ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #77 : เปิดศึกถล่มเทียนซาน ตอนที่03

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 298
      16
      18 ก.ย. 61


         "ระดับการชาร์จพลังงานอยู่ที่ 80% อีกห้านาทีจะยิงได้อีกครั้งค่ะ!"

         มารีนตะโกนบอกบาวและชางซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการบังคับควบคุมหน่วยเกียร์ออร์ก้าจากระยะไกล  เพราะจู่ ๆ ก็มีเด็กหนุ่มท่าทางแปลก ๆ พุ่งขึ้นมาต่อสู้กับหุ่นรบของทางนี้  แถมยังแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ทั่วไปอีก  ไม่ต้องนับเรื่องที่บินได้  เอาแค่ว่ามันพุ่งมาต่อยหุ่นที่ประกอบขึ้นจากเหล็กกล้าทั้งตัวจนกระเด็นก็ทำเอาทั้งคู่ขนลุกแล้ว

         "ล็อคเป้าเจ้านั่นไว้นะชาง! อีกห้านาทีเราจะเผด็จศึกเทียนซานให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย!!!"

         บาวกำชับเพื่อนร่วมทีมเฝ้าระวังเจ้านั่นเอาไว้ให้ดี  ทุกอย่างดูจะผิดจากที่เขาคำนวนไว้มาก  แทนที่จะปิดฉากได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ดันกลายเป็นศึกยืดเยื้อ  แถมเจ้านั่นก็ตื้อไม่เลิกอีกต่างหาก  ไม่นึกเลยว่าในดาวเคราะห์อันห่างไกลจะมีสิ่งมีชีวิตในระดับที่ทรงพลังแบบนี้อยู่ด้วย  เห็นทีว่าหากไม่เร่งปิดเกมทางนี้คงจะเสียเปรียบในระยะยาวแน่

         "บาวเกราะป้องกันของหุ่นหมายเลข0021และ0022 เริ่มอ่อนกำลังลงแล้ว  ขอบีมสนับสนุนจากยานหลักด้วย!"

         "ไม่อนุมัติ! เราต้องเก็บพลังงานไว้ทำลายเป้าหมายหลักเสียก่อน  หากจัดการสำนักเทียนซานได้เจ้านั่นต้องล่าถอยกลับไปแน่!"

         ระดับพลังงานในตัวหุ่นรบลดลงอย่างรวดเร็ว  ส่วนหนึ่งเพราะต้องดึงพลังสำรองมาใช้เป็นเกราะป้องกันตัวจากการโจมตีของอีกฝ่าย  อีกส่วนหนึ่งก็ใช้เป็นพลังงานให้แก่ปืนไรเฟิลและระบบพยุงตัวภายใต้แรงโน้มถ่วง  บาวไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นศึกยืดเยื้อจึงไม่ได้เติมเชื้อเพลิงลงไปในตัวหุ่นจนเต็ม  เอาแค่บินรักษาการณ์ได้เฉย ๆ และตอนนี้เขาเริ่มนึกเสียใจกับเรื่องนั้นแล้ว

         "ระดับพลังงานเต็มที่  พร้อมยิงแล้วค่ะ!"

         มารีนประกาศบอกเพื่อนร่วมทีม  รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นจากหน้าจอว่าพวกศัตรูได้อพยพกำลังส่วนใหญ่ออกจากพื้นที่แล้ว  หลังจากที่ได้เห็นอำนาจทำลายล้างจากลำแสงนัดแรก  คราวนี้เธอไม่ยอมพลาดเป้าหมายแน่  เมื่อบาวออกคำสั่งลำแสงพลังงานสูงก็พุ่งตรงเข้าหาเทียนซานในทันที  หากแต่ครั้งนี้กระสุนก็พลาดเป้าไปอีกแล้ว  นั่นเพราะเจ้าหนุ่มที่อาละวาดต่อยเตะหุ่นยนต์อยู่เมื่อครู่  เมื่อเห็นเข้าก็รีบพุ่งตัวเข้ามารับลำแสงพิฆาตแทนด้วยความเร็วปานสายฟ้า  ผลจากการนั้นทำให้แรงปะทะสะท้อนกลับไปที่ยานจนสั่นสะเทือนเสียการควบคุมไปชั่วระยะหนึ่ง  ส่วนเจ้าหนุ่มคนนั้นก็กระเด็นร่วงลงไปยังพื้นที่ด้านล่างในทันที

         "กรี๊ดดด!!!"

         "จับเอาไว้ให้แน่น ๆ นะ! อลิซาเบธรีบปรับสมดุลของยานเร็วเข้า! ปัทโธ่ว้อย!!!"

         บาวออกคำสั่งให้แอนดรอยสาวควบคุมยานให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมโดยเร็วเพื่อเตรียมรับการโจมตีอีกระลอก  แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีการตอบโต้ใด ๆ ทั้งนั้นเพราะเจ้าหนุ่มนั่นยังนอนหงายเก๋งอยู่ที่ด้านล่างเช่นเดิม  ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็หยุดนิ่งและประเมินค่าความเสียหายจากการปะทะครั้งแรกกันไปก่อน 


    @@@@@@@@@@@@


         "โอยยยยย!"

         ผมนอนหมดแรงข้าวต้มอยู่ที่พื้น  รอบตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากแรงปะทะตอนพุ่งกระแทกลงมา  แขนทั้งสองข้างมีรอยไหม้ดำและแสบสันถึงทรวงใน  นี่ถ้าไม่เพราะในเสี้ยววินาทีนั้นเราเอาตัวเข้าป้องกันลำแสงเอาไว้ล่ะก็  ป่านนี้น้องหมาและคนอื่น ๆ ในเทียนซานคงเหลือแต่ชื่อไปแล้ว  ฮะ ๆ ทำอะไรเกินตัวจริง ๆ นะเนี่ยตรู!

         "เจ้าหนู! เป็นอย่างไรบ้างยังไม่ตายใช่ไหม?"

         น้องหมาวิ่งเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง  ไม่รู้ว่ามันห่วงผมหรือแค่เป็นห่วงร่างในอนาคตของตัวเองกันแน่  แต่เอาเถอะถ้ายังนอนหายใจหอบได้นี่ก็คงไม่อันตรายอะไรมากมั้ง นอกจากท่อนแขนที่ไหม้เกรียม... เอ๋? ไหม้เกรียม???  ผมมองแขนทั้งสองข้างที่ฟื้นฟูเยียวยาตัวเองจนหายดีในเวลาไม่นานนัก  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นรอยไหม้สาหัสอยู่แท้ ๆ

         "เหอะ! จงสำนึกขอบคุณวิชามารประสานใจของข้าเถิดที่ช่วยให้เจ้ารอดจากวิกฤตมาได้!"

         จอมมารได้ทีชูคอพร้อมอธิบายพลังปราณขั้นสีเขียวที่ผมกรุยทางเบิกพลังได้โดยบังเอิญเมื่อครู่  เพราะนี่คือพลังในระดับชั้นที่สามารถควบคุมบงการธาตุต่าง ๆ รวมถึงเหาะเหินเดินอากาศได้ดังใจนึก  แถมยังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บรวมถึงป้องกันพิษและการโจมตีแทบทุกชนิดบนโลกได้อีกด้วย  ไอมรกตที่แผ่ซ่านออกมาจากทั่วร่างคือเกราะป้องกันอย่างดีและยังเร่งพลังสมานบาดแผลให้เร็วยิ่งขึ้น

         "รอดไปที! ว่าแต่เจ้าพวกนั้นเล่นใหญ่น่าดูเลยนะ  นี่มันกะจะล้างบางเทียนซานโดยไม่สนใจอะไรเลยรึไงฟะเนี่ย!!!"

         "ชิ! ถ้าข้ามีร่างไว้ใช้งานล่ะก็  ต่อให้มีเกาะลอยได้มาอีกสักสามเกาะก็มิได้ครณามือหรอก!"

         น้องหมายังคงขี้โม้ต่อไป  แต่ส่วนหนึ่งผมเริ่มยอมรับแล้วว่าวิชาของมันดีจริงแฮะ  เพราะนอกจากจะโบยบินไปในอากาศได้  ยังรักษาบาดแผลได้รวดเร็วราวกับหนังการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ที่เคยดูด้วย  อันที่จริงมันเวอร์ตั้งแต่ไปไล่ต่อยหุ่นยนต์เหล็กกล้าได้นี่แหละ  ผมผุดลุกขึ้นนั่ง  ยังรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยจากแรงปะทะก่อนหน้านี้

         "จะว่าไปเจ้าพวกนั้นไม่ได้ส่งหุ่นลงมาจัดการเก็บกวาดทางนี้เลยนะ  หรือว่าจะโดนต่อยพังหมดแล้วหว่า?"

         "จากสายตาของข้า  เจ้าหุ่นพวกนั้นยังเคลื่อนไหวได้ดีและดูเหมือนจะเคลื่อนที่ในรูปแบบค่ายกลหรืออะไรสักอย่าง  บางทีพวกมันอาจจะกำลังวางแผนบุกโจมตีครั้งต่อไปอยู่ก็เป็นได้!"

         จอมมารให้ทัศนะซึ่งผมก็เห็นตามนั้น  เพียงแต่การเคลื่อนไหวของพวกมันเป็นไปในรูปแบบการจัดทัพสมัยใหม่ซึ่งทางนี้คงไม่รู้จักกระมัง?  ผมเองก็ไม่รู้ละเอียดนักหรอกแต่ต้องขอบคุณที่พวกมันมีกันอยู่แค่ห้าตัว  เพราะถ้าแห่กันมามากกว่านี้คงรับมือไม่ไหวแน่

         "ที่สำคัญ... ดูเหมือนว่ากองหนุนที่เจ้าต้องการจะเดินทางมาถึงแล้วนะ!"

         น้องหมาบุ้ยใบ้ไปที่พวกองค์รักษ์ซึ่งเดินทางมาสมทบพอดิบพอดี  นั่นหมายความว่าได้สิ่งที่ต้องการครบแล้ว  เท่านี้ก็สามารถเดินตามแผนที่วางเอาไว้ได้เสียที

         "งั้นก็ลุยกันเลย!"

         ผมลุกขึ้นกำหมัดแน่น  อย่างที่บอกไปว่าก่อนหน้านี้ผมยังเฉย ๆ กับพวกเทียนซานอยู่เลย  แต่เมื่อได้เห็นภาพอันโหดร้ายของการต่อสู้แล้วก็ทำให้ต่อมคุณธรรมหรืออะไรสักอย่างมันระเบิดขึ้นมาซะงั้น  เมื่อเป็นแบบนี้ก็มีแต่ต้องเดินหน้าบดขยี้ศัตรูให้สิ้นซากเสียก่อนล่ะ  แล้วเรื่องอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง



    จบตอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×