ลำดับตอนที่ #99
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #99 : เผด็จศึกพยัคฆ์แดง
การต่อสู้อันดุเดือดระหว่างเจ้าสำนักทั้งสองได้ดำเนินมาสู่ช่วงสุดท้าย หลังจากผ่านไปกว่าสามสิบกระบวนท่า จางเหอลู่ก็ดูจะผ่อนแรงลงจากความเหนื่อยล้าและอาการบาดเจ็บที่สะสมมาจากเมื่อครั้งศึกเจ้ายุทธจักร ด้านเกาฟานเฉียงนั้นนอกจากจะยังแข็งแรงดีอยู่แล้วยังเพิ่มความรุนแรงของกระบวนท่าเข้าไปอีก
"ฮ่า ๆ เป็นอะไรไปจางเหอลู่! วันนี้เป็นวันจายของเจ้าแล้วโทษฐานที่สมคบคิดกับพวกมาร!!!"
เจ้าสำนักพยัคฆ์แดงเกร็งฝ่ามือรีดเร้นลมปราณพวยพุ่งขึ้นมาจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันดูคมกริบราวกับใบมีดที่พร้อมจะเฉือนเนื้อเถือหนังของศัตรูได้เลยทีเดียว
"หากข้าฆ่าเจ้าและจอมมารได้ ยุทธภพนี้ก็จักตกเป็นของข้า!"
"ไร้สาระ!"
จางเหอลู่รับมือกับปราณคบดาบด้วยเมฆสีดำในทันที ทว่าความรุนแรงของมันนั้นถึงกับตัดวิชาเซียนจำแลงได้อย่างง่ายดาย เจ้าสำนักมังกรทองไม่ทันคาดคิดจึงโดนเฉือนเข้าที่ท้องแขนอย่างจังเลือดกระฉูดเป็นสาย เมื่อเห็นท่าไม่ดีเหอลู่จึงเปลี่ยนมาใช้วิชาดั้งเดิมของสำนักนั่นคือกระบวนท่าลมมังกรเตะทวนทิศ หมุนตัวเตะกวาดพร้อมกับกระแทกอีกฝ่ายให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะตามไปด้วยกระบวนท่าพยุหะเขี้ยวมังกรทะยาน จู่โจมอย่างรวดเร็วไร้ช่องโหว่ให้ตอบโต้ แต่เพราะอาการบาดเจ็บที่มีทำให้ออกท่าได้ไม่ถนัดนัก เกาฟานเฉียงเห็นช่องว่างก็ตอบโต้ด้วยกำปั้นทันที ซัดเข้าที่ใบหน้าจนจางเหอลู่ร่วงลงมากระแทกพื้นที่เบื้องล่าง
"ยุทธภพตกเป็นของเจ้ารึ? ช่างน่าขันเสียจริง ตกเป็นเบี้ยล่างของพวกศัตรูสิไม่ว่า!"
แม้จะพลาดท่าก็ยังไม่ยอมแพ้ จางเหอลู่ประสานปราณมังกรเข้ากับวิชาเทพจำแลงแล้วจู่โจมเข้าใส่แบบเต็มกำลัง คราวนี้เกาฟานเฉียงถึงกับกระเด็นถอยหลังไปบ้างเมื่อเจอการโจมตีแบบทุ่มสุดตัวเช่นนี้
"เวลานี้แทนที่เจ้าจะร่วมมือกับคนอื่น ๆ ช่วงชิงเมืองหลวงกลับมา นี่กลับยอมก้มหัวถวายตัวเป็นสุนัขของพวกมัน เศษคนยังดีเกินกว่าจะใช้เรียกเจ้าเลยด้วยซ้ำ!!!"
จางเหอลู่เริ่มเป็นต่อจึงเดินลมปราณเต็มที่หวังเอาชัยโดยเร็ว ทว่าสังขารกลับไม่อำนวยด้วยพิษบาดแผลที่ยังตกค้าง มันจึงกระอักเลือดทรุดลงหอบกับพื้นเสียเอง
"ฮ่า ๆ หลังจากที่ข้าได้เป็นเจ้ายุทธภพแล้วค่อยไปเอาคืนพวกมันก็ยังได้..."
เกาฟานเฉียงเกร็งพลังสิบส่วนเตรียมใช้ท่าไม้ตายส่งวิญญาณอดีตเสาหลักแห่งยุทธภพ เหล่าจอมยุทธแห่งพรรคเห็นดังนั้นย่อมไม่รอช้า รีบกระโดดเข้าไปขัดขวางอีกฝ่ายมิให้ทำร้ายบิดาของตนในทันที
"กระจอก! กระจอก! กระจอก! ไอ้พวกปลาซิวปลาสร้อยอย่าได้ริมาท้าทายข้าคนนี้เชียวนะ!!!"
เกาฟานเฉียงซัดวิชาฝ่ามือพยัคฆ์ซ้อนตะวันเข้าใส่พวกลูก ๆ ของจางเหอลู่จนกระเด็นไม่เป็นท่า และวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเองที่ร่างของเจ้าสำนักพยัคฆ์แดงกลับถูกกระแทกจนปลิวหมุนขึ้นไปกลางอากาศ ซ้ำยังเจอซัดเข้าที่ใบหน้าไม่รู้กี่สิบครั้ง ตบท้ายด้วยการถีบมันร่วงทะลุหลังคาลงไปนอนกองที่ข้างในเรือนชานต้อนรับของสำนัก และแน่นอนว่านี่จะเป็นฝีมือของใครไปไม่ได้นอกเสียจากเจ้ายุทธจักรคนปัจจุบันเส้าเทียนอิ้งนั่นเอง
"สามหาวสิ้นดี ฝีมืออย่างแกไม่เพียงพอจะทำให้ข้าตื่นเต้นเลยด้วยซ้ำ..."
นายโชคดีในร่างของเสาเทียนอิ้งลงมือเต็มที่แบบไม่ไว้หน้าเพราะโกรธแค้นจากที่ลอบโจมตีเมื่อครู่ ครั้นเมื่อเกาฟานเฉียงตั้งตัวได้ก็เจอวิชาสำนักเทียนซานเล่นงานเข้าให้จนแขนหักทั้งสองข้าง มันคุกเข่าลงร้องโอดโอยเสียงดังลั่น ก่อนจะเจอฝ่ามือคว้าบีบกะโหลกเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
"สาบานมา ว่าต่อไปนี้แกจะไม่แข็งข้อกับเทียนซานและสำนักอื่น ๆ อีก ไม่งั้นตาย!"
เจ้าสำนักพยัคฆ์แดงกัดฟันกรอดไม่ยอมเอ่ยปากตามที่ถูกบังคับแม้ว่าจะหมดหนทางสู้แล้ว เส้าเทียนอิ้งไม่มีทางเลือกจึงจัดการบีบศีรษะให้แน่นยิ่งขึ้น เสียงกะโหลกโดนบีบดังลั่นไปทั่วจนแม้แต่เหล่าธรรมะยังขนลุก
"ไอ้บ้า! ข้าคนนี้เป็นถึงเจ้าสำนักพยัคฆ์แดงเชียวนะ อย่างแกก็มันก็แค่มารกระจอกตัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าข้ารอดไปได้ล่ะก็..."
เกาฟานเฉียงยังทำปากแข็งด้วยมั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เด็กน้อยไม่ใช่จอมมารตัวจริงย่อมมิกล้าเอาชีวิตผู้อื่นอย่างแน่นอน ที่ไหนได้มันนั้นคาดผิดไปไกลโขทีเดียว และนั่นต้องชดใช้ด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ของตนเอง!
"รอดไปได้? ไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับแกแล้วไอ้ชาติชั่ว!!!"
ฉับพลันเส้าเทียนอิ้งก็ลงมือหักคอของเกาฟานเฉียงในทันที ท่ามกลางสายตาทุกผู้ในที่นั้นจับจ้อง น้องหมาถึงกับเผยรอยยิ้มอันเยือกเย็นออกมา ด้วยรู้สึกพึงพอใจกับความเด็ดขาดของเจ้าหนูนี่ที่กระทำในสิ่งที่ถูกต้องสมควรแล้วทุกประการ เชื้อชั่วย่อมไม่ควรเก็บไว้ เพราะมันจะเป็นภัยต่อไปในภายภาคหน้า...
@@@@@@@@@@@@
ฟากฟ้าด้านนอกส่งเสียงคำรามอื้ออึงไม่ทิ้งช่วงคล้ายกับจะมีลมพายุ หลิวเย่อจื่อนั่งสงบนิ่งอยู่ในเรือนชานที่พัก เขานั่งจ้องมองอุปกรณ์แปลกประหลาดสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา เขานึกถึงคำพูดของข้าหลวงแห่งสหราชอาณาจักรนั่น เซฟิราฟเอเนอจี้ หากว่าที่เจ้านั่นพูดเป็นจริง ในจักรวาลนี้ก็ยังมีพลังงานในรูปแบบอื่น ๆ ที่ร้ายกาจไม่แพ้พลังวิชาลมปราณของดินแดนต้าหลงแห่งนี้แน่ ๆ
ครืน... ครืน...
เสียงลมกรรโชกที่ด้านนอกเริ่มรุนแรงขึ้นทุกที เห็นทีว่าค่ำคืนนี้คงไม่พ้นพายุฝนกระหน่ำเป็นแน่ ทว่าในจังหวะที่เขากำลังจะตกลงสู่ห้วงภวังค์นั้นเอง จู่ ๆ เจ้าอุปกรณ์สีขาวก็ส่งเสียงร้องออกมาเสียก่อน!
"ข้าขอเข้าไปหน่อยนะ"
เสียงประตูเปิดออกเบา ๆ ในขณะที่หลิวเสียะหัวผู้บิดาปรากฏตัวขึ้น เย่อจื่อถอนหายใจเบา ๆ พลางเลื่อนมือออกจากกระบี่คู่ใจทันที
"ท่าทางจะไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนนะ น้องสาวของเจ้าเป็นห่วงมากเลยทีเดียวรู้หรือเปล่า?"
หลังจากที่เย่อจื่อได้รับการปล่อยตัวจากในวังหลวง เขาก็เดินทางกลับมาพักผ่อนที่บ้านไม่ได้ตามเกาฟานเฉียงไปที่สำนักมังกรทองด้วย และนั่นทำให้พวกคนในพรรคหมาป่าเงินโล่งใจมากทีเดียว ด้วยกลัวว่าอาจเกิดอันตรายกับเจ้าสำนักรุ่นถัดไป
"ข้าขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงขอรับท่านพ่อ แล้วหลิวอี่หลันล่ะ?"
"เห็นว่ามีธุระข้างนอกน่ะ ข้าก็ออกปากห้ามไปแล้วแต่นางหัวรั้นเสียเหลือเกิน"
หลิวเสียะหัวกล่าวพลางไอเบา ๆ ดูท่าว่าอาการป่วยเรื้อรังจะตามมารังควานเจ้าสำนักหมาป่าเงินอีกแล้ว เย่อจื่อจึงจัดที่นั่งในห้องให้บิดา แล้วสองพ่อลูกจึงได้ปรึกษาธุระปะปังกันท่ามกลางสายฝนที่ภายนอก...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น