ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love story รักร้ายนายแวมไพร์ตัวป่วน

    ลำดับตอนที่ #26 : บทที่7.2 ความวุ่นวายในห้องพยาบาล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      15
      19 เม.ย. 66

            หมับ

            ตุบ 

            ทว่าก่อนที่ใบหน้าของอาจารย์จะเข้าใกล้ฉันมากกว่าเดิม ร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านข้างฉันเหมือนถูกบางสิ่งบางอย่างกระชากอย่างแรง ร่างของอาจารย์กระเด็นไปที่ผนังห้องฝั่งหนึ่งแล้วไหลลงมาสู้พื้นห้อง 

            “อาจารย์” ฉันโพล่งออกไปก่อนที่จะสังเกตเห็นอีกคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยซ้ำ “มาตอนไหนเนี่ย” หันมามองคนข้างเตียง

            “ตอนที่ทันเห็นเธอยอมให้มันจูบน่ะซิ!” ดวงตาสีแดงวาวโรจด้วยความโกรธ ครั้งนี้ฉันคิดว่ามันดูเจิดจ้ายิ่งกว่าครั้งอื่นๆ ข้าวของในห้องพยาบาลค่อยๆ ลอยขึ้นมาอย่างกับปรากฏการโพลเตอร์ไกส์

            “ฉันเปล่า” 

            ปฏิเสธทันควัน คิดจะยัดเยียดข้อหากันรึไงนะหมอนี่ 

           “เฮ้ๆ ไฟไหม้ๆ” ฉันชี้ไปยังกล่องกระดาษที่ลอยอยู่ตรงมุมห้องซึ่งตอนนี้มีไฟลุกไหม้โดยที่ไม่มีใครไปยุ่งกับมันด้วยซ้ำ แถมของในห้องชิ้นอื่นๆ ก็เริ่มลอยขึ้นและลุกไหม้ไปตามๆ กัน

            ตุ๊บๆ ๆ ๆ 

            ข้าวของที่ลอยอยู่ล่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทว่าดวงตาคู่สวยยังคงเป็นสีแดงสดเหมือนกำลังเก็บอารมณ์โกรธไว้ในใจ 

            “ไอ้แวมไพร์บ้าเลือด แกโยนฉันแรงไปไหม? ฉันอยู่ในร่างคนนะจะบอกให้” ร่างสูงที่นั่งพิงผนังห้องพยุงตัวยืนขึ้น “โมโหทำไม ทีนายทำไม่คิดว่าฉันจะโมโหบ้างรึไง” มือใหญ่ปาดเลือดที่มุมปากออก

            “แกอยากจะเปิดศึกเรื่องนี้อีกใช่ไหม? ไหนตกลงกันแล้ว” ตาแวมไพร์วางกล่องข้าวลงที่โต๊ะตรงหัวเตียง เขาไม่ได้หันไปพูดกับน้องชายของตัวเองเพียงแค่มองผ่านหางตาเท่านั้นก่อนจะหันกลับมาจ้องฉันอย่างเอาเรื่อง

             “ก็ได้ ฉันจะรักษาสัญญา ถือว่าหายกันกับเมื่อเช้าที่แกทำ แกก็รักษาสัญญาด้วยล่ะกัน” อาจารย์ว่าพลางกวาดมือเป็นวงกลมเหมือนร่ายมนต์ หลังจากนั้นห้องทั้งห้องก็กลับไปอยู่สภาพเดิมรวมทั้งข้าวของที่ไหม้ไปแล้วนั่นด้วย

             “...” ฉันได้แต่มองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ

             “เฮ้ย ยัยซาเป็นไงบ้าง” เสียงห้าวๆ ของริ้งดังขึ้นก่อนตัวจะมาถึงด้วยซ้ำ
             ยัยริ้งก็ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นบ้างเลย ตะโกนมาแต่ไกลเชียว

             ปัก 

             เสียงดีดนิ้วดังมาจากตาแวมไพร์ หลังจากนั้นห้องทั้งห้องก็เปลี่ยนสภาพไปจากที่มีเตียงฉันเดี่ยวๆ ตอนนี้กลายเป็นว่ามีผ้าม่านสีขาวมากั้นกลางระหว่างเตียงฉันกับเตียงอื่นๆ ในห้องด้วย 

    นั่นสินะ ทำไมฉันถึงไม่ได้สังเกตว่าห้องมันโล่งๆ น่ะ ยิ่งแปลกที่มีเพียงเตียงฉันเตียงเดียวด้วย
             ฉันนี่ลืมสังเกตจนไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องที่สร้างขึ้นจากเขตเวทมนตร์เลยด้วยซ้ำ เสียงดังขนาดที่ร่างของอาจารย์กระทบเข้ากับกำแพงยังไม่มีคนเข้ามาดูอีก ทำไมฉันไม่นึกเอะใจตั้งแต่ตอนนั้นน่ะ

             “โห โลกต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่ที่ไอ้ซาเกิดอาการที่เรียกว่าเป็นลมได้เนี่ย เหลือเชื่อจริงๆ ว่ะ” ร่างสูงของคิงก้าวเข้ามา แต่แล้วก็หยุดกึกลงทันที คิงมองสองอมนุษย์ที่ยืนจ้องตากันอยู่สลับกันไปมา

            ตุบ

           “โอ้ย แกหยุดทำไมว่ะ” ยัยริ้งที่เดินตามหลังมาไม่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองหยุดเดินแล้ว เลยชนเข้ากับแผ่นหลังของคิงเต็มๆ  ยัยริ้งบ่นไปพร้อมกับเอามือกุมหน้าผากตัวเองไว้หลวมๆ สีหน้าเตรียมจะเรื่องได้ทันทีถ้าไม่ได้คำตอบที่ดีจากคนตัวโตข้างหน้า 

           “โอ๊ะ! อาจารย์ริสกับฟารัสก็อยู่” คิงชี้นิ้วไปทางอาจารย์ทีตาแวมไพร์ที 

           “เสียงพวกแกนี่มาก่อนตัวเลยน่ะ” ฉันพูดขึ้นเพราะไม่อยากให้คิงสงสัยอะไรมากไปกว่านี้ เรื่องที่ว่าทำไมสองหนุ่มอายุพันปีถึงมาอยู่กันที่นี่ 

           “สวัสดีค่ะอาจารย์ ดีจ๊ะฟารัส” เฟรินที่เพิ่งเดินมาถึงทักทายอมนุษย์ที่อยู่ในห้องก่อนจะเดินมาที่เตียงฉัน อาจารย์และตาแวมไพร์พยักหน้านิดๆ ให้เฟรินเป็นการทักทาย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปข้างนอกผ่านเพื่อนสองคนของฉันที่ยังคงยืนคาทางอยู่ที่ประตูเพราะยังทะเลอะกันเรื่องที่หยุดเดินกะทันหันกันไม่ลงตัวสักที
           ฉันยังไม่ทันได้ถามเลยว่าอาจารย์เป็นอะไรไหม เล่นกระแทกแรงซะขนาดนั้น ตาแวมไพร์ก็เหมือนกันกระแทกต้นไม้แรงขนาดนั้นไม่รู้จะเป็นอะไรไหม แต่ฉันว่าคงไม่เป็นไรมากหลอก พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดานี่เนอะ 

           “นอนไม่พอเหรอ เห็นคิงบอกว่าเจอซาตอนเช้าสีหน้าไม่ดีเลย” เฟรินนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง 
           ฉันที่มองตามสองอมนุษย์ออกไปจากห้องหันกลับมาสนใจเฟริน ฉันยิ้มให้เฟรินและกำลังจะตอบออกไปว่าไม่เป็นไรมากหลอก แต่ก็มีเสียงของใครบางคนแทรกขึ้นก่อน 

           “มันไม่ตายง่ายๆ หรอก ผู้หญิงทึกอย่างไอ้ซาเนี่ย”

           “ไอ้คิง ไม่มีใครว่าแกเป็นใบ้หรอกนะถ้าไม่พูดอ่ะ” ฉันหยิบหมอนโยนไปใส่ร่างสูงที่กำลังเดินมาพร้อมกับยัยริ้งที่โดนคิงล็อคคออยู่ 

            ตุบ 

            หมอนใบหนาที่ตั้งใจจะโยนไปโดนร่างสูงกลับโดนหัวของริ้งแทน

           “โอ้ย ยัยซา แกน่ะแกโยนให้มันแม่นๆ หน่อยสิว่ะ ไอ้บ้าคิงนี่ก็เหมือนกันปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น่ะ” มือเล็กของยัยริ้งพยายามแกะแขนของคิงออก

            “ขอโทษทีๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ฉันยกมือขึ้นมาโบกไปมา ขอโทษขอโพยใหญ่

            “เลิกเล่นกันได้แล้ว รบกวนคนอื่นเขานะ” เฟรินพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง ถึงจะพูดดุแต่ใบหน้าของเธอก็ยิ้มแย้มเมื่อเห็นเพื่อนหยอกกันอย่างนั้น

            “ก็ได้~~” คิงปล่อยแขนที่ล็อคคอริ้งออก

    แหมพูดเสียงหวานเชียว พอเป็นเฟรินบอกล่ะก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายเลยแฮะ ไอ้คิงเนี่ย 

             ฉันได้แต่คิดอยู่ในใจเพราะไม่กล้าพูดอะไรมาก ปล่อยให้ทั้งคู่เข้าใจกันแต่ไม่ยอมพูดอย่างนี้ต่อไปดีกว่า เพราะเรื่องอย่างนี้พวกเขาต้องจัดการกันเอง

             “เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทันแล้วเนี่ย” ริ้งเอานิ้วสางผมให้เป็นทรงเหมือนเดิมอย่างอารมณ์เสียเมื่อหลุดออกมาจากพันธนาการได้สำเร็จ

            “ช่างมันเถอะน่า เลือดจะไปเลี้ยงหรือไม่ไปเลี้ยงแกก็โง่เหมือนเดิมนั่นล่ะ” ฉันว่าอย่างกวนๆ 

            “ยัยซา แกก็ไม่มากไปกว่าฉันหรอกน่า แน่จริงแกส่งงานเข้าประกวดแข่งกับฉันไหม” ริ้งดึงแขนเสื้อขึ้นอย่างโมโหทำท่าเหมือนจะหาเรื่อง แต่สีหน้ากลับกำลังยิ้มแย้ม

            “โห ไม่อยากจะคุย เสร็จแล้วโว้ยๆ จะดูไหมๆ” ฉันเลิกแขนเสื้อขึ้นตาม โกหกออกไปทั้งที่จริงๆ ยังไม่ได้ทำเลยด้วยซ้ำ

           “ฮ่าๆ  น้ำหน้าและหัวสมองอย่างแกเนี่ยน่ะ” ริ้งว่าอย่างร่าเริง 

           ยัยเพื่อนคนนี้...ดันรู้ทันอีก

           “โห โครตดูถูกอ่ะ” ฉันเตรียมจะลุกออกจากเตียงทว่าริ้งกลับเดินมาบีบคอฉันไว้หลวมๆ แล้วโยกไปมาเสียก่อนที่ฉันจะได้ลุกด้วยซ้ำ “โอ้ยๆ  แคกๆ เฟริน ชะ...ช่วย...ด้วย” แกล้งสำออยขอความช่วยเหลือจากเฟริน

           “หึๆ นี่เลิกเล่นกันได้แล้ว” ถึงจะดุแต่ก็ยังคงยิ้มหวานอยู่ 

           น่ารักจัง ^^

           “โอ้ย แคกๆ” ฉันกำมือของยัยริ้งไว้แกล้งเหลือกตาขึ้นเหมือนกำลังขาดอากาศหายใจ

           “ฮ่าๆ  เนียนเลยน่ะแก” คิงขยี้หัวฉันจนผมที่ฟูอยู่แล้วยิ่งฟูขึ้นไปใหญ่ 

           “รุมแกล้งฉันเหรอพวกแก?” ฉันโวยวายเตรียมหาเรื่องคิงกับริ้งเต็มที่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×