คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
มังกรเป็นตัวแทนของพลังอำนาจและเป็นสัตว์ศักดิ์สำหรับเหล่านักบุญ ในอดีตกษัตริย์แทบทุกพระองค์จะมีมังกรคู่ใจ เพื่อเป็นตัวแทนอำนาจที่ไม่มีใครเทียบเท่า พวกมันออกทำสงครามประกาศศักดา และนำชัยชนะมาให้ผู้เป็นนาย
ด้วยพลังอำนาจเหนือสัตว์ทั้งปวงทำให้เกิดกลุ่มนักล่ามังกรขึ้น พวกนักล่าจะออกเสาะหามังกรที่แข็งแกร่งตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ เพื่อแลกกับสิ่งที่มีมูลค่าล่อตาล่อใจ ส่วนมังกรที่อ่อนแอก็ถูกล่าไม่แพ้กัน เพราะไม่ว่าจะเป็นเขี้ยว เนื้อ หนัง เขา หรือแม้แต่กระดูกก็มีมูลค่าไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
ถึงการเผชิญหน้ากับมังกรดุร้ายอาจหมายถึงชีวิต แต่เหล่ามนุษย์โลภมากก็ยังยอมที่จะเสี่ยง
เวลาผ่านไปมังกรลดจำนวนลงจนแทบหมดสิ้น ส่วนมังกรที่มีอำนาจเหนือขึ้นไปจากมังกรธรรมดา จนสามารถมีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์ ว่ากันว่าพวกนั้นมีพลังเวทมนตร์สูงจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ และเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด มังกรเหล่านั้นได้แฝงตัวเข้ามาอาศัยอยู่กับมนุษย์ จนมีลูกหลานสืบทอดต่อกันมาในฐานะพวกลูกครึ่งมังกร
ปัจจุบัน มังกรสายเลือดแท้ๆ ที่เหลืออยู่ มีแค่ตัวเดียวเท่านั้น และเขาอยู่ในฐานะราชามังกรของเหล่าลูกครึ่งทั้งหมด และเพราะเป็นมังกรตัวสุดท้ายที่มีอายุยาวนานที่สุด ทรงพลังที่สุด อีกทั้งความหมายของราชาแห่งมังกร ยิ่งทำให้ ‘ค่า’ ของมันสูงลิ่วชนิดที่ต่อให้สละประเทศทั้งประเทศมาตีเป็นมูลค่าก็ยังไม่เทียบเท่า เหล่านักบุญรุ่นแล้วรุ่นเล่าพยายามเกลี่ยกล่อมมันให้เป็นพวก ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ แต่มันก็ไม่เคยคิดจะก้มหัวรับใช้ใคร
จนกระทั่งราชาแห่งความมืดได้ถือกำเนิดขึ้น ราชาที่มีพลังเหนือราชามังกร
แต่ว่า... เพราะเขาเป็นเพียงมนุษย์ จึงมีจุดอ่อน
เพื่อกำจัดจุดอ่อนอันน่าชิงชังออกไป ราชาเสาะแสวงหาวิธีต่างๆ นาๆ จนพบว่าการได้ดื่มเลือดสดๆ ของมังกรจะช่วยกำจัดจุดอ่อนและเติมเต็มในสิ่งที่ขาดไป แน่นอนว่าเลือดที่ได้ผลดีที่สุดจะต้องเป็นเลือดของราชามังกรเท่านั้น
นั่นแหละจุดเริ่มต้นแห่งความเลวร้าย ‘ทั้งหมด’ ที่หล่นโครมลงมาใส่หัวข้าจังๆ....
แต่คิดๆ ดู จุดแตกหักทั้งหมดอาจไม่ได้เริ่มที่การถูกยัดเหยียดฐานะ ‘ทาสรับใช้อันทรงเกียรติ’ ก็ได้
ข้าไม่เคยเข้าใจว่าพวกมนุษย์ปรารถนาชีวิตอมตะไปทำไม เพราะสิ่งที่รอพวกเขามีเพียงวันคืนโหดร้ายกับการต้องทนเห็นคนใกล้ตัวตายจากไปที่ละคน ตัวข้าแม้ตอนนี้จะใช้ชีวิตอยู่กับพวกพ้อง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกอบอุ่นหัวใจสักครั้ง เพราะรู้แก่ใจว่าสักวันหนึ่งพวกเขาต้องจากไป
พอคิดว่าสักวันต้องเหลือตัวคนเดียวอีกครั้ง ข้าก็มองไม่เห็นอนาคตที่รออยู่ข้างหน้าเลย ในสายตาข้าแล้วทุกอย่างมืดมนไปหมด
ข้าคิดแบบนั้น และคิดมาตลอด
กระทั่งมีบางอย่าง... ไม่สิ บางคนทำให้มันเปลี่ยนไป บางคนที่นำแสงสว่างมาสู่ชีวิตของข้า เป็นเปลวไฟดวงน้อยที่ไม่เคยมอดดับ ทำให้ข้ามีความหวังที่จะก้าวเดินไปสู่ปลายทางที่แสดงสุดท้ายนั้นชี้นำ
“แอตลาส...”
เสียงเรียกงัวเงียไม่ได้ทำให้แอตลาสละความสนใจจากเด็กชายตัวน้อย ที่กำลังยกมือขึ้นถูเปลือกตา ดวงตาสีดำกับสีผมรัตติกาล แม้จะตอบย้ำให้เขานึกถึงคนที่ไม่อยากนึกถึง แต่พอก้มลงสูดกลิ่นหอมที่เขาเป็นคนดูแลทำความสะอาดให้อย่างดี แอตลาสก็เชื่ออย่างสุดใจว่า ทั้งภายนอกและภายในของเจ้าหนูน้อย ไม่มีอะไรเหมือนคนเป็นพ่อสักนิด
“ว่าไงล่ะ”
เขาพลิกตัวนอนตะแคง มือหนุนอยู่ใต้ศีรษะ
“ยังไม่หลับเหรอ”
เจ้าหนูน้อยถามทั้งที่มือหนึ่งยังกำจี้สร้อยคอของเขาไว้ เหมือนกลัวว่าเขาจะลุกหนี ซึ่งถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ แอตลาสไม่คิดจะทำแน่ อย่างแรกที่เที่ยงคืนแล้ว เป็นเวลาที่พวกมนุษย์หรือแม้แต่มังกรต้องพักผ่อน อย่างที่สอง เขาไม่อยากเดินโทงๆ ไปไหนมาไหนทั้งที่ยังเปล่าเปลือยแบบนี้ ฤดูหนาวของกลาเชีย ต่อให้มังกรทดทานต่อสภาพอากาศทุกอย่าง เตียงอุ่นๆ ก็น่าพิสมัยกว่าออกไปทดสอบความอดทนข้างนอก
“ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเลย” เด็กชายงึมงำ “ไม่อยาก อยู่ห่างแอตลาส”
ดวงตาสีแดงเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะกลับคืนสู่ความอ่อนโยนเมื่อลูบผมเด็กชาย พอท่อนแขนกำยำแข็งแรงโอบร่างเล็กเข้ามาหา เด็กชายก็รีบขยับเข้ามาจนแนบชิดทำให้เนื้อตัวทั้งคู่แนบสนิทจนไม่มีช่องว่าง แขนเล็กๆ เกี่ยวต้นคอเขาอย่างคุ้นเคย เสียงพึมพำต่อมาเคล้าไปกับเสียงสะอื้น
“ข้ากลัวจังเลย แอตลาส ไม่อยาก... ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”
“ข้ารู้ ข้าเองก็เหมือนกัน”
เขาลูบแผ่นหลังที่สั่นสะเทือนเพราะแรงสะอื้น
“หนีไปด้วยกันได้ไหม...”
“พูดอะไรออกมานะ... เจ้าชาย”
“ไม่เอา!”
เสียงตะโกนอย่างดื้อรั้นดังขึ้น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นจ้องเขาด้วยดวงตาที่มีหยาดน้ำเอ่อคลอ
“ข้าไม่อยากเป็นเจ้าชาย ไม่อยากอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าเป็นแอตลาสละก็ต้องหนีไปจากที่ได้แน่ๆ ข้าน่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ถ้ามีแอตลาสอยู่ด้วยก็ไม่กลัวหรอก”
“พูดจริงหรือ ต่อให้ต้องหนีไปเรื่อยๆ ก็ยังจะพูดแบบนั้นอีกเหรอ” พอศีรษะน้อยๆ พงกรับเร็วๆ แอตลาสก็ยอมที่จะให้ความปรารถนานั้นครอบงำตัวเอง “ตราบใดที่ข้ายังมีพันธะอยู่แบบนี้ข้าคงสัญญาอะไรไม่ได้ แต่ว่าถ้าหากเมื่อไหร่ที่ข้าเป็นอิสระ ข้าจะพาเจ้าไปจากที่นี่แล้วอยู่ด้วยกันตลอดไป แบบนี้ดีไหม”
“ดี!”
พอเห็นรอยยิ้มใสซื่อ แอตลาสก็ยิ้มไปด้วย แต่พอย้อนกลับมาทบทวนความเป็นจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง หัวใจของเขาก็พลันหนักอึ้ง
“นี่... เซ็ทข้าขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”
“อือ ได้สิ อะไรก็ได้ทั้งนั้น”
“ถ้าเจ้าโตขึ้น มากพอจะรับรู้สิ่งต่างๆ แล้ว ถึงตอนนั้น... อย่าเกลียดข้าได้ไหม”
ความคิดเห็น