ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)จบ

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่๑ แรกพบสบตา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32.9K
      232
      5 พ.ย. 66

    กลางลานกว้างบนภูเขาเหนือหน้าผาสูงชัน

    เพียะ!! ผลั่ก!

    ร่างบางปลิวไปกระแทกต้นไม้อย่างแรง ก่อนจะร่วงลงบนพื้นจนฝุ่นตลบ

    ใบหน้าที่เคยสวยงาม ดวงตาที่เคยเป็นประกาย บัดนี้กลับบิดเบี้ยวไปเพราะความเจ็บปวด

    ดวงตาก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน 

    นางเปล่งเสียงออกมาด้วยริมฝีปากเปื้อนเลือด ท่านพ่อ

    เจ้ายังกล้าเรียกข้าว่าพ่ออีกรึบุรุษร่างใหญ่โตลักษณะทรงภูมิ ท่าทางน่าเกรงขาม ถามหญิงสาวด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวเหลือประมาณ

    ข้า...” หญิงสาวจุกจนไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ นางพยายามกลืนความเจ็บปวดที่กำลังได้รับให้ลงคอไปอย่างยากลำบาก พลางจ้องเขม็งไปยังบุคคลที่นางเรียกว่า ท่านพ่อ

    ทั้งสองต่างมองสบตอบสายตากันนิ่งงัน

    สายตาที่สองพ่อลูกมองกัน ฝ่ายหนึ่งมองมาที่ร่างของบุตรสาวด้วยสายตาแดงก่ำ ทั้งโกรธทั้งเสียใจ

    อีกฝ่ายหนึ่งมองบุรุษผู้เป็นบิดาด้วยสายตาทั้งเจ็บปวดทั้งน้อยใจ แต่ยังคงมุ่งมั่นในจุดยืนของตนเอง

    ข้าไม่ต้องการฝึกวิชาบ้าๆนั่นอีกหญิงสาวกล่าวเสียงรอดไรฟัน นางพยายามเก็บข่มอาการบาดเจ็บทั้งปวง

    ฮึ วิชาบ้าๆงั้นรึผู้เป็นบิดายังคงคำราม

    วิชาหมื่นโลกันต์ เป็นวิชาอันดับหนึ่ง มีเพียงประมุขของสำนักเช่นข้าเท่านั้น ที่มีวิชานี้ผู้เป็นบิดาทั้งยังเป็นประมุขของสำนักหมื่นโลกันต์กล่าวด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมต่อเนื่อง

    ข้า...หงซือกวน เจ้าแห่งยุทธภพ ประมุขสำนักหมื่นโลกันต์ บุคคลที่ใครๆต่างต้องกลัวเกรง

    เจ้า...หงเหม่ยหลงบุตรสาวคนเดียวของข้า เจ้าควรภูมิใจและรับการฝึกวิชาอย่างฮึกเหิม...แต่เจ้า

    หงซือกวนเน้นเสียง กล้าพูดจาไร้สาระเยี่ยงนี้ เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่หรือไม่?”

    ข้ามั่นใจในฝีมือของตนเองยิ่งนักหงเหม่ยหลงกล่าวอย่างหนักแน่น ไม่มีหวั่นเกรง

    นอกจากท่านพ่อแล้ว ข้าไม่ด้อยกว่าใครร่างบางพยุงตัวเองลุกขึ้น ขณะเอ่ยต่อเนื่อง

    ข้าไม่จำเป็นต้องฝึกวิชาหมื่นโลกันต์อีกจบคำนางตวัดฝ่ามือปล่อยพลังใส่ผู้เป็นบิดาในทันที 

    หงซือกวนไม่มีหลบเลี่ยง เขาเพียงตั้งรับและส่งกลับอย่างฉับพลัน

    สองพ่อลูก จึงผลักพลังใส่กันพัลวัน

    ผ่านไปสักพัก ร่างบางของหญิงสาวก็กลิ้งคลุกฝุ่นไปหลายตลบ ด้วยฝีมือยังห่างชั้นกับผู้เป็นบิดา

    แฮ่ก แฮ่กหงเหม่ยหลงเหนื่อยและอ่อนแรงเต็มที

    แต่สายตายังไม่ยอมจำนน

    หงซือกวนรู้ดี นิสัยและแววตาเช่นนั้น นางย่อมได้ไปจากเขาผู้เป็นบิดา แต่ความใจอ่อน มองโลกในแง่ดี นางได้จากผู้เป็นมารดาอย่างไม่ต้องสงสัย

    เพราะนิสัยเช่นนี้เขาจึงรักนางผู้เป็นภรรยาอย่างหมดใจจนได้บุตรสาวคนนี้มา

    แต่ก็เพราะนิสัยเช่นนี้เช่นกัน จึงทำให้ภรรยาสุดที่รักของเขาต้องจากไปอย่างไม่หวนกลับ

    และ...เพราะ...นิสัยเช่นนี้ ที่ทำให้พวกเขาพ่อลูก ต้องห้ำหั่นกัน ด้วยมุมมองที่แตกต่าง

    เพราะวิชาหมื่นโลกันต์...เพราะท่านพ่อหญิงสาวตะโกนด้วยแรงโทสะพร้อมปล่อยพลัง

    ท่านแม่จึงต้องตาย!”

    หงซือกวนได้ยินประโยคส่งท้ายถึงกับโกรธจนตัวสั่น จึงบันดาลโทสะปล่อยพลังมหาศาลใส่บุตรสาวจนกระเด็นลอยไป

    วูบ

    สิ้นเสียง

    ร่างบางกระเด็นหายไปต่อหน้าต่อของตาหงซือกวน

    เขาพลันได้สติ หลงเอ๋อร์...” เสียงเรียกบุตรสาวช่างเบายิ่งนัก

    หงซือกวนเรียกชื่อบุตรสาวด้วยสายตาตระหนกอยู่ไม่น้อย แต่ใบหน้ายังคงดุดัน เหี้ยมเกรียม

    ท่านประมุขซุนตี้สมุนคนสนิทของหงซือกวน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง เรียกสติประมุขของเขา

    เหม่ยหลง ตกหน้าผาไปแล้ว ข้าจะตามลงไป...ข้างล่างเป็นแม่น้ำ ข้ามั่นใจว่านางยังไม่ตาย

    หงซือกวนหลับตาลง ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันทรงพลัง

    ไม่ต้อง!”

    เขาค่อยๆลืมตามองออกไปเบื้องหน้ายามเอ่ย

    ปล่อยนางไป...” กล่าวเสร็จ หงซือกวนเพียงแต่ยืนนิ่งเงียบงันอยู่ตรงนั้น

    ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของเขายามนี้ไม่ว่าใครก็เดาไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน สมุนของเขาได้แต่นิ่งงันไป ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา

     

    ริมแม่น้ำสายใหญ่สายหนึ่งในเขตทุรกันดารห่างไกลหมู่บ้านและใกล้กันกับชายป่าทึบแห่งหนึ่งภายใต้หุบเขาลูกใหญ่

    ตรงบริเวณใกล้กันกับริมแม่น้ำสายใหญ่แห่งนั้นกำลังมีเสียงฝีเท้าของผู้คนมากมาย ทั้งวิ่ง ทั้งกระโดด พร้อมเสียงต่อสู้ฟาดฟันดังเคร้งคร้างกันอย่างดุเดือด

    ไม่ไกลกันกับริมแม่น้ำแห่งนี้ได้ปรากฏร่างงามของสตรีนางหนึ่งนอนหมดสติอยู่เป็นเวลานาน

    เจ้าร่างงามที่นอนอยู่ตรงนั้นคือหงเหม่ยหลง

    หญิงสาวลอยมาตามกระแสน้ำ ลอยมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ ไม่รู้ได้ว่าลอยมาไกลแค่ไหน นานเพียงใด

    จนร่างของนางมานอนนิ่งอยู่ริมแม่น้ำแห่งนี้อยู่นาน

    แม้หงเหม่ยหลงจะยังไม่ได้สติดีนัก แต่ประสาทหูของนางยังคงไวต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้เป็นอย่างดี

    และเสียงอึกทึกคึกโครมพร้อมเสียงฝีเท้ามากมายนั้น กำลังใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา….

    นางค่อยๆลืมตา พร้อมกับพยุงร่างของตนเองให้ลุกขึ้นนั่ง

    ภาพแรกตรงหน้าเมื่อนางลืมตา เห็นเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังเข่นฆ่าบุคคลผู้หนึ่งอยู่อย่าง หมาหมู่ ก็ไม่ปาน

    ชายผู้นั้นแม้จะโดนรุมทำร้ายจากบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า แต่ก็ยังสู้อย่างไม่ถอยแม้ครึ่งก้าว  

    ฝีมือถือว่าดี แม้เรี่ยวแรงจะถดถอยอย่างเห็นได้ชัด

    ไม่นานร่างของบุรุษหนึ่งเดียวที่โดนรุมทำร้ายก็กระเด็นด้วยแรงเหวี่ยงจากคนกลุ่มนั้นจนลอยมากระแทกพื้นดินดังตุ้บอยู่ตรงเบื้องหน้าของหงเหม่ยหลงพอดิบพอดี

    หงเหม่ยหลงเพียงนั่งนิ่งงันไม่ไหวติงด้วยเรี่ยวแรงยังไม่มีมากพอ เพียงแค่ลุกขึ้นนั่งก็ยากลำบากเกินทน

    ชายหนุ่มผู้ที่กระเด็นมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของหงเหม่ยหลงกำลังพยายามยันกายของตนเองให้ลุกขึ้น พลันสายตาของเขาก็เหลือบมาเห็นนางเข้า  

    ดวงตาคมเข้มของชายหนุ่มหรี่ลงเล็กน้อย หัวคิ้วบนใบหน้าคมคายขมวดมุ่น ไม่รู้ว่าเพราะเจ็บหรือเพราะสงสัยในตัวนาง

    ถอยไปอันตรายเสียงแหบพร่า ทว่ามีเสน่ห์ของชายหนุ่ม กล่าวอย่างเย็นชา

    เขาสังสัยจริงๆว่าสถานที่แห่งนี้มีสตรีมานั่งอยู่ได้อย่างไร

    ฆ่า!”

    ตัดหัวไปรับเงิน

    กลุ่มชายฉกรรจ์ตะโกนอย่างฮึกเหิม

    ชายหนุ่มที่โดนหมายหัวเพื่อเงิน พยุงตัวเองลุกนั่งได้แล้วกำลังจะลุกขึ้นยืน

    สวบ

    พลันเสียงธนูก็แหวกอากาศมาอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือชายหนุ่มตรงหน้าของหงเหม่ยหลง

    นั่นหมายความว่าธนูย่อมตรงมาทางหงเหม่ยหลงเช่นเดียวกัน

    ทันใดนั้นร่างของชายหนุ่มที่กำลังจะลุกขึ้นยืนกลับพุ่งตรงมาข้างหน้าของหงเหม่ยหลง

    ฉึก

    เสียงธนูปักลงตรงกลางแผ่นหลังของชายหนุ่มพอดิบพอดี

    หน้าของชายหนุ่มเกือบจะชนกับหน้าของหงเหม่ยหลงอยู่แล้ว ห่างกันเพียงปลายจมูกชนกันเท่านั้น

    ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดใบหน้างามของนาง พร้อมกับเลือดสดๆ ไหลออกจากปากของชายหนุ่ม

    แม้ไม่มีเสียงร้องใดๆเล็ดลอดออกมา แต่ใบหน้าคมเข้มนั้นก็บอกได้ว่าเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย

    หงเหม่ยหลงตะลึงกับการกระทำของชายหนุ่ม ไม่รู้เพราะสัญชาตญาณหรือความอ่อนแอของเขากันแน่ที่ทำให้เขาพาร่างตนเองมาบังธนูให้นาง

     แต่จะเพราะอะไรก็ช่าง 

     เขา...

    ก็มีน้ำใจช่วยนางแล้ว...

    เข้าไปตัดหัวซะเสียงคำรามของชายคนหนึ่งออกคำสั่งฆ่าสตรีนางนั้นด้วย จะได้ไม่มีพยานรู้เห็น

    แต่ก่อนที่ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นจะขยับเท้าเข้ามาทางสองชายหญิง

    ใบหน้าซีดเซียวของหงเหม่ยหลงพลันเปลี่ยนเป็นดุดันเหี้ยมเกรียม ดวงตาสีหม่นพลันเปลี่ยนเป็นสีดำขลับเข้มข้นฉายแวววาวโรจน์ มือข้างหนึ่งประคองไหล่ของชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งยืดตรงออกไปทางกลุ่มชายฉกรรจ์

    พลันเกิดพลังสายหนึ่งออกจากฝ่ามือเรียวงามของนาง

    พลังนั้นกระทบร่างของชายกลุ่มนั้นทันที มีผลให้คนพวกนั้นกระเด็นไปคนละทิศละทางคล้ายเศษกระดาษปลิวว่อน

    เงียบ... 

    ไม่มีเสียงของคนกลุ่มนั้นอีก 

    และไร้ซึ่งเสียงอื่นใดตามมา

    หงเหม่ยหลงคิดว่าพวกมันคงหมดสติกันหมด

    หรือไม่ ก็ตาย...

    ใบหน้างามที่ฉายแววดุดันเมื่อครู่พลันกลับมาซีดเซียวอีกครั้งพร้อมกับโลหิตสีแดงสดไหลออกมาจากริมฝีปากของนางเมื่อนางไอ

    แค่ก แค่กหงเหม่ยหลงไอจนหอบก่อนจะหมดสติไปอีกครั้ง

    บุรุษผู้ที่มีธนูปักหลังอยู่ แม้จะยังตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ก็ยังมีสติพอที่จะรับร่างบางนั้นเอาไว้ เมื่อนางสลบไป



    Thumbnail Seller Link
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)เล่ม1
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    นางเป็นสตรีร้ายกาจ หน้าตาดุดัน นิสัยไม่เหมือนใคร ส่วนเขาเป็นถึงโอรสแห่งมังกร ทั้งสูงส่งงามสง่า เป็นที่หมายปองของเหล่าสตรี
    Get it now
    Thumbnail Seller Link
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท)เล่ม2
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    “ข้าขอโทษ ซือหมิน” หงเหม่ยหลงเอ่ยปากออกมาก่อนอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง  “ข้าเคยบอกแก่ท่านแล้ว ว่าข้ามิใช่สตรีใจดี และความอดทนของข้าย่...
    Get it now

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×