คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 19 : ลักพาตัว
หลังจากกลับมาจากทะเล ฉันก็ต้องผจญกับเรื่อปวดหัวอีกนิดหน่อย หนึ่งคือ เพอร์เช่ที่ทำตัวงี่เง่ามาโวยวายเรื่องที่ฉันหนีไปเที่ยวโดยไม่ชวน(แต่จะว่าฉันหนีไปก็ไม่ได้หรอก ฉันไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปทะเลน่ะ) และสอง ยัยผู้หญิงที่ชื่อไอแดด
“เธอมาทำอะไรที่บ้านของฉันไม่ทราบ”
“อยากบอกให้รู้ไว้ ฉันไม่ได้เต็มใจจะมาหรอกนะ”
น้ำเสียงหยิ่งยโสพร้อมท่ากรีดนิ้วยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มนี่มันอะไรกัน ทำตัวอย่ากับพวกควีนยุคโบราณไปได้ ท่าจะประสาทนะยัยนี่ - -
“ที่ฉันต้องมาวันนี้ก็เพราะ...”
“ช้าไปแล้วล่ะ ฉันพึ่งจะไล่หมอนั่นให้กลับไปได้สักสิบนาทีก่อนที่เธอจะมาถึง พอใจแล้วก็กลับไปซะนะ ยัยหนู”
ฉันว่าแล้วพับหนังสือพิมพ์ในมือเก็บก่อนจะบิดขี้เกียจ เมื่อคืนฉันนั่งทำงานจนดึกกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า อยู่ๆแม่ก็มาปลุกฉันเอาตอนหกโมงแล้วบอกว่าโซลมาหา พอไล่ไปได้ ยัยนี่ก็โผล่มากวนอีก (สาบานได้ว่าตอนที่ไอแดดแนะนำตัวกับแม่ว่าเป็นเพื่อนที่โรงเรียน แม่น้ำตาไหลแล้วแทบจะอุ้มไอแดดเข้าบ้าน แม่ไม่เคยเชื่อว่าฉันจะมีเพื่อนคนอื่นน่ะ ซึ่งจริงๆยัยนี่ก็ไม่ใช่เพื่อนหรอกนะ)
“ใครยัยหนูกันยะ!แล้วฉันก็ไม่ได้มาหาโซลที่นี่ด้วย”
รอยยิ้มที่แต้มขึ้นที่มุมปากทำให้ฉันต้องเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก่อนที่ฉันจะได้ถามอะไรออกไป ผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยก็โปะเข้าที่จมูกและหลังจากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรอีก
จนได้สิน่า! ก็ไม่ใช่ไม่รู้หรอกนะว่ามันไม่ควร แต่ว่าบรรยากาศแบบนี้มันชวนให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“ฟื้นแล้วครับคุณหนู”
“จับมันนั่งดีๆสิ!อย่าให้มันสะเออะนอนเชียว สบายเกินไป”
เสียงน่าหนวกหูนั่นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของใคร และหลังจากที่ต้องทนฟังได้ไม่นาน ก็มีคนมายกฉันที่กำลังนอนเอาหน้าแนบพื้นให้ลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล
“ทำแรงๆเลยก็ได้!!จะถนอมมันทำไมฮะ!”
“แต่ว่านี่ผู้หญิงนะครับคุณหนู..แถมตัวยังบาง..”
“มันเป็นแม่แกรึไง!!แค่นี้มันไม่เจ็บหรอกน่า เร็วๆเข้า!!”
ด้วยเสียงนั้นทำให้ปฏิกิริยาของคนที่ประคองฉันรุนแรงขึ้นอีก หลังจากที่นั่งลงได้ ผ้าปิดตาที่สร้างความรำคาญก็ถูกแก้ออก ฉันค่อยๆกวาดสายตามองไปรอบๆพร้อมกับปรับให้คุ้นชินกับแสงที่จ้าขึ้นกระทันหัน ที่นี่คงเป็นโกดังที่ไหนสักที่..
“ไง เก่งนักไม่ใช่เหรอ ทำไมคราวนี้พลาดท่าซะได้ล่ะ”
ไอแดดที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังทำตัวเหมือนมาเฟียฮ่องกงกระจอกๆในหนังทั่วไปด้วยการข่มขู่ฉันเสียงดัง จิกตา หัวเราะเยาะเย้ย และพล่ามอะไรไม่เข้าท่า
“เธอนี่...คงจะดูหนังเยอะไปล่ะสินะ”
“แกพ่นอะไรออกมายะ”
“แพทเทิร์นเดิมเลย โปะยาสลบ จับมัด เอาพวกมาขู่ ขังอยู่ในโกดัง นี่คิดว่ากำลังเล่นเป็นผู้ร้ายเรียกค่าไถ่เหรอ ยัยหนู”
เพี้ยะ!!
“อย่าได้บังอาจมาเรียกฉันว่ายัยหนูอีกเป็นครั้งที่สาม เพราะถ้าหากยังมีครั้งหน้า ฉันจะไม่ตบแกด้วยมือนี่หรอกนะ”
ไอแดดจิกตามองหน้าฉันอย่างเย็นชา รอยแสบเล็กๆจากการที่ฝ่ามือของเธอปะทะกับใบหน้าของฉันคงจะสร้างรอยแดงเอาไว้ ยัยนั่นถึงได้มองอยางสะใจแล้วยิ้มเยาะอย่างไม่เข้าท่า
“มองหน้าฉันทำไมนั่งขยะ!ฉันหมั่นไส้แกมานานแล้วรู้มั้ย ก็นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน ที่แท้ก็แค่ข่าวลือ”
“...”
“พูดอะไรหน่อยสิ ปากเก่งให้ได้เหมือนเคยสิ นังลูกหมา”
“...”
เมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูด ไอแดดก็ยิ่งหัวเสียและทำเรื่องโง่ๆด้วยการปรี่เข้ามา...
เพี้ยะ!!
เพี้ยะ!!!
ตบฉันสองฉาด แล้วเอามือมาบีบแก้มฉันพร้อมส่งรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมมาให้
“ไง!ยังจะทำหยิ่งอีกรึเปล่า!!”
“....”
“พูดกับฉันนะ!แกคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้เมินใส่ฉัน รู้สถานการณ์ตัวเองมั่งมั้ย อ้อนวอนฉันสิ ขอร้องให้ฉันปล่อยแกไปแล้วฉันอาจจะใจดีลดโทษให้แกก็ได้นะ”
“ที่ลากมาเนี่ย เพื่อจะมาทำอะไรแบบนี้ใช่มั้ย”
ฉันยังคงจ้องหน้าเธออย่างเบื่อหน่าย การถูกตบถึงสามทีไม่ใช่อะไรที่ไม่เคยโดน แต่บอกได้เลยว่า ถ้าเทียบกับที่เคยโดนมา แค่นี้เรียกเอามือสะกิด - -
“ฉันจะทำยิ่งกว่านี้อีก ให้สมกับที่แกทำเอาไว้”
“ฉันไปทำอะไรให้เหรอ”
“ยังจะมาทำหน้าใสซื่อบอกว่าไม่รู้เรื่องอีก ไม่กี่อาทิตย์ก่อน แกกล้ามากนะที่ส่งของพวกนั้นมาให้ฉัน!!”
พอนึกถึง ‘ของพวกนั้น ’ที่เธอว่า มันก็อดนึกขำไม่ได้แฮะ เออ...นั่นสินะ แต่แหม ใครใช้ให้ยัยนี่ปากดีแล้วก็ล้ำเส้นฉันก่อนล่ะ แค่นั้นน่ะเขาเรียกว่าหยอกเล่น
“แหม สงสัยฉันจะส่งผิดบ้านแน่เลย”
“แกจงใจ!!”
พอเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของไอแดด มันชวนให้รู้สึกสนุกจริงๆ ตอนนี้รอบตัวของเรา บรรดาบอดี้การ์ดชุดดำตัวใหญ่เริ่มอยู่ไม่นิ่ง เมื่อเห็นคุณหนูของตัวเองกำลังตบตีเด็กสาวที่โดนจับมัดมือและเท้าอย่างไม่มีทางสู้ ตอนนี้หน้าฉันคงจะเริ่มช้ำจากการที่ปล่อยให้ไอแดดทุบตีอยู่สักพักใหญ่
“เหอะ!รู้มั้ยว่าตอนนี้ใครกำลังไปบ้านแก”
คำถามนั้นทำให้ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ และนั่นสร้างความพอใจให้ฉายชัดบนหน้าของไอแดด
“ฉันส่งมือปืนส่วนตัวของคุณพ่อไปเยี่ยมบ้านแกล่ะ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอาถึงตายหรอกนะ แต่แกรู้เยอะไปแล้ว เพราะงั้นคงปล่อยไปไม่ได้”
“อย่าคิดสั้นเลย เรียกพวกเขากลับมาเถอะ”
“กลัวขึ้นมารึไง ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันสัญญาจะทำให้เรื่องเงียบที่สุด J”
“อย่าบ้าน่า อย่าไปยุ่งกับคนที่บ้านฉันนะ”
“คิดว่าฉันจะฟังแกรึไงนังโง่!!ตัวแกเองเอาให้รอดซะก่อนเถอะ!!”
ไอแดดหมายจะเงี้อมือมาตบฉันอีกครั้งแต่ครั้งนี้ฉันเอื้อมมือออกมารับพร้อมรอยยิ้มเยาะที่ส่งกลับไปให้ คู่กรณีดูจะตกใจมาที่ฉันสามารถแก้เชือกที่มัดเอาไว้ได้ ไม่ใช่แค่ที่ข้อมือ แต่ทั้งที่มัดตัวเอาไว้และที่ข้อเท้าก็เป็นอิสระแล้วเหมือนกัน บรรดาบอดี้การ์ดทำหน้าเลิกลั่กเหมือนไม่รู้จะทำยังไงดี ฉันดึไอแดดเข้ามาใกล้ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วที่แน่นอนว่าไอแดดต้องได้ยินชัดเจน
“เธอรู้อะไรมั้ย ความผิดเดียวขอพ่อเธอคือการมีลูกสาวโง่ๆแบบเธอ”
“แก..”
“ขอบคุณที่พาฉันออกมาเล่นนะ ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะหลบอาฉันออกนอกบ้านมาได้ยังไง J”
“ห้ะ!?”
“ลาก่อน ไอรดา แคมเบิร์น”
ฉันเอาหัวกระแทกใส่ทีเดียวคนตรงหน้าก็สลบล้มลงไปพร้อมกับเลือดที่อาบหน้า พวกบอดี้การ์ดพอเห็นอย่านั้นก็รีบวิ่งเข้ามาหาฉันที่บังอาจทำร้ายคุณหนูคนสำคัญของพวกเขา...มันก็เหมือนภาพในหนังน่ะนะ ชายชุดดำเจ็ดคนวิ่งตรงเข้ามาหาเด็กสาวที่ยืนเพียงลำพัง... อยากรู้เหรอว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ โอเคๆ จะเล่าให้ฟังก็ได้...
ความคิดเห็น