ลำดับตอนที่ #51
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่14
และแล้วการประลองก็เริ่มเข้าสู่ช่วงไคลแมกซ์ เมื่อลุงจางเกิดคลุ้มคลั่งบ้าเลือดเนื่องจากไม่สามารถควบคุมพลังลมปราณขั้นสูงได้ หากปล่อยไปเช่นนี้ไม่เพียงแต่ลานประลองนี่จะย่อยยับเท่านั้น แม้แต่ในตัวเมืองเองก็คงวอดวายชิบหายไม่แพ้กันแน่ ๆ ดังนั้นผมต้องหาทางหยุดเหตุการณ์บ้า ๆ นี้ไว้ให้ได้เสียก่อน
"จางเหอลู่! ข้าจะจัดการเจ้าเสียตรงนี้ อย่าหวังว่าจะได้กำเริบเสิบสานไปกว่านี้เลย!!!"
ผมรวบลมปราณขั้นสูงเพื่อเรียกลมพายุหอบใหญ่เข้าจู่โจมในทันที แต่กระแสลมก็เข้าไม่ถึงตัวฝ่ายตรงข้ามเพราะติดกำแพงเมฆสีดำขนาดมหึมาเสียก่อน ลุงจางใช้ทั้งสองมือควบคุมคลื่นดำที่มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่เกินตัวของแกจนกล้ามเนื้อแขนทั้งสองข้างเริ่มปริแตก เลือดสด ๆ สาดพุ่งไปทั่วบริเวณ สีหน้าของตาลุงบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดจนแทบจะเกินรับไหว
"ท่านพ่อ ได้โปรดหยุดมือเท่านี้เถิด!"
บรรดาลูก ๆ ของแกต่างอดรนทนไม่ไหวต้องรีบออกโรงมาช่วยกันห้ามปราม ด้วยเห็นสภาพสังขารของบิดาตนแล้วนึกหวาดกลัวว่าจะบาดเจ็บหนักไปมากกว่านี้ ไม่ใช่ด้วยน้ำมือของผมนะ แต่จากวิชามารของลุงจางเองนั่นแหละ
"ใช่แล้ว ขนาดพวกลูกของเจ้ายังกล่าวเช่นนั้นเลย!"
"สามหาว!!!"
แค่จางเหอลู่สะบัดข้อมือข้างหนึ่ง ก็ทำเอาพวกลูกชายลูกสาวกระเด็นกระดอนไม่เป็นท่า ตอนนี้ในหัวของตาลุงคงมีแค่ว่าทำยังไงถึงจะเอาชนะจอมมารได้แน่ ๆ ใครจะว่าอะไรก็ไม่คิดสนใจฟังอีกต่อไปแล้ว
"วันนี้ข้าจะพิชิตมารร้ายและก้าวขึ้นไปปกครองยุทธภพอย่างเต็มภาคภูมิ!"
ลุงจางตะโกนเสียงดังกึกก้องชนิดฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย จนใครที่ได้ยินต่างก็ขนลุกไปตาม ๆ กัน แต่ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือหวาดกลัวใด ๆ เลย กลับคิดสมเพชเวทนาในตัวแกมากยิ่งขึ้นไปอีก หากว่าอยากจะเป็นจ้าวยุทธภพขนาดนั้นก็ลองดูสิ ลองเอาชนะจอมมารคนนี้ให้ได้เสียก่อน!
"รับมือ!"
ผมก้มตัวลงเตะกวาดรอบทิศ ดึงเอาฝุ่นทรายที่พื้นให้ลอยฟุ้งในอากาศกลายเป็นพายุทรายทันที จุดประสงค์เพื่อบดบังทัศนวิสัยและลอบเข้าทางด้านหลังของลุงจางอย่างรวดเร็วเงียบเชียบ ต่อให้คลื่นพลังเมฆดำจะร้ายกาจเพียงใด หากใช้ไม่ถูกเป้าหมายก็ไร้ค่า ระหว่างที่อีกฝ่ายยังไม่ทันระวังตัว ผมจึงซัดพลังฝ่ามือเข้าใส่ตาลุงในทันที
"นึกแล้วว่าแกต้องเข้ามาใกล้!"
แทนที่จะได้รุก ผมกลับพลาดท่าโดนลุงจางหันมากระแทกด้วยสันมือเข้าเต็ม ๆ ใบหน้า ส่วนที่โดนคือแถวเหนือลูกตาข้างซ้ายขึ้นไปเล็กน้อย เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นเปรอะใบหน้าผมไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
"ไอ้หนู!!!"
"ไม่เป็นไร แค่ถาก ๆ ไปเท่านั้น!"
น้องหมาตกใจร้องเรียก ผมเอามือกุมหน้าพร้อมกับโดดหลบออกจากรัศมีจู่โจมของอีกฝ่ายในทันที ไม่นึกว่าลุงแกจะระแวดระวังด้านหลังอยู่แล้วจึงโดนตอบโต้โดยไม่คาดฝัน แต่โชคยังดีที่สันมือแกไม่เข้าเป้าสำคัญอย่างลูกตาทำให้ผมรอดจากการตาบอดแบบหวุดหวิด และตอนนี้ผมเองก็เริ่มจะหงุดหงิดมากขึ้นทุกทีแล้วด้วย
"ประมุขจาง ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ อย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน!"
ถ้าลุงแกมีความสามารถควบคุมกลุ่มเมฆดำได้ งั้นทางนี้ก็จะใช้ความสามารถรวบรวมฝุ่นทรายที่ปลิวกระจายอยู่ทั่วบริเวณให้เป็นประโยชน์บ้างล่ะ ก่อนอื่นผมเตะกวาดเพื่อเรียกทรายให้ปลิวว่อนหนักกว่าเดิมอีก จนบดบังให้มองไม่เห็นอะไรที่เบื้องหน้าเลย
"เจ้าทำได้แค่นี้เองหรือจอมมาร! ถ้าเช่นนั้นก็เป็นแค่ไอ้ขี้ขลาดที่จ้องจะเล่นลอบกัดชาวบ้านเท่านั้นสินะ?"
คนเขลาย่อมมองไม่เห็นความจริงที่ตรงหน้า มองไม่ทะลุถึงคุณค่าอันเที่ยงแท้ในสรรพสิ่ง ฝุ่นทรายที่ลอยอยู่ตรงหน้าของจางเหอลู่อาจเป็นได้แค่เครื่องมือบดบังทัศนวิสัยเพื่อเล่นลอบกัดเท่านั้น แต่สำหรับผมแล้ว เจ้าเม็ดเล็ก ๆ เหล่านี้แหละที่จะนำชัยชนะมาให้ ผมเรียกพลังลมปราณเต็มกำลังสิบส่วน ไม่ใช่เพื่อสร้างคลื่นพลังลูกใหญ่ ๆ ไม่ใช่เพื่อใช้กระบวนท่ารุนแรงอันใด แต่เพื่อทำสิ่งเล็ก ๆ เช่นการบดอัดเม็ดทรายอันละเอียดยิบพวกนี้ให้กลายเป็นหัวกระสุน แม้ว่าอาจจะดูเล็กแต่มันก็แข็งยิ่งกว่าศิลา และคมกริบมีพลังทะลุทะลวงสูงยิ่งกว่าดรรชนีของทุกสำนักรวมกันเสียอีก นี่คือสิ่งที่กำเนิดจากภูมิปัญญาของเด็กตัวเล็ก ๆ เช่นผมที่หลอมรวมองค์ความรู้ระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่เข้าด้วยกัน
"จางเหอลู่ เจ้าพ่ายแพ้แล้ว!"
ผมวางกระสุนลงบนฝ่ามือ เล็งไปที่ลุงจางก่อนจะใช้นิ้วมืออีกข้างดีดด้วยพลังดรรชนีอันรุนแรง หัวกระสุนหมุนติ้วแหวกอากาศพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้ามด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง แม้ว่าตาลุงจะทันสังเกตเห็นและเรียกกลุ่มเมฆดำมาตั้งแนวรับอย่างสุดกำลังก็ตามที แต่ด้วยความแรงและเร็วของมันก็พุ่งทะลวงผ่านเมฆดำมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก กระทั่งลุงจางถึงกับต้องใช้พลังฝ่ามือเข้าหยุดยั้งเลยทีเดียว
"มารร้ายแห่งยุคสมัยน่ะ มีข้าแค่คนเดียวก็เกินพอแล้ว!"
กระสุนพุ่งทะลุกลางฝ่ามือของจางเหอลู่อย่างง่ายดาย และบินแฉลบหัวไหล่ไปเพียงแค่นิดเดียว แต่ด้วยอำนาจทำลายล้างของมันก็ถึงกับบดขยี้เนื้อตรงหัวไหล่ไปเกือบครึ่งเลยทีเดียว เลือดสด ๆ สาดเป็นน้ำพร้อมด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดของตาลุง ด้านลูก ๆ ทั้งเจ็ดเมื่อเห็นผลแพ้ชนะปรากฎชัดจึงปรี่เข้ามาขัดขวางการประลองในทันที ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ติดใจจะสู้ต่ออีกแล้ว เพราะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือหยุดตาลุงบ้าเลือดนี่เท่านั้น
"เอ้า! มีใครอยากจะประลองกับข้าอีกมั้ย?"
ผมจงใจตะโกนเสียงดังเพื่อข่มขวัญสำนักอื่น ๆ ในทันที อันที่จริงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้เพราะทุกคนก็คงเห็นความเก่งกาจของทั้งตัวผมและลุงจางในวันนี้แล้ว ไม่น่าจะมีใครกล้าหือกับเทียนซานอย่างน้อย ๆ ก็คงอีกสิบถึงยี่สิบปีเป็นอย่างต่ำแน่ และเมื่อทุกสำนักต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเส้าเทียนอิ้งคือบุคคลที่เก่งฉกาจไร้ผู้เทียบเทียม จึงต่างยกย่องให้ผมได้ขึ้นตำแหน่งเป็นจ้าวยุทธจักรอย่างเป็นทางการในที่สุด!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น