ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายาอ๋องไร้ใจ (ZiYu)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 - (2/2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.64K
      1.16K
      29 ก.ค. 64

      บทที่ 1

    ตื่นจากฝันมายา

    “ปิ่นหยกขาวมีสีดำหายาก” ท่านแม่เปิดกล่องขึ้นมา ปิ่นเล็กๆ ที่ทำจากหยกขาวผสมหยกดำเนื้อแก้วใส เกาะสลักเป็นลายมังกรดำกำลังพันรอบด้ามส่วนหัวเป็นดอกเหมยกุ้ยสีขาว งดงามสะดุดตาจริงๆ หลับตาก็รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องนี้ประเมินค่าไม่ได้แน่นอน แถมช่างที่แกะสลักยังฝีมือประณีต สามารถนำส่วนเนื้อหยกที่เป็นสีดำมาแกะเป็นรูปมังกร ส่วนเนื้อหยกสีขาวก็แกะสลักดอกเหมยกุ้ยออกมาได้อย่างงดงาม หมิ่งหลานพิจารณาดูปิ่นในกล่องไหมอย่างละเอียดอีกครั้ง ด้ามปิ่นมีมังกรสีดำแกะสลักงดงามราวกับมีชีวิต เป็นปิ่นนี้ทำจากหยกชิ้นเดียวกัน ซึ่งหาได้ยากมากที่จะมีความลงตัวของการแกะสลักหยกที่ต่างสีกัน จะต้องเป็นช่างที่ชำนาญยิ่งกว่าช่างหลวง

    “ท่านแม่ลูกชอบชิ้นนี้เจ้าคะ งดงามมาก” หมิ่งหลานเห็นปิ่นนี้ครั้งแรกก็รู้สึกชอบและถูกชะตาทันทีจึงเลือกเก็บหยกชิ้นนี้ไว้เป็นพิเศษ ก่อนจะช่วยมารดาเลือกเครื่องประดับชุดต่อไป

    “ลูกชอบก็ดีแล้ว หยกชิ้นนี้ไม่ได้อยู่ในรายการของหมั้นหมาย”

    “.....”

    “หยกชิ้นนี้คนสนิทของจิ้นอ๋องนำมาให้เองกับมือเลยนะ”

     

     

     

    วันพิธีอภิเษกสมรส

    โคมแดงหน้าจวนถูกนำมาแขวนไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แสดงให้เห็นว่าจวนนี้กำลังจะมีงานมงคล หมิ่งหลานตื่นมาเตรียมตั้งแต่ยามอิ๋น (03:00 - 04:59 น.) ทั้งอาบน้ำชำระร่างกาย ขัดผิว แช่น้ำนม พรมน้ำหอม เตรียมพร้อมร่างกายทุกซอกทุกมุม โดยมีสาวใช้ในจวนคอยช่วยเหลือ หมิ่งหลานเองก็แอบเอียงอายอยู่ไม่น้อย เพราะตั้งแต่เกิดมาในชาติก่อนก็ไม่เคยมีใครมาปรนนิบัติขนาดนี้ ขนาดไปทำสปาเสริมความงามตามคลินิก ก็ยังไม่ได้เปิดเผยร่างกายขนาดนี้ แต่ถ้าหากนางปฏิเสธไม่ให้พวกบ่าวช่วยเหลือ มีหวังนางเตรียมตัวไม่ทันฤกษ์ยามแน่ พอมาถึงยามเหม่า (05:00 - 6:59 น.) ก็ถึงเวลาแต่งตัว ทำผมสำหรับเจ้าสาวของวันนี้

    “คุณหนูเจ้าคะ นี้เป็นเอี๊ยมแดงมงคล ที่ฮูหยินเตรียมไว้ให้เจ้าคะ" ถิงถิงสาวใช้คนงาม วันนี้แต่งตัวมีสีสันเป็นพิเศษ นางใส่ชุดสีชมพูอ่อนๆ ปักเครื่องประดับเรียบร้อยงดงามสมกับเป็นคนสนิทของคุณหนูจวนผู้ดี นางได้นำเอี๊ยมแดงสำหรับใส่ในพิธีแต่งงาน ปักตัวอักษร แป๊ะนี้ไห่เล่า บนหน้าอก ซึ่งแปลได้ว่า อยู่กินกันจนแก่เฒ่า ตัวอักษรมงคลนี้ปักด้วยไหมทองคำบริสุทธิ์ สมฐานะของว่าที่ชายาจิ้นอ๋อง

    “ถิงถิงเอี๊ยมนี้มันไม่ดูเซ็กซี่ไปหน่อยรึ มันดูน่าอายนะ”

    “เซ~~~ชี อะไรเจ้าคะ บ่าวไม่เข้าใจ” ถิงถิงถึงกับงุนงงกับคำศัพท์ใหม่ของเจ้านายเกิดมาจะยี่สิบปียังไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน ส่วนหมิ่งหลานมองดูชุดเอี๊ยมในมืออย่างปลงใจ ก็ชุดเอี๊ยมที่นางถืออยู่มันทั้งแดงทั้งบางเบา ถึงจะไม่ใช่แบบซีทรูเหมือนเว็บไซต์ขายของ 18+ ชุดนอนไม่ได้นอน แต่มันก็เป็นผ้าสี่เหลี่ยมผืนเดียว ที่ปิดแต่ข้างหน้า ส่วนข้างหลังมีเชือกอยู่สี่เส้นผูกปมกันอยู่ไม่ให้หลุด มันก็จะว่างโล่งเกินไปหน่อย เห็นว่าเป็นสาวยุคใหม่ก็อายเป็นเหมือนกันนะ

    “ช่างเถอะ ถิงถิงรีบมาแต่งตัวให้ข้าได้แล้ว ข้าหนาวนะ เดี๋ยวถ้าไม่ทันฤกษ์ ข้าจะลงโทษเจ้า” ถิงถิงแต่งองค์ทรงเครื่องให้เจ้านายสาวครบถ้วน โดยไม่ลืมปักปิ่น เหมยกุ้ยมังกรทมิฬที่จิ้นอ๋องประทานให้ สวมกำไลหยกสีขาวมันแพะที่ฮองเฮาประทานให้ สร้อยคอต่างหูเครื่องประดับครบชุดเป็นของประทานจากกัวกุ้ยเฟย ส่วนชุดของนางปกติแล้วมารดาจะเป็นคนตัดเย็บให้ แต่ในกรณีที่แต่งกับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ชุดเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวต้องมาคู่กัน หรือตัดเย็บใช้ผ้าพับเดียวกัน แม้แต่ลายบนผ้า ยังต้องเป็นลายที่สอดคล้องกัน โดยชุดของหมิ่งหลานฮองเฮาเป็นคนจัดการใช้ช่างหลวงของกรมวังเป็นคนออกแบบตัดเย็บเอง เดิมที่ชุดนี้จะเป็นชุดที่นางจะต้องใส่แต่งกับไท่จื่อ แต่ก็มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะต่อให้ฮองเฮาทรงโปรดนางมากเพียงใดก็ไม่เท่าทรงโปรดบุตรชายของตน จากชุดลายหงส์สีทอง ถูกแก้ไขเป็นลายนกยูงสีทองแทน ชุดนกยูงสีทองนี้ กงกงตำหนักฮองเฮานำมาให้นางลองใส่เมื่อวาน ผลก็คือพอดีกับตัวนางเลยไม่จำเป็นต้องแก้อะไร

    “งดงามมากเจ้าคะ” ถิงถิงเอ่ยชมด้วยความภาคภูมิใจ ลงทุนขุดความสามารถในทุกๆ ด้าน มาใช้ให้หมดเพื่อคุณหนูของนาง ที่ต่อไปจะเป็นหวางเฟยแล้ว ช่างเหมาะสมยิ่งนัก

    “!!!!” หมิ่งหลานส่องกระจกเงาสีทองเหลืองที่อยู่ตรงหน้า สะท้อนความงดงามใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งดังคันศร แม้ตัวนางเองยังตกตะลึงกับความงามของร่างนี้ หมิ่งหลานเจ้าช่างโง่เขลานัก เจ้ารักษาเนื้อ รักษาตัวเพื่อเขาขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เชยชมเจ้า แต่กับมีชายอื่นที่เจ้ามองข้ามไปได้เชยชม ความงามนี้ ข้าจะไม่ทำให้ร่างกายสวยๆ งามๆ ของเจ้าเสียของเลยแม้แต่น้อย ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี หากข้ากับเจ้ามีวาสนาร่วมกัน ข้าก็หวังว่าจะพบกับเจ้าอีก ข้าจะดูแลเจ้าเอง

    หลังจากที่หมิ่งหลานทานอาหารเช้ากับครอบครัวพอเป็นพิธีเสร็จท่านแม่ก็มาสวมผ้าคลุมให้ ถึงฤกษ์งามที่เจ้าบ่าวมารับหน้าประตูจวนแล้ว แต่กรณีนี้จิ้นอ๋องไม่ได้มารับ แต่ส่งอนุชาอย่างเว่ยอ๋องมาแทน

    “หลานเออร์ วันนี้แม่ดีใจมากที่สุดที่เจ้าจะได้แต่งเข้าจวนอ๋อง ท่านอ๋องเป็นคนดี เขาดูแลพี่ชายเจ้ามาหลายปี เจ้าต้องเชื่อฟังท่านอ๋องให้มากๆ นะลูก เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหมลูก” ฮูหยินจางยิ้มทั้งน้ำตาลูกสาวคนนี้ของนาง นางเลี้ยงมาเองกับมือ ไม่เคยแยกจากกันนาน ตอนที่รู้ว่าบุตรสาวตกสระบัวนางแทบจะตายตาม วันนี้ลูกสาวที่นางรักกำลังจะออกเรือน ไปเป็นสมบัติของคนอื่น หากจิ้นอ๋องดีกับนางก็ถือว่าเป็นวาสนา หากไม่ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรนางก็ยอม นางจะไปรับบุตรีคนนี้กลับมาดูแลเอง

    “ท่านแม่ท่านมิต้องกังวลลูกแค่ออกเรือนไปเท่านั้น ไม่ได้ไปไหนเสียหน่อย” หมิ่งหลานจับมือคู่นี้ที่เลี้ยงนางมาแนบที่ใบหน้า และสวมกอดนาง ถิงถิงเคยบอกนางว่าฮูหยินจางคนนี้รักบุตรสาวคนนี้มาก ถึงขั้นว่าไม่จ้างแม่นมมาเลี้ยง แต่อดทนเลี้ยงดูมาด้วยตนเอง นมทุกหยดที่เลี้ยงหมิ่งหลานคนนี้ล้วนเกิดจากอกของฮูหยินจางทั้งนั้น ต่างจากพี่ชายนางที่มีแม่นมค่อยเลี้ยงดู มีอาจารย์คอยอบรมสั่งสอนตั้งแต่สามหนาว ส่วนหมิ่งหลาน ฮูหยินจางเลี้ยงมาด้วยความอ่อนโยนสดใส

    “หมิ่งหลานลูกแม่ แม่ดีใจเหลือเกิน ที่รับหมั้นคนไม่ผิด อย่างน้อยจิ้นอ๋องก็ไม่มีใครที่จวน ช่างแตกต่างจากไท่จื่อที่ว่างตำแหน่งเดียว”

    “ท่านแม่ก็ ลูกรู้แล้วเจ้าค่ะ ว่าใครรักลูกจริง ใครเห็นลูกเป็นเพียงหมากในกระดาน หากลูกไม่มีท่านปานนี้ลูกคงกายเป็นสตรีชั่วร้ายเป็นแน่”

    “ไม่เป็นไรนะ หลานเออร์ของแม่ นางเด็กมี่ฮวานั้น กล้าหักหลังความรักความเอ็นดูของลูก ต่อให้มันได้เป็นสนมของไท่จื่อ อนาคตมันก็ไม่มีทางได้ไปไกลกว่านั้นได้อีก ตราบใดที่มีแม่มีเสร็จป้าเจ้าอยู่” ฮูหยินจางนางสงสารบุตรีคนนี้เหลือเกิน บุตรีของนางทั้งรักและเอ็นดูมี่ฮวายิ่งกว่าใคร เอ็นดูนางเหมือนน้องร่วมมารดา ไม่เคยเห็นว่านางกับมี่ฮวามีฐานะที่แตกต่างกัน ยามทั้งสองยังเล็ก หมิ่งหลานก็เป็นพี่สาวที่ดีคอยพามี่ฮวาไปออกงานสังคม รับหน้าแทนทุกเรื่องที่มี่ฮวาเผลอทำผิด แม้กระทั่งท่านพ่อท่านแม่ หรือแม้แต่ไท่จื่อประทานอะไรมาให้ก็จะเก็บไว้ให้มี่ฮวาอยู่เสมอ จนจางซุนหลี่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย ที่จะรักและเอ็นดูมี่ฮวามากกว่าหมิ่งหลานเพียงเพราะนางเกิดมาน่าสงสารที่เกิดมาเป็นลูกอนุ จากซุนหลี่ไม่ได้กลัวว่า หมิ่งหลานจะน้อยใจ หรืออิจฉาน้อง นางกลับดีใจแทนน้องด้วยซ้ำที่ท่านพ่อรักน้องเอ็นดูน้อง

    “ท่านแม่วันนี้วันมงคลของลูก ท่านไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดให้เสียบรรยากาศหรอกเจ้าค่ะ ลูกรู้ดีว่าควรจะทำยังไง”

    “จ๊ะ แม่จะไม่พูดเรื่องนี้อีก” ฮูหยินจางลูบผมสวยดกดำเงางามของบุตรี อย่างรักใคร่เอ็นดู ยามแต่ก่อนมือคู่นี้เล็กมาก จนนางไม่กล้าจับ กลัวว่าจับแล้วลูกสาวคนนี้จะร้องขึ้นมา บัดนี้มือคู่นี้กลับงดงามแข็งแรงพอที่จะพยุงนางเดินไปที่ไกลๆ ได้แล้ว

    “แล้วหนังสือนั้น ลูกเปิดดูบ้างหรือเปล่า ลูกลองศึกษาดูหรือยัง” สิ่งที่ฮูหยิน จางพูดขึ้นทำเอานางเขินอาย เรื่องแบบนี้ในหนังสือนั้นนางเปิดดูหมดแล้ว ธรรมดามาก เพราะโลกปัจจุบันนางเป็นสมาชิกพรีเมียมของเว็บไซต์ระดับโลก อย่าง พรคลับเลยนะ ทำไมนางถึงจะไม่รู้ เพียงแต่ว่านางยังไม่เคยมีแฟน เลยไม่เคยปฏิบัติจริงเท่านั้นเอง แต่ให้มาพูดกันซึ่งหน้าแบบนี้นางก็ไม่ไหวเหมือนกัน

    “ท่านแม่ก็!!!”

    “ฮ่าา เอาละแม่ไม่ถามเจ้าแล้ว มาแม่จะปิดผ้าคลุมให้เจ้าแล้ว พ่อเจ้ากับพี่ชายรอเจ้าอยู่” หลังจากท่านแม่ปิดผ้าคลุมหน้าให้แล้ว หมิ่งหลานก็เดินออกจากห้องไปยังหน้าประตูจวน โดยมีท่านแม่และถิงถิงคอยเดินประคอง หน้าที่ประคองเจ้าสาวนี้หาใช้หน้าที่ของมารดา แต่ฮูหยินจางก็อยากจะไปส่งลูกสาว ให้ได้อยู่กับนางให้นานที่สุด เพราะหลังจากก้าวเท้าพ้นประตูนี้ไป นางจะไม่ได้เป็นเพียงบุตรีตัวน้อยๆ ของตนอีกแล้ว แต่จะเป็นถึงจิ้นหวางเฟย

    “ถวายพระพรเพคะ เว่ยอ๋อง คารวะ ท่านพ่อ พี่ใหญ่เจ้าคะ” หมิ่งหลานถึงประตูหน้าจวนพบว่าเว่ยอ๋องมารับตัวเจ้าสาวและท่านพ่อกับพี่ชายของนางก็มา รออยู่ก่อนแล้ว

    “ไม่ต้องเกรงใจพี่สะใภ้ เชิญลุกขึ้น” เว่ยอ๋องอนุญาตให้ว่าที่พี่สะใภ้ลุกขึ้นเพราะผ่านวันนี้ไปมีหรือที่นางจะได้คำนับเขา แต่เป็นตัวเว่ยอ๋องเองต่างหากที่ต้องเกรงใจ และให้ความเคารพนางดั่งที่เคารพพี่ชายทั้งสอง

    “ขอบพระทัยเพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอพูดกับท่านพ่อและพี่ใหญ่สักประโยค”

    “เชิญ ข้าจะไปตั้งขบวนรอ” เว่ยอ๋องออกไปรอที่หน้าจวนสั่งบ่าวไพรเตรียมตัวรอ กลัวจะเสียฤกษ์งามยามดี ทุกอย่างต้องออกมายอดเยี่ยมเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเสด็จแม่ทั้งสองอาจทรงกริ้วเขาได้ ยิ่งเสด็จแม่กัวกุ้ยเฟยยิ่งน่ากลัว ตอนเขายังเด็กจำได้ขึ้นใจว่ามีเรื่องต่อยตีกับเสด็จพี่จิ้นอ๋อง เสด็จแม่กัวกุ้ยเฟยลงโทษไม่ให้เขากินข้าวสามวัน จนเสด็จแม่ฮองเฮาต้องช่วยพูดกับเสด็จแม่กุ้ยเฟยให้ ไม่งั้นเขาหิวตายแน่ๆ

    “พวกเจ้า เตรียมขบวนให้พร้อม อย่าได้มีข้อผิดพลาด”

    “ท่านพ่อ ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องลำบากใจ” หมิ่งหลานรู้ดีว่าท่านพ่อรักมี่ฮวามาก มี่ฮวาเองก็รักไท่จื่อมากเช่นเดียวกับนางคนก่อน แต่ท่านพ่อก็เลือกที่จะให้นางเสียสละ เพียงเพราะไท่จื่อไม่รักหมิ่งหลานแต่รักน้องสาวหมิ่งหลานมากกว่า แต่ท่านคงจะลืมไปว่าไท่จื่อแปรเปลี่ยนจากหมิ่งหลานได้ แล้วมี่ฮวาละ อำนาจไม่อาจหอมหวานไปกว่านี้อีกแล้ว

    “ท่านพ่อ อย่าได้โทษตนเองเรื่องข้าเลย ท่านจงโทษตัวท่านเองเรื่องมี่ฮวาเถิด ท่านคิดว่าสนมของฮ่องเต้เป็นเช่นไร แล้วความรักเป็นเช่นไร ท่านคิดหรือว่าไท่จื่อจะรักนางไปตลอดชีวิต”

    “หมิ่งหลาน เจ้า!!!”

    “ท่านพี่ วันนี้งานมงคลของหมิ่งหลานนะเจ้าคะ ตั้งแต่เล็กจนโต หลานเออร์ก็เป็นฝ่ายเสียสละมาตลาด ข้าหวังว่านี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ลูกข้าจะเสียสละ”

    “ฮึย!!”

    “หลานเออร์ ไม่เป็นไรนะ ท่านอ๋องเป็นคนดี พี่เชื่อว่าเจ้าจะเป็นที่รักของคนในจวน แล้วเจ้าเองก็จะหลงรักท่านอ๋องในไม่ช้า” จางซุนหลี่ไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็แอบเสียใจอยู่ที่ให้หมิ่งหลานเสียสละให้มี่ฮวามาตลอด แต่เขาเอ็นดูมี่ฮวามากจริงๆ เพราะความสงสารที่ไม่ใช่ลูกเมียเอก เป็นแค่อนุชั้นต่ำเขาจึงรักและใส่ใจนางมากกว่าใคร อยากให้นางมีความสุขไม่ต้องคิดว่าตนเองต่ำต้อยกว่าใครอื่น หลายปีมานี้เขาต้องทนเห็นมี่ฮวาโดนดูถูก และรังเกียจ มีแต่ไท่จื่อเท่านั้นที่ไม่รังเกียจนาง แล้วคนที่เป็นพ่ออย่างเขาจะทำใจไม่สนับสนุนมี่ฮวากับไท่จื่อได้อย่างไร

    หมิ่งเทียนเป็นรองแม่ทัพใหญ่คนสำคัญของจิ้นอ๋อง เขารู้ดีต่อให้นายเหนือหัวเขาไร้ใจเพียงใด เย็นชากับสตรีที่จ้องแต่จะหวังอำนาจจากเขา แต่น้องสาวเขาไม่ใช่สตรีเช่นนั้น หมิ่งหลานทั้งเรียบร้อยอ่อนหวาน ท่านอ๋องจะอดทนกับน้องสาวเขาได้กี่วัน น้องสาวเขาออกจะงดงามออดอ้อน มีเสน่ห์ขนาดนี้ คุณชายทั่วทั้งเมืองหลวงล้วนอยากส่งแม่สื่อมาสู่ขอ แต่เป็นเพราะบารมีของไท่จื่อ จึงไม่มีใครที่ไหนกล้า

     

     

    สวัสดีคะ แวะมาแก้คำผิด ขออภัยในความไม่สะดวก

    ฝากเม้น กดใจ โดเนท ให้กำลังใจด้วยนะคะ 

    ขอบคุณจ้า


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×