Press_413
ดู Blog ทั้งหมด

OutSystems เพิ่มประสิทธิภาพด้วย 6 คุณสมบัติใหม่ ใน OutSystems 11

เขียนโดย Press_413

- ด้วยแพลตฟอร์ม low-code รุ่นใหม่ กับความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับระบบเดิม ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมแทนที่แอปพลิเคชั่น Portfolios ขนาดใหญ่
 
          OutSystems ประกาศเปิดตัว OutSystems 11 โซลูชั่น low-code ตัวแรกที่จะเข้ามาจัดการกับหนึ่งในปัญหา อันหนักหน่วงที่เหล่าผู้นำภาคไอทียุคนี้กำลังเผชิญ นั่นคือปัญหาติดขัดในระบบเดิม (legacy system) OutSystems 11 ต่อยอดมาจากแพลตฟอร์ม low-code อันดับหนึ่งที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นสำหรับแอปบนเว็บ และมือถือ เพื่อนำเสนอขีดความสามารถใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ สามารถยกระดับ ระบบเดิมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมแทนที่ แอปพลิเคชั่น Portfolios ขนาดใหญ่
 
          "ปัญหาติดขัดในระบบเดิมนั้นเป็นเรื่องใหญ่" Paulo Rosado ซีอีโอและผู้ก่อตั้งของ OutSystems กล่าว "บริษัทต่าง ๆ ได้จัดสรรงบประมาณฝ่ายไอทีราว 70% ไปกับการดูแลแอปพลิเคชั่น Portfolios เดิมที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงระบบที่มีอายุการใช้งานมานาน ไปจนถึงระบบ ERP และ CRM ที่ปรับแต่งเยอะเกินควร นับเป็นภาระทางเทคนิคอันหนักหน่วงจนกลายเป็นอุปสรรคกีดกั้นนวัตกรรมทางธุรกิจ ทั้งยังเป็นการเปิดประตูให้คู่แข่งที่มีความคล่องตัวมากกว่าเข้ามาแทรกแซงด้วย"
 
          แนวทางทั่วไปในการรับมือกับภาระและปัญหาติดขัดในระบบเดิมนั้นคือการผ่าแอปแบบแพคเกจทั้งหมด หรือไม่ก็เริ่มดำเนินโครงการพัฒนาที่อาจใช้เวลาหลายปีและยังเป็นการเพิ่มความซับซ้อนให้โค้ดเบสด้วย ตัวเลือกทั้งสองล้วนเป็นเรื่องที่ทั้งช้า ใช้ต้นทุนสูง และมีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกันยังบีบให้เหล่าผู้นำภาคไอทีต้องยอมแลกระหว่างการควบคุม ความรวดเร็ว และความเรียบง่าย แต่ OutSystems 11 จะเข้ามาช่วยกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป ด้วยคุณสมบัติใหม่ 6 ประการที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนในแพลตฟอร์ม low-code
 
          1. สถาปัตยกรรมแบบไมโครเซอร์วิสอันทันสมัย พร้อมคุณสมบัติวิเคราะห์ผลกระทบ ก่อให้เกิดโครงสร้างที่แข็งแกร่งทนทานแม้มีคลังแอปขนาดใหญ่ -- OutSystems 11 ช่วยร่นระยะเวลาได้หลายชั่วโมงในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาจากชุดแอปและระบบขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน ขณะที่เทคนิควิเคราะห์ผลกระทบต่อระบบทั้งหมดในเชิงลึกก่อนเปิดใช้งานนั้น ยังทำหน้าที่แจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างหยุดทำงานด้วย ส่งผลให้ทีมงานมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยสามารถคิดค้นและเปลี่ยนบริการและแอปพลิเคชั่นที่นำมาใช้ใหม่ได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว และเหมาะสมกับการใช้งาน
 
          2. ระบบควบคุมดูแลที่มาด้วยกัน เปิดโอกาสให้ตรวจสอบคลังแอปและบริการที่เชื่อมโยงถึงกันได้แบบเรียลไทม์ – ติดตามความเคลื่อนไหวของแอปทั้งหมด วิเคราะห์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะกระทบต่อระบบอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงระบบ SaaS และระบบภายนอกที่ใช้อยู่เดิม โดยระบบตรวจสอบแบบฝังตัว ประกอบกับฟังก์ชั่นวิเคราะห์และแผงควบคุมในตัวนี้ ทำหน้าที่แสดงตำแหน่งหรือสาเหตุที่แอปหรือบริการหนึ่งทำงานไม่ได้อย่างที่ออกแบบไว้
 
          3. ฟีเจอร์รองรับการทำงานเป็นทีมในลักษณะ Continuous Delivery เพื่อควบคุมดูแลทีมนักพัฒนาที่ทำงานบนแพลตฟอร์มเดียวกัน – กำหนดผู้ที่มีอำนาจสร้างและบริหารจัดการบริการ และผู้ที่มีสิทธิ์ใช้งาน โดยใช้โมเดลให้สิทธิ์ที่ครอบคลุมทุกแอปพลิเคชั่นและบริการ ซึ่งองค์กรทั้งหลายสามารถกำหนดโครงสร้างของตนตามกระบวนการส่งมอบงานของธุรกิจแต่ละประเภทที่ทำงานควบคู่กัน
 
          4. รองรับคอนเทนเนอร์เพื่อให้การดำเนินงานเป็นมาตรฐานและใช้ได้หลายระบบ – วางแอปพลิเคชั่นและบริการร่วมกับบรรดาผู้ให้บริการ container-as-a-service และ platform-as-a-service ชั้นนำอย่าง Amazon, ECS, Azure Container Service, Pivot PAS และระบบคอนเทนเนอร์ Docker แบบ on-premises เพื่อให้ติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังปรับขนาดได้ ยืดหยุ่นยิ่งกว่า และใช้ได้หลายระบบ
 
          5. UI Framework ใหม่เพื่อให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์การใช้งาน (UX) ที่น่าพึงพอใจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้ทรัพยากรการออกแบบพิเศษ – การส่งมอบแอปด้วยยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ (UI)
 
          ที่ล้ำสมัยและต่อเนื่องนั้น วันนี้ได้กลายเป็นเรื่องราบรื่นสำหรับเหล่าทีมนักพัฒนา โดย UI Framework ใหม่นี้ทำให้การส่งมอบประสบการณ์อย่างเหมาะสมตามกระบวนการส่งมอบต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องง่าย ขณะเดียวกันก็มอบความต่อเนื่องให้กับแบรนด์และ UX ด้วย เหล่านักพัฒนาสามารถเข้าดูเทมเพลตและแพตเทิร์นหน้าจอที่ได้มาจากการวิเคราะห์แอปผู้บริโภคชั้นนำได้โดยตรงจากวิชวลเอดิเตอร์ของ OutSystems เพื่อนำไปปรับแต่ง ต่อยอด และใช้งานซ้ำได้ตามความต้องการ
 
          6. ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงสำหรับการปกป้องคลังแอปทั้งหมด ตั้งแต่ระยะพัฒนาไปจนถึงการติดตั้งและนอกเหนือจากนั้น – ยกระดับความปลอดภัยของระบบและแอปให้เหนือไปกว่าขีดจำกัดเดิม ๆ ในแวดวงไอที ด้วยแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบเพื่อความปลอดภัย โดยระบบประเมินความเสี่ยงอัตโนมัติ ประกอบกับระบบควบคุมการเข้าถึงแบบ Granular และฟีเจอร์ตรวจสอบความเคลื่อนไหวนั้น ทำหน้าที่เติมเต็มขั้นตอนที่ต้องใช้แรงคน และเปิดโอกาสในการตรวจสอบและวิเคราะห์สถานะที่จำเป็นของแพลตฟอร์มพัฒนาแบบ multi-experience
 
          OutSystems 11 เปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ จัดการกับแอปเดิมของตนได้ในรูปแบบที่แตกต่าง ซึ่งช่วยในเรื่องความว่องไวเมื่อเวลาผ่านไป และปลดเปลื้องภาระจากการใช้แอปเดิมให้หมดไป นอกจากนี้ โซลูชั่นดังกล่าวยังทำให้การเปลี่ยนไปใช้โมเดลการทำงานใหม่เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยตัวบริการจะรองรับไลน์การส่งมอบแยกกันตามการทำงานของธุรกิจหลัก ให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจ
 
          การเปิดตัว OutSystems 11 ในภูมิภาคนี้เป็นการตอบรับความต้องการแพลตฟอร์มพัฒนาแบบ low-code ที่กำลังแพร่หลายทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยรายงาน OutSystems State of Application Development 2018 ระบุว่า องค์กรราว 34% ทั่วเอเชียแปซิฟิกมีการใช้แพลตฟอร์ม low-code อยู่เดิมแล้ว ขณะที่อีก 9% กำลังหันมาใช้แพลตฟอร์มดังกล่าว
 
          Mark Weaser รองประธานประจำเอเชียแปซิฟิกของ OutSystems กล่าวว่า "การส่งมอบประสบการณ์การใช้งานอย่างทันทีทันใดนั้น ควรเป็นหัวใจหลักในแผนยกระดับธุรกิจสู่ดิจิทัลของทุกองค์กร และเมื่อกล่าวถึงปัญหาติดขัดในระบบเดิมแล้ว องค์กรต่าง ๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิกเริ่มเล็งเห็นถึงศักยภาพของแพลตฟอร์มพัฒนาแบบ low-code ในแง่ของความว่องไวและเร่งการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ทั้งนี้ OutSystems มุ่งมั่นในการยกระดับศักยภาพด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ขององค์กร ในฐานะผู้นำวงการ low-code ที่จะเปิดโอกาสให้บริษัททั้งหลายตอบสนองได้เร็วขึ้นและส่งมอบแอปคลิเคชั่นได้ตรงเวลา"
 
          "เรามีพันธกิจในการพลิกโฉมแนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชั่นขององค์กรต่าง ๆ" Paulo Rosado ซีอีโอของ OutSystems กล่าว "การเปิดตัว OutSystems 10 เมื่อปี 2559 นั้นได้เข้ามาพลิกวงการพัฒนาแอปมือถือ ถึงขั้นที่ Gartner ยกให้เราเป็นผู้นำตลาด และในวันนี้ก็ได้ถือกำเนิดเทคโนโลยี low-code ที่จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการสร้างระบบแกนหลักขนาดใหญ่ รวมถึงแอปและบริการที่รองรับ แทนที่จะต้องซื้อคอยปรับเปลี่ยนระบบที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดเพื่อให้เหมาะกับการทำงาน"
 
          แพลตฟอร์มใหม่นี้มีขึ้นหลังจากที่ทาง OutSystems ระดมทุนได้ถึง 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก KKR และ Goldman Sachs ซึ่งประเมินมูลค่าของบริษัทไว้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
          เกี่ยวกับ OutSystems
          ลูกค้าหลายพันรายจากทั่วโลกให้ความไว้วางใจ OutSystems แพลตฟอร์ม low code อันดับหนึ่งที่ช่วยให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็ว ทีมวิศวกรที่พิถีพิถันเป็นผู้รังสรรค์ทุกรายละเอียดของแพลตฟอร์ม OutSystems เพื่อช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ ในการสร้างแอประดับองค์กร และช่วยให้การพลิกโฉมธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น OutSystems เป็นโซลูชั่นหนึ่งเดียวที่ผนวกพลังในการพัฒนา low code เข้ากับประสิทธิภาพสุดล้ำของโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถพัฒนาแอปที่ใช้งานร่วมกับระบบต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมได้อย่างง่ายดาย หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.outsystems.com หรือติดตามเราได้ทางทวิตเตอร์ @OutSystems หรือลิงก์อิน https://www.linkedin.com/company/outsystems และร่วมงานกับ OutSystems ได้ที่ https://www.outsystems.com/company/careers/
 
          สื่อมวลชนติดต่อ :
          Ann Conrad, OutSystems (สหรัฐอเมริกา)
          โทร: +1-404-994-2614
          อีเมล: ann.conrad@outsystems.com
          หรือ
          Melinda Ilagan (สิงคโปร์)
          โทร: +65-6303-0567
          อีเมล: outsystems@preciouscomms.com
 
          โลโก้ - https://photos.prnasia.com/prnh/20171116/1994802-1LOGO

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น