ลำดับตอนที่ #47
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่10
และแล้วก็มาถึงมวยคู่เอกของวันที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอยกันมานาน เพราะการต่อสู้ระหว่างจอมยุทธที่ได้ชื่อว่าเป็นเสาหลักของยุทธภพกับจอมมารสุดโหดแห่งยุคมันหาดูกันได้ง่าย ๆ ที่ไหนเล่า ตาลุงจางเหอลู่ที่ไม่รู้วันนี้ไปกินยาผิดขนานมาหรือเปล่าถึงบ้าเลือดผิดวิสัยยิ้มแก้มแทบปริ เพราะไม่ต้องทนรอถึงคู่ที่ห้าตัวผมในคราบเส้าเทียนอิ้งก็กระโดดลงสู่ลานประลองพร้อมดวลชิงความเป็นสุดยอดในโลกนี้แล้ว
"รับมือ!"
สิ้นเสียงสัญญาณร่างของประมุขมังกรทองก็ตรงดิ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า น้องหมาซึ่งหลบอยู่ด้านในเสื้อรีบสั่งให้ผมทำตามที่เคยฝึกกันมานั่นคือเร่งโคจรพลังและเตรียมรับมืออย่างมีสติ ฝ่ามือมังกรทองที่วันนี้เคลือบไว้ด้วยคลื่นสีดำดูทรงอานุภาพยิ่งกว่าที่ผมเคยจำได้เสียอีก แค่หนึ่งกระบวนท่าก็รุนแรงพอจะระเบิดผิวหน้าของลานประลองให้กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ได้ในทันที บ่งบอกเลยว่าตาลุงแกเอาจริงสุด ๆ
"เป็นอะไรไปจอมมาร! ถ้าพลังยังไม่เข้าที่เดี๋ยวข้าจะช่วยกระตุ้นให้เอง!"
ลุงจางแกบ้าเลือดไปแล้วจริง ๆ นอกจากพลังฝ่ามืออันร้ายกาจแล้ว คราวนี้ยังเรียกกลุ่มเมฆสีดำออกมาล้อมรอบตัวเองอีก จากคำบอกเล่าของจอมมารหากโจมตีผ่านเมฆดำพวกนี้ก็จะโดนเล่นงานกลับคืน เพราะฉะนั้นทางแก้มีอยู่สองอย่างนั่นคือหาทางอ้อมโจมตีในส่วนที่ไม่มีกลุ่มก้อนสีดำพวกนี้ หรือไม่ก็หาทางสลายคลื่นพลังให้ได้เสียก่อน
"อ่อนหัด! อย่างเจ้าน่ะหรือจะเทียบเคียงข้าได้ ลองรับมือวิชาบดเมฆสลายวารีดูหน่อยเป็นไร!"
น้องหมาแกล้งตะโกนชื่อวิชาเพื่อบอกใบ้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป และถ้าพูดถึงวิชานี้ก็คือใช้กระบวนท่าสลายเมฆดำสินะ? ว่าแล้วผมจึงเกร็งพลังส่งผ่านไปยังฝ่ามือทั้งสองในทันที เมื่อจางเหอลู่เข้ามาใกล้ จึงเล็งใช้สันฝ่ามือฟาดเข้าใส่พร้อมด้วยกระบวนท่าดังกล่าวและมันก็ได้ผล! เจ้าเมฆดำที่รายล้อมร่างของอีกฝ่ายถึงกับแตกกระเจิงไปส่วนหนึ่งเมื่อเจอพลังบดเมฆสลายวารีเข้าไป
"ฮึ่ม!"
ท่าทางตาลุงจะตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นวิชาใหม่ของตนถูกสลายลงต่อหน้าต่อตา วิชาบดเมฆสลายวารีนั้นเดิมก็เป็นกระบวนท่าที่มีไว้เพื่อตัดหรือผลักดันลมปราณของคู่ต่อสู้อยู่แล้ว จึงไม่แปลกอะไรถ้ามันจะตัดทะลุคลื่นสีดำเข้าไปได้ นอกจากนี้ผมยังได้เรียนรู้อีกเรื่องหลังจากการปะทะด้วย นั่นคือสัมผัสของปราณที่แผ่ออกมามันช่างละม้ายคล้ายกับเคล็ดมารประสานจิต เทพประสานใจเหลือเกิน หรือก็คือเป็นวิชามารประสานจิตฯ ใรอีกเวอร์ชั่นนั่นเอง ผมจึงแกล้งถอยหลังไปสองถึงสามก้าวเพื่อประวิงเวลาแจ้งเรื่องนี้กับน้องหมาในทันที
"อืมม... อย่างที่คิดไว้จริง ๆ ถ้าวิชาของมันก็สืบสานจากวิถีเซียนดุจเดียวกับข้า งั้นทางนี้ต้องเน้นวิชาที่ใช้สลายปราณของคู่ต่อสู้ได้เป็นหลักเสียแล้ว!"
จากการวิเคราะห์ของน้องหมา เจ้าวิชาดังกล่าวน่าจะยังเป็นแค่ส่วนเดียวไม่ครบสมบูรณ์ดีนัก คาดว่าหากให้เวลามากกว่านี้อีกสักสิบปี ไม่แน่ว่าจางเหอลู่อาจพยายามฝึกฝนจนสำเร็จถึงขั้นสุดท้ายก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นมันคงกลายเป็นภัยคุกคามเทียนซานอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นต้องรีบจัดการสลายพลังเซียนนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
"เส้าเทียนอิ้ง! แค่สลายพลังข้าเพียงเท่านี้อย่าได้ใจไปนัก เพราะข้ายังไม่ทันได้แสดงไม้เด็ดให้ดูเลยด้วยซ้ำ!"
สงสัยตาลุงจางจะรู้สึกเสียหน้ามากที่โดนทำลายวิชาได้จึงตะโกนเสียงดังพร้อมกับเร่งโคจรลมปราณรอบใหม่ สังเกตเห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นแถวหน้าผากประปราย แสดงว่าเจ้าเมฆดำนี่คงกินแรงไปเยอะน่าดูเชียว ไหนจะใช้วิชานี้มาตลอดตั้งแต่ที่สู้กับสองพ่อลูกสกุลหลิวแล้ว งานนี้ผมว่าไม่นานก็คงรู้ผลแล้วมั้ง?
@@@@@@@@@@@@
ในระหว่างที่การต่อสู้ในลานประลองกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดนั้นเอง ที่อีกฟากของขุนเขาปรากฎสองบุรุษยืนจ้องมองการดวลกันระหว่างเส้าเทียนอิ้งและจางเหอลู่อยู่เช่นกัน ฝ่ายหนึ่งคือตาแก่ขี้เมาเจ้าของสมญามัจจุราช ส่วนอีกฝ่ายคือข้ารับใช้จอมไสยเวทในร่างชายใส่สูทขาว
"โฮ่! ที่แท้คนที่แนะแนวทางด้านมืดให้แก่เจ้าสำนักมังกรทองก็คือเจ้านี่เอง"
"ไม่เจ้าเล่ห์เท่าคนที่แอบสอนวิชาให้ไอ้หนุ่มนั่นเช่นเจ้าหรอก!"
ต่างฝ่ายต่างยืนบลัฟกันไปมาเพราะตอนนี้ตัวหมากของทั้งคู่กำลังฟาดฟันกันอย่างหนักหน่วง แล้วด้วยข้อตกลงหรือกฏบางอย่างทำให้พวกมันไม่สามารถยื่นมือลงไปยุ่งเกี่ยวมากกว่านี้ได้ ทั้งสองจึงต้องเฝ้ามองศึกครั้งนี้อยู่ห่าง ๆ เพียงเท่านั้น
"ไม่นึกเลยว่าศาสตร์แห่งมนต์ดำจะมีวิธีเรียกใช้แบบนี้ด้วย"
ตาแก่ขี้เมาแกล้งแซะ มันไม่ทันคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะยืมมือคู่อริอย่างจางเหอลู่ในการเล่นงานจอมมาร นี่คงจะแอบลอบเข้าไปในระหว่างประมุขจางซุ่มฝึกวิชาและส่งเสียงกระซิบบอกเคล็ดต้องห้ามอะไรบางอย่างแน่ ๆ มิเช่นนั้นคงไม่โดนกระแสมารครอบงำถึงขนาดนี้
"ศาสตร์แห่งความมืดลึกล้ำเกินกว่าที่เจ้าคิดหรือเข้าใจ มิเช่นนั้นจะลองสอบถามจากพวกพ้องในกลุ่ม Eliminator ดูไหม... หึหึ"
มัจจุราชกัดฟันกรอด ตัวมันย่อมรู้ดีว่าศาสตร์มืดร้ายกาจเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเก่งกาจเหนือชั้นของโซโลมอน ที่เพียงแค่คิดก็ทำเอาทั้งตัวแทบจะสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
"ฮ่า ๆ เอาเถอะอย่าได้เครียดไปเลย เพราะคนที่เจ้ากำลังคิดถึงอยู่คงไม่สามารถมาปรากฎตัวที่นี่ในเวลานี้ได้หรอก! ระหว่างนี้ก็พยายามเข้าก็แล้วกันนะ"
ท่าทางชายในชุดสูทคงจะรู้ดีว่าตาเฒ่ากำลังนึกถึงอะไรอยู่ เพราะอันที่จริงตัวมันก็ใช่ว่าจะจงรักภักดีต่อ ชายผู้นั้น จากก้นบึ้งของจิตใจ เพียงแต่ตอนนี้ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรอคอยการฟื้นคืนมาของเทพโครนอสเสียก่อน
"ต่อให้โครนอสกลับมาเจ้ากับข้าก็ไม่พ้นวังวนแห่งชะตากรรมเช่นเดิมอยู่ดี"
และมัจจุราชก็อ่านใจชายในชุดสูทออกเช่นกันจึงตอบกลับไปเช่นนั้น เพราะความเก่งกาจของโซโลมอนนั้นไปจนถึงขั้น พิชิตเทพเจ้า ได้แล้ว!
"แล้วไง? หรือเจ้าจะบอกว่าไอ้จอมมารโง่ ๆ จะเอาชนะชายผู้นั้นได้รึไง มัจจุราช?"
ตาแก่ไม่พูดโต้ตอบอะไรอีกฝ่าย มันได้แต่ยืนทอดถอนใจพร้อมกับรับชมการต่อสู้ของเส้าเทียนอิ้งต่อไป พร้อมกับภาวนาว่าขอให้แผนการทั้งหมดลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่สิ... แค่หนึ่งในสิบก็ยังดี ที่เหลือก็รอการมาถึงของ คนจากบนฟากฟ้า สินะ?
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น