ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชายาอ๋องไร้ใจ (ZiYu)

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 4 (1/3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 17.48K
      806
      1 ส.ค. 64

     บทที่ 4

    เดินทั้งวันก็ไม่รอบจวน

    “จินหลิง ไปตามพ่อบ้านเหอมาพบข้า”

    “เพคะ พระชายา”

    เข้าสู่วันที่สองที่หมิ่งหลานเข้ามาอยู่ในจวนพยัคฆ์ทมิฬ นางตื่นแต่เช้าตั้งใจว่าจะตื่นขึ้นมาสำรวจเรือนตนเองเสียหน่อย เพราะนอกจากห้องนอนและห้องรับแขกนางก็ไม่เคยเดินไปไหนเลย จวนพยัคฆ์ทมิฬออกจะกว้างขวางปานนี้ ได้ยินมาว่ามีค่ายทหารหลังจวนสงสัยต้องหาเวลาไปเยี่ยมชมแล้ว

    “พระชายา เพคะ” ถิงถิงที่กำลังชงชาให้นายของตน เกิดความสงสัย พระชายาของนางจะเรียกพ่อบ้านเหอมาทำไมกัน พระชายาพึ่งแต่งเข้าจวนมาไม่กี่วัน จะรีบวางอำนาจได้อย่างไร ยิ่งพ่อบ้านเหอเป็นคนสำคัญของจิ้นอ๋อง จิ้นอ๋องยิ่งไม่อยู่ด้วยแล้ว ถิงถิงได้ยินว่าจิ้นอ๋องจะกลับมาเช้าวันเยี่ยมบ้าน แล้วยิ่งไปกว่านั้นนางเองยังไม่ทราบว่าจิ้นอ๋องโปรดปรานพระชายาหรือไม่

    “หืม”

    “พระชายาเรียกหาพ่อบ้านทำไม เพคะ” ถิงถิง กำลังรินชาโม่ลี่ ให้หมิ่งหลานหลังจากนางพึ่งรับอาหารเข้าไป ความเบื่อหน่ายของสาวยุคปัจจุบันที่ขาดโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในเรือนหมิ่งหลานก็เงียบเหงานิดหน่อย นอกจากถิงถิงแล้วก็มีสาวใช้ในจวน ที่คอยมาแวะเวียน มาถวายพระพรนางที่เรือน หมิ่งหลานนางเลยคิดจะหาอะไรทำแก้เบื่อเสียหน่อย

    “ข้ามีเรื่องจะปรึกษาพ่อบ้านเหอนิดหน่อย” หมิ่งหลานนางเข้าใจถิงถิงดี นางคงเป็นกังวล กลัวนางโดนตำหนิ นางก็อยากจะปลอบใจถิงถิงว่าจิ้นอ๋องไม่มีทางตำหนินางแรงๆ หรอก เพราะถ้าหากไม่โปรดนางมีหรือจะส่งเงาฝีมือดีอย่าง เปยหู่ จับตาดูความเคลื่อนไหวของนาง

    “เรียน พระชายา พ่อบ้านเหอมาแล้วเพคะ” จินหลิงเข้ามาเรียนหมิ่งหลานว่าพ่อบ้านเหอมาแล้ว ส่วนพ่อบ้านเหอเมื่อพระชายาทรงเรียกหาก็รีบมาโดยไว ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็อยากดูท่าทีของพระชายาผู้นี้เสียก่อน ช่างรวดเร็วเสียจริง หมิ่นหลานคิดในใจ นางยังคุยกับถิงถิงไม่เสร็จเลย แต่ก็ช่างเถอะ ไว้หาโอกาสปลอบใจถิงถิงใหม่

    “ถวายพระพร พระชายา เรียกหากระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอที่กำลังตรวจตราแถวๆ เรือนม่อหลันพอดี ก็เจอจินหลิงออกมาตามแจ้งว่า พระชายาเรียกพบเขา ด้วยเป็นผู้มากประสบการณ์จึงเดาว่า คงเป็นเรื่องของขวัญเยี่ยมบ้านให้ญาติผู้ใหญ่ของพระชายาไม่ก็อยากดูบัญชีการจัดการสิ่งต่างๆ ในจวน ส่วนตัวเขาก็ไม่ค่อยอยากยอมรับพระชายาผู้นี้เท่าไรนัก จิ้นอ๋องควรได้แต่งกับชายาที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่แต่งกับสตรีที่มักง่าย แต่งกับคนพี่ไม่ได้ก็เลื้อยมาแต่งกับคนน้อง

    “เจ้ารู้สึกไม่ว่าจวนแห่งนี้ เหมือนสถานที่อัปมงคลหรือไม่”

    “กระหม่อมไร้ความรู้ความสามารถ พระชายาโปรดอภัย” ความสุขุมเป็นผู้ใหญ่สำหรับพ่อบ้านวัยสามสิกว่า ตอบพระชายาที่นั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้ มีถิงถิงคอยรับใช้ข้างกาย ที่ตอบไปตามหน้าที่ ด้วยความนอบน้อม

    “งั้นเจ้าว่า เจ้าว่าเรือนม่อหลันของข้าเป็นเช่นไร” หมิ่งหลานมองสำรวจรอบๆ เรือนของนางไม่ต่างจากเรือนรับรองแขกเมื่อวานเลย เพียงแต่ผ้าม่านที่ใช้ตกแต่งจวนนางเน้นสีแดงทองเป็นหลัก สวนดอกไม้ใบหญ้าก็ไม่มีแม้แต่ต้นเดียวมีเพียงต้นไม้ใหญ่หน้าเรือนเท่านั้น

    “งดงามพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอตอบพระชายาด้วยความมั่นใจเรือนแห่งนี้ หรือแม้แต่จวนหลังนี้จิ้นอ๋องออกแบบเองร่วมกับชาวตะวันตกผู้หนึ่ง เครื่องเรือนทุกชิ้นย่อมทำจากไม้จื่อถาน ไม่ใช่แค่เครื่องเรือนอย่างเดียว จวนทั้งหลังก็ทำจากไม้ จื่อถานที่หายาก อายุร่วมร้อยปีทุกต้น

    “งดงามงั้นหรือ” ดอกไม้สักดอกก็ไม่มี ถึงจะงดงามจริงตามที่พ่อบ้านเหอว่า แต่ก็ยังขาดกลิ่นอายของธรรมชาติ

    “เอ่อ พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอฟังจากน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อยของพระชายาก็เกิดประมาท ว่าตนนั้นตอบสิใดผิดหรือไม่

    “แต่ตัวเปิ่นหวางเฟยยังมิพอใจ”

    “เช่นนั้นกระหม่อมจะเปลี่ยนเครื่องเรือนมาให้ใหม่” พ่อบ้านเหอเริ่มกังวลใจ เหงื่อเริ่มซึมออกมาจากผิวหนัง พระชายาถึงกับแทนตนเองว่าเปิ่นหวางเฟย ย่อมเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาพระทัยของอีกฝ่าย ยิ่งได้ข่าวลือว่าพระชายาอ่อนโยนดั่งดอกไม้เพียงต่อหน้าไท่จื่อ ลับหลังกลับเป็นสตรีที่ทำร้ายตบตีน้องสาวของตน หรือข่าวลือที่ว่าจะเป็นจริง

    “งั้น เจ้าคิดว่าเปิ่นหวางเฟยเรื่องมากเอาแต่ใจงั้นหรือ” นางไม่ได้หมายความว่าให้จัดหาเครื่องเรือนใหม่ให้นางเสียหน่อย พ่อบ้านเหอนิคิดไปถึงไหนกัน

    “หามิได้ เช่นนั้นพระชายาโปรดรับสั่งมาเถิด กระหม่อมจะจัดเตรียมตามพระประสงค์” เหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตั้งแต่ตอนแรกก็เริ่มไหลออกมาหนักกว่าเดิม เหตุใดเขาถึงได้เสียความสุขุมของตนเอง แม้ยามอยู่ต่อหน้าท่านอ๋องเขายังมีความมั่นใจว่าจะรับใช้ไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยความที่อยู่กับจิ้นอ๋องมานานกว่าครึ่งชีวิต แต่กับพระชายาเขานั้นไม่รู้อะไรเลย ทั้งสิ่งที่ทรงโปรดหรือไม่โปรด พระชายาผู้นี้ช่างมีกลิ่นอายความกดดันอ่อนๆ ต่างจากสตรีทั่วไปเลยจริงๆ

    “ดี เช่นนั้นเจ้า ไปหานักจัดตกแต่งสวนมาให้เราที” ความโล่งใจเกิดขึ้นมาทันที ที่แท้พระชายาอยากได้ดอกไม้นี้เอง พระชายายังคงเหมือนสตรีทั่วไปที่ต้องการความสวยงาม เช่น พวกดอกไม้ ต้นไม้ ผ้าสวยๆ หายาก

    “กระหม่อมเองก็มีความสามารถจัดแต่สวนพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอรีบขันอาสาด้วยตัวเอง เมื่อตอนสร้างจวนเสร็จใหม่ๆ พ่อบ้านเหออาสาจิ้นอ๋องตกแต่งสวนเอง แต่จิ้นอ๋องไม่โปรดดอกไม้ เพราะนอกจากสวยแล้วมันก็ทำอะไรไม่ได้อีก

    “เป็นไปได้รึ หากจากมีความสามารถจริง เหตุใดมีแต่ดินเปล่า ไม่มีสวนดอกไม้ในจวนเลย”

    “เอ่อ ท่านอ๋องเคยรับสั่งไว้ว่า ดอกไม้มิมีประโยชน์ มิต้องนำมาปลูกที่จวนให้เปลืองงบประมาณพ่ะย่ะค่ะ”

    “เป็นเช่นนี้เอง งั้นก็แสดงว่าถ้ามีประโยชน์ก็ปลูกได้งั้นสิ” จิ้นอ๋องไม่โปรดของไร้ประโยชน์สินะ งั้นก็แปลว่าที่เย็นชากับสตรีทุกนางก็มองว่านางไร้ประโยชน์สินะ งั้นแสดงว่าสตรีนางใดที่มีประโยชน์ก็จะเก็บไว้สินะ เช่นนั้นแล้วตัวนางละ มีประโยชน์หรือเปล่า ไม่ว่าจะตัวนางเองหรือดอกไม้ต่างไร้ค่าในสายตาคนทั้ง ต้าจิน แต่นางจะเป็นตัวที่ทำประโยชน์ระดับพรีเมียมให้ท่านเอง เหล่ากงของข้า

    “พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอไม่รู้ว่าจะตอบพระชายาว่าอย่างไรดี หากพระชายาโปรดดอกไม้ จิ้นอ๋องก็จะอนุญาตโดยง่าย เช่นนั้นคงไม่ยอมแต่งกับนาง คงไม่รับสั่งให้เขาจัดเตรียมบัญชีของจวนเพื่อให้นางเลือกของขวัญ และคงไม่เรียกใช้องครักษ์ฝีมือดีอย่างลี่จู ลี่ถิง มาค่อยอยู่รับใช้พระชายา

    “งั้นดี พ่อบ้านเหอ ไปนำดอกไม้ที่โตแล้ว มาปลูกที่สวนทุกที่ ห้ามมีดินว่างเปล่าในจวนเด็ดขาด”

    “เอ่อ พระชายา ที่ดินในจวนที่ว่างหลายร้อยไร่อีกอย่างก็เป็นที่ฝึกทหาร พระชายารอให้ท่านอ๋องกลับจากเหอเป่ยก่อนเถิด” เมื่อได้ยินคำสั่งพระชายา เขาแทบจะลมจับ ตกแต่งแค่เพียงในเรือนม่อหลัน หรือปลูกสวนที่ว่างๆ ยังพอหาดอกไม้ได้แต่นี้ถ้าให้ปลูกดอกไม้ทั้งจวนเกรงว่าดอกไม้คงต้องหมดต้าจินแน่ เพราะในจวนมีสวนดอกไม้หลายสวนมาก แต่ไม่มีดอกไม้เท่านั้นเอง แถมพื้นที่จวนก็ใหญ่มาก พระชายาจะรวมถึงค่ายด้วยหรือเปล่า

    “งั้นรึ จะว่าไปแล้วข้ายังมิได้เดิมดูรอบๆ จวนเลย” จะว่าไปแล้วนางก็เดินดูแต่เรือนตนเอง และก็ยังเดินไม่ทั่วเลย เป็นโอกาสดีที่นางจะได้เดินออกกำลังกายเสียหน่อย นางอยากหาห้องทำงานด้วย ให้นางนั่งอยู่ว่างๆ เอาแต่อ่านหนังสือ นั่งกิน นอนกินนางต้องเบื่อตายแน่ แถมยังต้องกลายร่างเป็นหมูอีกแน่

    “เช่นนั้นกระหม่อมจะพาพระชายา เดินดูรอบจวนพ่ะย่ะค่ะ”

    “ดีงั้นไป ถิงถิงอยู่นี้ แล้วเขียนรายชื่อดอกไม้ที่ข้าต้องการปลูกไว้ ข้ากลับมาค่อยให้พ่อบ้านเหอไปจัดการ” หมิ่งหลานสั่งงานถิงถิง เมื่อคืนก่อนนอนนางให้ถิงถิงเอาตำราทำน้ำหอมออกมา นางได้เขียนรายชื่อดอกไม้ชนิดต่างๆ ที่ต้องการ แต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี นางเลยให้ถิงถิงจัดการต่อ

    “จวนพยัฆค์ทมิฬ มีห้าเรือนใหญ่ๆ เรือนหู่ ม่อหลัน โม่ลี่ จู๋จื่อ และเถาจื่อ” พ่อบ้านเหออธิบายเรือนให้หมิ่งหลานฟังในระหว่างที่เดินไปดูเรือนต่างๆ พบว่าในจวนมักจะเป็นที่พักอาศัยของจิ้นอ๋องและคนสนิท ไม่มีที่พักสำหรับทหาร แสดงว่าทหารต้องอยู่ค่ายฝึก

    “ท่านอ๋องอยู่เรือนหู่ ข้าอยู่ม่อหลัน แล้วอีกสามเรือนละ”

    “มีสองเรือนที่ืยังว่างพ่ะย่ะค่ะ ส่วนเรือนจู๋จื่อ ท่านอ๋องเอาไว้รับรองไท่จื่อ” เรือนจู๋จื่อ บริเวณป่าไผ่ติดกำแพงอยู่ท้ายจวนใกล้ทางไปค่ายทหาร ตัวเรือนทำจากไม้หวางฮวาหลีสีไม้อ่อนๆ ผสมกับเครื่องเรือนไม้ไผ่ มิน่าล่ะ ไท่จื่อถึงโปรดปรานนัก ดูเหมาะสมกับหย่งเหวินดี

    “อืม แล้วที่นี้ละ”

    “นี่เป็นหอคำภีร์และห้องทรงอักษรพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอแนะนำหอคำภีร์ส่วนตัวของจิ้นอ๋องที่เก็บคำภีร์และตำราพิชัยสงครามต่างๆ ไว้ที่นี้ เพื่อไม่ให้คนนอกแอบเข้ามาอ่านตำราที่เป็นความลับ และตำราต้องห้าม เลยมีเวรยามรักษาความปลอดภัยตลอดสิบสองชั่วยาม

    “ลี่จู ลี่ถิง ไปตามบ่าวชายมาวัดพื้นที่ตรงนี้ ตามมาเยอะๆ ละ ยังมีอีกหลายที่”

    หมิ่งหลานเข้ามาดูข้างในห้องอักษรที่เป็นห้องทำงาน มีตำรามากมา พ่อบ้านเหอ บอกว่าตำราในห้องนี้อ่านได้ทุกเล่ม ถ้าเป็นตำราสำคัญจิ้นอ๋องจะเก็บไว้ในหอคำภีร์และนางก็ไปสะดุดตากับสวนว่างเปล่าที่ห้องอักษร นางเลยคิดว่าจะหาดอกไม้สีอ่อนมาประดับ เวลาจิ้นอ่านตำรามากๆ มองไปข้างนอกเป็นไม้สีเขียวจะทำให้สบายตามากขึ้น ผลการวิจัยออกมายืนยันแล้ว

    “เพคะ”

    “อ้อ ส่งคนไปวัดพื้นที่หน้าเรือนข้าด้วย แล้วก็ส่วนหน้าต่างตรงนั้น พ่อบ้านเหอ หน้าต่างตรงนี้หาดอกฮุ่ยหลัน ฮุ่ยจื่อ ชุนหลัน หลันฮวา มาห้อยใส่ต้นไม้ไว้ เอาไม้ประดับกระถางใหญ่มาด้วยละ”

    “พ่ะย่ะค่ะ” พระชายาไม่เพียงจะเปลี่ยนแปลงเรือน แต่ยังจะเปลี่ยนจวนให้กลายเป็นสวนดอกไม้ เห็นทีนายใหม่ของเขาคงไม่ต่างจากจิ้นอ๋องเท่าไหร่ ถ้าหากทั้งสองพระองค์มีปากเสียงกัน บ่าวไพร่คงอยู่ยากเสียหน่อย เพราะจะมีสตรีที่ไหนแต่งมาวันที่สองแล้วลุกมาจัดบ้านสามีใหม่ เขายอมให้พระชายาวางอำนาจกับบ่าวไพร่ยังดีกว่าเห็นพระชายางัดข้อกับท่านอ๋อง

    “นี่เป็นเรือนหู่รึ” หมิ่งหลานเดินมาเรื่อยๆ ฟังพ่อบ้านเหอแนะนำสิ่งต่างๆ มากมาย แล้วนางก็มาสะดุดเรือนที่มีกำแพงสีดำสนิทตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีดำ มีลายกรอบประตูตัดด้วยสีเงิน ป้ายอักษรด้านบนเขียนว่าหู่

    “เพคะ” หมิ่งหลานนางเดินเข้ามาสำรวจสวนในจวน เรือนนี้ไม่มีทหารเฝ้ายามอยู่เลย ไม่มีบ่าวไพร่ด้วย แต่นางก็ไม่ได้เดินเข้าไปข้างใน นางดูเพียงสวนรอบนอก

    “วัดพื้นที่ตรงนี้ด้วย เอาหญ้าอ่อนมาใส่ เอาไม้ประดับต้นเตี้ยและไม้มงคลมาก็พอ” เมื่อออกจากเรือนหู่ไปนิดหนึ่งก็เห็นประตูสีแดงขนาดใหญ่ ประตูปิดสนิท มีทหารยามเฝ้าอยู่

    “ประตูนี้ไปที่ไหนกัน”

    “เรียนพระชายา ประตูนี้จะออกจากเขตจวน ไปเป็นเขตลานสำหรับฝึกทหาร และที่อยู่อาศัยของเหล่าทหารด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

    “แล้วปกติทหารจะเข้าออกจวนทางไหนกัน”

    “ทางประตูใหญ่ทิศตะวันออก ถ้าหากพวกทหารอยากเข้าในเมืองก็ใช้ประตูใหญ่หน้าจวนได้ จะมีเส้นทางสำหรับทหารอยู่พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหออธิบายทางออกสำหรับทหารที่จะมีประตูต่างหาก มีขนาดทางเดินกว้างห้าเมตร จะออกไปป้อมยามหน้าประตูจวน

    “งั้นข้าเข้าไปดูหน่อยได้ไหม”

    “มิได้ พ่ะย่ะค่ะ อ้อ หากจะเข้าไปต้องได้รับอนุญาตจากท่านอ๋องก่อน” หมิ่งหลานอยากเข้าไปดูในค่ายทหารบ้าง ปกติแล้วนางเป็นชอบวัตถุโบราณ พวกเครื่องประดับ อาวุธ สิ่งของพวกนี้มักจะมีเรื่องราวติดตัวมากับมัน บ้างชิ้นก็เรื่องราวที่น่าสนใจเป็นที่สุดของที่สุด เช่น พวกเครื่องประดับของราชวงศ์ชิง แจกันโบราณ ยิ่งถ้าเป็นอาวุธโบราณคงน่าสนใจไม่น้อย ในทุกศึกสงคราม ปลายคมๆ นั้น จะดูดเลือดคนมาแล้วกี่พันคนกัน จะผ่านความเจ็บปวดการหลอมดาบเป็นอาวุธชิ้นใหม่

    “อืม”

    “ข้าเดินนานละ นำทางข้ากลับไปเรือน” หมิ่งหลานเริ่มเหนื่อยแล้วอีกอย่างนางรู้สึกหิวและก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง นางสังเกตจากพระอาทิตย์ตรงหัวนางพอดีคงได้เวลาพักผ่อนยามบ่ายแล้ว

    “นี้โรงเก็บอะไร ทำไมมาอยู่เขตเรือนข้าด้วย ข้าสามารถเข้าไปดูได้หรือไม่” พอ หมิ่งหลานเข้ามาในเขตเรือนของตนก็สังเกตเห็นโรงเก็บอะไรสั่งแถวสักอย่างแถวต้นไม้ใหญ่ นางจึงชี้นิ้วและหันไปถามพ่อบ้านเหอ

    “เรียนพระชายา ปกติท่านอ๋องใช้เก็บอาวุธตอนยังไม่ได้สร้างค่ายหลังจวน พอทำค่ายเสร็จอาวุธก็ย้ายไปที่นั่น ที่นี้เลยใช้เก็บของแทน” หมิ่งหลานเข้ามาสำรวจภายในโรงเก็บของแห่งนี้ ด้านในเป็นพื้นที่โล่งเปล่ามีของเล็กน้อยๆ นางคิดว่าจะพื้นที่งานอยู่ด้วย ที่นี่ก็ดีนะ ไม่ไกลจากห้องนอนนาง แถมก็เหมาะสำหรับงานของนาง หมิ่งหลานคิดจะสร้างเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิง และน้ำหอมที่สกัดจากดอกไม้ นางต้องลองทำดูก่อนว่าจะประสบผลสำเร็จหรือเปล่า

    “งั้นหาคนมาจัดการให้ข้า เก็บของออกไปให้หมด ทำความสะอาดด้วย อ้อ หาช่างไม้มาให้ข้าด้วย” หมิ่งหลานร่างแบบห้องทำงานไว้ในหัว ห้องทำงานนางต้องมีครบทุกอย่าง นางต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ต้าจินต้องมีวัตถุนิยมสำหรับคนชั้นสูง

    “พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหอก็รับคำสั่งให้ไปหาช่างไม้ที่ดีที่สุดในเมืองหลวง

    เมื่อนางกลับถึงเรือน ถิงถิงก็ชงชาหอมๆ เป็นชาเหมยกุ้ยฮวาแน่ๆ นางได้กลิ่นดอกกุหลาบ หมิ่งหลานนั้นนอกจากจะสายตาดีแล้ว หู และจมูกนางก็ดีเป็นพิเศษ เพียงแค่ดมกลิ่นนางก็รู้ว่าเป็นกลิ่นของอะไร แต่ก็ใช้ไม่ได้ผลกับพวกยาพิษที่ไร้รสไร้กลิ่น เพราะนางคงจะไม่ใช่ลูกรักพระเจ้าขนาดนั้น

    “พระชายา ชาเหมยกุ้ยฮวาเพคะ”

    “ขอบใจถิงถิง”

    “เอาชุดกระดาษเครื่องเขียนมาให้ข้า” หมิ่งหลานใช้พู่กันร่างแบบสวนหลายแผ่น พร้อมกับเขียนชื่อพรรณไม้กำกับให้พ่อบ้านเหอหาคนมาจัดการ นางร่างแบบสวนก็ใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะร่างเสร็จก็บ่ายคล้อย และยื่นให้ลี่ถิงนำไปให้พ่อบ้านเหอ

    “ลี่ถิง นำแบบสวนพวกนี้ไปให้พ่อบ้านเหอจัดการ”

    “เพคะ”

    “พระชายาทรงพักสักหน่อยนะเพคะ” ถิงถิงพูดด้วยความเป็นห่วง พระชายาร่างแบบสวนเพลินจนไม่ยอมแตะข้าวสักเม็ด หากนางเป็นอะไรขึ้นมา มีสิบหัวก็คงรับผิดชอบไม่ไหว

    “พวกเจ้าว่าจิ้นอ๋องจะทำภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดีหรือเปล่า” หมิ่งหลานพอนางว่างเว้นจากการทำงานก็คิดถึงจิ้นอ๋อง หากมีสงครามแล้วเขาต้องจากนางไปนานๆ นางคงต้องกลายเป็นสตรีบ้างานแน่นอน เพราะถ้านางว่างก็คงนึกถึงเขา

    “ทรงอดทนรอหน่อยนะเพคะ พรุ่งนี้อีกวันเดียวจิ้นอ๋องก็จะเสด็จกลับมาแล้ว” จินหลิงผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนก็ได้แต่ปลอบพระทัยพระชายาผู้นี้

    “ข้าจะรอ”

     

    ฝากสนับสนุนนิยายทั้งสองเรื่องด้วยนะคะ

    กดที่นี้เพื่อโหลดเลยจร้า #ชายาอ๋องไร้ใจ

    กดที่นี้เพื่อไปหน้านิยายเลยคะ #กรงรักเลือดมังกร

    sds

     

    เจอกันน้า

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×