คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : ตอนพิเศษ1
การแต่งงานด้วยสมรสพระราชทานเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วสมดังใจของคู่รัก
ตามด้วยการเข้าหอที่ร้อนแรงถึงใจ
ล่วงเลยไปถึงสามวันสามคืน
หยวนจงเป็นบุรุษที่กร้าวแกร่งยิ่งนัก เขาสามารถมอบความสุขสมให้แก่ภรรยาอันเป็นที่รักได้อย่างยาวนาน โดยที่ความดุดันไม่มีตก ทำเอาฟางหลันถึงกับคอแหบคอแห้งจากการครวญครางไม่สิ้นสุด
จางเหรินนับได้ว่าเป็นแม่สามีที่ดี
นางกำชับหยวนเหอว่าไม่ต้องมากพิธีไป
ปล่อยให้บุตรชายและลูกสะใภ้เข้าหอกันก่อนให้หนำใจ
เพื่อหลานตัวน้อยจะได้ถือกำเนิดในเร็ววัน จากนั้นจะมายกน้ำชาเมื่อใดก็ย่อมได้
ทั้งหยวนจงและฟางหลันจึงจมลงสู่มหาสมุทรแห่งราคะ
ยากหาทางกลับคืน หรือต่อให้กลับได้ ก็ไม่มีวันที่กลับออกไป
พวกเขาจักจมอยู่ในมหาสมุทรแห่งนี้ด้วยกันตลอดชีวิต
กระทั่งถึงเวลาที่ต้องออกจากจวนแม่ทัพเพื่อไปยกน้ำชาคารวะบิดามารดา
ฟางหลันจึงได้เวลาออกมาจากห้องหอเสียที
และแล้วนางถึงได้ตระหนักว่า
การแต่งงานมีสามีเป็นเรื่องเป็นราวนั้น มิใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เพราะว่าแค่ลงจากรถม้ายังต้องให้สามีอุ้มลงมา
ยามเดินเหินยังต้องให้สามีจับประคอง
ที่เป็นเช่นนี้
ก็เพราะนางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืน
กระทั่งก้าวเท้าย่างกรายขายังสั่นระริกเลยทีเดียว
ในขณะที่ฝ่ายสามีนามว่าหยวนจง
กลับมีสีหน้าอิ่มเอิบสบายตัวเหลือเกิน...
ภายในห้องโถงของเรือนรับรองบ้านต้นตระกูลหยวน
หยวนเหอและฮูหยินใหญ่ของบ้านนั่งรอรับการคารวะอย่างพร้อมเพรียง
ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมากโข
การมาเยือนของฟางหลันครานี้
ทุกคนในบ้านหยวนล้วนต้อนรับนางเป็นอย่างดี ไม่มีใครไม่มองสีหน้านาง
หากนางขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อย ทุกคนก็พากันนั่งตัวเกร็งไปหมด
ฟางหลันเห็นเช่นนั้นจึงพยายามคลี่ยิ้มพริ้มเพราตลอดเวลา
เพราะว่าไม่ต้องการให้บรรยากาศแสนดีเสียหาย ถึงแม้ว่านางจะรู้สึกไม่ค่อยจะสบายตัวสักเท่าไหร่
เนื่องจากถูกใครบางคนเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนจนนางอ่อนเพลียสิ้นไร้เรี่ยวแรงจนคล้ายกับถูกทำลายวรยุทธ์ก็ไม่ปาน
ฟางหลันผู้มีใบหน้างดงามซีดเซียวเหลียวมองหยวนจงที่มีสีหน้าอิ่มเอมอย่างหมั่นไส้เหลือเกิน
หลังจากยกน้ำชาคารวะนายท่านของบ้านหยวนและนั่งสนทนากันด้วยไมตรีสีหน้าเปรมปรีดิ์ถึงหนึ่งชั่วยาม
หยวนจงจึงพาฟางหลันไปหาจางเหริน ผู้ซึ่งเป็นมารดาบังเกิดเกล้า และเป็นคนรักของบิดา
แต่กลับเป็นเพียงอนุของบ้านก็เท่านั้น
ทันทีที่จางเหรินเจอทั้งสอง
นางยกยิ้มอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่งบ่งบอกได้ว่าดีใจมากเป็นพิเศษ
รอจนบุตรชายและลูกสะใภ้ยกน้ำชาตามพิธี
ก็รีบจับจูงฟางหลันให้มานั่งเก้าอี้เคียงข้าง
แล้วเรียกหมอออกมาจากหลังฉากกั้นทันที ก่อนเอ่ยออกมา
“ให้หมอจับชีพจรเสียหน่อยเถิด
หน้าเจ้าซีดขาวนัก”
“อะไรหรือเจ้าคะท่านแม่?”
ฟางหลันถามอย่างสงสัยแต่ในใจอุ่นวาบซาบซึ้งเป็นหนักหนา
เพราะหนึ่งชั่วยามก่อนหน้าที่ผ่านมา
นางอ่อนเพลียเหลือเกิน จนอยากจะล้มตัวลงนอนเสียให้รู้แล้วรู้รอด
แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจสังเกตเห็น
ทว่ายามนี้...เป็นแม่สามีที่จับนางขึ้นมานั่งด้วยกันทั้งยังเรียกหมอออกมาจับชีพจรให้นาง
หยวนจงได้แต่มองตามอย่างฉงน
แต่เขาย่อมตามใจมารดาทุกการกระทำ ด้วยมั่นใจในตัวมารดายิ่งนัก
ท่านหมอใช้เวลาจับชีพจรให้ฟางหลันแค่เพียงไม่นานก็เผยสีหน้ายินดีเป็นอย่างมาก
จางเหรินเห็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องรอให้ท่านหมอขยับปาก นางก็รีบถามทันที
“ข่าวดีใช่หรือไม่?”
ท่านหมอคลี่ยิ้มอ่อนโยน พยักหน้าน้อยๆ
ด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึก
“อา...ดีเหลือเกิน หลันเอ๋อร์”
จางเหรินแทบจะดึงฟางหลันเข้ามากอดแนบอก
แต่ติดตรงที่ไม่อาจกระทำการรุนแรงด้วยเกรงจะกระทบกระเทือนลูกสะใภ้
นางจึงตบหลังมือฟางหลันเบาๆ แล้วลูบไล้อย่างรักใคร่
ในขณะที่ฟางหลันนั่งตัวเกร็งแข็งทื่อสมองขาวโพลน
หญิงสาวผินสายตาไปมองหยวนจง
เห็นเขายังคงมีสีหน้ากรุ่มกริ่มยกยิ้มอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ไม่ต่างจากมารดา
ก็ให้นึกสะท้อนใจในอกลึกๆ ว่าเหตุใดสามีนางไม่ตระหนกสักนิดเลยหรือ
ผู้อื่นแต่งให้เพียงสามวันแต่กลับตั้งครรภ์ประจานตนเสียแล้ว
หยวนจงลอบมองสายตาของจางเหรินอย่างรู้ใจกัน
ภายใต้รอยยิ้มของสองแม่ลูกนั้นซ่อนความเจ้าเล่ห์เหลือร้ายไม่สร่างซา
เพราะพวกเขาล้วนเข้าใจตรงกันได้ไม่ยากว่า เพราะฤทธิ์ของยา ’เหมันต์ครวญวสันต์คราง’ โดยแท้
บุตรชายได้ภรรยาคนงามมานอนกอดแนบอก
มารดาได้หลานรักมาเลี้ยงดูอุ้มชูให้ชื่นใจ
สวรรค์!
ฟางหลันเจ้าของฉายานางมารจิ้งจอกพันปี
กลับไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของสองแม่ลูกตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย…
เมื่อได้รับทราบข่าวดีเช่นนี้
จางเหรินจึงไม่รอช้ารีบเอ่ยปากขอร้องหยวนเหอว่าจะติดตามไปอยู่ที่จวนของบุตรชายเพื่อดูแลหลานรักที่จะเกิดมา
หยวนเหอยังไม่ทันได้ปริปากอนุญาตหรือปฏิเสธอันใด
จางเหรินก็ขึ้นรถม้าไปกับลูกสะใภ้เสียแล้ว
ความคิดเห็น