ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC} บาปรัก GYUWOO Infinite

    ลำดับตอนที่ #1 : : บาปรัก : 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 492
      1
      9 ธ.ค. 58

    :บาปรัก: 1

     

     

     
     

     

                นัมอูฮยอนเด็กชายวัยสิบสามกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่ตั้งแต่เด็ก อูฮยอนและน้องชายวัยสิบขวบต้องอาศัยอยู่ในความดูแลของน้าสาวที่ไม่เคยรักสองพี่น้องแม้สักนิก และยังรังเกียจดูแคลนอูฮยอนและน้องชายที่เป็นภาระให้กับหญิงสาวที่ต้องมาดูแลเด็กสองคนนี้อย่างไม่เต็มใจ

                    ในทุกวันอูฮยอนต้องออกไปทำงานหาเงินมาให้น้าสาวใช้ ไม่ได้ออกไปเรียนเหมือนกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน อูฮยอนต้องคอยมองเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างอิจฉาที่อูฮยอนนั้นได้แต่มองไม่มีโอกาสได้เรียนเหมือนเพื่อนๆเลย ต้องเอาแต่ทำงานหาเงินไปให้น้าสาวได้ใช้ ถ้าวันไหนหาเงินไม่ได้อูฮยอนก็จะถูกทุบตี ตบตี ถูกอดข้าวเย็นเป็นการลงโทษจากน้าสาวที่หาเงินมาให้ไม่ได้ เด็กตัวนิดเดียวในวัยสิบสามจะไปหางานอะไรทำได้ ไม่มีใครให้งานทำนักหรอกที่มันผิดกฎหมายกับการใช้แรงงานเด็ก เงินที่อูฮยอนหามาได้ก็จากช่วยป้าๆในหมู่บ้านทำความสะอาดบ้าน เก็บขยะ ช่วยส่งของให้กับป้าๆในหมู่บ้านที่ต่างสงสารอูฮยอนจึงให้ช่วยงานและให้เงินเป็นค่าตอบแทนที่มันไม่ได้มากนักอย่างที่ผู้เป็นน้าต้องการจากอูฮยอน

                    “วันนี้แกได้เท่านี้เองหรือไงไอ้อูฮยอนหรือว่าแกเอาเงินไปแอบไปซ่อนไว้ที่ไหนหรือเปล่า!!!” คนเป็นน้าตวาดลั่นทั้งยังทุบตีหลานชายอย่างไม่ปราณี

                    “ผมหาได้แค่นี้จริงๆน้าแทยอน ผมไม่ได้เอาเงินไปซ่อนไว้ที่ไหนอย่างที่คิดเลย”อูฮยอนบอกเสียงสั่นด้วยความกลัว

                    “ในเมื่อแกได้เงินแค่นี้ วันนี้แกกับน้องชายแกก็ไม่ต้องข้าวเย็น อดมันทั้งพี่ทั้งน้องนี่แหละ แกพาน้องแกออกไปให้พ้นหน้าฉันเลยไป!!”แทยอนตวาดไล่ อูฮยอนนั้นกอดน้องชายที่เอาแต่ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว

                    “ฉันบอกให้ออกไปไงหรือว่าจะให้ฉันลงไม้ลงมือกับน้องแกอีกคน!!” แทยอนง้ามือจะตบ อูฮยอนรีบลุกพาน้องชายวิ่งออกจากบ้านไป

                    อูฮยอนพาฮันมยอนเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงหน้าหมู่บ้าน สองพี่น้องเริ่มเหนื่อยอูฮยอนจึงพาฮันมยอนมานั่งหน้าร้านมินิมาร์ทที่มีแสงไฟส่องให้ความสว่าง

                    “ฮันมยอนไม่ร้องนะครับ น้าแทยอนตามมาตีเราไม่ได้แล้วนะครับ”อูฮยอนกอดปลอบน้องชายที่ยังขวัญเสียกับเหตุการณ์ในบ้านเมื่อครู่ หน่ำซ้ำยังโดนน้าสาวไล่ออกจากบ้าน อูฮยอนไม่รู้เลยว่าผู้เป็นน้าจงเกลียดจงชังอะไรเขานักหนาถึงต้องทำร้ายเล่นงานเขาขนาดนี้

                    “พี่อูฮยอนผมหิว ฮันมยอนหิวข้าว”ฮันมยอนลูบท้องตัวเอง สายตาเศร้ามองพี่ชายด้วยความหิวที่รุมเร้าเข้ามา

                    “รอพี่อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่เข้าไปซื้อขนมปังมาให้เราทานลองท้อง”อูฮยอนบอกกับน้องชาย พลางลุกขึ้นยืนมือล้วงกระเป๋าหาเศษตังค์ที่แอบซ่อนเก็บไว้บ้าง ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็พอจะซื้อขนมปังได้สักชิ้น

                    อูฮยอนเดินเข้าไปซื้อขนมปังในมินิมาร์กเท่าพอจะมีซื้อให้น้องชายได้ทานลองท้องไปก่อน เด็กชายซื้อเสร็จก็รีบเดินออกมาพร้อมแกะซองขนมปังพร้อมให้น้องชายได้ทาน อูฮยอนเห็นน้องชายทานได้ก็ยิ้มออกมา

                    “พี่อูฮยอนไม่ทานหรอครับ ฮันมยอนแบ่งให้ครับ” ฮันมยอนยื่นขนมปังอีกชิ้นให้กับพี่ชาย

                    “ฮันมยอนทานให้อิ่มเถอะ พี่นะทานมาแล้ว” อูฮยอนบอกด้วยรอยยิ้ม เขาอยากให้ฮันมยอนทานให้อิ่ม ไม่ต้องมาห่วงเขา ขอแค่น้องชายอิ่มอูฮยอนก็เสียสละเพื่อน้องชายได้ถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องทนหิวก็ตาม

                    แปะ แปะ แปะ

                    ฝนเริ่มลงเม็ดตกปอยๆลงมาแต่สองพี่น้องยังคงนั่งกอดกันอยู่หน้าร้านมินิมาร์กที่ไม่มีอะไรคุ้ม และดูฝนจะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆไม่มีท่าจะหยุดตกได้ง่ายๆ

                    “พี่อูฮยอน ฮันมยอนหนาว” เสียงสั่น ร่างกายที่สั่นเทาไปด้วยความหนาวเย็นของน้องชายนั่นอูฮยอนต้องถอดเสื้อคุมออกมาห่มให้น้องชายและกอดน้องชายไว้แน่นเพื่อคลายความหนาวเย็นให้ทุเลาลง

                    อูฮยอนมองน้องชายอย่างสงสารจับใจ อยากจะพาน้องชายกลับบ้านแต่ก็กลับไม่ได้ในเมื่อถูกน้าสาวไล่ออกมา ถ้าให้กลับไปอีกรอบน้าสาวคงเล่นงานเขากับฮันมยอนอีกรอบ อูฮยอนจึงต้องทนหนาวนั่งตากฝนอยู่เช่นนี้

                    “ทนหน่อยนะฮันมยอน”อูฮยอนกอดน้องชายแนบอกถึงแม้ตัวเองก็หนาวสั่นไม่ต่างกัน

                    สองพี่น้องนั่งกอดกันตากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ที่มันทั้งหนาวทั้งสั่นความหนาวเย็นที่เด็กตัวเล็กๆสองคนเกินจะรับได้ไหว แต่ถึงไม่ไหวพวกเขาก็ต้องอดทนเอาไว้ในเมื่อพวกเขาไม่มีที่ไป

                    “หนูทำไมมานั่งตากฝนอยู่แบบนี้ ทำไมไม่ยอมกลับบ้าน” ชายหนุ่มนิรนามแต่งตัวดูมีภูมิฐานที่ลงจากรถมาดูสองพี่น้องที่เขานั้นเห็นเด็กสองคนนั่งตากฝนอยู่หน้าร้านจนนึกสงสารต้องลงมาช่วย

                    “ผมถูกไล่ออกมาจากบ้านมาครับ ผมกลับบ้านไม่ได้” เสียงสั่นของคนเป็นพี่เอ่ยบอก สายตานั่งพร่ามัวแต่ยังคงกอดน้องชายไว้แน่น ชายหนุ่มเห็นแล้วเวทนาใจ อดสงสารเด็กทั้งสองไม่ได้

                    “งั้นไปกับฉันก่อน ขืนปล่อยอยู่ตรงนี้มีหวังได้เป็นปวดบวมทั้งคู่” ชายนิรนามพูดจบก็อุ้มคนน้องไปขึ้นรถก่อน อูฮยอนนั้นเดินตามมาขึ้นรถ

                    พอขึ้นรถมาเจ้าของรถก็รีบปิดแอร์ไม่ให้เด็กสองคนนั้นรู้สึกหนาวกับอากาศเย็นและหยิบสูทที่พาดไว้ฝั่งคนนั่งยื่นให้กับอูฮยอนได้ห่มบรรเทาความหนาวก่อนที่จะถึงบ้านของเขา

                    รถคันหรูแล่นขับเข้ามาอย่างเร็วจอดเทียบหน้าบ้านที่มีภรรยาและสาวใช้ต่างยืนรอรับประมุขของบ้าน ชายหนุ่มรีบลงมาจากรถเปิดประตูเบาะหลังอุ้มฮันมยอนลงมาก่อนที่ผู้เป็นภรรยาถึงกับตกใจเมื่อเห็นสามีพาเด็กที่ไหนมาด้วย

                    “ซองกยูคุณพาเด็กที่ไหนมาด้วยค่ะนี่” จูฮยอนผู้เป็นภรรยาเอ่ยถาม

                    “อย่าเพิ่งมาถามผมตอนนี้ รีบพาเด็กสองคนนี้ขึ้นไปที่ห้องก่อน” ซองกยูส่งฮันมยอนให้จูฮยอนอุ้มขึ้นไปบนห้องก่อน ส่วนเขานั้นก็รีบเข้าไปอุ้มคนพี่ที่หนาวสั่นอยู่เบาะหลัง

                    สองพี่น้องถูกพามาวางบนเตียงคิงไซต์ในห้องว่างที่เตรียมจัดเตรียมไว้รองรับแขกแต่ตอนนี้ถูกยกให้เป็นห้องสองพี่น้องโดยปริยาย จูฮยอนจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเด็กทั้งสองที่มีซองกยูคอยดูอยู่ด้วยตลอดจนจูฮยอนเช็ดตัวให้กับเด็กทั้งสองเสร็จเรียบร้อย

                    “ซองกยูคุณไปเจอเด็กสองคนนี้ที่ไหนมาค่ะ”

                    “ผมไปเจอเด็กสองคนนี้นั่งตากฝนอยู่ข้างทาง ผมเลยลงไปช่วยเขามา เด็กสองคนนี้บอกผมว่าถูกไล่ออกจากบ้าน กลับบ้านไม่ได้ ผมไม่รู้จะทำอย่างไงผมก็เลยพามาที่นี้ก่อน”

                    “พ่อแม่เดี๋ยวนี้จิตใจทำด้วยอะไรกันนะ ถึงได้ใจร้ายทำกับลูกตัวเองได้ลงคอ” จูฮยอนนึกโมโหแทนอดต่อว่าพ่อแม่ของเด็กทั้งสองไม่ได้ ซองกยูนั้นได้แต่กอดอกมองดูอย่างสงสารจับใจและรู้สึกถูกชะตากับคนพี่

                    “จูฮยอนคุณไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเอง” คิมซองกยูเอ่ยบอกกับภรรยาที่เขาได้รบกวนเวลาพักผ่อนของผู้เป็นภรรยาต้องมาเหนื่อยกับการดูแลสองพี่น้อง

                    จูฮยอนยิ้มให้กับสามีและเดินกลับห้องตัวเองที่ปล่อยให้ซองกยูชายหนุ่มวัยสามสิบสองรับหน้าที่ดูแลเด็กทั้งสองต่อ

                    “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพ่อแม่ทิ้งลูกทำร้ายลูกตัวเองได้ลงคอขนาดนี้” ซองกยูเอ่ยขึ้นพลางนั่งลงบนฟูกข้างๆอูฮยอนที่อยู่ในห้วงนิทรา “เด็กน่ารักอย่างเธอไม่น่ามาเจออะไรโหดร้ายเช่นนี้เลย” ฝ่ามือใหญ่ลูบผมอูฮยอนอย่างอ่อนโยนเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกถูกชะตาเด็กคนนี้เหลือเกิน

     

     

     

     

     

                    อูฮยอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสายรู้สึกปวดตามร่างกาย ปวดหัวตึบจากพิษไข้ มองเห็นภาพสะลึมสลัวพร่ามัวเมื่อมองไปรอบๆห้องที่ดูไม่คุ้นเคย เมื่อนึกถึงน้องชายขึ้นได้อูฮยอนก็ได้สติจะลุกลงจากเตียงไปตามหาน้องชายเป็นจังหวะที่ซองกยูเดินเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มที่ยกเข้ามาในห้องด้วยตัวเอง

                    “น้องชายผมล่ะครับ น้องชายผมอยู่ไหน” อูฮยอนถามอย่างเป็นน้องชาย

                    “ไม่ต้องเป็นห่วงน้องชายของเธอไป ฉันให้เด็กพาน้องชายของเธอไปนอนอีกห้องตอนนี้หมอกำลังตรวจอาการน้องชายของเธออยู่” อูฮยอนรู้สึกโล่งอกที่น้องชายนั้นปลอดภัยไม่เป็นอะไร ไม่ได้หนีหายไปไหน

                    “ส่วนเธอมาทานข้าวต้มก่อน ทานเสร็จจะได้มาคุยกับฉันที่ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ “ซองกยูแกมสั่ง อูฮยอนนั้นก้มหน้าอย่างกลัวๆไม่กล้าสบตาซองกยูที่ซองกยูนั่นยกถ้วยข้าวต้มมาวางอูฮยอนได้ทานถนัดขึ้น

                    “ผมอิ่มแล้วครับ” อูฮยอนบอกออกมาเมื่อทานข้าวต้มจนหมดถ้วยด้วยความหิว

                    “มานั่งตรงนี้กับฉัน” ซองกยูตบมือลงที่ฟูก อูฮยอนเดินเข้ามานั่งอย่างกล้าๆกลัวๆ “ไหนเล่าให้ฉันฟังซิว่าทำไมเธอกับน้องชายของเธอถึงต้องมาตากฝนมืดๆค่ำๆแบบนั้น ทำไมไม่กลับไปบ้านไปหาพ่อแม่ของเธอ แล้วพ่อแม่ของเธอไปไหนถึงไม่ออกมาตามหาลูก”

                    “ผมกับน้องไม่มีพ่อแม่ครับ เราสองคนกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ผมอยู่กับน้าสาวแต่น้าสาวของผมไล่ผมกับน้องออกจากบ้านเพราะผมหาเงินให้ไม่ได้” เสียงเศร้าก้มหน้าก้มตาเล่าออกมา ซองกยูรู้สึกสงสารจับใจ โชคชะตาทำไมถึงเล่นตลกกับคนแบบนี้นะ

                    “ฉันว่าฉันใจร้ายแล้วนะ น้าของเธอยังใจร้ายกว่าฉันอีก” ซองกยูเอ่ยบอกที่ไม่คิดว่าจะมีคนใจร้ายยิ่งกว่าเขาสักอีก อูฮยอนได้แต่ก้มหน้างุด “แล้วเธออยากกลับบ้านไหม” อูฮยอนส่ายหน้ารัว “โอเคถ้าเธอไม่อยากกลับ ฉันก็จะช่วยเธอเอง ฉันจะให้เธอกับน้องชายของเธออยู่ที่นี้แต่เราต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกัน”ฝ่ามือเชยคางมนของเด็กชายวัยสิบสามขึ้นมาสบตามอง

                    “ถ้าเป็นการตอบแทนบุณคุณผมกับน้องยินดีจะทำให้คุณทุกอย่าง ไม่ว่าคุณต้องการอะไรผมก็ยินดีทำตามที่คุณต้องการ” ซองกยูถึงกับยิ้ม อุ้มอูฮยอนมานั่งบนตักพลางกดจูบไปบนแก้มนิ่ม อูฮยอนสะดุ้งตกใจเมื่อโดนชายหนุ่มอายุมากกว่าหอมแก้ม

                    “สิ่งที่ฉันต้องการจากเธอ....เธอจะต้องเมียฉัน อยู่ที่นี้ในฐานะเมียฉันเท่านั้น” ข้อแลกเปลี่ยนที่ซองกยูเอ่ยบอกมานั้นถึงกับตกใจกลัว หน้าถอดสีเมื่อรู้ความต้องการของชายหนุ่ม

                    “.............”

                    “ว่าไงเด็กน้อยจะทำตามที่ฉันขอได้ไหม ถ้าเธอทำตามที่ฉันขอจากเธอทั้งเธอและน้องชายของเธอก็จะได้อยู่ที่นี้อย่างสุขสบาย เธอกับน้องชายก็จะได้เรียนสูงๆ จะไม่ต้องลำบากโดนน้าสาวของเธอต้องทำร้ายอีก” ซองกยูพูดหว่านล้อมฝให้คล้อยตาม

                    “แต่ผมยังเด็กมากนะครับ ผมยังไม่รู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ และอีกอย่างผมก็เป็นผู้ชาย ผมจะเป็นเมียของคุณได้อย่างไงกัน” ซองกยูถึงกับยิ้มกับความใสซื่อ ไร้เดียงสาของเด็กชายวัยสิบสาม

                    “เรื่องพวกนี้ฉันไม่สนหรอกนะ มันไม่สำคัญกับฉันเลยว่าเธอจะเป็นชายหรือหญิง สิ่งที่สำคัญคือฉันถูกชะตาเธอ ถูกใจเด็กอย่างเธอ ต้องการเด็กอย่างเธอให้มาเป็นเมียของฉัน”พูดอย่างเปิดเผยมไม่ปิดบัง อูฮยอนก้มหน้างุดที่ไม่เคยถูกใครมาพูดเชิงชู้สาวกับตัวเองมาก่อน ใบหน้าหวานที่ก้มงุดถูกซองกยูเชยคางมนให้ขึ้นมามองและริมฝีปากบางก็ถูกประกบจูบอูฮยอนพยายามใช้มือผลักดัน ถอยหนีด้วยความกลัวแต่ก็ไม่สำเร็จ

                    “ที่ฉันช่วยเธอเพราะฉันถูกชะตาเธอ ถูกใจในตัวของเธอและต้องการให้เด็กอย่างเธออยู่ข้างกายฉันรู้ไหม” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยบอกเมื่อละริมฝีปากออกจากจูบ นิ้วโป้งเช็ดคลึ้งมุมปากอย่างเอ็ดดู

                    “...........”

                    “ฉันจะให้เวลาเธอคิดแค่เย็นนี้เท่านั้น ถ้าฉันกลับมาจากทำงานฉันหวังว่าฉันจะได้คำตอบที่น่ายินดีจากเธอนะเด็กน้อย” ซองกยูเอ่ยบอกที่อุ้มอูฮยอนลงจากตักให้นั่งบนฟูก ฝ่ามือลูบกลุ่มนิ่มอย่างอบอุ่น ใจดีก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปปล่อยให้เด็กน้อยวัยสิบสามได้ตัดสินใจกับข้อเสนอข้อแลกเปลี่ยนกับการได้มีชีวิตที่สุดสบายอยู่ที่นี้ในฐานะภรรยาของคิมซองกยูอีกคน

                    ผมควรจะทำอย่างไงดี หรือผมควรรับข้อเสนอของเขาเพื่อตัวผมเองและเพื่อน้องชายของผมที่จะได้อยู่ที่นี้อย่างสุขสบาย.....

     

               

                    ก่อนออกไปทำงานซองกยูก็สั่งให้จูฮยอนขึ้นมาดูแลอูฮยอน เมื่อสามีออกไปทำงานจูฮยอนก็ขึ้นมาดูแลอูฮยอนตามคำสั่งของสามี หญิงสาวเห็นเด็กชายวัยสิบสามยืนซึมทอดสายตามองออกไปนอกริมต่างจูฮยอนได้แต่มองอย่างสงสาร

                    “ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้ฉันฟังได้นะ”น้ำเสียงอ่อนโยนอ่อนหวาน นุ่มนวลของหญิงสาวเอ่ยบอกมานั้นอูฮยอนจึงหันกลับมามองและเดินมานั่งข้างๆจูฮยอนที่โซฟา

                    “มีอะไรหรือเปล่า ดูหนูทำหน้าซิเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจอะไรสักอย่าง” อูฮยอนก้มหน้าอึกอักไม่รู้จะพูดจะบอกไปดีหรือเปล่า “เอาแบบนี้ดีไหม หนูก็คิดว่าฉันเป็นแม่ของหนูอีกคน หนูจะได้สบายใจรู้สึกไม่ลำบากใจที่จะเล่าให้แม่อย่างฉันฟัง” จูฮยอนลูบผมเด็กน้อยอย่างเอ็ดดู อูฮยอนช้อนตาขึ้นมามองจูฮยอนมีรอยยิ้มอ่อนหวานให้กับอูฮยอน

                    “คือคุณรู้ใช่ไหมครับว่าคุณผู้ชายของที่นี้เขาต้องการผมเป็น....เอ่อ......”อูฮยอนไม่กล้าจะพูดออกมา จูฮยอนถึงกับยิ้มเอ็ดดูไม่ให้อูฮยอนรู้สึกกดดัน ประหม่ากับสิ่งที่ต้องการจะบอก

                    “คือ....ที่คุณผู้ชายต้องการผมเป็นภรรยาของท่านอ่ะครับ” จูฮยอนถึงกับยิ้มหัวเราะ

                    “นึกว่าเรื่องอะไร เรื่องนี่นี้เอง”

                    “คุณรู้ด้วยหรอครับ” น้ำเสียงตกใจ

                    “รู้ซิ ทำไมจะไม่รู้ล่ะก็ในเมื่อซองกยูมาคุยเรื่องนี้กับฉันตั้งแต่เช้าแล้ว แล้วยังสั่งให้ฉันขึ้นมาดูแลหนูด้วย” อูฮยอนถึงก้มหน้าตามเดิมเมื่อได้ยินสิ่งที่จูฮยอนเอ่ยบอกออกมา

                    “มีอะไรหรือเปล่าหรือว่าหนูไม่อยากเป็นภรรยาของซองกยู” จูฮยอนถามกลับเมื่อเห็นท่าทางของอูฮยอนเศร้าลง

                    “ไม่ใช่ไม่อยากครับ คุณก็รู้ว่าผมเป็นผู้ชายและผมก็ยังเด็กที่จะมารู้เรื่องพวกนี้ ที่สำคัญผมกับคุณซองกยูของคุณก็อายุห่างกันหลายปี มันจะเป็นไปได้อย่างไงกันที่ผมจะเป็นภรรยาของคุณซองกยู”

                    “โธ่....เด็กน้อย” จูฮยอนลูบผมอย่างเอ็ดดูกับความใสซื่อของอูฮยอน “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเด็กอย่างเธอนะ ว่าหนูคงกลัวกับเรื่องพวกนี้ ยังไม่ถึงวัยของเธอที่จะมาเจอะเจอเรื่องแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน แต่ถ้าถามฉันแล้วฉันจะรับข้อเสนอของซองกยูเพื่อ เพราะถ้าหนูรับข้อเสนอของซองกยูทั้งน้องและตัวของหนูจะไม่ต้องเจอเรื่องโหดร้าย จะไม่ต้องลำบากอย่างที่เคยเป็นกันมา” อูฮยอนช้อนสายตาขึ้นมามอง เมื่อมีอะไรจะพูดแต่ก็อึกอักไม่กล้าจะบอกออกมากับสิ่งที่กลัวอยู่ในใจ

                    “มีอะไรก็พูดเถอะ ฉันพร้อมรับฟังหนูทุกอย่าง”

                    “ถ้าผมยอมรับข้อเสนอของคุณซองกยูผมกลัวเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน ผมไม่เคยมีเรื่องอย่างว่าแบบนั้นมาก่อน”

                    “เด็กหนอเด็ก” จูฮยอนยิ้มเราะกับความใสซื่อไร้เดียงสาของเด็กชายตรงหน้า “ถ้าหนูยอมตกลงเป็นภรรยาของซองกยูอีกคนฉันจะช่วยพูดเรื่องนี้กับซองกยูให้” จูฮยอนลูบศรีษะอูฮยอนอย่างรักใคร่เอ็ดดูเหมือนอย่างกับลูก และมันก็ทำให้อูฮยอนตัดสินใจได้ว่าจะยอมรับข้อเสนอของซองกยูนั้นดีหรือไม่

                    “ผมขอถามคุณอีกอย่างได้ไหมครับ” จูฮยอนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คุณกับคุณซองกยูเป็นอะไรกันหรอครับ”

                    “ฉันเป็นภรรยาของซองกยูอีกคน” อูฮยอนตาเบิกโตตกใจ

                    “แล้วทำไมคุณถึงยอมให้ผมเป็นภรรยาของคุณซองกยูอีกคนล่ะครับ”

                    “ก็ซองกยูไม่ได้รักฉันล่ะซิ การที่ซองกยูแต่งงานกับฉันก็เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ฉันกับซองกยูก็แต่งงานตามหน้าที่ผู้ใหญ่ต้องการเท่านั้นไม่ได้มีความรักให้กันเลย” จูฮยอนบอกออกมาที่หล่อนก็ไม่เสียใจและเข้าใจในข้อนี้ดีมาโดยตลอด

                    “........”

                    “และการที่ฉันยอมให้ซองกยูมีหนูเป็นภรรยาอีกคนก็เพราะเป็นความต้องการของซองกยูที่ซองกยูเป็นคนเลือกด้วยตัวเองที่ไม่ได้โดนบีบบังคับเหมือนกับฉันและฮยอนอา”น้ำเสียงเอ่ยบอกไม่ได้บ่งบอกความเสียใจ เจ็บปวดแม้สักนิดและยังคงมีรอยยิ้มให้กับเด็กชายตรงหน้า

                    “แล้วคุณซองกยูมีภรรยากี่คนครับ”

                    “ถ้าไม่นับหนูก็มีแค่ฉันและฮยอนอาแค่สองคนเท่านั้น” อูฮยอนพยักหน้าเข้าใจ “แต่หนูยังไม่บอกชื่อฉันเลยว่าหนูชื่ออะไร”

                    “ผมชื่ออูฮยอนครับ ส่วนน้องชายผมชื่อฮันมยอนครับ”บอกด้วยรอยยิ้ม จูฮยอนยิ้มหวานอย่างเอ็ดดูอูฮยอน

                    “งั้นอูฮยอนไปอาบน้ำก่อนนะครับ เราจะได้ลงไปข้างล่างกัน”

                    “ครับ....”จูฮยอนลุกขึ้นแต่ก็โดนอูฮยอนรั้งข้อมือเอาไว้ “ให้ผมเรียกคุณว่าแม่ได้ไหมครับ” จูฮยอนถึงกับยิ้มคำขอของอูฮยอน

                    “ได้ซิครับลูกแม่” บอกด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ฝ่ามือนุ่มลูบผมอย่างอ่อนโยนเอ็ดดู “ไปอาบน้ำได้แล้วนะครับ เดี๋ยวแม่จะรออยู่ข้างล่างนะครับ”

                    “ครับแม่” อูฮยอนรับคำด้วยรอยยิ้มและรีบเข้าไปอาบน้ำที่จูฮยอนจัดเตรียมเสื้อผ้าให้กับลูกชายคนใหม่เรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปเตรียมของว่างให้อูฮยอนและฮันมยอนได้ทานในช่วงบ่าย

     

     

     

                    ซองกยูเมื่อรู้คำตอบจากจูฮยอนที่โทรมาบอกก็สั่งให้ทนายไปจัดการเรื่องอูฮยอนและน้องชายกับน้าสาวของเด็กทั้งสองให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังถ้าเขารับอูฮยอนและฮันมยอนมาอุปการะและกันไม่ให้ผู้เป็นน้าสาวเข้ามาวุ่นวายยุ่งเกี่ยวกับอูฮยอนได้อีก

                    “เรียบร้อยแล้วครับท่าน” ซองกยูพยักหน้าอย่างรับรู้ “ท่านครับ ท่านจะให้เด็กคนนั้นเป็นภรรยาของท่านจริงๆหรอครับ” ดงอูเอ่ยถามที่เห็นเจ้านายจะเอาเด็กรุ่นลูกมาเป็นภรรยา

                    “นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่าดงอู”เสียงนิ่งเอ่ยถาม

                    “ไม่มีครับ แต่ผมแค่สงสัยเฉยๆว่าทำไมท่านถึงต้องการให้เด็กคนนั้นมาเป็นภรรยาของท่านอีกคน” ดงอูบอกตามความสงสัยของตัวเอง ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนายท่านถึงคิดเอาเด็กรุ่นลูกเป็นเมีย

                    “ฉันถูกชะตากับอูฮยอนตั้งแต่แรกเห็นและรู้สึกถูกใจอูฮยอนเป็นพิเศษ ดงอูนายรู้ไหมว่าอูฮยอนเหมือนกับจุนมยอนมาก ตอนฉันเห็นหน้าอูฮยอนครั้งแรกฉันเห็นเด็กคนนี้เป็นจุนมยอน จนทำให้ฉันอดคิดถึงจุนมยอนไม่ได้” ซองกยูถึงกับยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงคนรักเก่าที่ซองกยูรักมากที่สุข รักจนไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว

                    “เพราะคุณอูฮยอนเหมือนคุณจุนมยอนใช่ไหมครับ นายท่านถึงต้องการให้คุณอูฮยอนมาเป็นภรรยาของนายท่านอีกคน” ดงอูพูดออกมาตรงๆ ซองกยูตวัดสายตามองลูกน้องคนสนิทที่อ่านความรู้สึกของเขาออก

                    “ต่อให้อูฮยอนเหมือนจุนมยอนมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครมาแทนที่จุนมยอนของฉันได้ ถึงแม้จุนมยอนจะทำผิดกับฉันมากแค่ไหนก็ตามแต่ฉันก็รักจุนมยอนไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยเลิกรักจุนมยอนได้เลย” เสียงเศร้าเอ่ยบอกอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกถึงอดีตคนรักที่เลิกงานกันไปเมื่อสิบสามปีก่อน

                    “ผมขอโทษที่ผมทำให้นายท่านต้องนึกถึงคุณจุนมยอนอีก”

                    “ไม่เป็นไรดงอู” ซองกยูบอกออกมาด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ถือโทษโกรธดงอูแม้สักนิด กลับมีรอยยิ้มให้กับดงอูที่คงไม่มีใครจะเข้าใจเขาได้เท่ากับลูกน้องคนสนิทได้ดีเท่านี้อีกแล้ว

     

     

     

                   

     

                    สองพี่น้องถูกดูแลจากคนตระกลูคิมเป็นอย่างดีที่ทำให้สองพี่น้องต่างรู้สึกไม่กดดัน ที่ทุกคนต่างใจดีเอาใจใส่ดูแลสองพีน้องเป็นอย่างดีโดยเฉพาะจูฮยอนที่ทั้งรักและเอ็ดดูสองพี่น้องเป็นพิเศษและจูฮยอนก็พาอูฮยอนและฮันมยอนมาวิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าบ้านที่เด็กทั้งสองต่างวิ่งไล่จับเล่นกันอย่างสนุกสนานที่มีจูฮยอนคอยนั่งดูสองพี่น้องวิ่งเล่นกันด้วยรอยยิ้ม

                    “เด็กที่ไหนมาวิ่งเล่นเจี๊ยวจ้าวเสียงดังขนาดเนี๊ยนี่!!!” ฮยอนอาวีนใส่อย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นเด็กมาวิ่งเสียงดังในบ้าน จูฮยอนหันมามองและส่ายหน้าให้กับความไร้มารยาทของฮยอนอา

                    “ไอ้เด็กบ้าหยุดวิ่งเลิกเสียงดังได้แล้ว ฉันรำคาญ!!!” ฮยอนอาหันไปตวาดใส่เด็กทั้งสอง ฮันมยอนได้ยินเสียงของฮยอนอาถึงกับวิ่งมาหลบหลังพี่ชายกอดพี่ชายด้วยความกลัว ฮยอนอาเดินเข้ามากระชากแขนอูฮยอนอย่างแรงด้วยความโมโห

                    “ใครให้เด็กไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างแกสองคนมาวิ่งในนี้ ไม่มีใครบอกแกหรือไงว่าที่นี้ไม่ใช่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า!!!"ตวาดใส่อูฮยอน ข้อมือของอูฮยอนถูกบีบอย่างแรงที่อูฮยอนมองหญิงสาวด้วยสายตาแข็งกร้าว “ยังมีหน้ามามองหน้าฉันอีกนะไอ้เด็กบ้า!!” อูฮยอนยังคงจ้องมองฮยอนอาอย่างไม่มีความกลัว

                    “หยุดเดี๋ยวนี้ฮยอนอา!!!”เสียงคำรามความโกรธจัดของซองกยูดังขึ้นทำให้ฮยอนอาละมือลง ซองกยูรีบเดินเข้ามาแทรกกลาง “จูฮยอนพาฮันมยอนเข้าไปในบ้าน” หันไปสั่งภรรยาคนแรก จูฮยอนรีบเข้ามาจูงมือฮันมยอนออกเหลือแต่อูฮยอนที่ยังอยู่กับซองกยู

                    “ซองกยูเด็กสองคนนี้มันเป็นใคร ถึงทำให้คุณตวาดฉันได้มันมีความสำคัญกับคุณมากแค่ไหนถึงทำให้คุณทำกับฉันแบบนี้!!!”หญิงสาวแหวกลับอย่างไม่กลัว

                    “ผมจะบอกคุณให้รู้ไว้นะฮยอนอา เด็กคนนี้เป็นภรรยาของผมอีกคน ภรรยาที่ผมเป็นคนเลือกเองที่ไม่เหมือนกับคุณที่พ่อแม่ของคุณยัดเหยียดคุณให้กับผมทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการคุณเลย!!”ซองกยูว่าอย่างเหลืออด ยิ่งความเจ็บแค้นใจไม่น้อย “ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนว่าคุณห้ามยุ่งกับอูฮยอนหรือคิดจะทำอะไรอูฮยอนกับน้องชายของเขาเด็ดขาด ไม่งั้นผมไม่เอาคุณไว้แน่!!!!”สายตาดุร้ายมองภรรยาคนที่สองอย่างเอาจริง

                    “อูฮยอนเข้าบ้านกับฉัน” ซองกยูไม่อยากอยู่ตรงนี้นานมากที่ดึงมือเล็กของอูฮยอนเข้าบ้าน สายตาของฮยอนอาจ้องมองตามหลังที่เต็มไปด้วยความคียดแค้น เกลียดชัง

                    ฉันอุตสาห์กำจัดมารหัวใจอย่างจุนมยอนไปให้พ้นทางได้แล้ว ยังจะมีเด็กอย่างแกเข้ามาเป็นมารหัวใจของฉันอีก!!!

     

     









     

    TALK

                    มาเปิดฟิคเรื่องใหม่อีกเรื่องสำหรับฟิคเรื่องนี้ บอกไว้เลยนะคะฟิคเรื่องนี้ดราม่า เศร้าเคล้าน้ำตาแน่นอนค่ะ เรื่องนี้โชตะล้วนๆพี่กยูสามสิบสอง น้องอูฮยอนสิบสามนะคะ

                    อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์กันด้วยนะคะ ติดแท๊กสกรีมในทวิตด้วยแท๊ก #ฟิคบาปรักกยูอู





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×