอลู่ภาษีดีกว่าจึงได้เป็นเสาหลักของยุทธภพไป เมื่อได้เห็นวิชากระบี่อันร้ายกาจจากคนหนุ่มก็เหมือนย้อนเวลากลับสู่อดีตอีกครั้ง เจ้าสำนักมังกรทองเนื้อเต้นที่จะได้แก้มือกับวิชาที่ตนกินไม่ลงมาก่อน คลื่นพลังสีดำแผ่ออกจากทั่วทั้งร่างของมัน ราวกับเมฆดำที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมทั่วบริเวณอย่างเชื่องช้า
"ผู้อาวุโสข้าขอล่วงเกินล่ะ!"
เย่อจื่อเป็นฝ่ายบุกก่อน แต่คราวนี้เลือกใช้เพลงกระบี่ที่เน้นท่วงท่าไม่ได้เน้นพลังอย่างวิชาเงาจันทร์เพราะต้องการประเมินวิชาลับของอีกฝ่ายเสียก่อน จึงเก็บปราณกระบี่วชิระไร้พ่ายเก็บไว้เป็นไม้ตายเผด็จศึก
"ดีมาก! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นวิถีเซียนที่แท้จริง!"
จางเหอลู่รวบพลังไว้ที่มือข้างหนึ่ง มองเห็นคล้ายก้อนเมฆดำหมุนวนอยู่บนฝ่ามือก่อนที่จะขยายใหญ่ขึ้นจนเกือบเท่าร่างของเย่อจื่อ มันพ่นลมใส่ก้องเมฆดังกล่าวเพื่อให้ลอยไปหาอีกฝ่าย หลิวเย่อจื่อไม่รู้ว่าเจ้าก้อนพลังสีดำนี้คืออะไรแต่คงหลบเลี่ยงไม่ได้จึงคิดสลายมันซะด้วยเพลงกระบี่เงาจันทร์ชุด ร่ายรำเหนือสายน้ำ ซึ่งเป็นกระบวนท่าที่มีไว้เพื่อสลายลมปราณได้ทุกรูปแบบ เด็กหนุ่มเคลื่นที่เข้าหาเมฆดำอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะสอดกระบี่เข้าไปเพื่อใช้กระบวนท่า ไม่นึกฝันว่าจู่ ๆ กระบี่ที่สอดเข้าไปนั้นจะพุ่งกลับออกมาจ่อที่ใบหน้าของตนเองแทนที่!
"เฮ้ย!"
เย่อจื่อตกใจจนต้องถอยออกมาสองสามก้าว กระบี่ยังอยู่ในมือของตนแต่เมื่อครู่นี้มันเห็นกับตาว่าปลายกระบี่พุ่งเข้าหาอย่างแน่นอน นี่มันเรื่องอะไรหรือว่าเป็นภาพลวงจากวิชามารกันนะ? มิหนำซ้ำเจ้าคลื่นดำก็ยังเคลื่อนที่เข้าใกล้เขาอีกแล้ว หากสัมผัสถูกมันไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไรบ้างแต่เย่อจื่อก็ไม่ยอมเสียเวลาคิด เด็กหนุ่มเร่งจู่โจมใส่ด้วยกระบวนท่า ลอดสายฝน อันเป็นวิชาที่แทงรัวยิบขนาดที่จำแนกเม็ดฝนที่ตกพรำได้อย่างแม่นยำ กระนั้นผลก็เหมือนเดิม ยิ่งแทงเข้าไปมาเท่าไหร่ ปลายกระบี่ก็มีแต่จะย้อนกลับออกมาในทิศตรงข้ามเสมอจนมันบาดใบหน้าอันงดงามของเขาจนได้ สรุปว่าทุกการโจมตีจะถูกดีดสะท้อนกลับออกมาทุกครั้งทำให้ไม่สามารถทำลายคลื่นพลังดังกล่าวได้ ทุกคนที่นั่งชมการประลองถึงกับตกตะลึงในวิชาอันแปลกประหลาดพิสดารเหลือจะกล่าวนี้กันถ้วนหน้า
"เย่อจื่อ! ข้าบอกให้เจ้าเลิกประลองได้แล้วไง!"
หลิวเสียะหัวเริ่มเครียดจนกำหมัดแน่น สถานการณ์ดูจะเลวร้ายลงทุกทีและลูกชายของตนก็บาดเจ็บหนักขึ้นเรื่อย ๆ ปล่อยไว้แบบนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่ออนาคตของสำนักเป็นแน่
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น