ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายาอ๋องไร้ใจ (ZiYu)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 3 (1/2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.6K
      956
      1 ส.ค. 64

     บทที่ 3

    ชายาจิ้นอ๋อง

    หมิ่งหลานถูกถิงถิงปลุกมาแต่งตัวตั้งแต่เช้าทั้งที่หมิ่งหลานเองก็นอนได้ไม่ถึงสองชั่วยามด้วยซ้ำ แต่พอตื่นมาก็พบว่าเตียงว่างเปล่า จิ้นอ๋องเองก็คงลุกจากเตียงนานแล้ว จากพื้นที่ข้างเตียงว่างๆ ที่เคยอบอุ่นเปลี่ยนเป็นเย็นชืด

    “ถิงถิง ท่านอ๋องละ”

    “ทรงตื่นบรรทมแล้วเสด็จไปเรือนหู่ตั้งแต่ยามเหม่าแล้วเพคะ”

    “แล้วทำไมไม่ปลุกข้า”

    “ท่านอ๋องรับสั่งว่าให้ปลุกพระชายาในยามเฉินเพคะ” จิ้นอ๋องเห็นว่านางคงเหนื่อยมากเลยไม่ได้ปลุก ส่วนตัวเขาตื่นเช้ามืดเป็นเรื่องปกติ เพราะเขาต้องตื่นมาฝึกฝนร่างกายยามเช้า ก่อนที่จะทำภารกิจอะไรต่อ บางวันเขาก็ไปดูเหล่าทหารวิ่งที่เขาหลังจวนบ้าง จวนพยัคฆ์ทมิฬอยู่ห่างไกลจากวังหลวงค่อนข้างมาก เพราะมันเป็นพื้นที่สำหรับฝึกทหารด้วย จวนของเขาเลยมีพื้นที่มากกว่าจวนพี่น้องคนอื่นๆ แต่ที่นี่ก็ไม่ได้ห่างไกลตลาดกับชุมชน แค่จวนของเขาอยู่สุดเขตชุมชนแค่นั้นเอง และหลังจวนยังติดภูเขาอีกต่างหาก

    เมื่อจิ้นอ๋องอายุ 13 ก็ออกจากวัง ฮ่องเต้ก็พระทานตำหนักพยัคฆ์เมฆาให้ในพระราชวังชั้นนอกใกล้กับตำหนักบูรพาของไท่จื่อ ตำหนักนั้นใหญ่มากก็จริงแต่มันไม่พอสำหรับทหารแสนนาย ไหนจะข้ารับใช้ โดยทหารแสนนายของจิ้นอ๋องกระจายกำลังไปทุกเมือง ส่วนที่จวนมีทหารสามหมื่นนาย ในตำหนักพยัคฆ์ทมิฬมีหนึ่งพันนาย เลยทำให้จิ้นอ๋องไม่อาจอยู่ในวังเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ แต่ย้ายไปอยู่จวนพยัคฆ์ทมิฬแทน เพื่อความสะดวกและไม่ยึดติกับความสบายใดๆ ในวัง คือวิถีชีวิตของทหาร ส่วนตำหนักก็ว่างมานาน ถ้าไม่จำเป็นนานๆ ถึงจะไปค้างที

    “ช่างเถอะรีบพาข้าไปอาบน้ำ”

    “เพคะ” หมิ่งหลานกำลังลุกออกจากเตียงก็มีหญิงสาวมาเคาะประตูขอเข้าเฝ้า

    “พระชายาเพคะหม่อมเข้าไปได้หรือไม่เพคะ”

    “เข้ามา”

    “ถวายพระพรเพคะจิ้นหวางเฟย หม่อมฉัน จินหลิง” สตรีอายุประมาทยี่สิบปลายๆ เดินนำหน้าเด็กสาวสองคนมาแนะนำตัวกับนาง เมื่อหมิ่งหลานพิจารณาดูแล้วคนที่เดินนำหน้าคงเป็นสาวชาววังคนสนิทของจิ้นอ๋องที่เป็นการเป็นงาน ส่วนอีกสองคนไม่น่าจะเป็นสาวใช้ธรรมดาน่าจะเป็นวรยุทธ์ด้วย ดูจากการเดินที่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย

    “หม่อมฉันลี่จู (20) ”

    “หม่อมฉันลี่ถิง (19)

    “หม่อมฉันและพวกนางจะมารับใช้พระองค์ เพคะ”

    “อืม ดี ถิงถิง ให้ของขวัญต้อนรับพวกนาง” หมิ่งหลานให้ถิงถิงนำหีบเครื่องประดับชุดเล็กที่เตรียมไว้สำหรับสาวใช้และนางกำนัล เป็นของมีค่าทั่วไปที่มีตามตลาด นางต้องคอยระวังหากให้ของมีค่ามากเกินไปก็จะนำภัยมาแก่ตน น้อยไปก็ไม่ดี ทุกอย่างล้วนต้องละเอียดอ่อน

    “เจ้าคะ”

    ถิงถิงนำถุงเงินจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้มากหรือน้อยเกินไป เครื่องประดับจำพวกปิ่นเล็กๆ และต่างหู มาให้พวกนางเลือกคนละชิ้น ของขวัญต้อนรับเล็กๆ น้อยๆ ของพระชายา ต่างถูกใจพวกนางยิ่งนัก มีปิ่นทองเหลืองรูปดอกไม้ขนาดเล็กเกสรเป็นหินสีเขียวเหมาะสมกับสตรีวัยสามสิบเช่นจินหลิง ส่วนลี่จูและลี่ถิงเลือกต่างหูดอกมู่หลันคนละคู่ ลี่จูเลือกสีชมพู ส่วนลี่ถิงเลือกสีขาว

    “ขอบพระทัยเพคะ พระชายา”

    “จินหลิงท่านอาวุโสที่สุด หวังว่าจะดูแลพวกนางและจัดการเรือนข้าให้ดี ส่วนเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ สิ่งใดทำได้ สิ่งใดคือข้อห้าม เอาไว้ข้ากลับมาจากวังหลวง ค่อยทำความเข้าใจทีหลัง ตอนนี้ช่วยข้าเตรียมตัวเข้าวังก่อน”

    “ทราบแล้วเพคะ”

    “เช่นนั้นก็แยกย้ายไปทำงานได้แล้ว” เมื่อถิงถิงเตรียมน้ำให้หมิ่งหลานอาบจะต้องเตรียมถังถึงสองถัง ถังแรกเอาไว้แช่ ส่วนอีกถังเอาไว้ล้างตัว บ่าวที่มารับใช้นางต้องเรียนรู้อีกหลายอย่าง เช่นนางอาบน้ำวันละสองครั้ง เตรียมถ่านสำหรับแปรงฟัน และอื่นๆ อีกมากมาย กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็กินเวลาไปมาก ดีที่จินหลิงมีความชำนาญในการแต่งกายแบบชาววังที่ต้องใส่เสื้อผ้าหลายชิ้น และทำผมหลายชั้นที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป ใส่เครื่องประดับให้เหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อให้เกียรติท่านอ๋อง และเชื้อพระวงศ์คนอื่นด้วย

    “งดงามมากเพคะ เหมาะสมกับพระชายามากเพคะ” หมิ่งหลานใส่ชุดสีขาวปักด้วยด้ายสีเงินทั้งตัว มีระบายที่คอสีขาวและเสื้อคลุมตัวนอกสีครามน้ำทะเล เกล้าผมสูงประดับด้วยมงกุฎและปิ่นทอง เข้าคู่กับชุดเสื้อคลุมตัวนอกของจิ้นอ๋องที่ตัดจากผ้าสีครามน้ำทะเลจากพับเดียวกัน

    “ขอบใจเจ้ามากถิงถิง”

    “พระชายาเพคะ ท่านอ๋องรอพระชายาที่หน้าประตูจวนเพคะ” จินหลิงรายงานผู้เป็นนายตน ว่าจิ้นอ๋องพร้อมเข้าวังแล้ว

    “อื้ม งั้นเราไปกันเถอะ”

    “หมิ่งหลานถวายพระพรเพคะท่านอ๋อง” หมิ่งหลานย่อทำความเคารพเมื่อพบจิ้นอ๋องที่รออยู่หน้าประตูจวน และก็ได้สังเกตว่าชุดที่นางใส่วันนี้ที่แท้ก็เป็นชุดคู่ ที่ตัดจากพับเดียวกันแน่นอนขาดแต่เสื้อตัวในที่จิ้นอ๋องเป็นสีขาวล้วนไม่มีลวดลายเหมือนของนาง

    “อืม ลุกขึ้นเถอะ ขึ้นรถม้าเถอะเดี๋ยวเสด็จแม่จะรอ”

    “เพคะ”

    “ขึ้นมาสิ” จิ้นอ๋องก้าวขึ้นไปบนรถม้าและยื่นมือมาให้นางจับ

    “ขอบพระทัยเพคะ” หมิ่งหลานยื่นมือไปจับกับมือหนาที่คอยดึงนางให้เข้าไปนั่งในรถม้า หมิ่งหลานนั่งในรถม้าข้างๆ จิ้นอ๋องมาประมาท 1 เค่อ หรือ 15 นาที นางอยากหนีจากความอึดอัดจัง จิ้นอ๋องก็เอาแต่เงียบนางอึดอัดจะตายอยู่แล้ว รถม้ามันก็ไม่ได้นิ่มเหมือนรถยนต์ที่นางเคยขับ สั่นไปสั่นมาก็เริ่มวิงเวียนศีรษะหน่อยๆ นางก็เลยแอบสำรวจใบหน้าสามีชัดๆ ใกล้ๆ เพราะเมื่อคืนก็มีแต่แสงเทียนยังหล่อเร้าใจเหมือนดาราจีนในซีรีส์ ตอนอยู่หน้าจวนก็ไม่กล้ามองมากคนเยอะ เดี๋ยวหาว่าไม่ให้เกียรติกันอีก ดูไปดูมาก็หล่อกว่าเมื่อคืนอีก หน้าผากนั้นเหมือน หยางหยาง มีหยักตรงไรผมไม่มากเหมือนป๋อตีตี๋ ตาก็เฉียงหน่อยเหมือนหยางหยาง ปากดูเล็กกว่าเมื่อคืน จมูกนั้นโด่งเป็นสัน

    “มีอะไรรึ” จิ้นอ๋องถามขึ้นเมื่อรู้สึกว่าหมิ่งหลานจ้องมองเขานานเกินไปนางมองสำรวจเขาทำให้รู้สึกขนลุกแปลกๆ หากนางไม่หยุดมองเขากลัวจะไม่ถึงวังหลวง อาจจะแวะพักที่ตำหนักพยัคฆ์ทมิฬก่อนก็เป็นได้

    “เอ่อ เหตุใดไม่ปลุกหม่อมฉันละเพคะ” เมื่อถูกจับได้ว่าแอบมอง คนทำผิดที่แอบคิดไม่ดีก็คงหาทางเปลี่ยนเรื่องใหม่ ชวนคุยนั้นนี้เพื่อเอาความคิดไม่ดีออกไป

    “เห็นเจ้านอนอยู่เลยไม่อยากกวน”

    “พรุ่งนี้ปลุกหม่อมฉันด้วยได้ไหมเพคะ”

    “คืนนี้ไม่ไปหาเจ้า”

    “ทราบแล้วเพคะ” พอเห็นสายตานางดูผิดหวัง เหมือนลูกสุนัขถูกทิ้ง เขาก็รู้สึกใจหาย ถึงจะไม่ได้รักนางแต่เขาก็รู้จักนางตั้งแต่เด็กๆ เขารู้ดีนางรักพี่ชายเขา ส่วนเขาแทบไม่ได้อยู่ในสายตา จิ้นอ๋องอธิบายว่าต้องไปเหอเป่ย เมืองเล็กๆ ที่จะว่าใกล้ก็ใกล้ ไกลก็ไกลเพื่อทำงานให้ฝ่าบาท

    “หลังจากเข้าเฝ้าเสร็จ ข้าจะไปเหอเป่ย” พอเห็นนางหายหงอยเขาก็พอใจขึ้นมานิดๆ ทั้งที่ความจริงเขาจะไปไหนในต้าจินไม่จำเป็นต้องบอก หรือรายงานใครยกเว้นฮ่องเต้ไว้สักคน ยิ่งเวลาเขาไปเที่ยวเล่นฮ่องเต้จะไม่ทรงทราบ จะทราบแค่ไปทำงานราชการลับ หรือไปในหน้าที่เท่านั้น

    “แล้วจะกลับมาทันวันเยี่ยมบ้านของหม่อมฉันไหมเพคะ” หมิ่งหลานคลายกังวลแล้วก็รีบเปลี่ยนคำถาม กลัวว่าจิ้นอ๋องจะรู้ว่านางงอนนิดๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งไม่ดีมากๆ สำหรับสตรียุคโบราณที่จะมาวีน เหวี่ยง งอนให้บุรุษ ที่นอกจากไม่มีผลดีแล้วยังเพิ่มผลเสียมาอีกต่างหาก

    “ข้าจะกลับมารับเจ้าตอนเช้า ส่วนของขวัญเจ้าอยากเตรียมเองไหม หรือจะให้ข้าสั่งพ่อบ้านเตรียมให้ เพราะข้าคงไม่มีเวลาเตรียม”

    “หม่อมฉันอยากเลือกเองเพคะ” นางคงต้องเข้าใจอีกเรื่องสำหรับบุรุษผู้เป็นโล่เป็นดาบของต้าจิน สตรีจะเป็นสิ่งแรกที่เขาจะตัดทิ้งหาก เป็นขวากหนามคอยทิ่มแทงต้าจิน หรือขวางหูขวางตาเขา ฉะนั้นนางต้องพยายามที่จะพึ่งตัวเองดีที่สุด ตราบใดที่เขายังไม่แต่งหญิงอื่นเขาบ้าน นางก็ยังจะเอ็นดูเขาให้มาก เพราะคนอย่างนางไม่มีทางที่จะใช้สามีร่วมกับใคร

    “เช่นนั้นเจ้าก็ไปลองเลือกดูในคลัง สิ่งใดถูกใจก็บอกพ่อบ้านเหอ”

    “แล้วถ้าหม่อมฉันเลือกสิ่งที่พระองค์หวงหรือชอบเป็นพิเศษละ”

    “พ่อบ้านเหอจะรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร”

    “ทราบแล้วเพคะ แล้วถ้าหม่อมฉันอยากออกไปซื้อเองละเพคะ”

    “จะมีคนพาเจ้าไป”

    “แล้วถ้าของชิ้นนั้นแพงมากๆ ละ”

    “ไปเบิกเงินกับพ่อบ้านเหอ” หมิ่งหลานเจ้าก็คงยังไม่รู้ตัวหรือ ว่าของหมั้นที่ส่งไปแทบจะซื้ออำเภอหนึ่งได้ แต่พ่อแม่เจ้าก็ยกให้เป็นสินเดิมเจ้าสาวทั้งหมด แถมยังมีของเดิมเจ้ามาอีกยังจะใช้เงินข้า แต่ว่าต่อให้เจ้าจะซื้อเมืองหลวงนี้ข้าก็มีเงินมากพอ

    “สายเปย์ที่แท้ทรู”

    “เจ้าว่าอะไรนะ”

    “เปล่าเพคะ” จิ้นอ๋องผู้นี้ถ้านางชวนคุยก็พูดได้นิ แต่ถ้านางไม่ชวนคุยนึกว่าอยู่คนเดียวคนอะไรเงียบเกินเหมือนจะเก็บปากไว้พูดแต่สิ่งสำคัญเท่านั้น แต่ก็น่ารักดี เห็นนิ่งๆ ก็ใจดีเหมือนกันน๊าาาาา ไม่หวงสมบัติเลย ถ้ามีเมียเยอะแล้วเปย์ขนาดนี้รับรองไม่เกินหนึ่งปี กลายเป็นจวนร้างแน่

    “จะถึงแล้วนั่งดีๆ”

    “ก็นานเหมือนกันนะเพคะ” หมิ่งหลานนั่งรถม้ามาครึ่งชั่วยาม ไม่ใช่ว่ามันไกลนะ แต่มันไปเร็วไม่ได้เพราะคนในเมืองเยอะมาก กว่าจะมาถึงหน้าประตูวังต้องผ่านมากี่ตลาด กี่โรงเตี๊ยม

    “จวนข้าอยู่ไกลวังหลวง”

     

     

    ตำหนักคุนหนิง

    “ถวายพระพรจิ้นหวางเย่ จิ้นหวางเฟย พ่ะย่ะค่ะ” เนี่ยกงกงเฝ้าอยู่ประตูหน้าตำหนัก เห็นจิ้นอ๋องและพระชายาเสด็จมาก็รีบมาถวายความเคารพ

    “เนี่ยกงกง ฝ่าบาทก็อยู่นี้รึ” เมื่อจิ้นอ๋องเห็นเนี่ยกงกงก็รู้ทันทีว่าเสด็จพ่อประทับอยู่ตำหนักคุนหนิง เนี่ยกงกงเป็นขันทีที่รับใช้ฝ่าบาทตั้งแต่ยังเป็นองค์ชายจึงเป็นที่ไว้วางใจมาก

    “พ่ะย่ะค่ะ เชิญหวางเย่ หวางเฟย”

    “ทูลหวงช่าง ไทเฮา ฮองเฮา เหล่าเชื้อพระวงศ์จิ้นหวางเย่และหวางเฟยขอ เข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

    “ให้เข้ามา”

    “ถวายพระพรเสด็จย่า เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ไท่จื่อ พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”

    “ลุกขึ้นได้”

    “ขอบพระทัย พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ” จิ้นอ๋อง นาม หย่งจื่อ และพระชายาจางหมิ่งหลาน ย่อกายถวายความเคารพผู้มีศักดิ์สูงกว่า ซึ่งก็มี ฮ่องเต้ เซี่ยวไทเฮา จินฮองเฮา ไท่จื่อหย่งเหวิน ส่วนกัวกุ้ยเฟยแม้ศักดิ์รองลงมาแต่ก็ให้ความเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ ส่วนเว่ยอ๋องหย่งเจียง เซ่อหลี่ซูเฟย หลิวเต่อเฟย ว่านเสียนเฟย

    หย่งจินกงจู่ หย่งจูกงจู่ องค์ชายสี่หย่งเทียน ย่อเคารพเล็กน้อย

    “ย่าดีใจที่พวกเจ้ามาเข้าเฝ้าข้าสายไปตั้ง 1 ชั่วยาม” เซี่ยวไทเฮาเป็นมารดาของฮ่องเต้ พระองค์ไม่พอใจอยู่มากที่จิ้นอ๋องที่ไม่ยอมแต่งงานกับหลานสาวของนาง และไม่ยอมแม้กระทั่งแต่งตั้งเป็นชายารอง ในเมื่อนางส่งหลานคนโตแต่งเข้าตำหนักบูรพาไปแล้ว แต่ก็มิได้ตำแหน่งชายาเอกเพราะหลานสะใภ้มีแต่บุตรชายแต่บุตรีกลับไปเกิดเป็นลูกเมียรองเสียหมด จึงขาดคุณสมบัติ แต่สกุลเซี่ยวยังไม่มั่นคงนางจะต้องแต่งหลานคนเล็กเข้าตำหนักพยัคฆ์ทมิฬให้จนได้

    “ขออภัยเพคะ เป็นเพราะหม่อมฉันไม่ดีเองเพคะ”

    “เสด็จย่าอย่าตำนินางเลยเป็นเพราะหลานเอาแต่ใจมากไปหน่อย” เมื่อหลานชายตัวดีออกมาปกป้องนางก็ไม่มีอะไรจะพูด เพราะกว่าหลานคนนี้จะยอมแต่งงาน นางและฮองเฮาเสียไปตั้งเท่าไร

    “ฮ่าาาา ดี ดีมาก” ฮ่องเต้ทรงดีพระทัยเป็นอย่างมากเมื่อเจ้าลูกชายคนนี้ก็ใช้ได้ไม่น้อย ความกลัดกลุ้มของเขาหายไปอีกหนึ่งคงเหลือแต่โอรสองค์โตเท่านั้นเมื่อไหร่จะมีทายาท

    “ดีอย่างไรกันฮ่องเต้ แต่มาวันแรกก็ทำเอาเสียกฎระเบียบแล้ว” ไทเฮาค้านเสียงแข็ง

    “เสด็จแม่ก็ คนยังหนุ่มยังสาว ไม่ดีหรือพ่ะย่ะค่ะ จะได้อุ้มเหลนเร็วๆ” ฮ่องเต้ออกหน้าแก้ตัวแทนโอรส แถมยังบอกเป็นนัยๆ ว่าให้มีหลานให้อุ้มเร็วๆ ยามนึกถึงเหลนตัวน้อยๆ พระทัยก็เย็นลงบ้าง เพราะฮ่องเต้มีโอรสธิดาน้อย นางจึงค่อนข้างเหงาอีกไม่กี่ปีหย่งเทียนต้องไปอยู่นอกวังแล้ว คนแก่อย่างพระนางก็ใจหายเหมือนกัน

    “นั้นสิเพคะ เสด็จแม่ มีหลานตัวขาวอ้วนสักคนมาวิ่งเล่นในวังก็ดีนะเพคะ” ฮองเฮาเองก็อยากได้หลานไปแพ้กัน จึงรีบสนับสนุนทันที

    “ฮองเฮาเจ้าก็เอาแต่เข้าข้างสะใภ้ ต่อไปคงไม่เห็นหัวยายแก่คนนี้”

    “เสด็จย่า เป็นเพราะหลานอกตัญญูเอง แต่งชายารองมาหลายปี ก็ทำให้เสด็จย่าภูมิใจมิได้” ไท่จื่อก็รีบแก้สถานการณ์ยอมรับผิดทำตัวน่าสงสาร เพราะรู้ดีว่าเสด็จย่าแพ้ความออดอ้อน และรักเขามากที่สุด แต่เรื่องบุตรไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่ยังหาคนที่จะอุ้มทายาทมังกรที่เหมาะสมไม่ได้ จึงตัดสินใจไม่รีบมีดีกว่าไท่จื่อ เองเขาอยากให้ลูกคนแรกเกิดจากหญิงที่เขารัก หรือไม่ก็เกิดจากไท่จื่อเฟยเท่านั้น

    “นั้นสิเพคะไทเฮา หากจิ้นอ๋องกับหมิ่งหลานมีเจ้าก้อนแป้งตัวน้อยเมื่อไหร่ พระองค์จะได้ไม่เหงา อีกหน่อยหย่งเทียนก็จะต้องออกไปอยู่นอกวังแล้ว ส่วนจินเอ๋อร์กับจูเอ๋อร์ก็ได้วัยออกเรือนแล้ว”

    กัวกุ้ยเฟยรีบเสริมทัพให้เซี่ยวไทเฮาเอ็นดูหลานคนนี้บ้าง อนาคตหลานรักนางจะได้ไม่ลำบาก เรื่องรับชายารอง เพราะน้อยนักที่ชายสูงศักดิ์ที่จะมีเมียเดียว ให้ผู้ใหญ่เอ็นดูมากๆ จะเป็นผลดี

    “กัวกุ้ยเฟยเจ้าก็พูดถูกของเจ้า เช่นนั้นก็ให้จิ้นอ๋องแต่งชายารองเลยดีไหม”

    “เสด็จแม่จิ้นอ๋องยอมแต่งงานแล้ว ลูกว่าอย่าพึ่งกดดันหลานเลย” ฮองเฮาแม้จะเป็นสะใภ้ที่ดีมาตลอดไม่มีเรื่องบาดหมาง แต่บุตรีตระกูลเซี่ยวรังแต่จะสร้างความวุ่นวายให้โอรสนาง แม้นางจะอยู่แต่ในวังแต่ไม่ใช่ว่านางจะไม่รู้ว่าตำหนักบูรพาเป็นเช่นไร หากไท่จื่อไม่เห็นแก่หน้าย่าของเขา มีหรือชายารองตระกูลเซี่ยวจะหยิ่งผยองได้

    “หึ แล้วเจ้าละหย่งเจียง พอใจใครบ้าง” เมื่อแตะต้องคนพี่ไม่ได้ก็ต้องมาหาคนน้อง

    “เสด็จย่ากระหม่อมไม่รีบรอให้ไท่จื่อมีไท่จื่อเฟยก่อนก็ยังไม่สาย” พอภัยมาถึงตัวเว่ยอ๋องก็รีบโยนออกไปทันที แค่ชายารองที่เสด็จพ่อประทานให้ทำให้เขาปวดหัวขนาดนี้ หากเสด็จย่าหาให้อีกเขาคงย้ายไปอยู่ตำหนักพยัคฆ์ทมิฬแทนตำหนัก อวี้เหลียงแน่

    “แล้วเจ้าละหมิ่งหลานเป็นอย่างบ้าง”

    “หม่อมสบายดีเพคะ”

    “ก็ดี ข้าหวังว่าจะรีบมีหลานให้ข้าเร็ววัน”

    “เพคะ เสด็จแม่” หลังจากการพูดคุยดื่มน้ำชา เฮาฮองก็ประทานยาบำรุงให้ เพื่อที่จะได้ตั้งครรภ์เร็วๆ ทำหมิ่งหลานรับรู้ว่าการที่มีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นลาภอันประเสริฐ ยกเว้นไม่กี่คนเท่านั้นละที่จิกบ้าง ถามนั้นนี้ ไร้สาระ

    “เช่นนั้นหม่อมฉันทูลลาพ่ะย่ะค่ะ” งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อจิ้นอ๋องได้เวลาออกเดินทางไปเหอเป่ย จึงได้ขอตัวลากลับก่อน

    “รีบไปไหนกันหึ ลูกคนนี้” นานๆ ทีลูกคนชายคนรองจะมาเยี่ยม ยังไม่หายคิดถึงก็จะไปเสียแล้ว

    “หม่อมฉันจะไปทำงานให้เสด็จพ่อ ไปกับเจ้าสาม”

    “เช่นนั้นก็ไปเถอะ” ฮ่องเต้ก็เอ่ยอนุญาต เพราะกลัวจะเสียการเสียงาน

     

    เมื่อออกมาจากตำหนักคุนหนิง กัวกุ้ยเฟยก็เดินตามออกมาติดๆ และอยากได้ตัวหลานสาวไปพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นเสียหน่อย

    “จิ้นอ๋องหม่อมฉันขอตัวหมิ่งหลานสักครู่ เดี๋ยวให้รถม้าของวังไปส่ง”

    “พ่ะย่ะค่ะกัวกุ้ยเฟย”

    “หมิ่งหลานตามข้าไปที่ตำหนัก”

    “เพคะ”

     

    ———————————————

     

    ฝากสนับสนุนนิยายทั้งสองเรื่องด้วยนะคะ

    กดที่นี้เพื่อโหลดเลยจร้า #ชายาอ๋องไร้ใจ

    กดที่นี้เพื่อไปหน้านิยายเลยคะ #กรงรักเลือดมังกร

    sds

    มีเงื่อนงำ!!

    #ขอบคุณคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×