ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หฤทัยพันธน์ (มีจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คแล้วนะคะ)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5K
      32
      1 ก.พ. 58

    หฤทัยพันธน์

     




     

                “นายหญิง หลบบ้านก่อน นายหัวให้ผมมาตาม สงสัยจะข้องใจแย่แล้ว”

                สำเนียงเสียงใต้ดังมาก่อนตัว พิมพ์ณาราหันไปมองก็เห็นคนงานสวนปาล์มกำลังเดินตรงมาทางตน ถ้อยคำบางคำเธอยังไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่นัก แต่ก็พยายามที่จะเรียนรู้เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี่ให้ได้ เหมือนอีกฝ่ายจะเห็นความงุนงงเคลือบฉาบอยู่ในแววตาคู่สวย เสียงหัวเราะจึงตามมาพร้อมๆ กับโชว์ฟันขาวที่ตัดกับสีผิวของเจ้าตัว

                “หือ? ข้องใจ เขาข้องใจอะไรอีก”

                “ผมหมายถึงนายหัวจะเป็นห่วงน่ะครับ ข้องใจ ก็คือเป็นห่วง ขออภัยนายหญิงที่ผมชอบลืมตัว ต่อไปจะพยายามใช้ภาษากลางเวลาคุยกันนะครับ”

                อีกฝ่ายเกาหัวยิก ลืมนึกไปว่าเธอเพิ่งมาอยู่ที่นี่ไม่นาน ก็เลยยังไม่เข้าใจภาษาถิ่นในบางคำ

                “เขาน่ะเหรอ ที่จะเป็นห่วงคนอย่างเรา”

                หญิงสาวตัดพ้อกับตัวเองเบาๆ เพราะมีเธอที่รู้ดีว่าภาพครอบครัวอบอุ่นที่คนงานเห็นมันคือภาพลวงตาแทบทั้งสิ้น เมื่อยามอยู่กันเพียงลำพังสองคน เขาพูดกับเธอแทบนับครั้งเลยก็ว่าได้ และเขาก็ไม่อาจปิดเธอได้เช่นกัน ว่าที่พาเธอมาที่นี่นั้นเพราะอะไร เขาแค่ต้องการหลบมาพักใจ โดยเอาสวนปาล์มมาเป็นข้ออ้างบังหน้าเท่านั้น

                วันนี้เธอรู้สึกเบื่อเพราะต้องอยู่คนเดียว เลยขับรถมาดูสวนปาล์มที่เติบโตจนตัดทลายขายส่งโรงกลั่นได้แล้ว บนเนื้อที่เกือบห้าร้อยไร่นั้นกว้างใหญ่เกินจะดูแลไหว ที่นี่จึงจ้างคนงานให้มาดูแล และส่วนใหญ่ก็คือชาวบ้านในแถบนี้กับคนงานพม่า เธอนั่งเล่นนอนเล่นบนแคร่คนงานผสานลมเย็นๆ จนผล็อยหลับไป มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อเย็นย่ำ ยังไม่ทันที่จะกลับบ้านปฐพีก็ใช้ให้คนงานมาตามเธอเสียก่อน

                ถ้าให้เดา คงจะหาเรื่องเราอีกแน่ๆ

                คิดขณะดับเครื่องยนต์ ยังไม่ทันที่จะลงจากรถ สายตาก็เห็นคนที่ใจกำลังนึกถึงเดินรี่ตรงมาที่เธอ และก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ เมื่อเขาชิงเปิดฉากขึ้นมา พร้อมด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

                “น้องเพื่อนคงลืมไปว่าที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ จะไปไหนมาไหนคนเดียวก็ให้ระวังเอาไว้บ้าง ทำตัวเหมือนคนโสด ที่นึกจะไปไหนก็ไป”

                “ก็ไม่ได้ไปไหนนี่คะ แค่ไปสวนปาล์มมา”

                “คนงานบางคนไว้ใจได้เสียที่ไหน”

                “คนงานพวกนั้น ก็ลูกน้องพี่ปราบต์ทั้งนั้น ถ้าไม่ไว้ใจจะจ้างมาทำไม”

                “ถ้าถูกคนงานมันฉุดไปปล้ำ พี่ก็จะปล่อยให้ตายหมกสวนอยู่ในนั้นนั่นแหละ เถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้”

                สายตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าหวาน ที่ยามนี้แลดูหยิ่งจองหอง นับวันพิมพ์ณาราเริ่มจะแข็งข้อกับเขามากขึ้น เธอคงรู้ว่ายังไงเขาก็ทอดทิ้งเธอไปไม่ได้ แม้จะรักหรือไม่ก็ตาม ชายหนุ่มคิด

                “ถ้าตายก็ดีสิคะ พี่ปราบต์จะได้หมดเวรหมดกรรม ไม่ต้องมาแบกรับอะไรอีกต่อไป”

                หญิงสาวรื้อฟื้นเรื่องราวในใจ ส่งผลให้เขายอมที่จะเป็นฝ่ายเงียบ เดินหนีเธอเข้าบ้านไป นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เธอแค่ต้องการให้เขาเห็นใจและสงสาร เดินเข้ามากอดและปลอบประโลม พร้อมคำพูดสั้นๆ ว่าขอเวลาให้เขาบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เธอยืนตากลมอย่างเคว้งคว้าง เปลี่ยวเหงาหัวใจเช่นนี้

                อารมณ์แง่งอนทำให้เธอไม่ยอมตามเขาเข้าไปในบ้าน แม้จะรู้ดีว่าเกือบจะได้เวลาทานมื้อเย็น เลือกที่จะเดินไปนั่งชิงช้าสีขาวใต้ต้นก้ามปูโบราณที่แผ่กิ่งก้านจนร่มครึ้ม จริงๆ แล้วมันคือที่สิงสถิตประจำของเธอ เวลาเบื่อๆ ก็หยิบหนังสือเล่มโปรดสักเล่มไปนั่งอ่าน เท่านี้เธอก็จมอยู่กับโลกส่วนตัวได้นานครึ่งค่อนวันหากไม่มีใครมารบกวน

                “เวลาโพล้เพล้เขาไม่ให้มานั่งใต้ต้นไม้ ทำไมถึงไม่ยอมเข้าบ้าน ฮึ”

                เสียงดังอยู่ด้านหลังทำลายความเงียบ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเขาเดินย้อนกลับมาตาม

                “กำลังจะเข้านี่ไงคะ พี่ปราบต์ออกมาก่อนเอง”

                “ขี้หก”

                เขาแสร้งเลียนสำเนียงใต้ ขณะคนฟังตวัดสายตามอง บอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ขำด้วย

                “ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ ไม่เหมือนพี่ปราบต์ที่มาบ่อยจนพูดได้”

                “สงสัยชิงช้าเจ้าปัญหาตัวนี้ คงต้องตัดเชือกแล้วเอาไปทิ้ง จะได้ไม่ต้องมีคนมาใช้”

                เขาเปลี่ยนไปหาเรื่องชิงช้า ไม่พูดเปล่า มีดที่อยู่ในมือทำท่าตวัดไปที่เชือก เพื่อที่จะตัดให้มันขาดออกจากกัน ท่ามกลางความตกตะลึงของพิมพ์ณารา เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำจริงๆ

                “อย่านะคะ พี่ปราบต์ทำบ้าอะไร!

                พูดพลางลุกพรวดขึ้น เพราะถ้าเชือกขาดมีหวังเธอต้องล้มไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นแน่นอน

                “พี่จะตัดมันทิ้ง ถ้าใครเอามาผูกอีก ก็จะโค่นต้นไม้ทิ้งไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว”

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×