[Fic snsd Yuri] ..เขิน.. [YulSic] - [Fic snsd Yuri] ..เขิน.. [YulSic] นิยาย [Fic snsd Yuri] ..เขิน.. [YulSic] : Dek-D.com - Writer

    [Fic snsd Yuri] ..เขิน.. [YulSic]

    โดย ~izeami~

    ..ไม่มีใครรู้หรอกว่าวันนี้ความสุขของเมมเบอร์ที่ชื่อเจสสิก้ามันเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    4,848

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    4.84K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    42
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 มิ.ย. 55 / 18:53 น.

    แท็กนิยาย

    snsd yuri yulsic



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    ..เขิน..

     

     

     

     

     

      

     

    ..ไม่มีใครรู้หรอกว่าวันนี้ความสุขของเมมเบอร์ที่ชื่อเจสสิก้ามันเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง

     

     

     

     

    หมายเหตุ : ฟิคเรื่องนี้ได้อ้างอิงถึงโมเมนต์เป็ดลิงเมื่อ 12/05/27 ในงาน  Ara Waterway Open Concert และมีการเติมแต่งจินตนาการสุดลึกล้ำของผู้แต่งเข้าไปเกือบทั้งเรื่อง ดังนั้น โปรดอย่าคาดหวังอะไรกับมันมาก แค่ความเพ้อชั่ววูบ!

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      ..เขิน..

       

       

       

       

       

      ..ความรู้สึกมันเหมือนกับ. ..หัวใจเต้นแรงขึ้นและร่างกายถูกแช่แข็ง

       

       

      “ยูริอา”

      หลังจากที่เกิร์ลกรุ๊ปสมบัติชาติเกาหลีย่างก้าวขึ้นมาบนเวทีครบเจ็ดนาง(เพราะขาดไปสอง)และถึงช่วงเวลาพูดคุยกับพิธีกรหรือหลังจากที่มองเพื่อนสนิทร่างสูงอยู่นาน ด้วยความที่ในตอนนี้จอง เจสสิก้าไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงใสของซูยองและทิฟฟานี่ อารมณ์อันอ่อนไหวราวกับเด็กน้อยจึงทำให้เธอเอ่ยอะไรบางอย่างกับคนที่อยู่ข้างกายออกไปแผ่วเบา..ก็แค่อยากให้สนใจ..ไม่รู้สิ. ..ไม่ได้เจอเธอบนเวทีเดียวกันมานานแล้วนี่

      “ว่า?” และก็ได้ผลเมื่อควอน ยูริแห่งโซนยอชิแดผู้กำลังยืนถือไมค์สนใจสิ่งที่เพื่อนร่วมวงพูดอยู่หันมาสนใจเธอแทน. ..คำพูดพร้อมกับรอยยิ้มแบบนั้นทำให้เธอตัวแข็งทื่อ

      ..นี่มันอะไรกัน

      ไม่ใช่ว่ามันเป็นครั้งแรกกับความรู้สึกอะไรแบบนี้ อาจเป็นเพราะว่าวันนี้ยูริกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งเลยไม่ชิน หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลอย่างอื่น. ..ก็ยิ้มของเพื่อนคนนี้มันอบอุ่นขนาดนั้นนี่นะ

      และโดยไม่คาดฝัน เมื่อสิ้นเสียงนั้นร่างสูงก็เอื้อมมือเรียวขึ้นมาใกล้ใบหน้าของเธอและขยับไปจัดผมหน้าม้าโดยไม่ได้ขออนุญาต. ..ใบหน้าของเพื่อนร่วมวงคนสนิทที่ใกล้เข้ามาพร้อมกับเสียงหัวใจถี่รัวขึ้นของตัวเอง..แข็งทื่อ..ขยับไม่ได้เพราะร่างกายเริ่มชาไปหมด

      “ผมเธอมันแปลกๆ” ..ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องจ้องเขาไม่วางตาขนาดนั้น

      นี่มัน..อะไร

      “อ๊ะ! ตรงนี้มัน...” เมื่อมือที่เหมือนจะละออกไปทำให้เริ่มจะโล่งอก กลับกลายเป็นว่าร่างสูงยังขยับเข้ามาใกล้อีกครั้งและไม่หยุดมือที่ป้วนเปี้ยนกับผมหน้าม้าทรงใหม่ของเธอ. ..บ้าน่ะ!

       

      ..ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ

       

      ..ทำไมถึงต้องเขินยัยกั๊บ 4 มิติที่สนิทกันจนแทบจะเบื่อหน้าแบบนี้ด้วยล่ะ!

       

      “..ตรงนี้ด้วย” เหมือนยังไม่หนำใจ ยูริเลยส่งมือทั้งสองข้างมาจับปอยผมด้านหน้าและแหวกมันออกพลางพึมพำเบาๆว่าแปลกทั้งหัวเลยให้เธอเริ่มรู้สึกเหมือนถูกแกล้งเล็กๆ

      “เธอหลอกด่าฉันเหรอ” โดยไม่ต้องเดาเมื่อได้คำตอบมาเป็นรอยยิ้มขบขันของยูริและมือที่ลดลงหยุดการกระทำทั้งหมด. ..ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขินเธอก็คงจะทำอะไรได้มากกว่าการถอยออกมาเพื่อหลุดหัวเราะและส่งกำปั้นไปชกแขนของเพื่อนกั๊บเบาๆหนึ่งทีอย่างนี้

      ..เพื่ออะไร. ..ที่ทำ..

      “ไม่..ก็หน้าม้าเธอมัน..” เพื่อนร่างสูงขยับมือทำท่าประกอบเป็นเชิงสื่อให้รู้ว่าไม่ได้แกล้งก่อนที่จะเอื้อมมือมาจัดผมหน้าม้าเธอลงเบาๆอีกครั้ง. ..ทำอย่างกับไม่เคยเห็นทรงผมใหม่ของเธออย่างนั้นล่ะ

       

      ..ไม่รู้รึไงว่าทำแบบนี้แล้วคนเขาจะเขิน!

       

      สุดท้ายเลยได้แต่ขยับหัวหนีนิดๆและก้มหน้าลงจัดผมตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนลมหายใจที่ยังไม่ปกติและใบหน้าที่ไม่รู้จะแสดงออกไปมากแค่ไหน. ..ก็เพื่อนกัน..จะอะไรนักหนา

      พยายามตั้งใจฟังพิธีกรที่กำลังสัมภาษณ์อย่างเมามันส์อีกครั้งทั้งที่อารมณ์ในตอนนี้(หรือจะพูดว่าตั้งแต่ขึ้นเวทีมาก็ได้)ยังคงติดหนึบอยู่กับสิ่งมีชีวิตบวมๆข้างกายจนไม่อยากสนใจสิ่งอื่น

      อันที่จริงเธอเองก็ไม่ได้เตรียมหรืออยากที่จะหาคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่นัก และก็ไม่อาจรู้ด้วยว่าเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆจะรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า. ..เธอสนใจยูริ..ยังไม่อยากห่าง

       

      แต่เดี๋ยวนะ...ขอโบกมือให้แฟนคลับนิดนึง..ไม่อยากหมกมุ่น

       

      ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ในวินาทีต่อมาร่างบางก็รู้สึกว่าตัวเองได้พากายเข้าแอบอิงกับร่างสูงเข้าอีกจนได้. ..ไอ้ที่พยักหน้าเหมือนจะรู้ว่าเขาพูดอะไรกันนั่นเฟคทั้งเพ!

       

      เป็นอะไรของเธอเนี่ย..จอง เจสสิก้า!

       

       

       

       

       

       

      “ไฟท์ติ้ง!

      เฮือก!

       

      แอบสะดุ้งในใจเล็กน้อยเมื่อขณะที่เธอกำลังพาร่างของตัวเองมายืนสแตนด์บายเพื่อโชว์เพลง ‘The Boys’ และในความมืดมีมือของใครคนหนึ่งมาเกาะหลังพร้อมพูดด้วยเสียงที่คุ้นเคย..ยัยเชว อันนาแห่งแฟชั่นคิงนี่เอง

      คิดแล้วในใจก็ลิงโลด..อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจอยู่คนเดียวล่ะนะ

       

      “ไฟท์ติ้งงงง!” แอ๊บท่าดี๊ด๊าไปตามประสาเจสสิเกรียนให้เพื่อนร่างสูงหลุดยิ้มออกมาตามคาด. ..ค้นพบข้อเท็จจริงอีกข้อหนึ่งว่าเธอไม่ได้เป็นคนเดียวที่ดีใจที่ได้โชว์ด้วยกันอีกครั้ง

       

      ..แอบขอโทษซันนี่และยุนอาในใจที่เธอไม่ได้รู้สึกสลดเลยเมื่อเวทีขาดไปสองคน

       

      ..เพราะแค่กลับมาคนเดียวก็ปิติมากเกินไปแล้ว!

       

       

       

       

       

      เอาล่ะ..เธอยอมรับก็ได้ว่าวันนี้เธอบ้ามาก

      เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เจ้าหญิงน้ำแข็ง(ละลาย)แห่งโซชิพักหลังมานี้จะชอบทำตัวรั่วเกรียนไปตามประสาแต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยยอมรับนัก..

      แต่วันนี้ต่อให้ไม่สังเกต ใครๆก็รู้ว่าคุณเธอน่ะ..เต้นไป..ร้องไป..แล้วก็ยิ้มไปเหมือนคนบ้าตลอดทั้งโชว์. ..และอย่าให้สาธยายไปมากกว่านั้นเลย..

      สังเกตอีกนิดสิว่ารอยยิ้มพวกนั้นมันจะมาหลังจากดวงตาได้กวาดไปสบประสานกับสายตาของควอนซอบังผู้กำลังมั่วท่าเต้นอยู่มุมใดมุมหนึ่งของเวที

       

      ..ก็อยากจะแก้ตัวอยู่หรอกว่ามันเป็นเพราะเธอขำกับอาการลืมท่าเต้นของยูริเหมือนเพื่อนคนอื่น

       

      ..แต่ก็นะ. ..สาเหตุส่วนใหญ่มัน..

       

       

       

       

       

      “กรี๊ดดดดดดดด”

      เสียงเชียร์จากแฟนคลับหลังการแสดงจบลงกลายเป็นเสียงที่พวกเธอคุ้นเคยไปเสียแล้วในตอนนี้..รอยยิ้มที่ผุดขึ้นและมือไม้ที่โบกเพื่อบอกลาเกิดขึ้นโดยแทบจะไม่ต้องรอการสั่งการจากสมองเลยสักนิด. ..ความสุขของพวกเธอเกิดขึ้นแบบนี้ทุกครั้ง..เกิดขึ้นในปริมาณประมาณนี้

       

      ..แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าวันนี้ความสุขของเมมเบอร์ที่ชื่อเจสสิก้ามันเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง

       

      “ยูริอา” เสียงหวานหลุดเรียกเพื่อนสนิทที่กำลังเดินนำหน้าเพื่อลงเวทีไปพร้อมกับส่งมือบางไปคว้าแขนเสื้อของเขาให้หันมาสนใจ..ทั้งหมดนี้กลายเป็นพฤติกรรมที่เคยตัว..รู้สึกเหมือนตัวเองได้ของเล่นชิ้นโปรดคืนมา

      เหมือนกันกับการกระทำที่เคยตัวพอกันของผู้ถูกเรียกที่จะต้องหยุดอย่างว่าง่ายและหันกลับมาเลิกคิ้วให้เธออย่างสนอกสนใจ. ..ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ล่ะนะ ช่วงที่หายไปถึงได้...

       

      “ฉัน..คิดถึงเธอนะ”

       

      บางทีอาจจะเป็นเพราะเสียงที่เธอใช้พูดประโยคเมื่อครู่มันเบาไปหรือเป็นเพราะเสียงจากแฟนคลับที่ยังคงดังมันดังเกินไปเลยทำให้ยูริเลิกคิ้วสูงขึ้นอีก

      “เธอว่าไงนะ?” พร้อมกับขยับถอยกลับมาหาเธอเพื่อฟังให้ชัดขึ้น. ..แต่คนอย่างเธอไม่ได้เป็นพวกที่ชอบพูดอะไรแบบนี้หลายๆครั้งจึงได้แต่ขยับปากบางบอกปัดไปว่าไม่มีอะไร

      ซึ่งเหมือนจะทำให้อะไรๆจบเพราะตอนนี้ซูยองกำลังส่งเสียงเรียกเธอสองคนที่ยังยืนลีลาอยู่บนเวทีให้รีบลงมา แต่ก็ไม่จบไปซะทีเดียวเมื่อร่างสูงดันถือวิสาสะเอื้อมมือเรียวมากุมมือของเธอและลากไปราวกับเธอเป็นเด็กน้อยหลงทาง

       

      ..คิดว่าอยากทำอะไรก็ทำได้อย่างนั้นรึไง?

       

      และคำตอบของคำถามนั้นมันก็ชัดขึ้นในใจเธออยู่แล้วในเสี้ยววินาทีต่อมา. ..ในอีกสองวินาทีต่อมามันชัดขึ้นเมื่อยูริที่ลากเธอไปจนถึงบันไดขั้นสุดท้ายของเวทีและปล่อยมือออกส่งยิ้มแบบที่ชอบทำมาให้พร้อมกับกระซิบประโยคสั้นๆก่อนจะปล่อยให้เธอยืนนิ่งและกัดริมฝีปากล่างกลั้นยิ้มอยู่ตรงนั้นคนเดียว

       

      “ฉันก็คิดถึงเธอ..ยัยบ๊อง”

       

       

      ใช่. ..คำตอบของคำถามเมื่อครู่

       

       

      ..”ใช่” >////////<

       

       

       

       

      [Fin.]

      ที่สุดแห่งฟิคชั่ววูบ! ไม่มีที่มา มีแต่ที่ไปแบบมึนๆ -*-

      อีกทั้งโมเม้นก็ผ่านมาได้พักใหญ่แล้วด้วย(เพิ่งจะฮึดนะแก)

      อีกทั้งเรื่องเก่าก็ไม่อัพ(ตราบาปของชีวิตเลยนะแก)

      เปิดเทอมแล้วมันรุมเร้าจริงๆ เค้าขอโทษรีดเดอร์มากมาย TT/\TT

      แต่ว่าเห็นโมเมนต์นี้แล้วมันคันไม้คันมือมากจริงๆ พี่ยูลกลับมาแล้วหวานจนแม่ยกเขินแทน ><

      ก็เลย..นะ. ..ประมาณนี้แหละ อ่านขำๆ อย่าคิดมาก

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×