ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Secret of heart ความลับหัวใจของยัยจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11 : สักวันหนึ่ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 50
      0
      5 มิ.ย. 57

    ฉันวางสายโทรศัพท์ใส่โซล...

    ตอนแรกก็กะแค่ว่าจะโทรให้มารับ เพราะเซโร่ก็ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหน และฉันก็มีเรื่องที่ต้องทำนอกโรงเรียน แต่ดันกลายเป็นว่า เขาทำให้ฉันน๊อตหลวม แล้วผลสุดท้ายก็อย่างที่เห็น ฉันตัดสายทิ้งเพราะไม่อยากฟังอะไรบ้าๆแบบนั้นอีก มันก็ไม่บ่อยนักหรอกที่ฉันจะเป็นแบบนี้ แต่ช่วงนี้หมอนี่โจมตีฉันหนักไปหน่อยและ อาจจะเป็นผลพวงมาจากการที่เซโร่ขยันสร้างรอยร้าวให้ฉัน ก็หัวใจมนุษย์นี่นะ มันอ่อนแอเสมอ

     “เฮ้!ริช”

    “หายหัวไปไหนมา เซโร่”

    “ก็...แถวๆนี่^^

    ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่า ไอ้แถวๆนี้ของเขามันหมายถึงการเดินไปหาเทียนหอมที่อยู่อีกฝากของตึกเรียน และยิ่งดูจากสีหน้าที่เหมือนพยายามยิ้มแบบนั้น รับรองได้เลยว่าทะเลาะกันมาแน่ๆ

    “แล้วมานี่ทำไม นายน่าจะอยู่ในห้องเรียนนะ”

    “ทีเธอยังโดดได้ เรื่องอะไรฉันต้องเข้าเรียนล่ะ”

    เซโร่ย้อนใส่ฉันพลางยักคิ้วอย่างกวนประสาท นั่นทำให้เขาโดนถีบอย่างสมควร จริงๆคาบนี้ฉันมีเรียนแต่เพราะคิดเอาไว้ว่ามีเรื่องที่จะต้องออกไปทำนอกโรงเรียน ก็เลยมานั่งรออยู่ที่หลังตึกนี่

    “ทำไมตามมาที่นี่”

    “โซลโทรมาหา บอกว่าเธออยากให้ไปส่ง”

    “แส่ไม่เข้าเรื่อง”

    ฉันพึมพำกับตัวเองพร้อมกับนึกหงุดหงิดคนปากดีที่ชอบทำอะไรไม่เข้าท่า ในเมื่อฉันบอกแล้วว่าฉันเลือกที่จะอยู่ตรงที่ที่ฉันอยากจะอยู่ ทำไมเขาต้องทำเป็นสู่รู้พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมันด้วย

    “เธออยากไปไหนล่ะ ฉันว่างนะ ไปส่งได้ทุกที่แหละ”

     “ไม่รอรับแฟนนายกลับบ้านรึไง”

    “เทียนหอมกลับบ้านไปแล้ว”

    น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ดีเลย เห็นชัดว่าไม่แน่ อาจจะไม่ใช่แค่การทะเลาะกัน บางทีอาจจะจบลงด้วยการไม่พูดคุยและ คิดไปเอง

    “ทะเลาะกันเหรอ”

    “ก็ไม่เชิงหรอก”

    “เล่ามาสิ”

    ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้อยากรับฟังอะไรสักเท่าไหร่ แต่ฉันรู้ว่าเขากำลังต้องการ...เหมือนทุกครั้ง แค่เพื่อนสักคนที่ยอมรับฟัง เหมือนที่เราเป็นให้กันและกันมาตลอด ทั้งสามคน...

    “เขาพูดว่า ฉันเปลี่ยนไป”

    “....”

    “เขาบอกว่าใจของฉันไม่เหมือนเดิม”

    ฉันไม่เห็นสีหน้าของเซโร่ เพราะเรานั่งหันหลังชนกัน แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็สามารถเดาได้ว่า มันคงจะฉายแววเศร้า เหมือนทุกครั้งที่เขากำลังคิดมาก เหมือนทุกที ที่เขากำลังเป็นห่วงอะไรที่สำคัญ

    “เวลาผู้หญิงกำลังกลัวอะไร เธอมักจะเชื่อความคิดของตัวเอง เพราะงั้น นายก็อย่าไปคิดมาก แค่ทำให้เธอมั่นใจ...”

    “ก็ไม่แน่หรอก ริช ฉันเอง ก็กลัวว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปจริงๆ”

    ประโยคนั้นของเซโร่ ทำให้ฉันต้องนึกปวดหัว ถ้าใจของเขาเปลี่ยนจริงๆ อีกไม่นานหมอนี่ต้องหาเรื่องมาให้ฉันปวดใจอีกแน่ๆ แต่คิดๆดูแล้ว ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่ดีพร้อมยิ่งกว่านางฟ้าของหมอนี่

    “ยอมรับงั้นเหรอ”

    “ก็...บางส่วน”

    “อย่าลีลาเยอะ มันน่ารำคาญ”

    “ฉันคิดว่า ตัวเองแอบหวั่นไหวกับความรู้สึกของใครบางคน”

    ทั้งๆที่ยิ่งฟัง หัวใจฉันก็ยิ่งรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมา แต่ไม่รู้ทำไม อีกเสี้ยวหนึ่งของหัวใจฉันก็ยิ่งอยากจะรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร

    “นายอยากบอกฉันรึเปล่า ว่าใคร”

    หัวใจองฉันเต้นรัว และความรู้สึกเล็กๆที่เกิดขึ้นกับหัวใจกำลังแผลงฤทธิ์ บางครั้งฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพระเจ้าถึงได้สร้างมนุษย์ผู้หญิงให้อ่อนแอแบบนี้...แต่ก็ต้องขอบคุณพระองค์ ที่สร้างเซโร่มาให้โง่พอจะมองไม่ออกว่าฉันกำลังรู้สึกยังไง

    “ขอโทษนะแต่คราวนี้ฉันไม่อยากบอกเธอ”

    “ฉันก็ไม่ได้บังคับนายนี่นะ...!!

    อยู่ๆเซโร่ก็คว้าฉันไปกอดเอาไว้ อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นราวกับว่าตอนนี้ เขาโหยหายใครสักคน ฉันรู้ว่าตอนนี้เขากำลังอ่อนแอ เป็นความอ่อนแอแบเดียวกับที่ฉันเข้าใจดี

    “ขอโทษนะ ริช ...แต่ฉันขออยู่อย่างนี้สักพักจะได้มั้ย”

    น้ำเสียงของเซโร่หยุดฉันจากความคิดที่อยากจะออกจากอ้อมกอดนี้ อ้อมกอดที่ควรเป็นของใครอีกคน อ้อมกอดที่ไม่ใช่ของฉัน...คิดถึงตรงนี้ถึงแม้ว่าอ้อมกอดนี้จะอบอุ่นมากแค่ไหน แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อมันมีค่าแค่คำว่าเพื่อน และที่สำคัญ การที่เขาทำแบบนี้ นั่นเพราะว่าเขามองเห็นฉันเป็นแค่ตัวแทนของเธอคนนั้น...และฉันไม่ต้องการ

    “ปล่อยเถอะเซโร่...”

    “ฉัน...ขอโทษ”

    “นายมีคนของนายแล้ว และมันคงไม่ดีถ้าเธอรู้ว่านายมาทำแบบนี้แม้ว่าฉันจะเป็นเพื่อนที่สนิทแค่ไหนก็ตาม”

    นายไม่ควรกอดฉันแบบนี้และฉันเองก็ไม่ควรใจเต้นแรงกับเรื่องที่นายทำเหมือนกัน

    “ฉัน...ขอโทษ...”

    เซโร่ปล่อยฉันออกจากอ้อมแขน ดูท่าทางเขาสับสนในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แน่ล่ะ เซโร่ก็ยังคงเป็นเซโร่ ถ้าเขาฉลาดได้เท่ากับโซลและรู้จักวิธีที่จะเข้าใจผู้หญิงได้ครึ่งหนึ่งของที่โซลทำได้ฉันคงจะลำบากกว่านี้เยอะ

     “ถ้าแบบนี้ล่ะก็...พอได้”

    “ริช...”

    “เพื่อนกัน จะทิ้งกันได้ยังไงล่ะ”

    “ขอบใจนะ”

    “ฉันจะจับมือของนายเอาไว้ เหมือนที่นายและโซลไม่ยอมปล่อยมือของฉันเช่นกัน”

    เซโร่ยิ้ม รอยยิ้มที่อ่อนโยนถูกส่งมาให้ฉันแม้ว่ามันจะไม่หวานเท่ากับที่เขาเคยส่งให้กับเทียนหอม แต่มันก็ดีแล้วล่ะที่เขายิ้มได้ ฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ ขอแค่ให้ฉันยังมีเขาคนนี้เป็นเพื่อน นั่นแหละดีที่สุดแล้ว

    “ฉันไม่มีวันปล่อยมือเธอแน่ จำไว้นะ”

    มือใหญ่ของเซโร่จับมือฉันให้มั่นคงเหมือนจะย้ำเตือนให้ฉันได้รับรู้ว่า สิ่งที่เขาพูดออกมามันคือความจริง

    “หึ ขอให้มันจริงเถอะ”

    เซโร่หัวเราะออกมาเบาๆ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือฉันเหมือนที่พูด มีเพียงสายลมอ่อนโยนที่พัดผ่านเท่านั้นที่แทรกกลางระหว่างพวกเรา สักวันหนึ่ง วันที่ฉันแข็งแกร่งกว่านี้ วันที่ฉันสามารถลบความรู้สึกนี้ออกไปจากใจได้ทั้งหมด พวกเราจะกลายเป็นเพื่อนที่ไม่มีอะไรมาทำให้ห่างกันได้

    ส่วนความรู้สึกนี้...คนอย่างฉัน ไม่สมควรจะมีมันไว้หรอก แค่ครั้งหนึ่งเคยรู้สึกว่าได้มีมันแบบนี้ ก็พอแล้ว

     “ฮึ...”

    “มีอะไรเหรอ ริช”

    “เปล่าหรอก”

    ฉันเผลอยิ้มบางๆขึ้นมา และคงจะเพราะแบบนั้น เซโร่ถึงมองหน้าฉันแปลกๆ และพอเห็นสายตาแบบนั้น มันชวนให้ฉันคิดไปถึงใครอีกคน...

     “เป็นอะไรไป”

    “ทำไมถึงได้คิดว่าฉันเป็นอะไรล่ะ”

    “เธอเงียบ”

    “ปกติฉันไม่เงียบงั้นสิ”

    “ปกติไม่เงียบขนาดนี้”

    “เคยสนใจด้วยเหรอ”

    “ก็สนอยู่ตลอดน่ะแหละ แต่แสดงออกมากไม่ได้...”

    ประโยคนั้นของเซโร่ทำให้ฉันหันไปมองอย่างเหนื่อยใจ รอยยิ้มน้อยๆถูกส่งมาให้แทนคำพูดที่พูดค้างเอาไว้ ก่อนจะถูกสันมือของฉันฟาดไปให้อย่างเต็มรัก

    “เธอนี่!ชอบลงไม้ลงมือนะ”

    “นายอยากโดนอีกที หรือจะออกนอกโรงเรียนไปส่งฉัน”

    ฉันไม่รอฟังคำตอบแต่เดินออกมาจากตรงนั้นเลยทันที รู้ทั้งรู้ว่าคนพูดไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังที่มีใจมันก็เผลอหวั่นไหวได้บ่อยๆเหมือนกันนะ

    ให้ตายสิ!ช่วงนี้มีคนขยันมายุ่งกับฉันจริงๆ!! เห็นทีต้องหนีไปกบดานใต้น้ำสักเดือนแล้วมั้ง!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×