คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : ภาคปลายตอน11 ตามใจ
ยามค่ำคืนของราตรีกาลอันยาวนาน…
ถึงแม้จะมีเสียงของเกือกม้าวิ่งกระทบพื้นอย่างเร็วจนเกิดเสียงดังอื้ออึงอยู่ในใบหูพร้อมกับสายลมรุนแรงโหมเข้าปะทะใบหน้าเสียดสีรุนแรงกับสองข้างแก้มนวลแต่ทว่าหลิงเวยกลับไม่รับรู้ถึงมัน นางกำลังรู้สึกใจสั่นแบบแปลกๆ ตั้งแต่นางดื่มเหล้าจอกแรกจนกระทั่งจอกที่สาม ก่อนหน้านี้นางยังคงมีสติครบถ้วนดูแลฟงชินหยางได้เป็นอย่างดี
แต่ทว่าเพียงไม่นานนางก็เริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา นางเริ่มครองสติของตนเองเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป นางกำลังรู้สึกล่องลอย สมองของนางคล้ายกับขาวโพลน
นางกำลังรู้สึกแบบว่าอยากได้สัมผัสบางอย่าง นางกำลังมีอารมณ์บางอย่าง มันเหมือนกับเมื่อครั้งแรกที่เจอกับฟงชินหยาง ที่โรงเตี๊ยมอี้ฉาง ที่เตียงนอนในห้องพักของเขา
ในที่ที่มีเพียงสองเรา
อา...ความรู้สึกนี้....
ฟงชินหยางก้มหน้ามองหลิงเวยมาตลอดทางที่บังคับม้าควบตะบึงมา ก่อนหน้านี้ที่จวนของชินอ๋องหลิงเวยยังคงมีสติปกติดีอยู่มาก แต่แล้วเขาเริ่มรับรู้ได้ว่าร่างบางในอ้อมแขนมีอาการที่เปลี่ยนไป นางกำลังมีอารมณ์บางอย่างหลังจากดื่มเหล้าของเขาเข้าไป นางเริ่มเหม่อมอง เนื้อตัวสั่นเทา ดวงตาหยาดเยิ้ม ฝ่ามือน้อยๆ ยามนี้ปัดป่ายเนื้อตัวของเขาไปทั่ว
แน่นอนว่ามันมิใช่อาการเมามาย เห็นได้ชัดว่าสาวงามก่อนหน้าต้องการวางยาเขา หากหลิงเวยไม่ปรากฏกายเข้ามาไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเขาที่ถูกวางยา
ชายหนุ่มถึงกับหลุดยิ้ม เขากำลังนึกขันเสียจริง
นี่คือชะตาของเรา เจอกันครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนก็ถูกวางยา เจอกันครานี้ยังถูกวางยา หากแต่ครานี้เป็นนางฝ่ายเดียวที่ถูกยาปลุกกำหนัดเข้าครอบงำ ทว่ามันคงไม่ต่างอะไรกันถึงแม้ว่าเขาจะมิได้ถูกวางยา
ฟงชินหยางกำลังอดทนเหลือเกินกับฝ่ามือนุ่มนิ่มและริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังปัดป่ายไปมาอยู่ตรงลำคอหนาและแผงอกแน่นๆ ของเขา
หลิงเวยกำลังมีอารมณ์พวยพุ่งจนเขาต้องรีบห้อตะบึงม้ามาอย่างเร็วจนขาของมันแทบจะขวิดไขว้พันกัน พรุ่งนี้ม้าคู่ใจมันคงโกรธเขาจนไม่ยอมกินหญ้าเป็นแน่!
เพียงอึดใจค่ายทหารหน้าด่านจึงปรากฏกำแพงสูงใหญ่อยู่เบื้องหน้าของฟงชินหยาง ทหารยามหน้าประตูถึงกับผงะเปิดประตูให้แทบไม่ทันเมื่อม้าอาชาศึกสีดำตัวเขื่องของท่านแม่ทัพฟงพุ่งทะยานเข้ามาอย่างเร็วปานสายฟ้าฟาดจนทุกสายตาถึงกับมองตามกันจนหัวหมุน นี่พายุห่าฝนในฤดูร้อนหรืออย่างไรกัน!?
หลิงเวยไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นแล้วในเวลานี้
นางเห็นเพียงแผงอกหนั่นแน่น วงแขนล่ำสัน ลำคอแกร่งบนบ่าลาดชันและปลายคางคมสันของบุรุษหนึ่งเดียวในใจ
“ชินหยาง...” นางเอ่ยเสียงหวานแม้เบาแผ่วแต่ทว่ากลับสั่นพร่ามากมาย ดวงตาของนางสวยล้ำแต่ฉ่ำน้ำคล้ายมรกต ฝ่ามือของนางนุ่มนิ่มแต่กรุ่นร้อนคล้ายหม้อไฟ
นางไม่ไหวแล้ว…
“จะถึงแล้ว...” เส้นเสียงทุ้มต่ำครางกระเส่าสั่นพร่าแทบหยุดหายใจของฟงชินหยางรีบตอบกลับไปขณะกำลังอุ้มกระชับร่างนุ่มที่ร้อนรุ่มไปทั่วทุกอณูของเนื้อนวลนาง
เขาพาร่างบางที่กำลังอ่อนระทวยมาถึงยังที่หมายในความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ เตียงนอนอยู่ไม่เคยไกลเลยแต่ทว่าวันนี้ไฉนมันถึงได้อยู่ไกลถึงเพียงนั้นกัน ก่อนที่เขาจะเดินถึงมันเสื้อผ้าของเขาถูกนางในอ้อมแขนฉีกทึ้งจนขาดหลุดลุ่ยเลยทีเดียว
เมื่อฟงชินหยางพาหลิงเวยเดินมาถึงเตียงนอนเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาพลันถูกฝ่ามือน้อยๆ ดึงออกไปจนเกือบเปลือย เผยแผงอกหนาแน่นกล้ามเนื้อกล้าแกร่งแข็งตึงทุกสัดส่วน
ชายหนุ่มจึงไม่รอช้าเขารีบถอดเสื้อผ้าให้นางบ้างหวังเพียงให้นางได้คลายร้อน แต่ทว่านอกจากความร้อนมิได้ถูกผ่อนคลายเลยสักเสี้ยวแต่มันกลับแผ่รังสีร้อนแรงอันตรายพร้อมมอดไหม้เข้าแทนที่
หลิงเวยในยามนี้กลายร่างเป็นนางมารน้อยเจ้าแห่งราคะไปแล้วอย่างเต็มตัว มีหรือจอมราชันแห่งนางจะไม่ตอบสนอง
ห้าปีมาแล้ว ห้าปีเชียว ห้าปีที่มิได้มีนางอยู่ใต้ร่าง ห้าปีที่มิได้ฟังเสียงคราง ห้าปีที่นอนทรมานอดอยากปากแห้ง หากนางมิได้ถูกวางยาเขายังเกรงว่าจะเป็นฝ่ายวางยานางเสียเอง
ฟงชินหยางก้มหน้าลงจูบนางผู้เป็นภรรยาทันทีถึงแม้ว่าหัวของนางจะยังไม่ถึงหมอน หลิงเวยเองก็รีบตอบสนองด้วยปลายลิ้นร้อนชื้นตวัดไปมา
ชายหนุ่มขึ้นคร่อมหญิงสาวอย่างไม่มีรอช้าเมื่อเห็นได้ชัดแล้วว่านางต้องการเดี๋ยวนี้
รอบแรกหลังจากที่ห่างหายกันไปเนิ่นนานปีทั้งยังมีตัวยาปลุกเร้ารุนแรงเยี่ยงนี้ การเล้าโลมเคล้าคลึงจึงไม่จำเป็น หากมัวซุกไซร้เห็นทีว่าภรรยาคงโกรธา เขาจึงไม่เสียเวลามารยารีบปรนเปรอนางในทันที
-------------------////-----------------
-------------------////-----------------
-------------------////-----------------
เมื่อจัดการส่งภรรยารักให้ไปถึงดวงดาวบนฟากฟ้าพร่างพราวจนตัวโยกตัวโยนหัวสั่นหัวคลอน ฟงชินหยางจึงจัดการกับตนเองโดยการจับกระชับนางอย่างแนบแน่นไม่มีปล่อย
เขากลืนกินนางอีกครู่ใหญ่โดยที่นางยังคงตอบสนองเขาอย่างรู้ใจถึงแม้ว่าแขนขาของนางจะอ่อนระทวยระโหยโรยแรง จนกระทั่งนางครางจนคอแหบคอแห้งและหลับใหลคาอกแกร่งของเขาไป
เสียงทุ้มห้าวครางต่ำสั่นพร่าคาซอกคอนางเมื่อเขาเองได้ไล่เกาะฟากฟ้าจนไปถึงยังดวงดาวดวงเดียวกันกับนาง
หลิงเวย...
"เอาคืนมา!"
เสียงขู่คำรามหวานใสของสตรีประหลาดที่ใบหน้างดงามมากแต่กลับเอาแผลเป็นมาติดเอาไว้จนน่าเกลียดยังคงได้ยินมาทางองค์ชายสูงศักดิ์ที่กำลังเดินแยกตัวออกมาจากงานเลี้ยงโดยปล่อยให้ลูกคณะเดินทางของเขาได้ร่ำสุราหาความสำราญกันต่อไปคงเหลือไว้เพียงองครักษ์ฝีมือดีคอยอารักขาอยู่ห่างๆ
"เจ้าหมายถึงสิ่งใด" ฉีเล่อเอ่ยคำเรียบเรื่อยขณะเดินเอามือไขว้หลังมาตามทางเดินภายในอุทยานของวังชินอ๋องด้วยมาดสุขุมนุ่มลึกติดจะเย็นชาแต่นัยน์ตากลับทอประกายสนุกสนานในแบบที่ไม่เคยเป็น
"องค์ชายทรงรู้ว่าหมายถึงสิ่งใด"
ฟงลี่หลินเดินตามมาพลางกระซิบกระซาบฝ่าความมืดมิดด้วยเพราะเกรงว่าใครจะได้ยิน
“เอามา...”
นางกำลังปลอมตัวอยู่นะ มันสำคัญยิ่ง!
ฉีเล่อนึกขันเสียจริงกับสตรีข้างกายที่กำลังส่งสายตาเรียวคมสวยเฉียบฟาดใส่เขาอยู่ตลอดเวลา
"ข้าไม่รู้ว่าคือสิ่งใด"
"องค์ชาย..." ฟงลี่หลินลากเสียงยาวเย็นเยียบอารมณ์เดือดปุดๆ นางกล่าวพลางก้มมองที่ฝ่ามือใหญ่หนาของบุรุษหน้าตายตรงหน้า
"..."
ฉีเล่อหมดคำพูดกับสตรีแปลกประหลาด นางถูกจับได้ว่าปลอมตัวมาแต่นางยังคงมึนได้ใจ ไยไม่รีบแก้ตัวแล้วหลบหนีไป น่าชังจริง!
"หากอยากได้คืน เจ้าแค่บอกกล่าวแก่ข้า" ฉีเล่อเริ่มหว่านล้อมสตรีตรงหน้าที่กำลังก้มหน้ามองฝ่ามือของเขาจนเขาต้องเอาฝ่ามือหลบเอาไว้ที่ด้านหลังทั้งยังกำแผลเป็นของนางเอาไว้แน่นไม่ยอมคืนให้นางง่ายๆ
"หม่อมฉันไม่มีอะไรจะบอกแก่ท่าน" ฟงลี่หลินขมวดคิ้วขัดใจ นางเตรียมมาแค่เพียงอันเดียว ยังปลอมตัวไม่ทันพ้นคืนเลย
มันทำยากด้วยนะ ไยเขาถึงถือวิสาสะลอกมันออกจากใบหน้าของนาง น่าชังนัก!
องค์ชายแห่งแคว้นเป่ยฉีเริ่มหรี่ตามองสตรีของแคว้นเฉินที่แปลกคนเหลือเกินในยามนี้แล้วเอ่ยเสียงต่ำใส่หน้านาง "เจ้าจงใจปลอมตัวมาปั่นหัวข้า เจ้ากำลังคิดว่าสัญญาสงบศึกคงเกิดขึ้นโดยง่าย หากทำให้ข้าเชื่อใจเจ้าได้"
"ท่านไม่จำเป็นต้องเชื่อใจหม่อมฉันหรือใคร" ฟงลี่หลินสวนกลับ "แต่สัญญาสงบศึกควรเกิดขึ้น" นางกล่าวคำเรียบเรื่อยพลางอ้อมหลังมามองที่ฝ่ามือของเขา
ฉีเล่อเบี่ยงตัวหลบสายตาโฉบเฉี่ยวพัลวันพลางเอ่ย "สัญญาสงบศึกย่อมสำคัญมากกว่าชีวิตของข้า เห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจจะสังหารข้า" เขายกฝ่ามือขึ้นสูงเหนือศีรษะตนเมื่อใครบางคนมองเห็นบางสิ่งในมือของเขาเข้าเสียแล้ว
"ตัวท่านย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สัญญาสงบศึกควรเป็นไปเพื่อเราทุกคน" หญิงสาวกล่าวคำพลางกระโดดตะปบฝ่ามือที่ถูกยกขึ้นสูง
"หากเป็นเช่นนั้น ไยข้าถึงกำลังรู้สึกไม่ปลอดภัย" ฉีเล่อเอ่ยคำพลางเหม่อมองใบหน้าสวยเฉี่ยวที่กำลังกระโดดขึ้นลงใกล้ๆ กับใบหน้าของเขา
ฟงลี่หลินเริ่มเหนื่อยเหลือเกินจึงเอ่ยออกมา "ท่านจะปลอดภัย หม่อมฉันย่อมดูแลท่าน เอามา!"
"ข้าจักปลอดภัย หากได้เจ้ามาดูแลเช่นนั้นหรือ?" ชายหนุ่มทวนคำนึกแปลกใจไม่เบา
ฟงลี่หลินที่ตะปบมือใหญ่หนาได้สำเร็จจึงจับมือของเขาลงมาแล้วแกะออกจากการกอบกำ "ย่อมเป็นเช่นนั้น อยู่ไหน!"
"อะไร?"
"แผลเป็นของหม่อมฉัน"
"แผลเป็นของเจ้าก็ควรอยู่ที่เจ้า"
"ท่านดึงมันออกไปเมื่อครู่นี้อย่างไรเล่า"
"มันหลุดออกมาติดมือข้าเอง มันย่อมเป็นของข้า"
"ใช้ได้ที่ไหน ท่านนี่! เอาคืนมานะ"
ฟงลี่หลินหน้าดำหน้าแดงตะเบ็งอย่างลืมตัว
แต่อึดใจนางจึงเริ่มตระหนัก
นี่คือองค์ชาย...
หญิงสาวจึงรีบเงียบงันด้วยเกรงจะทำเสียเรื่องกับองค์ชายต่างแคว้นแต่ทว่านางกำลังถูกกลั่นแกล้งมิใช่หรือไร
องค์ชายผู้นี้กำลังแกล้งนาง...
ฉีเล่อเห็นสตรีตรงหน้าเงียบไปทั้งยังพยายามข่มกลั้นอารมณ์โกรธกรุ่นจนใบหน้าแดงก่ำงอง้ำมากนัก เขาจึงเริ่มใจอ่อน แต่จักปล่อยไปคงไม่ดีจึงเอ่ย
"หากเจ้าต้องการปลอมตัวปลอมใบหน้ามันก็เรื่องของเจ้า หากแต่เรื่องของข้ายังคงต้องเป็นไป ข้าจะอยู่ที่นี่อีกหลายวัน ควรเป็นเจ้าที่คอยดูแล การเก็บศัตรูเอาไว้ใกล้ตัวเป็นเรื่องที่พึงกระทำ"
"หา!"
ฉีเล่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยยียวนเอ่ยต่อ "ตามนั้น..."
"...!?"
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับ E-Book คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
|
|
|
อีบุ๊คฉบับเต็ม
|
ความคิดเห็น