คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : ตอนที่๓๕ ร่ายมนต์
ตอนที่๓๕ ร่ายมนต์
หลายวันมานี้หงเหม่ยหลงเริ่มเข้ากันได้ดีกับหลี่ซื่อหมิน
ชายหนุ่มกับหญิงสาวใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันโดยตลอดมิได้ห่างกายกันไปไหน…
“ซือหมิน…ท่านทำได้อย่างไร” หงเหม่ยหลงเอ่ยเสียงเบาหวิว
“ทำไมจะทำไม่ได้กัน” หลี่ซื่อหมินตอบกลับเสียงเบาเช่นกัน
“แต่นี่มัน…”
“อีกรอบเดียว…”
หลี่ซื่อหมินเอ่ยพลางก้มหน้าลงตรงซอกคอของหงเหม่ยหลงแล้วค่อยๆเลื่อนไล้ริมฝีปากของตนลงมาตรงหน้าอกเต่งตึงหยุ่นนุ่มของนาง
หงเหม่ยหลงทำได้เพียงหลับตาพริ้มยอมตามใจชายหนุ่มแต่โดยดี
เหงื่อกาฬพร่างพราวไหลเยิ้มอยู่ตามลำตัวของคนทั้งสอง แต่มันก็มิได้เป็นอุปสรรคใดๆต่อกิจกรรมสุดรัญจวนของพวกเขา
บนเตียงอุ่นปกปิดด้วยผ้าม่านรอบทิศทาง มีเพียงเสียงเตียงดัง ครืด คราด ครืด คราด ผสมผสานกับเสียงหายใจหอบกระเส่าอยู่อย่างนั้นมานานแล้วตั้งแต่เมื่อยามค่ำคืนจนถึงรุ่งเช้า…
“เหนื่อยหรือไม่…” หลี่ซื่อหมินก้มหน้ากระซิบถามแกมกระเซ้าเสียงแหบพร่าอยู่ข้างใบหูขึ้นริ้วสีแดงของหงเหม่ยหลง
ร่างงามกำยำของชายหนุ่มยังคงทาบทับอยู่บนเรือนร่างอรชนนุ่มนิ่มของหญิงสาว
หงเหม่ยหลงปรือตามองชายหนุ่มก่อนถลึงตาใส่ “ท่าน…”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มที่มุมปากเป็นยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน
เป็นยิ้มที่หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธต่อการร้องขอใดๆ
เป็นยิ้มที่หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธต่อความต้องการใดๆ
“ใครให้เจ้ายั่วยวนข้าเล่า…” เขายังคงกระเซ้า คลอเคลียอยู่บริเวณใบหน้านวลเนียนของนาง
“ท่าน…” หญิงสาวหน้าแดงขยับปากบวมแดงน้ำเสียงยังคงหอบเหนื่อย “ท่านรังแกข้า…”
ชายหนุ่มไม่กล่าวสิ่งใดต่อ เขาเพียงก้มหน้าหอมแก้มแดงฟอดหนึ่งก่อนพลิกตัวดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบอก
ร่างเปลือยเปล่าสองร่างเบียดเสียดกันอยู่ภายใต้ผ้าห่มอารมณ์วาบหวิวยังคงแผ่ซ่าน
เขาเพียงกระซิบข้างหูนาง
“ข้ารักเจ้า…หลงเอ๋อร์...”
หลี่ซื่อหมินกอดกระชับร่างของหงเหม่ยหลงอยู่อย่างนั้น พวกเขายังคงเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าที่จะลุกออกไปไหน
เดิมทีหลี่ซื่อหมินคิดเอาไว้ว่าครานี้จะกลับไปแต่งงานไหว้ฟ้าดินก่อนตามประเพณี จึงจะเข้าหอตามลำดับ
แต่มิคาดคิดว่าเมื่อคืนจะบังเอิญเจอเข้ากับองค์ชายห้าอีกครั้ง ครานี้องค์ชายห้ามิกล้าทำกิริยาใดๆ
เขาเพียงแค่นั่งดื่มเหล้าและสนทนากับองค์ชายห้าแค่เท่านั้น
เมื่อเขากลับเข้าห้องมาเห็นหงเหม่ยหลงกำลังยืนหันหลังอยู่หน้ากระจกเงา
นางกำลังจัดชุดนอนให้เข้าที่ เห็นได้ชัดว่านางอาบน้ำเสร็จเพียงไม่นาน
กลิ่นกายของนางหอมฟุ้ง ผมทิ้งตัวสยายอยู่ตรงแผ่นหลัง
จังหวะที่นางกำลังจัดชุดบริเวณด้านหน้าของนาง เงาสะท้อนในกระจกเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งนูนเด่นอยู่อย่างนั้น
พลันความรู้สึกบางอย่างได้กลับมา ความรู้สึกของเมื่อคืนนั้น คืนเมื่อสามปีก่อน คืนนั้นที่เขากับนางได้นอนร่วมเตียงกัน
ทำกิจกรรมที่ดีต่อใจดีต่อกายด้วยกัน
เขาพยายามแล้วที่สะกดกลั้นมันเอาไว้
เขาเดินเข้าไปจับเอวบางของนางเอาไว้จากด้านหลัง เขาแค่คิดว่าจะจูบราตรีสวัสดิ์นางเหมือนเช่นทุกคืน แค่นั้น
เขาจูบที่ติ่งหูของนาง เลื่อนลงมาที่ลำคอระหง ไล่ลงมาที่ไหล่นวลเนียนของนาง
เขารู้สึกร้อน ตัวนางก็เริ่มร้อน
ชุดนอนที่นางยังใส่ไม่เข้าที่ เขาดึงมันออก ก่อนช้อนร่างบางของนางมาวางลงบนเตียง
เขาสัมผัสได้ถึงอาการเกร็งตัวของนาง เขาเพียงบดขยี้อยู่ที่ริมฝีปากของนาง เขาเกรงว่านางจะเอ่ยสิ่งใดออกมาเพื่อเป็นการห้ามปรามเขา
แรกเริ่มนางยังปฏิเสธเขา
แต่เขาห้ามใจไม่ได้
เขาห้ามอารมณ์ของตนเองไม่ได้
กิริยาของนางที่ตอบสนองเขาในเวลาต่อมา สร้างแรงปรารถนาอย่างมากมายให้แก่เขา
แม้นางจำเรื่องคืนนั้นของเราไม่ได้ แต่ร่างกายของนางกลับจำสัมผัสของเขาได้ดี
สายตาของนางเวลามองมาที่เขาไม่เหมือนเวลามองผู้อื่น รอยยิ้มของนางมักจะมีไว้เพียงเขา นางแทบไม่ยิ้มให้ใครอื่น
บุคลิกของนางมักแข็งกระด้างดุดันกับผู้อื่น แต่มักจะอ่อนโยนแค่เพียงกับเขา
ทุกอย่างที่นางทำ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เขาจำมันได้ดี
สตรีนางนี้เกิดมาเพื่อเขา และเขาจะอยู่ต่อไปเพื่อนาง
เขาจะทำให้นางมีความสุข
“ข้ารักเจ้า…หลงเอ๋อร์” ชายหนุ่มยังคงกระซิบแม้ว่าหญิงสาวจะหลับใหลไปแล้ว…
ในห้วงนิทรา หงเหม่ยหลงยังคงได้ยิน
“ข้ารักเจ้า…”
“หลงเอ๋อร์...”
แม้จะเบา
แต่ชัดเจนนัก
เมื่อคืน…
ในขณะที่นางกำลังผลัดผ้าหลังจากอาบน้ำเสร็จ เสียงเรียกทุ้มต่ำคุ้นหูอย่างมีเสน่ห์ของบุรุษเพศก็ดังอยู่ทางด้านหลัง
“หลงเอ๋อร์…”
หลี่ซื่อหมินก้มหน้าลงกระซิบเรียกนางอยู่ข้างใบหูของนางจากทางด้านหลัง ก่อนจะจูบนางจากติ่งหูไล่เลื่อนลงไปตามลำคอ
มือของเขาที่จับเอวของนางอยู่ค่อยๆเอื้อมปลดผ้าคาดเอวให้ออกจากกัน
เมื่อเสื้อคลายตัว นางรู้สึกได้ถึงริมฝีปากร้อนจัดไล่อยู่ตามไหล่นวลเนียนของนาง
นางพยายามดึงสติที่กำลังจะหลุดลอยให้กลับมา แต่ทว่า ช่างยากเย็น…
บุรุษที่อยู่ด้านหลังของนางกำลังทำอะไร กำลังร่ายมนต์หรืออย่างไร ทำไม ขานางจึงก้าวไม่ออก
“หลงเอ๋อร์…” เขาเรียกชื่อนางด้วยเสียงแผ่วเบา
“ไม่ต้องกลัว…” เขาเอ่ยปลอบเมื่อนางเกร็งตัว
“ข้า…เอ่อ…ท่าน…ได้โปรด…” นางเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงแผ่นหลังที่ถูกกดทับลงบนเตียงที่เย็นเยียบ เขาชะงักไปแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาเพียงถอนหน้าออกจากซอกคอของนาง เขามองหน้านางนิ่งๆอยู่แบบนั้น จนนางเริ่มอึดอัด
“เอ่อ…ข้าขอโทษ” นางเพียงกล่าวแค่นั้นจากใจจริง
เขามิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา เขาเพียงจ้องหน้านางนิ่งอยู่อย่างนั้น
จนนางลุกขึ้นนั่ง เขาก็ยังไม่เอ่ยสิ่งใด
“ข้าว่า…ข้าไปนอนห้องอื่นดีกว่า” นางกล่าวขึ้นพร้อมทำท่าลุกลงจากเตียง
“นอนที่นี่ก็ได้” เขาเอ่ยพลางดึงร่างของนางให้นอนลงก่อนตวัดผ้าห่มมาห่อตัวของนางเอาไว้
เขาเพียงนอนกอดนางเอาไว้เท่านั้น
ไม่เอ่ยสิ่งใดอีก
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ
มีเพียงเสียงหัวใจที่ยังเต้นไม่เป็นจังหวะและลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอของนางเพียงเท่านั้น…
เวลาผ่านไปซักพัก นางรู้สึกได้ถึงลมหายใจสม่ำเสมอของเขา
แสดงว่าเขาหลับแล้ว...
“ท่าน…หลับแล้วใช่หรือไม่” นางถามตนเองเบาๆเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจสม่ำเสมอของเขา แสดงว่าเขาหลับแล้วจริงๆ นางจึงถอนหายใจเบาๆเกรงว่าเขาจะได้ยิน ก่อนจะค่อยๆหันหน้าไปทางเขา เพื่อดูให้แน่ใจว่าเขาหลับแล้ว
เขาหลับแล้วจริงด้วย นางคิดในใจขณะเหม่อมองใบหน้ายามหลับใหลของเขา
“หลงเอ๋อร์…” เสียงทุ้มต่ำทว่านุ่มนวลเรียกนาง ก่อนสายตาคมของเขาจะค่อยๆลืมขึ้น
นางหลบเขาไม่ทัน ได้แต่จ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น
“ข้าชอบเจ้า…” เขาเอ่ยออกมา แม้แผ่วเบา แต่นางได้ยินชัดเจน
“ข้าแน่ใจ ว่าเจ้าก็ชอบข้าเช่นกัน” เขายังคงเอ่ยต่อ
“เจ้าเป็นสตรีเช่นใดกัน กล้าทรมานข้าเช่นนี้” เขายังคงกระซิบกระซาบตัดพ้อ
นางทำได้แค่กระพริบตาปริบๆ กับอาการผิดปกติของเขาในค่ำคืนนี้
“ข้า….เอ่อ….ข้า” นางยังพูดไม่ทันจบริมฝีปากอุ่นจัดของเขาพลันประกบเข้ามา
จูบของเขาเริ่มที่รุ่มร้อนก่อนที่จะผ่อนคลายลงเป็นอ่อนโยน ดูดดื่ม เนิ่นนาน
อารมณ์พลุ่งพล่านที่เกือบจะสงบพลันกลับเข้ามาอีกรอบ
และรอบนี้นางไม่แน่ใจว่าจะหยุดมันได้หรือไม่
เขาใช้ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากของนางอยู่อย่างนั้น
มือของนางที่กำแน่นอยู่ที่แผงอกของเขาค่อยๆคลายออกแล้วจับแน่นอยู่ตรงนั้น
นางทำได้เพียงคราง อือ อือ อยู่ในลำคอ
เพียงอึดใจเดียวผ้าห่มถูกตวัดออกจากร่างของนาง
คราวนี้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความหนักหน่วง ไม่ทิ้งจังหวะให้นางได้หายใจ
เหมือนดั่งพายุโหมกระหน่ำซัดเข้าร่างของนาง ลูกแล้ว ลูกเล่า
นางทำได้เพียงลอยไปตามน้ำเหมือนเรือลำเล็กท่ามกลางพายุลูกใหญ่ ไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้าฝั่ง
ลมหายใจหอบหนักดังอยู่ข้างใบหูของนาง นางทำได้เพียงปรือตาแหงนหน้าอยู่อย่างนั้น
ไม่ไหวแล้ว นางเองก็ทนไม่ไหวแล้ว
จะเป็นอย่างไรก็ให้มันเป็นไป จะทำอย่างไรก็ทำตามนั้น
ยอมแล้ว
นางยอมแล้ว
“หลงเอ๋อร์…” เสียงแหบพร่าของเขาเรียกนางปนเสียงกระเส่า
นางทำได้เพียงขานรับเบาๆ
“อา….”
ผ้าบางเบาชิ้นสุดท้ายถูกปลดออกไป ตามด้วยร่างกำยำของเขาทาบทับเข้ามา
ค่ำคืนยาวนานปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอันร้อนแรงเสมือนพายุฤดูร้อนที่ไม่มีทีท่าว่าจะสงบง่ายๆ
ทุกอย่างดำเนินไปจนเวลาล่วงเลย
เปลวเทียนมอดดับ น้ำตาเทียนไหลเยิ้ม น้ำค้างพร่างพราวหยดอยู่นอกหน้าต่าง พายุลมสงบลงแล้ว
นางเพียงซุกซบอยู่กับอ้อมอกอบอุ่นนั่น
นางหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของเขาอยู่อย่างนั้น…
ในห้องอาหารของโรงเตี๊ยม...
“ท่านว่าสองคนนั่นยังจำพวกเราได้หรือไม่” เสียงเฟิงเหวินเอ่ยขึ้นอยู่ที่โต๊ะอาหาร ขณะนี้พวกเขากำลังรอหลี่ซื่อหมินและหงเหม่ยหลงเพื่อกินอาหารเช้าพร้อมกัน
“คล้ายกับว่าพวกเขาจะหลงลืมพวกเราไปแล้ว” ซือเว่ย กล่าวเสริม
“ข้าว่าเราอย่าทำลายบรรยากาศของพวกเขาดีกว่านะ” หลิวฉวนหยู่ร์ยังคงกล่าวอย่างเข้าใจในตัวของคู่รักดังเดิม...
*********
รุ่นพ่อ คลิก>>> จอมใจจอมมาร
**********************
|
|
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น