ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายาอ๋องไร้ใจ (ZiYu)

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 6 (1/2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.1K
      632
      1 ส.ค. 64

     บทที่ 6

    น้ำส้มไหใหญ่

     

    "พระชายา!" ถิงถิง ที่ยืนอยู่อีกด้านของสะพานหันหลังกลับมาเห็นพระชายาของตนตกลงไปในน้ำ พระชายากำลังพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาหายใจ ทำให้

    ถิงถิงรีบวิ่งไปช่วยหมิ่งหลาน ขณะที่นางกำลังจะก้าวขาออกไป ไท่จื่อหย่งเหวินก็ใช้วิชาตัวเบาลอยผ่านหน้าถิงถิงไป

    ตู้มมมมม

    "ไท่จื่อ!" มี่ฮวาที่กำลังตกใจที่เห็นหมิ่งหลานกำลังจะจมน้ำโดยที่ทุกคนกำลังเข้าใจนางผิด มันไม่เหมือนกันกับเหตุการณ์วันนั้น วันที่นางผลักหมิ่งหลานตกสระบัวทำให้หมิ่งหลานเกือบตาย และมันทำให้นางตกใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นว่า ไท่จื่อกระโดดลงไปในน้ำต่อหน้าต่อตานาง เพื่อลงไปช่วยหมิ่งหลานขึ้นมา

    "หลานเออร์" ฮูหยินจางที่กำลังจะกลับไปพักผ่อนที่เรือนก็มีพ่อบ้านมารายงานว่าไท่จื่อเสด็จมา นางจึงไปต้อนรับอยู่หน้าจวน นางกำลังจะพาไท่จื่อไปเรือนรับรอง ซึ่งต้องผ่านสวนที่หมิ่งหลานและจางมี่ฮวาดื่มชากันอยู่ นางให้นิ่งจูพาไท่จื่อไปที่เรือนรับรอง ส่วนนางสั่งงานบ่าวไพร่แล้วจะตามไป นึกไม่ถึงว่านางสั่งงานบ่าวไพร่เพียงครู่เดียวก็ต้องมาพบกับเหตุการณ์ที่ไท่จื่อกำลังอุ้มหมิ่งหลานขึ้นมาจากสระน้ำ

    หย่งเหวินอุ้มหมิ่งหลานพาที่เรือนเดิมที่หมิ่งหลานเคยอยู่ก่อนแต่งงานโดยมีกัวซิงฉีเป็นผู้นำทางมา เมื่อหย่งเหวินอุ้มหมิ่งหลานมาวางที่เตียง กัวซิงฉีก็ให้ ถิงถิงไปแจ้งข่าวให้ท่านจิ้นอ๋อง จางซุนหลี่ จางหมิ่งเทียนได้รับรู้ ส่วนไท่จื่อก็สั่งให้องค์รักษ์ไปตามหมอหลวง

    "เกิดอะไรขึ้น" หย่งจื่อเมื่อทราบว่าหมิ่งหลานตกน้ำ ก็รีบมาดูอาการนางในทันที

    เมื่อหย่งจื่อเข้ามาที่ห้องนอนของหมิ่งหลานก็พบว่าหย่งเหวินผู้เป็นพี่ชายของตนอยู่ด้วย ในสภาพที่เปียกโชกไม่ต่างจากพระชายาของเขา

    "ถวายพระพรเสด็จพี่" หย่งจื่อถวายพระพรหย่งเหวินผู้เป็นพี่ชายพอเป็นพิธีก่อนที่จะเดินไปนั่งที่ข้างเตียงเพื่อที่จะได้ดูแลชายาของตนได้สะดวก

    "หย่งจื่อ เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าให้คนไปตามหมอหลวงมาแล้ว อีกไม่นานคงถึง"

    "แค่ก...แค่ก" หมิ่งหลานที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ความจริงแล้วนางไม่ได้หลับหรือสลบไป นางเพียงแค่แกล้งหมดสติไปเฉยๆ ไท่จื่อจะได้อุ้มนางมาที่เรือน และยังทำให้คนรอบข้างเห็นว่านางเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากอุบัติเหตุกึ่งจงใจครั้งนี้ ส่วนข่าวลือเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงแค่คนพูดต่อๆ กัน ตีใข่ใส่สีอีกหน่อย มี่ฮวาคงยากที่จะออกจากจวนไปสักพัก

    "หลานเออร์ ลูกแม่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"กัวซิงฉีที่อยู่ข้างๆเตียงหมิ่งหลานเมื่อเห็นว่าบุตรีฟื้นขึ้นมา นางก็โล่งอกขึ้นมา นางกลัวว่าหมิ่งหลานจะไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อนที่ฟื้นขึ้นมาได้ มือข้างหนึ่งก็ลูบศีรษะของหมิ่งหลานอย่างเป็นห่วง

    "หมิ่งหลานค่อยๆ ลุก เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" หย่งจื่อเห็นว่าหมิ่งหลานฟื้นแล้วก็ใช้มือประคองที่แผ่นหลังกับต้นแขนให้ลุกขึ้นนั่งอิงที่หัวเตียง

    "เอ่อ ไม่เป็นไรมากเพคะ หม่อมฉันแค่ตกใจนิดหน่อยเพคะ"

    "หลานเอ๋อร์เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ ให้พี่ไปตามหมอมาดูอาการเจ้าก่อนไหม"จางหมิ่งเทียนขยับเข้ามาใกล้เตียงพร้อมกับเอามือมาอังหน้าผากและแนบแก้ม เพื่อวัดอุณหภูมิของน้องสาวด้วยความเป็นห่วง

    "นั้นสิ กว่าหมอหลวงจะมาถึง" ไท่จื่อก็เห็นด้วยกับจากหมิ่งเทียนเขาควรให้คนไปตามหมอที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ มาตรวจนางก่อน

    "ไม่เป็นไรเพคะ ขอบพระทัยเพคะไท่จื่อ ที่ทรงช่วยหม่อมฉัน" หมิ่งหลานขอบพระทัยไท่จื่อด้วยตัวความจริงใจที่มาช่วยเป็นตัวละครเอกให้นางดำเนินแผนการเอาคืนมี่ฮวา สำเร็จไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเงาดำทะมึนที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงนางอีกคนกำลังมีกลิ่นน้ำส้มเปรี้ยวโชยไปทั่งห้อง

    "ขะ......" ไท่จื่อหย่งเหวินกำลังจะตอบหมิ่งหลานว่าอย่าได้เกรงใจยังไงก็ครอบครัวเดียวกัน แต่ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาจากอนุชาของตน ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจสุดๆ ทำให้เขารู้สึกสึกเย็นวาบไปทั้งตัว

    "หมิ่งหลานเจ้าอย่าได้เกรงใจ เจ้าลืมไปแล้วรึว่าข้าเป็นอนุชาของไท่จื่อ เจ้าก็เหมือนน้องสาวของไท่จื่ออีกคน จริงไหมเสด็จพี่" หย่งจื่อที่กำลังคันยุบยิบในใจ จากคำพูด สายตา การกระทำ ที่หมิ่งหลานมีต่อไท่จื่อ เหมือนกับว่าเขาทั้งสองคนสนิทสนมกันมากว่าที่เขาคิด อดไม่ได้ที่เขาจะควบคุมตนเองไม่ให้ไปพาลใส่ไท่จื่อ เขาคิดว่าเขากำลังสับสนเท่านั้น มันคงไม่ใช่อาการหึงห่วงแน่นอน หย่งจื่อได้แต่เก็บความคิดนี้ไว้ในใจ

    "อืม ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ข้าก็ขอตัวก่อน" ไท่จื่อที่เห็นหน้าดำทะมึนของหย่งจื่อแล้วก็อดขำไม่ไหว เขาคงต้องขอตัวกลับไปขำที่ตำหนักบูรพาก่อน มันเหมือนกับตอนที่หย่งจื่อเจอธนูปู้สื่อเหนี่ยวครั้งแรก เสด็จพ่อตรัสว่าจะยกธนูให้กับคนที่ล่าสัตว์ใหญ่ได้ ปากก็บอกว่าไม่อยากได้ ธนูปู้สื่อเหนี่ยวคู่ควรกับไท่จื่อมากกว่า แต่สุดท้ายเขาก็ล่าเสือตัวใหญ่มากหนึ่งตัว ธนูปู้สื่อเหนี่ยวเลยตกเป็นของหย่งจื่อจนได้

    เรือนม่อหลัน

    หลังจากที่ไท่จื่อกลับไปไม่นานหมอหลวงก็มาถึง หมอหลวงบอกว่านางไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่ตกใจกลัวเลยทำให้หมดสติ ชีพจรเต้นปกติดี สองสามวันนี้ให้ระวังเป็นไข้หวัด เพราะน้ำในสระค่อนข้างเย็น และได้เตรียมยาบำรุงร่างกายให้นางหนึ่งชุด ส่วนมี่ฮวาและอนุฟางที่เป็นผู้ก่อเรื่อง พ่อของนางก็ไม่อาจเข้าข้างได้ เพราะอาจเป็นการหมิ่นเกียรติจิ้นอ๋อง และยิ่งเหตุการณ์นี้ไท่จื่อยังมาเป็นพยานคนสำคัญอีก จางซุนหลี่ก็ได้ลงโทษอนุฟางข้อหาไม่สั่งสอนบุตรีให้ดีตัดเบี้ยหวัดหนึ่งปี โบยยี่สิบไม้ ตบปากสิบที กักบริเวณสามเดือน ส่วนมี่ฮวา กัวซิงฉีขอจัดการเองโดยนางถูกกักบริเวณในหอบรรพชนตระกูลจาง หนึ่งเดือน ตบปากสิบที

    หมิ่งหลานกลับมาที่เรือนม่อหลันแล้วก็ได้อาบน้ำชำระร่างกาย เตรียมเข้านอน วันนี้นางไม่รับอาหารเย็นเพราะนางรู้สึกเพลีย และครั้นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะไม่สบาย นางเลยสั่งให้ถิงถิงดับเทียนเข้านอน

    "อื้ออออ"

    "..........."

    "โอ้ยยยยย" หมิ่งหลานที่กำลังนอนหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย นางสะลึมสะลือเหมือนมีอะไรมาคลอเคลียตามตัว แล้วสุดท้ายนางก็สะดุ้งตื่นเต็มตาด้วยความเจ็บจนนางร้องเสียงหลง แล้วเอามือมาจับลำคอตนเองไว้

    "หย่งจื่อ นี่ท่านทำบ้าอะไรเนี่ย ข้าเจ็บนะ" หมิ่งหลานตื่นมาเต็มตาเห็นหย่งจื่อ สามีของนางกำลังคล่อมตัวนางอยู่ ตรงมุมปากมีเลือดติดนิดๆ นั้นคงเป็นเลือดจากลำคอนางแน่นอน

    "อยากเจ็บกว่านี้ไหมละ"

    "ท่านโรคจิตหรือไง เป็นพวกชอบความรุนแรงแล้วมีความสุขหรือไง"

    "แล้วเจ้าละชอบแบบไหน" หมิ่งหลานได้แต่ค้อนอยู่ในใจ อีตาอ๋องบ้าโรคจิตทำนางเจ็บแล้วยังมีหน้ามาถามอีกนะ

    "........."

    "ไม่ต้องมามองข้าแบบนั้นไหนบอกมาสิว่าชอบแบบไหน อ่อนโยนเหมือนไท่จื่อ หรือดิบเถื่อนเหมือนข้า"

    "อื้มมมมม ปล่อยก่อน" หย่งจื่อไม่ปล่อยโอกาสให้นางได้ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น เขาโน้มตัวลงมาจูบปิดปากหมิ่งหลานอย่างเร่าร้อน จนกว่าหย่งจื่อจะระบายความหึงหวงในใจได้สำเร็จก็ลำบากพระชายาไปจนถึงเช้ามืด แถมหมิ่งหลานยังป่วยไข้ขึ้นจนต้องนอนซมไปหลายวัน

    หลังจากที่หมิ่งหลานหายป่วยได้ไม่กี่วัน ก็มีจดหมายเทียบเชิญไปงานพิธี ปักปิ่นคุณหนูหม่าเยว่ฉี คุณหนูสายตรงตระกูลการค้าแห่งเมืองเทียนจิน หมิ่งหลานรับปากกัวกุ้ยเฟยว่าจะนำของขวัญไปมอบให้คุณหนูหม่าเยว่ฉี ในไม่อีกกี่วันข้างหน้า ทำให้นางต้องเตรียมตัวเดินทางไปเมืองเทียนจินในเช้าวันพรุ่งนี้

    "ถิงถิง อย่าลืมเอากล่องเครื่องประดับของเสด็จป้ากัวกุ้ยเฟยไปนะ"

    "เจ้าคะ หม่อมฉันใส่ไว้ในหีบแล้วเพคะ"

    "จินหลิง เจ้าไปบอกพ่อบ้านให้คัดเครื่องประดับสำหรับคุณหนูอายุสิบหกปี มาสักหีบ แล้วนำมาให้ข้าที่เรือน ข้าจะเลือกเองอีกที" ในขณะที่กำลังจัดของส่วนตัวลงหีบสำหรับการเดินทางและต้องอยู่เทียนจินถึงครึ่งเดือน หมิ่งหลานก็ไม่ลืมที่จะกำชับถิงถิงในเรื่องสำคัญอย่างเช่นของขวัญที่กัวกุ้ยเฟยเสด็จป้าของนางฝากให้คุณหนูหม่าเยว่ฉี เป็นการบอกนัยๆ ว่าอยากให้นางมาเป็นสะใภ้ ซึ่งหมิ่งหลานเองก็ควรทำหน้าที่แม่สื่อที่ดี หาของขวัญที่เหมาะสมกับนางสักชิ้น เลยสั่งให้จินหลิงไปเลือกเครื่องประดับในหีบที่มีค่า ยิ่งกว่าของใหม่ๆ ในร้านตามท้องตลาด

    "เพคะ"

    "ลี่จู คนของเรือนหู่เตรียมของสำหรับจิ้นอ๋องหรือยัง"

    "เรียบร้อยแล้วเพคะ ตอนนี้เหลือแต่ของพระชายา"

    หมิ่งหลานนางมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของตนเองจนลืมไปว่า ยังมีหน้าที่อื่นๆอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้เตรียมให้จิ้นอ๋อง แต่พอถามลี่จูแล้วก็โล่งใจ จิ้นอ๋องแม้ไม่มีนางดูแล เรื่องส่วนตัวยิบย่อยก็มีคนของเขาดูแล แต่ดูเหมือนคนของเขาจะทำหน้าที่ได้ดีกว่านางเสียอีก ว่าแล้วนางลองนึกย้อนทบทวนตนเองดูก็เหมือนว่า ตั้งแต่นางแต่งเข้ามาในจวน นางยังไม่เคยปรนนิบัติจิ้นอ๋องเรื่องอื่นๆ เลย นอกจากเรื่องบนเตียง สงสัยต้องทบทวนตนเองใหม่ซะแล้ว ว่าหน้าที่ของพระชายานางควรทำอะไรบ้าง

    "เฮ้ออออ ทำไมวันนี้ข้าวุ่นๆ ทั้งวันเลยนะ"

     

    #ฝากติดตาม เม้นให้กำลังด้วยนะ

    นิยายเรื่องแรกที่จะแต่งจนจบ 

    เจอกันน้า

    เปย์

     

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×