คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #77 : ตอนที่21 บัณฑิตหนุ่ม 5
ซานซานถามเสียงเรียบ “เจ้าเคยเป็นทหารรึ?”
โดยไม่รอคำตอบ นางกวาดสายตามองไปทั่วร่างของชายบนเตียงนอน เปิดแขนเสื้อของเขาขึ้น เห็นแขนท่อนบนไร้มัดกล้าม ออกจะเหี่ยวแห้งไปบ้าง ความตึงแน่นก็ไม่เข้ากับอายุไปสักหน่อย จึงเอ่ยต่อ
“บอบบางเยี่ยงบัณฑิตแต่เลือกเป็นทหาร แล้วก็ซมซานกลับบ้านสินะ”
ประหนึ่งนักพรตผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ซานซานล้วนคาดเดาได้ถูกต้องทุกสิ่ง
แท้จริงชายผู้นี้อายุเพียงสิบแปดปี ด้วยความทะนงตนว่าฉลาดเลิศล้ำ จึงเลือกเส้นทางบัณฑิต เดิมทีควรมีชีวิตอันรุ่งโรจน์ แต่สอบไม่ติดขุนนาง จึงเคยฆ่าตัวตาย ทว่าไม่เป็นผล กระทั่งบิดาที่เป็นช่างตีเหล็กอยากให้เป็นทหาร เขาจึงเปลี่ยนไปสมัครทหารตามใจบิดา ออกรบร่วมศึกกับกองทัพอยู่สองปีก็บาดเจ็บสาหัสจนตาบอดหนึ่งข้าง ถูกหามกลับบ้านมา
แต่ใครจะคาดคิดว่ายามนั้นเขาที่พาร่างอ่อนแอซมซานกลับมาก็ได้เจอบิดาเสียชีวิตทั้งๆ ที่ยังนั่งตีเหล็กอยู่หน้าเตาไฟ ท่วงท่าคล้ายคนเป็นลม แม้สิ้นใจแล้วแต่ร่างกายของบิดายังคงอบอุ่น มิได้เย็นชืด เห็นได้ชัดว่าเพิ่งตายไม่นานก่อนเขากลับมา
เขาจึงตรอมใจนับแต่นั้น เงินที่มีก็นำมาทำศพบิดาจนสิ้น จากนั้นก็นอนป่วยอย่างเดียวดาย หมดเรี่ยวหมดแรงไปหาหมอ แม้แต่จะทำงานสานต่อบิดาก็ไม่อาจทำได้
ชายผู้นี้มีนามว่า เสี่ยเฟิง
บิดาของเสี่ยเฟิงเป็นเด็กกำพร้า จึงไม่มีต้นตระกูลและยิ่งไม่มีญาติที่ใด ความรู้ติดตัวไม่มากจึงเลือกอาชีพตีเหล็กตามกำลังแรงกาย เมื่อแต่งภรรยาเข้าบ้านมา นางก็ตายหลังจากคลอดเสี่ยเฟิงแค่ไม่นาน
ตัวของเสี่ยเฟิง ตั้งแต่เด็กจนโตก็ตีเหล็กกับบิดา แต่ด้วยชอบอ่านเขียนจึงร่ำเรียนหมายเป็นบัณฑิตแล้วสอบขุนนาง
บิดาล้วนสนับสนุน แต่เมื่อเสี่ยเฟิงสอบไม่ผ่านแล้วคิดสั้น บิดาจึงหาทางออก โดยการส่งเสริมให้ไปเป็นทหารแทน
หากมีความดีความชอบทางการทหาร ย่อมนับได้ว่าเป็นคนของราชสำนักเช่นกัน
เรื่องเหล่านี้ซานซานได้ฟังจากปากเสี่ยเฟิงหลังจากถือวิสาสะรักษาอาการป่วยเรื้อรังให้เขา จนเริ่มดีขึ้นในสามเดือนต่อมา ผิวเนื้อตึงแน่นยิ่งขึ้น แม้ไม่มีมัดกล้ามแต่ก็แข็งแรงขึ้นมาก มีเพียงดวงตาข้างหนึ่งที่บอดสนิทไม่อาจรักษาได้
สองแม่ลูกนั่งฟังเขาเล่าเท้าความประหนึ่งนั่งฟังนิทาน
กระทั่งลู่หลิ่งอ้าปากเล็กจิ้มลิ้มหาวหนึ่งครั้งแล้วพริ้มตาหลับไปในอ้อมแขนของซานซาน เสี่ยเฟิงจึงหยุดปากมิกล้าเล่าต่อ ด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวนการหลับใหลของเด็กน้อย
ซานซานพลันบังเกิดความคิดในใจว่าเสี่ยเฟิงเคยเป็นบัณฑิต แม้จะสอบไม่ผ่านการเป็นขุนนางเลยสักครา หากแต่ความรู้คงเยอะพอควร และนิสัยของคนประเภทนี้คงมีความรู้เรื่องกระดาษไม่มากก็น้อย
นางจึงอุ้มลูกน้อยลุกขึ้นแล้วพาไปวางลงบนเตียง ห่มผ้าอย่างนุ่มนวล แล้วกลับมานั่งที่เดิม ล้วงเข้าไปในสาบเสื้อ หยิบเอากระดาษสีเปลือกไข่ออกมาแล้วยื่นให้เสี่ยเฟิง
ที่โต๊ะมุมห้อง ทั้งสองนั่งอยู่บนเก้าอี้ หันหน้าเข้าหากัน เสี่ยเฟิงมีสีหน้าแปลกประหลาด แววตาซับซ้อน เขาอ่านข้อความในกระดาษครู่หนึ่งจึงเริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอ พึมพำคล้ายเสียใจว่า “ที่แท้ พี่สาวก็ถูกตัดรอนอย่างโหดร้ายถึงเพียงนี้ โอ...ไม่น่าเลย”
ซานซานพลันหรี่ตา เดือดดาลขึ้นมา “ข้ามิได้ให้เจ้าอ่าน ข้าให้เจ้าพิจารณาเนื้อกระดาษ ว่าเคยพบเห็นที่ใดต่างหาก!”
“...!?”
ด้วยเพราะเป็นพวกที่ชื่นชอบกระดาษ เห็นเป็นไม่ได้ มักจะหยิบจับมาขีดเขียนร่ำไป กระดาษชนิดต่างๆ แบบใดเขียนดี แบบใดเขียนลื่นไหล เสี่ยเฟิงล้วนแยกแยะได้ และยิ่งเคยเป็นทหารสื่อสารประจำกองทัพต้าถังยังเคยได้รู้จักกระดาษที่พวกเขาใช้ติดต่อส่งสาร จึงสรุปได้ไม่ยาก
“เนื้อกระดาษชนิดนี้ มีความยืดหยุ่นดี น้ำหมึกซึมได้รวดเร็ว ข้อความไม่ลบเลือนหรือผิดเพี้ยน ทำลายให้สิ้นซากได้ง่ายดายยิ่ง ผู้ที่มีสิทธ์ใช้กระดาษนี้ติดต่อส่งข่าวสารคือองครักษ์ของวังหลวง”
ซานซานฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แววตาทอประกายลึกล้ำระบายความซับซ้อนยากคาดเดาห้วงอารมณ์
อันที่จริง เหตุที่นางรักษาอาการป่วยให้เสี่ยเฟิงก็เพื่อจะหาลู่ทางทำเงินอย่างถูกต้อง โดยการสานต่อกิจการตีเหล็กเท่านั้น
นางเป็นคนชอบเรื่องศาสตราวุธ การขึ้นรูปอาวุธยิ่งถนัด ส่วนเรื่องที่มาของกระดาษสะบั้นรักแผ่นนี้มิได้อยู่ในแผนแต่แรก
ทว่า ...การรู้เอาไว้ย่อมดีไม่น้อย
นางจะได้ตามไปกระทืบไม่ผิดคน!
โหลดนิยายเรื่องนี้ได้แล้วที่ >>> mebmerket
วิธีการสั่งซื้ออีบุ๊คจาก meb คลิก >>> สั่งซื้อจาก mebmarket
กรณีเจอปัญหาคลิกที่นี่ >> Contact us
|
|
|
|
ความคิดเห็น