ลำดับตอนที่ #87
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #87 : ความเด็ดเดี่ยวขององค์หญิง
หลังจากปลุกปล้ำอยู่สักพัก ในที่สุดผมก็จัดการถอดเสื้อผ้าชั้นนอกขององค์หญิงออกจนหมด เผยให้เห็นโนมเนื้อและผิวพรรณที่แม้จะหมองคล้ำไปบ้างเพราะแรงแดดในต้าหลง แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสีขาวอมชมพูน่าลูบไล้อย่าบอกใครเชียว ชาล็อตตกใจพยายามคลานหนีทั้ง ๆ ที่ถูกมัดมือขาเอาไว้ เห็นแล้วก็น่าสงสารอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ภารกิจต้องมาก่อน
"แฮะ ๆ เห็นว่าเป็นองค์หญิงแต่ไม่คิดเลยนะว่าจะเซ็กซี่ขนาดนี้เนี่ย!"
"ไอ้บ้าไอ้สารเลว! แกคิดว่าชั้นคนนี้เป็นใครกัน ทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนี้แล้วคิดเหรอว่าจะจบง่าย ๆ น่ะไอ้ชาติชั่ว!!!"
เออ... ไอ้พวกสาว ๆ ในละครหลังข่าวที่ตะโกนด่าแบบนี้น่ะ ร้อยทั้งร้อยเสร็จโจรข่มขืนไม่ก็พระเอกหมดนะเฟ้ย! ผมคิดอย่างละเหี่ยใจ ดูเหมือนว่าองค์หญิงผู้สูงศักดิ์คนนี้คงจะไม่เคยดูละครสินะ หรือไม่ก็ดวงดาวที่เธอจากมาไม่มีพวกหนังหรือละครเลยรึไง จะยังไงก็ตามทีตอนนี้สภาพของชาล็อตในชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำสุดยั่วยวนนั่นก็ทำเอาความเป็นชายของผมกระตุกเกร็งขึ้นมาทันที ใจเย็นไอ้น้องชาย! งานต้องมาก่อน... ผมพยายามปลอมประโลมร่างกายช่วงล่างอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว
"ถ้ายังทำเป็นปากแข็งอีก รอบนี้จะถลกเสื้อในลายลูกไม้นั่นออกให้หมดเลย ขอดูหน่อยเถอะว่าหัวนมขององค์หญิงสีอะไรกันแน่!"
อา... หัวนม... ตรูพูดว่าหัวนมออกไปแล้วสินะ? ผมพยายามปลุกปลอบน้องชายที่แข็งเมืองขึ้นมาอย่างกะทันหัน คอยสะกัดกั้นไม่ให้หัวล่างเริ่มทำงานแทนสมอง การต่อสู้กับสัญชาตญาณลูกผู้ชายนี่มันในยากยิ่งกว่ารับมือลุงจางในงานประลองอีกนะเนี่ย
"กรี๊ดด! อย่าเข้ามานะ! ไอ้บ้าไอ้ชั่วไอ้สารเลว!"
ชาล็อตยกท่อนแขนขึ้นบดบังเนินอกของเธอ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาบ้างแล้ว แต่ผมไม่สนใจรีบยื่นมือไปกระตุกเสื้อในของอีกฝ่ายจนขาดผึ่งในทันที! ชั่วพริบตานั้นไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องหลุบสายตามองลงต่ำด้วย บางทีอาจเป็นเพราะมโนสำนึกผิดชอบชั่วดีมันพุ่งเข้ามาขัดขวางต่อมกามารมณ์ไว้ทันก็ได้ ทีแรกคิดว่าอีกฝ่ายคงกรีดร้องแทบเป็นแทบตาย แต่ที่ไหนได้ชาล็อตกลับนิ่งเงียบไปซะอย่างนั้น
"หึหึ... เริ่มอยากจะคายความลับออกมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ?"
"ไม่...!"
วินาทีนั้นชาล็อตพลันลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผม โดยไม่ปิดบังโนมเนื้อและเนินอกแต่อย่างใด กลายเป็นทางนี้เสียอีกที่เบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน ปัทโธ่ว้อย! ไอ้มโนสำนึกมึงช่วยไปพักร้อนสักห้านาทีได้มั้ยวะ ตรูก็อยากเห็นร่างเปลือยผู้หญิงบ้างอะไรบ้างนะโว้ย! ผมก่นด่าสาปแช่งคุณความดีที่ยังคงสิงสถิตอยู่ในร่างราวกับปิศาจร้าย ที่คอยทำหน้าที่เสมือนเป็นกองเซ็นเซอร์ซึ่งคอยเบลอหัวนมตัวการ์ตูนไม่ให้ออกอากาศทางโทรทัศน์ได้
"ถ้าแกอยากดูร่างเปลือยหรือทำมิดีมิร้ายร่างกายของฉันก็เชิญ แต่แกและพรรคพวกไม่มีวันได้ข้อมูลใดก็ตามที่จะเป็นภัยต่อมาตุภูมิของสหราชอาณาจักรได้แน่!"
น้ำเสียงของชาล็อตดูเยียบเย็นหากแต่เฉียบขาด วินาทีนั้นทำให้ผมมองเห็นเธอในรูปลักษณ์ใหม่ขึ้นมา ไม่ใช่ชาล็อตในสภาพนักโทษคุมขังน่าสังเวช แต่เป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่ยอมเสียสละทุกสิ่งอย่างหากนั่นเป็นการทำเพื่อมาตุภูมิของตนเอง เธอคงจะรักบ้านเกิดมากเลยสินะ ถึงขนาดยอมให้ผู้ชายเห็นร่างเปลือยที่ผู้หญิงทุกคนแสนจะหวงแหนได้แบบนี้
"ว่าไงล่ะ! อยากได้ไม่ใช่เหรอร่างกายของฉันน่ะ กินให้อิ่มหนำแล้วรีบไสหัวไปซะ!!!"
ผมไม่ได้มองไปทางนั้นแต่ได้ยินเสียงสะอื้นเล็ก ๆ ลอยมากับสายลม ทีแรกคิดว่ายัยนี่ก็คงเป็นแค่ลูกคุณหนูขี้วีนอ่อนต่อโลก ไม่นึกว่าพอโดนบีบคั้นมาก ๆ กลับแสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวที่แม้แต่เจ้าตัวเองยังอาจไม่อยากเชื่อเลยด้วยซ้ำ โอย... ตอนนี้เลยกลายเป็นว่ามโนสำนึกด้านบวกในหัวบนกำลังเอาชนะความหื่นของหัวล่างได้อย่างหมดจดเด็ดขาด และมันก็ออกคำสั่งให้ผมคืนเสื้อในรวมถึงเครื่องแต่งกายทั้งหมดแก่องค์หญิงไป พร้อมทั้งแก้มัดให้อีกด้วย
"เชอะ! ไอ้พวกขี้ขลาด...."
นั่น! ยังอุตส่าห์แอบแขวะเบา ๆ ใส่ตรูอีกยัยบ้า แต่ช่างเถอะเพราะตอนนี้ผมเองก็นึกสมเพชตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน ทั้งที่ได้โอกาสเกิดใหม่อีกครั้งแล้วแท้ ๆ ยังไม่วายทำอะไรไม่ได้เรื่องอีก ทั้งเรื่องสลับร่างกับจอมมารแล้วไหนจะเรื่องการสูญเสียที่เทียนซานอีก แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากที่ไอ้พี่บ้านั่นมันเคยดูถูกไว้เลยสิวะ!
"มาตุภูมิงั้นเหรอ?"
ผมนั่งลงข้าง ๆ ตัวชาล็อตที่จัดการแต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยดีแล้ว แต่ท่าทางเธอยังระแวงอยู่จึงรีบหนีไปนั่งอีกมุมห้องตามเดิม เออช่างมันเถอะเพราะตอนนี้ปากของผมมันถือวิสาสะพล่ามอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้ว
"ผมเองก็จากบ้านมาไกลเหมือนกัน..."
เรื่องราวต่าง ๆ นับตั้งแต่การได้ไปเยือนสำนักงานของพระเจ้า ได้พบเจอกับเจ้าหน้าที่สาวที่ชื่ออาธีน่า กลายเป็นดาวตกพุ่งทะยานมาแย่งร่างของน้องหมา กระทั่งตกกะไดพลอยโจนกลายมาเป็นเจ้ายุทธภพ แล้วเจอยานอวกาศกับหุ่นรบขนาดใหญ่ไล่ยิงตูดเอาจนถึงปัจจุบัน ยิ่งเล่าผมก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเป็นลำดับ อาจจะเพราะได้ระบายความในใจออกมาบ้าง หลังจากที่ผ่านเรื่องร้าย ๆ มามากแล้ว ไม่นึกเลยว่าคนแรกที่ผมได้เปิดอกพูดฉอด ๆ ให้ฟังดันเป็นตัวประกันของพวกศัตรูเสียนี่ บางทีอาจเพราะผมแอบประทับใจในความเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่ก็ได้มั้ง?
"แล้วไง? มาเล่าเรื่องแบบนี้ให้ฉันฟังคิดจะซื้อใจกันทางอ้อมเหรอ ไม่มีวันซะล่ะ!"
ท่าทางชาล็อตจะยังระแวงทางนี้อยู่มากจึงไม่ยอมรับฟังต่อ แต่ช่างเถอะเพราะยังไงผมก็พูดมากเกินไปแล้ว พอมานึก ๆ ดูนี่ตรูตั้งใจจะมาล้วงความลับของศัตรู ไหงกลายเป็นเอาความลับของทางนี้เปิดเผยเสียฉิบ โอย โง่แท้เรา...!
"ยังไงก็ขอบใจนะที่ไม่ล่วงเกิน..."
โอ๊ะโอ! ดูเหมือนชาล็อตจะแอบกระซิบกับตัวเองเบา ๆ แต่คงคาดไม่ถึงว่าหูของผมจะดีเกิน จึงได้ยินคำพูดนั้นที่ไม่น่าออกจากปากยัยม้าดีดกะโหลกนี่ได้เลย แม้จะไม่มากมายอะไรแต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มได้ และดูเหมือนทางนั้นก็จะรู้ตัวเสียแล้วจึงรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที มันทำให้ผมถึงกับหลุดขำออกมาทันใด
"ขำบ้าอะไร!"
ผมลุกขึ้นโบกไม้โบกมือให้เธอเข้านอนซะ ยังไงเสียเดี๋ยวก็มีโอกาสได้สอบปากคำกันอีกแน่ ๆ แต่วันนี้ยอมให้กับความใจเด็ดขององค์หญิงแห่งสหราชอาณาจักรเสียหน่อยก็แล้วกัน ว่าแล้วผมก็เดินออกจากห้องขังกลับไปยังส่วนที่พักของตนเองอย่างรวดเร็ว
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น