ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #87 : ความเด็ดเดี่ยวขององค์หญิง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 254
      18
      30 ต.ค. 61


         หลังจากปลุกปล้ำอยู่สักพัก  ในที่สุดผมก็จัดการถอดเสื้อผ้าชั้นนอกขององค์หญิงออกจนหมด  เผยให้เห็นโนมเนื้อและผิวพรรณที่แม้จะหมองคล้ำไปบ้างเพราะแรงแดดในต้าหลง  แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสีขาวอมชมพูน่าลูบไล้อย่าบอกใครเชียว  ชาล็อตตกใจพยายามคลานหนีทั้ง ๆ ที่ถูกมัดมือขาเอาไว้  เห็นแล้วก็น่าสงสารอยู่เหมือนกัน  แต่ตอนนี้ภารกิจต้องมาก่อน

         "แฮะ ๆ เห็นว่าเป็นองค์หญิงแต่ไม่คิดเลยนะว่าจะเซ็กซี่ขนาดนี้เนี่ย!"

         "ไอ้บ้าไอ้สารเลว! แกคิดว่าชั้นคนนี้เป็นใครกัน  ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนี้แล้วคิดเหรอว่าจะจบง่าย ๆ น่ะไอ้ชาติชั่ว!!!"

         เออ... ไอ้พวกสาว ๆ ในละครหลังข่าวที่ตะโกนด่าแบบนี้น่ะ  ร้อยทั้งร้อยเสร็จโจรข่มขืนไม่ก็พระเอกหมดนะเฟ้ย!  ผมคิดอย่างละเหี่ยใจ  ดูเหมือนว่าองค์หญิงผู้สูงศักดิ์คนนี้คงจะไม่เคยดูละครสินะ  หรือไม่ก็ดวงดาวที่เธอจากมาไม่มีพวกหนังหรือละครเลยรึไง  จะยังไงก็ตามทีตอนนี้สภาพของชาล็อตในชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำสุดยั่วยวนนั่นก็ทำเอาความเป็นชายของผมกระตุกเกร็งขึ้นมาทันที  ใจเย็นไอ้น้องชาย! งานต้องมาก่อน...  ผมพยายามปลอมประโลมร่างกายช่วงล่างอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว

         "ถ้ายังทำเป็นปากแข็งอีก  รอบนี้จะถลกเสื้อในลายลูกไม้นั่นออกให้หมดเลย  ขอดูหน่อยเถอะว่าหัวนมขององค์หญิงสีอะไรกันแน่!"

         อา... หัวนม... ตรูพูดว่าหัวนมออกไปแล้วสินะ?  ผมพยายามปลุกปลอบน้องชายที่แข็งเมืองขึ้นมาอย่างกะทันหัน  คอยสะกัดกั้นไม่ให้หัวล่างเริ่มทำงานแทนสมอง  การต่อสู้กับสัญชาตญาณลูกผู้ชายนี่มันในยากยิ่งกว่ารับมือลุงจางในงานประลองอีกนะเนี่ย

         "กรี๊ดด! อย่าเข้ามานะ! ไอ้บ้าไอ้ชั่วไอ้สารเลว!"

         ชาล็อตยกท่อนแขนขึ้นบดบังเนินอกของเธอ  ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาบ้างแล้ว  แต่ผมไม่สนใจรีบยื่นมือไปกระตุกเสื้อในของอีกฝ่ายจนขาดผึ่งในทันที! ชั่วพริบตานั้นไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องหลุบสายตามองลงต่ำด้วย  บางทีอาจเป็นเพราะมโนสำนึกผิดชอบชั่วดีมันพุ่งเข้ามาขัดขวางต่อมกามารมณ์ไว้ทันก็ได้  ทีแรกคิดว่าอีกฝ่ายคงกรีดร้องแทบเป็นแทบตาย  แต่ที่ไหนได้ชาล็อตกลับนิ่งเงียบไปซะอย่างนั้น

         "หึหึ... เริ่มอยากจะคายความลับออกมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ?"

         "ไม่...!"

         วินาทีนั้นชาล็อตพลันลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผม  โดยไม่ปิดบังโนมเนื้อและเนินอกแต่อย่างใด  กลายเป็นทางนี้เสียอีกที่เบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน  ปัทโธ่ว้อย! ไอ้มโนสำนึกมึงช่วยไปพักร้อนสักห้านาทีได้มั้ยวะ  ตรูก็อยากเห็นร่างเปลือยผู้หญิงบ้างอะไรบ้างนะโว้ย!  ผมก่นด่าสาปแช่งคุณความดีที่ยังคงสิงสถิตอยู่ในร่างราวกับปิศาจร้าย  ที่คอยทำหน้าที่เสมือนเป็นกองเซ็นเซอร์ซึ่งคอยเบลอหัวนมตัวการ์ตูนไม่ให้ออกอากาศทางโทรทัศน์ได้

         "ถ้าแกอยากดูร่างเปลือยหรือทำมิดีมิร้ายร่างกายของฉันก็เชิญ  แต่แกและพรรคพวกไม่มีวันได้ข้อมูลใดก็ตามที่จะเป็นภัยต่อมาตุภูมิของสหราชอาณาจักรได้แน่!"

         น้ำเสียงของชาล็อตดูเยียบเย็นหากแต่เฉียบขาด  วินาทีนั้นทำให้ผมมองเห็นเธอในรูปลักษณ์ใหม่ขึ้นมา  ไม่ใช่ชาล็อตในสภาพนักโทษคุมขังน่าสังเวช  แต่เป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่ยอมเสียสละทุกสิ่งอย่างหากนั่นเป็นการทำเพื่อมาตุภูมิของตนเอง  เธอคงจะรักบ้านเกิดมากเลยสินะ  ถึงขนาดยอมให้ผู้ชายเห็นร่างเปลือยที่ผู้หญิงทุกคนแสนจะหวงแหนได้แบบนี้

         "ว่าไงล่ะ! อยากได้ไม่ใช่เหรอร่างกายของฉันน่ะ  กินให้อิ่มหนำแล้วรีบไสหัวไปซะ!!!"

         ผมไม่ได้มองไปทางนั้นแต่ได้ยินเสียงสะอื้นเล็ก ๆ ลอยมากับสายลม  ทีแรกคิดว่ายัยนี่ก็คงเป็นแค่ลูกคุณหนูขี้วีนอ่อนต่อโลก  ไม่นึกว่าพอโดนบีบคั้นมาก ๆ กลับแสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวที่แม้แต่เจ้าตัวเองยังอาจไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำ   โอย... ตอนนี้เลยกลายเป็นว่ามโนสำนึกด้านบวกในหัวบนกำลังเอาชนะความหื่นของหัวล่างได้อย่างหมดจดเด็ดขาด  และมันก็ออกคำสั่งให้ผมคืนเสื้อในรวมถึงเครื่องแต่งกายทั้งหมดแก่องค์หญิงไป  พร้อมทั้งแก้มัดให้อีกด้วย

         "เชอะ! ไอ้พวกขี้ขลาด...."

         นั่น! ยังอุตส่าห์แอบแขวะเบา ๆ ใส่ตรูอีกยัยบ้า  แต่ช่างเถอะเพราะตอนนี้ผมเองก็นึกสมเพชตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน  ทั้งที่ได้โอกาสเกิดใหม่อีกครั้งแล้วแท้ ๆ ยังไม่วายทำอะไรไม่ได้เรื่องอีก  ทั้งเรื่องสลับร่างกับจอมมารแล้วไหนจะเรื่องการสูญเสียที่เทียนซานอีก  แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากที่ไอ้พี่บ้านั่นมันเคยดูถูกไว้เลยสิวะ! 

         "มาตุภูมิงั้นเหรอ?"

         ผมนั่งลงข้าง ๆ ตัวชาล็อตที่จัดการแต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยดีแล้ว  แต่ท่าทางเธอยังระแวงอยู่จึงรีบหนีไปนั่งอีกมุมห้องตามเดิม  เออช่างมันเถอะเพราะตอนนี้ปากของผมมันถือวิสาสะพล่ามอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้ว

         "ผมเองก็จากบ้านมาไกลเหมือนกัน..."     

         เรื่องราวต่าง ๆ นับตั้งแต่การได้ไปเยือนสำนักงานของพระเจ้า  ได้พบเจอกับเจ้าหน้าที่สาวที่ชื่ออาธีน่า  กลายเป็นดาวตกพุ่งทะยานมาแย่งร่างของน้องหมา  กระทั่งตกกะไดพลอยโจนกลายมาเป็นเจ้ายุทธภพ  แล้วเจอยานอวกาศกับหุ่นรบขนาดใหญ่ไล่ยิงตูดเอาจนถึงปัจจุบัน  ยิ่งเล่าผมก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเป็นลำดับ  อาจจะเพราะได้ระบายความในใจออกมาบ้าง  หลังจากที่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มามากแล้ว  ไม่นึกเลยว่าคนแรกที่ผมได้เปิดอกพูดฉอด ๆ ให้ฟังดันเป็นตัวประกันของพวกศัตรูเสียนี่  บางทีอาจเพราะผมแอบประทับใจในความเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่ก็ได้มั้ง?

         "แล้วไง?  มาเล่าเรื่องแบบนี้ให้ฉันฟังคิดจะซื้อใจกันทางอ้อมเหรอ  ไม่มีวันซะล่ะ!"

         ท่าทางชาล็อตจะยังระแวงทางนี้อยู่มากจึงไม่ยอมรับฟังต่อ  แต่ช่างเถอะเพราะยังไงผมก็พูดมากเกินไปแล้ว  พอมานึก ๆ ดูนี่ตรูตั้งใจจะมาล้วงความลับของศัตรู  ไหงกลายเป็นเอาความลับของทางนี้เปิดเผยเสียฉิบ  โอย โง่แท้เรา...!

         "ยังไงก็ขอบใจนะที่ไม่ล่วงเกิน..."

         โอ๊ะโอ! ดูเหมือนชาล็อตจะแอบกระซิบกับตัวเองเบา ๆ แต่คงคาดไม่ถึงว่าหูของผมจะดีเกิน  จึงได้ยินคำพูดนั้นที่ไม่น่าออกจากปากยัยม้าดีดกะโหลกนี่ได้เลย  แม้จะไม่มากมายอะไรแต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มได้  และดูเหมือนทางนั้นก็จะรู้ตัวเสียแล้วจึงรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที  มันทำให้ผมถึงกับหลุดขำออกมาทันใด

         "ขำบ้าอะไร!"

         ผมลุกขึ้นโบกไม้โบกมือให้เธอเข้านอนซะ  ยังไงเสียเดี๋ยวก็มีโอกาสได้สอบปากคำกันอีกแน่ ๆ แต่วันนี้ยอมให้กับความใจเด็ดขององค์หญิงแห่งสหราชอาณาจักรเสียหน่อยก็แล้วกัน ว่าแล้วผมก็เดินออกจากห้องขังกลับไปยังส่วนที่พักของตนเองอย่างรวดเร็ว


    จบตอน
        

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×