ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจแม่ทัพ) [ภาคต่อจอมใจจอมมาร]

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่6 แค่กอด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.27K
      457
      31 ม.ค. 67

    อันที่จริงฟางหลันผู้นี้ มิได้รู้ดีถึงเพียงนั้น

    นางรู้นิสัยหยวนจงดี ว่าเขานั้นร้ายกาจปานใด หากแต่นางมิอาจรู้ว่าคืนนี้เขาจะวางยาปลุกกำหนัดนาง

    หญิงสาวเพียงต้องการนำเหล้าที่นางหมักเองกับมือให้เขาได้ลิ้มชิมรสก็เท่านั้น

    “ข้าคิดเหล้าสูตรใหม่แล้วหมักรอท่านนานหลายเดือน”

    ฟางหลันกล่าวคำพลางเดินกลับมาหาหยวนจง ที่กำลังนั่งอึ้งอยู่บนเตียงนอน พร้อมกาเหล้ากระเบื้องเคลือบอันใหม่และจอกเหล้าใบใหม่สองจอก ที่นางถือติดมือมากับผ้าปักของเขา   

    “นี่คือเหล้าชื่อว่า ปรารถนานิทราแดนสรวง ข้าหมักเอาไว้เพื่อท่าน ยามเหน็ดเหนื่อยกลับมา จะได้ร่ำสุราแล้วเข้าสู่นิทราผ่อนคลายหายจากอาการอ่อนล้าเป็นปลิดทิ้ง อ้อ...ยังเสริมพละกำลังให้ท่านได้สู้ศึกรอบใหม่ด้วยนะ”

    หญิงสาวร่ายคำยาวเหยียดพร้อมรินเหล้าใส่จอกแล้วส่งให้เขาอย่างใจดี ทั้งน้ำเสียงและสายตาล้วนแสดงออกมาว่าใส่ใจเขาจากใจจริง

    รอยยิ้มบนใบหน้างามพิลาสสาดประกายเจิดจรัสยิ่งกว่าดวงดารานับหมื่นดวง ชวนให้เคลิบเคลิ้มไปถึงก้นบึ้งแห่งห้วงอารมณ์

    ครานี้เป็นหยวนจงบ้างที่กะพริบตาเบาๆ สองที ยาปลุกกำหนัดใดๆ ล้วนไม่จำเป็นทั้งนั้น เพราะว่าแค่รอยยิ้มนางก็ปลุกปั่นเขาให้พลุ่งพล่านไปทั่วทั้งใจ

    ฝ่ามือใหญ่เอื้อมขึ้นมารับจอกเหล้าแล้วกระดกลงคออย่างซาบซึ้งในการดูแลเอาใจใส่ทุกสิ่งอย่างของนางที่มีต่อเขา

    นางทำกระทั่งเพียรหมักเหล้าเนิ่นนานเพื่อให้เขาได้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มตา ใครไหนเลยจะล่วงรู้ว่าแม่ทัพเช่นเขายามออกศึกแต่ละครั้ง ไม่เคยได้หลับสนิทในสักครา

    ด้วยแรงกดดันทุกอย่างรอบทิศในสนามรบ ทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้นำสูงสุดเช่นเขาย่อมต้องแบกรับเอาไว้ทั้งหมด

    “รสชาติดี” เสียงแตกพร่าดังออกมาจากลำคอแกร่งหลังจากดื่มเหล้าจนหมดจอก

    ความร้อนของมันที่แผดเผาลามเลียจากริมฝีผากลงท้องยังไม่อาจเทียบเท่ากับความร้อนเร่าตรงก้อนเนื้อในแผงอกหนา

    ฟางหลันคลี่ยิ้มสดใส “ข้าดื่มเป็นเพื่อนท่านนะ”

    มีหรือหยวนจงจะปฏิเสธ เขาในยามนี้มิได้เมาเหล้าแต่เมาเสน่หานวลนางจนเต็มหัวใจ

    “คืนนี้อยู่กับข้าได้หรือไม่?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขอกันตามตรงอย่างเปิดเผย ไม่คิดจะวางยานางอีกต่อไป

    “ย่อมได้”

    เพียงคำเดียวของฟางหลัน ทำเอาใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏรอยยิ้มกว้าง ดวงตาเรียวคมทอประกายวาววับ เขาดึงนางขึ้นมานั่งบนตัก แล้วดื่มเหล้าเคล้าแสงเทียนด้วยกันอย่างชื่นมื่น

    ร่างนุ่มอิงซบร่างแกร่งอย่างให้ความร่วมมือ นางเองก็คิดถึงเขาเช่นกัน นางจึงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธอันใด

    ความเจนจัดต่อชีวิตที่ผันผ่าน ทำให้ทั้งสองล้วนชัดเจนในความรู้สึก จึงแสดงออกต่อกันอย่างตรงไปตรงมา

    ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลาแห่งความสุข

    เพราะชีวิตที่ผ่านมา ได้เจอซึ่งการเข่นฆ่ามาแล้วมากมาย จักตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้

    ไออุ่นจากร่างหนาโอบล้อมร่างบาง สร้างกระแสร้อนผ่าวแห่งวสันต์ให้ตลบอลอวน ผสานกลิ่นหอมกรุ่นของเนื้อนวลนางกับเหล้าหมักสูตรพิเศษ การดื่มเหล้าโดยไม่ทะเลาะกันผ่านไปเนิ่นนานจึงหมดกาในที่สุด จากที่นั่งซ้อนตักกัน จึงเปลี่ยนมานอนซ้อนทับกันบนเตียงอุ่น

    ริมฝีปากของคนทั้งสองมิได้ใช้พูดคุยกันดังเช่นปกติ     แต่กำลังประกบแนบชิดจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม

    หยวนจงจูบฟางหลันเนิ่นนาน

    ปลายลิ้นใหญ่ตวัดพันปลายลิ้นเล็กแลกเปลี่ยนความหวานล้ำในโพรงปากของกันและกันอย่างดูดดื่ม รับรู้ถึงความรู้สึกหวานชุ่มละมุนละไม

    นำพาความร้อนชื้นแล่นลามไปทั่วร่างหนาและร่างบางที่กำลังซ้อนทับกันอยู่บนเตียงนอน

    เสียงลมหายใจหอบถี่ดังผสานกับเสียงเสียดสีเสื้อผ้าที่ยังมิได้ถอดออก

    อารมณ์ปรารถนาที่จะต้องการสัมผัสนางมากกว่าการจูบ ทำหยวนจงต้องค่อยๆ ผละริมฝีปากออกแล้วเอ่ยเสียงพร่า

    “เราแต่งงานกันเถิด”

    สายตาคมโชนแสงร้อนแรงแห่งอารมณ์กระสันแข่งกับเปลวเพลิงของไฟบนเทียนไข กำลังจับจ้องสายตาหยาดเยิ้มของคนใต้ร่างอย่างรอฟังคำตอบ

    หญิงสาวคลี่ยิ้มงดงาม พาริมฝีปากแดงช้ำหวานฉ่ำน่าหลงใหล แต่นางกลับตอบกลับว่า “รอก่อนเถิด”

    ใบหน้าหล่อเหลาเผยความรู้สึกผิดหวังเด่นชัด น้ำเสียงเริ่มขัดเคืองขึ้นมา “ทำไมเล่า?

    นิ้วเรียวยาวขาวเนียนของฟางหลันเอื้อมขึ้นมาลูบสันกรามเรียวแกร่งของหยวนจงเบาๆ คล้ายปลอบประโลมกัน

    แล้วไล้แผ่วไปที่ริมฝีปากเขา คลึงอย่างยั่วเย้ายวนใจและหลงใหล

    หยวนจงถึงกับสั่นสะท้านไปทั่วร่างหนา แก่นกลางกายแข็งตัวจนปวดหนึบไปหมด

    เขาปรารถนาจะสอดใส่นางอย่างหื่นกระหาย แล้วควบกระแทกนางบ้าคลั่ง บอกรักนางด้วยลีลาทั้งหมดที่เขามี    

    แต่ดูเถิด...นางกลับบอกให้รอก่อน!

    “ทำไม เจ้าจะให้ข้ารอไปถึงเมื่อไหร่ ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว”

    เสียงทุ้มสั่นพร่าเอ่ยออกมาพร้อมขบกรามแน่นด้วยกำลังข่มกลั้นอารมณ์ร้อนแรงของตนอย่างสุดความสามารถ ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำไปหมด กล้ามเนื้อตึงเกร็งไปทุกสัดส่วน

    “ข้าจะแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอก มีเจ้าคนเดียว”

    เขากล่าวตามสัตย์ เรื่องนี้เขาคิดมาโดยตลอด และก็บอกนางมาโดยตลอดเช่นกัน

    ฟางหลันยังคงส่งยิ้มงดงามอ่อนหวานพลางตอบกลับเสียงเบาที่หนักแน่นดังหินผา “หลายเดือนที่ผ่านมา ข้าศึกษาเกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติบ้านเมืองของท่านจนสิ้น ท่านเป็นถึงแม่ทัพคนสำคัญแห่งราชสำนัก ตระกูลของท่านหรือก็ยิ่งใหญ่ ไหนเลยจักแต่งงานกับสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าได้”

    “ข้าไม่สนใจ”

    หยวนจงเถียงออกมา

    “แต่ข้าสน” หญิงสาวยังไม่ยอมลงให้ “ท่านเคยได้รับความอัปยศมาแล้วครั้งหนึ่งจากการแต่งงาน ข้าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนกล้าหัวเราะเยาะท่านอีก เพราะต้องมาแต่งงานครั้งใหม่กับหญิงไร้ค่าผู้นี้”  

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายเหนือร่างพลันชะงักนิ่ง

    ประโยคเหล่านี้ ล้วนสร้างความอบอุ่นให้แก่หัวใจของหยวนจงอย่างประหลาด

    “ฟางหลัน...”

    สายตาเรียวสวยของหญิงสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าหล่อเหลานิ่งๆ นางเผยความจริงใจออกมาจากนัยน์ตาคู่งาม

    “ที่ข้าบอกให้ท่านรอ ก็เพราะข้ากำลังสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะให้คู่ควรกับท่านอย่างไรเล่า อีกไม่นานหรอกน่า”

    หยวนจงถึงกับคลี่ยิ้มออกมา ความร้อนเร่าในร่างหนาเริ่มบรรเทากลายเป็นความรู้สึกอุ่นชื้นในหัวใจ

    ความเสน่หาในตัวนางและความปรารถนาในตัวเขายังคงเข้มข้นไม่จางไป เพียงแต่การรังแกกันมิอาจทำได้ เขาไม่อาจหักหาญน้ำใจนาง

    “ก็ได้...”

    ในที่สุดเขาก็ควบคุมอารมณ์ร้อนแรงของตนให้สงบลง แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม “ข้าจะรอเจ้า”

    ฟางหลันพยักหน้าน้อยๆ พาพวงแก้มแดงระเรื่อขยับขยุกขยิกเฉียดปลายจมูกโด่งสัน ทำให้หยวนจงอดใจเอาไว้ไม่ได้ ต้องก้มลงหอมนางฟอดใหญ่

    “อื้อ” หญิงสาวร้องลั่นพลางเบี่ยงหน้าหนี “พอแล้ว”

    “อีกนิดนะ” ผู้ถูกห้ามปรามนอกจากไม่ฟังยังเอาแต่ใจ หอมแก้มนางอีกหลายทีทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ทั้งยังจรดริมฝีปากร้อนผ่าวแต้มไปทั่วลำคอระหง ตามด้วยไล้ปลายลิ้นเลียเนื้อนวลไปเรื่อยๆ จนถึงเนินอกอวบอิ่ม

    “...!?

    ฟางหลันถึงกับเสียววาบร่างสั่นสะท้าน บิดตัวเร่าๆ

    เขาเปิดผ้านางเมื่อใดกันนี่!?

    “พอแล้ว!” หญิงสาวหน้าดำหน้าแดงตะเบ็งเสียงดังพลางเอื้อมมือขึ้นกอบกุมสันกรามของโจรราคะตรงหน้าอกหยุ่นนุ่ม

    หยวนจงถอนใบหน้าที่กำลังซุกไซ้อย่างเมามันออกมาแล้วหัวเราะแหบห้าว ก่อนจะพลิกตัวลงจากร่างบางแล้วตวัดอ้อมแขนแข็งแรงดึงนางเข้าสู่อ้อมอกอบอุ่น

    “พอก็ได้” เขากระชับนางแนบแน่นจนร่างนุ่มจมเข้าแผงอกแกร่ง “ให้ข้ากอดเจ้าทั้งคืนได้ไหม?

    ฟางหลันยู่หน้าที่แดงก่ำไปทั่ว รู้สึกร้อนวูบวาบหวามไหวไม่จางหาย บ่นพึมพำอู้อี้ตรงแผงอกฟังไม่ออกเลยสักคำ  

    เพราะใบหน้านางถูกกล้ามเนื้อเขากลืนเข้าไปจนสิ้น

    แม่ทัพหนุ่มไม่สนใจว่าคนงามกำลังบ่นสิ่งใด เขาเพียงกอดกระชับนางไว้ แล้วค่อยๆ หลับตาซึมซับความรู้สึกอุ่นลึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้ จนล่วงเข้าสู่นิทรารมย์

    ไม่เคยมีใครสักคน ที่เขาได้แค่กอด แล้วนอนหลับสบายเท่านางตรงนี้เลย

    นางมารของเขา


     คลิกเรื่องที่เกี่ยวข้อง >>>จอมใจจอมมาร

    นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจแม่ทัพ)
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    กาลก่อน เขามักจะได้ลิ้มลองหญิงงามจนอิ่มหนำทุกค่ำคืน แต่ยามนี้เขามิใคร่อยากจะทำเช่นนั้น แค่คิดว่ายามร่วมรักกับสตรีอื่นแล้วมีใบหน้าของนางมารตนหนึ่งลอยมา ตามด้วยกรงเล็บเข้าจิกหน้าเขา แหวกอกเขา จังหวะที่กำลังเสพสมก็พลันหยุดลงจนอารมณ์หดหาย มิใช่ว่ากลัวตาย แต่ไม่รู้ว่าทำไม นางมารตนนั้นช่างน่ากลัวนัก! หากนางโกรธเขาขึ้นมาจริงๆ เขาต้องบ้าตายเป็นแน่!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×