ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~~เออกูผิด ภาค 2~~(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #43 : ~~เออกูผิด 2...ตอนที่ 26~~ (โม้ทั้งตอน 5)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 491
      0
      24 ม.ค. 52

    “ ดูเรื่องอะไรดีเอกให้โจ๊กเลือกให้แล้วกัน ” แล้วไอ้หมอกับผมก็มายืนเงยหน้าอ่านรอบเวลาหนังกันสองคน

    “ เอาจริงดิ ”

    “ ทำไม  ไม่อยากดูเหรอ ”

    “ เปล่า  แค่ถามมาจะให้ผมเป็นคนเลือกเหรอ ”

    “ อืม  เอาเลยตามใจโจ๊กอยากดูเรื่องไหนอ่ะ ”

    “ งั้นเรื่องนี้ไหม ” ผมชี้ไปที่หนังเรื่องหนึ่งซึ่งก็ได้รับคำตอบออกมาทางสีหน้าไอ้หมอประมาณว่า...เอาจริงเหรอ

    “ ........... ”

    “ อย่าบอกนะว่าเป็นหมอแต่เสือกกลัวผีอ่ะ ”

    “ เปล่า  แค่แปลกใจที่โจ๊กชอบดูอะไรแบบนี้  ส่วนใหญ่เอกเห็นเค้าชอบดูอะไรบู้ๆ กันไม่ใช่เหรอ ”

    “ เปลี่ยนใจยังทันนะ ”

    “ จากหนังเหรอว่าจากโจ๊กอ่ะ  ถ้าอย่างหลังขอยืนยัน  นั่งยัน  นอนยันด้วยซิเอ้าว่าไม่เปลี่ยนใจ ”

    “ ตามใจ ”

          ผมเดินเข้าแถวซื้อตั๋วหนังทันที  ไอ้หมอเดินตามมาเลือกที่นั่งด้วย...  หนังรอบนี้ดูจากแถวที่ผมเลือกแล้วผู้คนช่างให้ความสนใจหนังแนวนี้กันน้อยจังแฮะ  หรืออาจเป็นเพราะหนังเข้ามานานเป็นอาทิตย์แล้วก็เป็นได้คนเลยเข้ามาดูน้อยลง

    “ เอาแถวนี้ครับ  เอาตรงนี้ด้วย ” ไอ้หมอยื่นหน้ามาชี้จุดที่ต้องการใช้เป็นจุดพักตูดตลอดเวลาในการดูหนัง

    “ แถวนี้ดีกว่าไหม  ที่เอกชี้มันไม่มีผู้คนเอาซะเลย ”

    “ กลัวเหรอ ”

    “ ผีอ่ะไม่กลัว  โจ๊กกลัวเอกมากกว่า ”

          อายเจ้าหน้าที่ซะเหลือเกินครับ  เพราะพอผมยืนเถียงเรื่องที่นั่งเจ้าหน้าที่เค้าก็แอบยิ้มแล้ว (หรือเค้าคิดอะไรไปไกลกว่านั้น)

    “ เอาตรงนี้แหละ  มุมกลางๆ ไม่ปวดคอด้วยแล้วดีต่อสุขภาพตา ”

    “ แล้วสุขภาพกายผมอ่ะ ” ผมเริ่มไม่ไหวใจมัน

    “ เอาน่าเอกไม่ยอมให้โจ๊กปล้นสวาทกลางโรงหนังหรอกนะ  ถึงแม้ใจมันจะเรียกร้องแค่ไหนก็เถอะ ”

    “ ตลกแระ  เดี๋ยวมีเหนี่ยว ”

          เจ้าหน้าที่แอบยิ้มไปกับคำพูดไอ้หมอก่อนจะจิ้มจึกๆ ให้ตั๋วไหลออกมาโดยไม่ฟังคำทัดทานผมซักกะติ๊ดดดดด

    “ นี่ครับตั๋ว  ดูหนังให้สนุกนะครับ ^^ ” เจ้าหน้าที่แม่งยิ้มหน้าบาน  ผมว่ามันคงแอบภูมิใจในผลงานชิ้นโบว์แดงนี้เอามากๆ

    “ ขอบคุณครับ ^^ ” ไอ้หมอเอื้อมมือออกไปรับหน้างี้บานกว่ากระด้งซะอีก

    “ ปะ  ได้แล้ว ” ไอ้หมอชูตั๋วสองใบให้ผมดูก่อนจะลากถูฉุดผมออกมาจากตรงนั้น

    “ กินไรไหม  น้ำ  ขนม  หรือว่าจะเอา.....ผลไม้ไหม  เดี๋ยวเอกไปซื้อให้ ”

    “ ไม่เอาแล้วอิ่มมาก ”

    “ อืม  ตามใจ  นี่อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าหนังจะเข้า ”

    “ แล้วไง  ทำไมจะไปโยนโบว์ก่อนเหรอไงจะได้นั่งรอ ”

    “ เปล่า  เอางี้เราไปเดินดูของกันก่อนไหม  ไม่ได้มาเดินห้างนานแระ ”

    “ ไม่อ่ะขี้เกียจ ”

    “ โธ่ๆ นะๆ เดินแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ”

    “ ก็บอกว่าขี้เกียจไง ”

    “ ก็แค่อยากให้เดินท้องจะได้ย่อยง่ายๆ เห็นกินเข้าไปเยอะขนาดนั้นก็เลยเป็นห่วง ”

    “ แล้วใครมันสั่งมาเล่า ” ผมจ้องหน้าไอ้คนโรคจิต  แม่งเห็นผมกินได้หน่อยเดี๋ยวเดินไปสั่งโน่นนี่ต่อจนของกินเต็มโต๊ะไปหมด  สุดท้ายคนที่ต้องทำหน้าที่เป็นเทศบาลเก็บกวาดก็ไม่พ้นเป็นผม

    “ ก็เห็นกินซะอร่อยออกขนาดนั้นก็นึกว่ายังไม่อิ่ม ”

    “ ไม่ต้องมาพูดเลย  อิ่มจนจะอ้วกอยู่แล้วเนี้ย ”

    “ งั้นนั่งพักก่อนไหม ”

          แล้วผมกับไอ้หมอก็เลือกที่จะนั่งพักพุงกันแถวหน้าโรงนั่นแหละครับ อารมณ์นี้เดินไม่ไหวแระคิดว่าให้กลิ้งไปจะง่ายกว่า  ช่วงนั่งรอผมกับมันก็คุยเรื่องไร้สาระกันไปเรื่อยจนได้เวลาหนังเข้า

    “ ไป ”

    “ เดี๋ยวก็ได้ไงเค้าก็ยังไม่ฉายเร็วหรอกน่า ”

    “ ตามใจ ”

    “ งั้นไป ” แค่อยากกวนตีนมันครับ

    “ เอาไงแน่ครับคุณชาย ”

    “ ก็ไปไง  ไม่ดูใช่ไหมหนังอ่ะ ”

    “ ดูสิครับ ^^ โหไม่ดูนี่เสียใจแย่เลยนะ 555+ ”

    “ ไอ้บ้า ”

          ในโรง...

    “ แถวเราไม่มีใครเลยแฮะ ”

    “ อย่ามาบ่นนะก็บอกแล้วไงว่าให้เอากลางๆ ” 

    “ ไม่ได้บ่นแค่อยากบอกว่าดีแล้ว ^^ ”

    “ ประสาท ” 

          แล้วหนังตัวอย่างก็เริ่มมาเราสองคนก็เงียบกันไปซักพัก  จนหนังเรื่องที่เราดูก็เริ่มฉายไฟก็มืดลง  ผมมองซ้ายขวา...โล่งเลยครับ  ไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่เลย  ก็มันเป็นหนังผีมั้งครับคนเลยเลือกที่จะนั่งอยู่ใกล้ๆ กันเป็นกลุ่มๆ

    “ หนาวเนอะ ” ไอ้หมอเริ่มมีกอดอก

    “ แล้วจะให้ทำไงอ่ะ ”

    " ไม่รู้สิ " ไอ้หมอหันหน้ากลับไปสนใจหนังต่อหลังจากที่ให้ท่าผมแล้วผมไม่สนใจมัน

    " ทนไหมไหวก็บอกแล้วกันนะ "

    " หมายความว่าไง "

    " ก็จะได้เลิกดุหนังไง  จะมาทนนั่งหนาวอยู่ทำไมสู้ออกไปเจออากาศปกติข้างนอกไม่ดีกว่าเหรอไง "

    " ไม่  เอกจะดูหนังให้จบ "

    " งั้นก็อย่าบ่นสิ "

    " ครับ  ไม่บ่นแล้วครับ "

          แล้วผมกับมันก็นั่งดูหนังกันต่อไปแต่คงเพราะคนที่เข้ามาดูรอบนี้มีน้อยไปมั้งครับ  ไม่นานผมก็รู้สึกว่าอากาศในห้องนี้มันชักจะเย็นขึ้นๆ จริงๆ ด้วย 

    " เริ่มหนาวแล้วล่ะซิ " ไอ้หมอเขยิบเข้ามาเบียดตัวเข้าหาผม

    " ตลกแระ "

    " ไม่หนาวแล้วกอดอกทำไมครับคนเก่ง " มันกระแนะกระแหนผมที่กอดอกเพราะความหนาวอยู่ครับ

    " อุ่นขึ้นไหม " ไอ้หมอเริ่มเบียดตัวเข้าหาผมชิดขึ้นกว่าเก่าอีก

    " ห่างๆ หน่อยก็ได้นะ  เข้ามาใกล้ระวังผมจะ "

    " จะอะไร  จะปล้ำเหรอ "

    " จะถีบเอาล่ะซิไม่ว่า  เถิบไปห่างๆ เลย "

    " ก็มันหนาวนี่หน่า "

    " เป็นผู้ชายซะเปล่าความอดทนไม่มีบ้างเหรอไง "

    " ก็ไม่อยากมีนักหรอก  ยิ่งเวลาที่ได้อยู่กับคนที่สนใจอย่างนี้อะไรปล่อยได้ก็ยากปล่อยๆ มันออกมา "

    " ปล่อยบ้าอะไร  พูดเรื่องอะไรไม่เข้าใจ  จะดูไหมหนังอ่ะ " ผมหันไปดุมันก่อนจะเขยิบตัวหนีออกมา

    " โจ๊ก  เป็นเกย์มานานแค่ไหนแล้ว "

    " ถามเหมือนผมเป็นโรคติดต่อ  เกย์นะไม่ใช่ไข้หวัดจะได้รู้ว่าเริ่มมีอาการตอนไหน "

    " อย่างไงมันก็ต้องมีช่วงเวลาที่ตัวเองรู้สึกว่าสนใจผู้ชายเป็นครั้งแรกบ้างล่ะ "

    " แล้วเอกจะอยากรู้ไปทำไม "

    " อยากรู้เฉยๆ ก็แค่นั้น "

    " แล้วหมอล่ะ "

    " ก็คงเป็นตอนที่ได้เจอหน้าโจ๊กเป็นครั้งแรกมั้ง "

    " เวอร์วะ "

    " นั่นสิ  นี่เอกก็ยังไม่อยากเชื่อตัวเองอยู่เลย  ว่าไงเอกตอบคำถามโจ๊กไปแล้วนะทีนี่โจ๊กต้องตอบคำถามเอกบ้าง "

    " ตอนโตแล้วนี่แหละ "

    " แฟนคนแรกก็เป็นผู้ชายเลยเหรอเปล่า "

    " เมียผมยังไม่เคยถามคำถามนี้กับโจ๊กเลยนะ "

    " เค้าอาจจะยังไม่อยากรู้  แต่เอกอยากรู้นี่หน่า "

    " เพื่ออะไร "

    " คำตอบเดิมๆ ก็แค่อยากรู้ "

    " จริงๆ โจ๊กก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงนะตอนเรียน  สมันนั้นยังเด็กๆ มองโลกก็คงเป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่อยากมีสาวๆ เอาไว้อวดเพื่อนว่าเราแน่เราเก่งอะไรทำนอนนั้น "

    " เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนเหรอ "

    " สวย  ฉลาด  เรียนเก่ง  คนจีบตรึม "

    " งั้นก็แปลว่าโจ๊กคงโดนใจเธอสิเธอถึงได้เลือกโจ๊กมาเป็นแฟน "

    " เปล่า "

    " อ้าว  งั้นเพราะอะไรล่ะ "

    " เพราะโจ๊กรู้จักเธอดีกว่าที่คนอื่นๆ รู้จักเธอมั้ง "

    " รู้จักดีกว่าเหรอ "

    " เธอมีอะไรกับผู้ชายตั้งแต่ยังไม่จบประถม 6 ซะด้วยซ้ำ "

    " หา "

    " บ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน  เราโตมาด้วยกันแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะชอบกันจนเราโตนี่แหละ "

    " หมายความว่าไง "

    " ก็อย่างที่บอกเธอเป็นคนสวยมาตั้งแต่เด็ก  ยิ่งโตก็ยิ่งสวยคนอื่นๆ ก็เลยอยากได้เธอกันทั้งนั้น  พอเพื่อนเริ่มจีบเธอมันก็กลายเป็นเกมส์ที่เราแข่งขันกันในหมู่ผู้ชายโดยที่เธอไม่รู้ "

    " จีบเพื่อชัยชนะอย่างนั้นเหรอ "

    " ก็ประมาณนั้น  แต่โจ๊กภาษีดีกว่าเพราะเราบ้านใกล้กันและแถมไปรู้ความลับเรื่องของเธอเข้า "

    " โจ๊กคงไม่ได้เอาเรื่องความลับไปขู่เพื่อให้ได้ชัยชนะมาใช่ไหม "

    " ไม่ถึงขนาดนั้น  มันเป็นเรื่องบังเอิญนะ  โจ๊กก็แค่ไปเห็นเธอตอนมีอะไรกับเพื่อนผู้ชายต่างโรงเรียนก็เท่นั้น "

    " แล้ว "

    " เธอมาขอร้องว่าอย่าบอกพ่อแม่เหรอว่าใครทั้งนั้น  เธอบอกโจ๊กเองว่าต้องการอะไรจะให้ทุกอย่างแม้แต่ "

    " แม้แต่อะไร " ไอ้หมอชะโชกหน้ามาจ้องหน้าผม

    " ............. "

    " แล้วโจ๊กก็เลยสนองตอบเธอไปสินะ "

    " เปล่า  แค่บอกว่างั้นเรามาเป็นแฟนกันในนามไหม "

    " แล้ว "

    " ก็ยอมไง  โจ๊กก็คบกับเค้ามาเรื่อยๆ แต่ก็แค่ในนาม  จนเราต่างฝ่ายต่างก้แยกกันไปเองแบบไม่รู้สาเหตุ "

    " ไม่สนใจอึบผู้หญิงอย่างเธอบ้างเหรอไง "

    " ทำไม่ลง  ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะ  แต่แค่เห็นว่าโตมาด้วยกันอีกอย่างก็ไม่ได้รักกันจริงๆ ซะหน่อย "

    " เหรอ "

    " อืม "

    " ขอบใจนะที่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้เอกฟังนะ ^^ "

    " ก็เห็นอยากรู้  อีกอย่างก็ไม่เห็นจะมีอะไรตอนนี้เธอก็ได้ดิบได้ดีไปแล้วมั้ง "

    " อืม "

    " แล้วจะดูไหมหนังนะ "

    " ดูสิ ^^ "

          โดนของเหรอเปล่าวะกู...ยอมเล่าเรื่องในอดีตให้คนแปลกหน้าอย่างมันฟังได้ไง  แต่ผมกับมันก็นั่งดูหนังด้วยกันจนจบเรื่องก่อนจะออกมายืนเคว้งอยู่หน้าโรงหนัง

    " หิวไหม "

    " ไม่อ่ะ  โจ๊กต้องกลับแล้วนะเอก  นี่ก็เย็นมากแล้ว "

    " กินข้าวด้วยกันก่อนสิ  มีอยู่ที่หนึ่งของกินงี้อร่อยอย่าบอกใครเลย "

    " ที่ไหนอ่ะ "

    " เอาน่าแล้วจะบอก  ไปกันเถอะ "

    " เดี๋ยวจะไปอย่างไง "

    " รถเมล์ "

    " เฮ้ยแต่ว่า "

    " เอาน่าขืนเอารถไปก็ไม่มีที่จอดอยู่ดี  ไปเดี๋ยวคนเยอะไม่มีที่นั่งนะ "

    " แต่ว่า "

    " ขอแค่อยู่ด้วยกันอีกแปปไม่ได้เหรอไงโจ๊ก  เอกไม่พาไปฆ่าหรอกน่า "

    " ห้ามเกินทุ่มนะ "

    " 3 ทุ่ม "

    " 2 ทุ่มพอ โจ๊กต้องรีบกลับบ้าน "

    "  2 ทุ่ม ครึ่ง โอเคปะ  ไหนจะรถติด  ไหนจะรอสั่งอาหารอีก  แล้วไหนจะต้องเสียเวลากินอีก "

    " ก็ได้ "

    " งั้นตามเอกมา "

          เรานั่งรถปอ.(ขอไม่บอกนะครับ)ไปลงที่(ขอไม่บอกอีกเช่นกันครับ555+) ผมไม่รู้หรอกครับตอนนั้นว่าปลายทางที่เราจะไปกันนะมันอยู่ตรงไหน  เพราะพอผมขึ้นรถมาได้มันก็มีที่นั่งเหลือว่างอยู่อย่างละที่ระหว่างตรงกลางรถกับหลังรถ  ผมเลือกเดินเข้าไปนั่งข้างในสุดโดยมีไอ้หมอเดินตามมานั่งอยู่ช่วงกลางรถ  ไอ้หมอหันมาชูแบงค์ร้อยให้ผมดูเพื่อบอกว่ามันจะจ่ายค่ารถให้เอก  ส่วนผมก็นั่งสบายๆ ดูข้างทางไปเรื่อยจนคนข้างๆ ผมลงนั่นแหละครับ

    " เถิบไปนั่งข้างในสิ "

    " อ้าว " ไอ้หมอคงรอโอกาสนี้มานานแล้วครับ  เพราะเวลาที่รถถึงป้ายที่ไรมันจะหันมาดูข้างหลังตลอดว่ามีที่ว่างไหม  และตอนนี้มันก็มีแล้วครับแถมยังอยู่ข้างๆ ผมอีกต่างหาก

    " คนเยอะดีจังเนอะ " ไอ้หมอหันมายิ้มให้ผม

    " แล้วนี่จะไปลงที่ไหนอ่ะ "

    " เดี๋ยวถึงแล้วจะบอกเองน่า  หิวแล้วเหรอ "

    " เปล่า  แค่...เรามาไกลเกินไปแล้วนะ " ผมหันไปมองข้างทางที่รถแล่นผ่าน  แถวนี้ผมไม่คุ้นเลยแฮะหวังว่าเราคงไม่ต้องไปลงสุดป้ายรถเมล์หรอกนะ

    " เดี๋ยวก็ถึง อีกแปป "

          ยังโชคดีที่ปอ.คันนี้เค้าเปิดเพลงให้ผู้โดยสารฟังครับ  ไม่งั้นมีหวังผมคงเฉาตายเสียก่อนที่จะถึงที่หมายแน่ๆ ผมนั่งมาได้ซักพักเราก็ต้องมาต่อรถอีกคนและอีกคนจนผม...

    " โจ๊ก  โจ๊ก "

    " อืมม "

    " ตื่นๆ ถึงแล้ว "

    " เฮ้ยย " ผมสะดุ้งสุดตัวเลยครับ  ตายห่ากูหลังไปได้ไงว่าเนี้ยแถมหลับไม่หลับเปล่าเสือกไปพิงหัวกับไหล่ไอ้หมอเสียอีกต่างหาก  ตายๆ

    " ปะลง "

          ผมลงรถมาได้ก็ยืนหมุน 360 องศาเลยครับ  ไม่คุ้นเลยแฮะที่ไหนว่าเนี้ย

    " เราต้องเดินข้ามไปฝั่งโน้น "

    " ถึงแล้วใช่ไหม "

    " ไป " มันไม่สนใจผมเลยครับจะบังคับให้ผมข้ามถนนท่าเดียว  จนผมข้ามมาได้อย่างปลอดภัย

    " ที่นี่ที่ไหนวะ "

    " นั่งรถต่ออีกนิดนะ "

    " เดี๋ยวอะไรนะ  นี่ยังไม่ถึงอีกเหรอ  นี่มันไกลมากขนาดนั้นก็ไม่ต้องไปกงไปกินมันแล้วมั้ง "

    " นั่งเข้าซอยนิดเดียวเอง  เหรอว่าจะเดินเลือกเอา "

    " ไกลมากเลยนะ  แล้วนี่กว่าจะกลับเข้าเมืองไม่เที่ยงคืนเหรอไงเอก "

    " ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว  น่านะไปเอกหิวแล้ว "

          สุดท้ายก็ต้องตามเค้าไป...ก็มันหิวแล้วนี่ครับ  ผมเดินตรงไปขึ้นรถสองแถวตรงเข้าซอยทันที  ไม่อยากบอกเลยครับว่าสองข้างทางดูมันบ้านๆ ออกมาทางชานเมืองมากครับ  อากาศเย็นสบายมีหนุ่มสาวโรงงานที่พึ่งจะเลิกงานเดินอยู่สองข้างทาง  ผมมองภาพผู้คนที่ออกมาเดินจับจ่ายซื้อของแล้วคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดเหรอเกินครับ

    " ปะถึงแล้ว "

    " อืม " 

    " โน่นไงร้านที่ว่า  ทั้งแถบเลยมีแต่ของอร่อยๆ ทั้งนั้น "

    " แต่มันไกลมากเลยนะ "

    " จริงๆ ถ้ารถไม่ติดก็ไม่ไกลหรอกนั่งแปปเดี่ยวก็ถึงที่ทำงานแล้ว "

    " เดี๋ยวอะไรนะ " มันพูดเหมอนบ้านมันอยู่แถวนี้เลยแฮะ

    " โจ๊กเชื่อไหม  ถึงเรานั่งร้านไหนก็แล้วแต่นะแต่เราสามารถสั่งอาหารของร้านอื่นๆ มากินที่เดียวกันได้หมดเลยนะ "

    " เหรอ "

    " ไม่เชื่อเหรอ  เดี๋ยวจะสั่งให้ดู "

          ผมถูกลากแขนให้เดินตรงเข้าไปนั่งที่ร้านราดหน้าร้านหนึ่งครับ  สภาพร้านเป็นรถเข็นธรรมดาๆ ไม่ได้เลิศหรูอะไรเลยครับ  มีโต๊ะเก้าอีกแยกเป็นจุดๆ ตามพื้นที่ที่ว่างอยู่  ใกล้ๆ กันเป็นร้านหมูสะเต๊ะเจ้าเก่าอะไรซักอย่างเลยไปเป็นร้านของกินอีกเยอะแยะมากมาย

    " เฮียสั่งของครับ "

    " อร่อยแน่นะ "

    " อืมม  โจ๊กอยากกินอะไรอ่ะ "

    " สั่งได้ทุกร้านเลยเหรอ "

    " อืม  แต่ต้องเดินไปสั่งเองนะ  แล้วก็บอกเค้าไปว่าเรานั่งร้านไหนเดี๋ยวเค้าก็มาส่งให้ "

          แล้วซักพักก็มีผู้ชายสูงอายุหน่อยเดินมารับออเดอร์  ผมกับไอ้หมอสั่งผัดไทยกับราดหน้าหมี่กรอบมาอย่างละจาน  จากนั้นก็ทิ้งโต๊ะแล้วเดินไปหาสั่งอาหารร้านโน้นร้านนี้มากินกันอีกหลายอย่างครับ  ผมว่าบ้านไอ้หมอน่าจะอยู่แถวๆ นี้แน่ๆ ดูจากอาการที่แม่ค้าพ่อค้าดูสนิทและคุ้นเคยกับมันซะเหลือเกิน

    " อร่อยไหม ^^ "

    " อืม ก็ใช้ได้ "

    " ข้างในซอยมีขนมหวานเจ้าอร่อยด้วยนะเดี๋ยวเราเดินไปกินกันนะ "

    " พอแล้วล่ะ  นี่ก็เยอะแล้ว  โจ๊กอิ่มมากแล้วด้วยกินต่อไม่ไหวแล้ว "

    " งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนเอกหน่อยนะ "

    " กินเก่งเหมือนกันนะเรา ตัวก็นิดเดียวเอาไปเก็บไว้ตรงไหนหมด "

    " 555+ ไม่บอก ^^ "

          และหลังจากที่เราอิ่มของคาวกันแล้วเราก็ไปต่อของหวานกันต่อทันทีครับ  เราเดินเข้าซอยกันมาเรื่อยๆ ท้องฟ้าที่มืดทำให้ผมใจเริ่มสั่นนึกกลัวถึงตอนกลับไปเจอตะเภาแก้ว  ตะเภาทองที่บ้าน  นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะตองกลับไปตอบคำถามอะไรไอ้สองหน่อนั้นอีก

    " นั่นไง  ร้านตรงนั้นอ่ะ ปะ " ไอ้หมอดึงแขนผมไปหาที่นั่งหน้าร้านขนมหวาน

    " ของกินเยอะดีนะซอยนี้ "

    " อืม "

    " นี่ถ้าดึกๆ เกิดหิวไม่รู้ลงมายังจะมีของกินเหลือให้กินอีกอยู่ไหม "

    " มีนะ อุ๊ย "

    " น่าน  กูว่าแระ  นี่หลอกโจ๊กมาใช่ไหม "

    " เปล่าซะหน่อย  ก็ชวนมากินข้าวจริงๆ โจ๊กก็เห็น "

    " เหรอ  มาซะไกลขนาดนี้เนี้ยนะ "

    " เอาไรดีเดี๋ยวเอกไปสั่งให้ "

    " อย่าเปลี่ยนเรื่อง "

    " งั้นเดี๋ยวเอกเลือกให้นะ "

    " เฮ้อออ  อืมๆ อยากกินอะไรก็จัดมา "

    " ขอโทษนะ  แค่อยากอยู่ด้วยนานๆ ซะครั้งก็ยังดี "

    " ............. "

    " โจ๊ก  อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ๊  เอกไม่สบายใจเลย  เอางี้ถ้าโจ๊กกลัวว่าสองคนนั้นจะว่าเดี๋ยวเอกโทรไปแก้ตัวให้ก็ได้นะ "

    " ไม่ต้องหรอก "

    " ขอโทษนะ  เอกเสียใจ "

    " ไม่เป็นไร  เดี๋ยวเรื่องนี้โจ๊กจัดการเองไปสั่งของหวานซิ  อยากกินไม่ใช่เหรอ "

    " เอกกินไม่ลงแล้วแหละ "

          แล้วก็เหมือนสวรรค์เป็นใจเหรอเข้าข้างไอ้หมอก็ไม่รู้ครับ  อยู่ๆ ลมก็หอบเอาฝนห่าใหญ่พัดมาทางนี้  เสียงฟ้าร้องดังใกล้เข้ามาพร้อมๆ กับฟ้าที่แลบแปล๊บๆ ให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ

    " ซื้อไปกินที่บ้านดีกว่าไหมเอก  ฝนจะตกแล้วอ่ะ "

    " อืม "

          ไอ้หมอเดินไปสั่งขอหวานก่อนจะพาผมเดินตรงเข้าไปในซอยซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก  ถัดไปอีกนิดมีทางทะลุกับถนนใหญ่อีกเส้นที่ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันตรงไปออกไหน  บอกตรงๆ ตอนนั้นหลงทิศมากครับ  เราเดินไปได้ซักพักก็เจอคอนโดที่ไอ้หมอซื้อไว้  แล้วทันทีที่ผมก้าวขาเข้าสู่อาคารมันก็มาเลยครับ  ซู่ๆๆๆๆๆๆ 

    " โชคดีจังที่เรามาถึงก่อนมันตกอย่างเฉียดฉิว "

    " ดีตรงไหน "

    " หึ  ไปขึ้นข้างบนกันเถอะโจ๊ก "

    " ............ " ผมจ้องหน้าไอ้หมอที่ยืนกดลิฟล์ค้างรอผมเดินเข้าไปในตัวลิฟล์

    " เข้ามาสิครับ  มาถึงนี่แล้วจะกลัวอะไร  ผมสิที่ต้องกลัวโจ๊กถึงจะถูก "

    " เอกแน่ใจแล้วเหรอ "

    " ครับ "

          ในเมื่อมันตัดสินใจมาแล้วผมก็คงไม่มีอะไรต้องตัดสินใจแล้ว  ทุกอย่างจะเป็นอย่างไงก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แล้วล่ะนะ

    " เชิญครับ " ไอ้หมอเดินไปเปิดประตูเปิดไฟก่อนจะหันไปเชิญผมเข้าห้องมัน

    " ......... "

    " จะให้เปิดประตูห้องทิ้งไว้ด้วยไหม "

    " ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก "

    " งั้นก็เข้ามาซักทีสิ  เหรอว่าต้องรอให้ยุ่งเข้ามาให้หมดทั้งตึกนี้ก่อน "

          ผมเข้ามาได้ก็เดินสำรวจห้องมันไปเรื่อยครับ  อารมณ์นี้ไม่กล้านั่งกลัวครับ...มันทั้งกลัวใจตัวเองด้วยกลัวใจมันด้วย  แต่ไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นเมียมันหรอกนะครับ  แต่กลัวว่าจะได้เมียเพิ่มแบบไม่รู้ตัวมากกว่า

    " ห้องน้ำอยู่ตรงโน้น  ใช้ได้ตามสบายนะครับ "

    " อืม "

    " เดี๋ยวเอกหาอะไรอุ่นๆ ให้กินนะ "

    " เอกอยู่คนเดียวเหรอ "

    " ครับ  ก็อยากจะหาใครมาอยู่เป็นเพื่อนซักคนอยู่เหมือนกัน โจ๊กสนใจไหมล่ะ "

    " ตลกแระ "

          ผมจ้องมองมือมันตลอดครับไม่ว่ามันจะหยิบจะจับอะไรก็กลัวมันเอายาหรืออะไรใส่ลงไปให้ผมกินนะครับ  ไอ้หมอชงโอวัลติลร้อนให้ผมก่อนจะเดินเอามายื่นส่งให้ที่มือ  ส่วนของมันเป็นกาแฟร้อน

    " เอกพูดจริงๆ นะ "

    " เอกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ "

    " เอกเข้าใจ "

          ผมเดินไปนั่งตรงโซฟาซักแปปไอ้เอกก็ยกกาแฟเดินมานั่งลงข้างๆ ผม  มันนั่งกอดเข่ามองผมแบบยิ้มๆ

    " หายกลัวเหรอยัง  ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร "

    " แฟนที่บอกล่ะ  ขอดูรูปหน่อยสิ "

    " เอกส่งคืนกลับไปหมดแล้ว  ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บเอาไว้ "

    " เหรอ "  ผมหันไปจ้องตามัน

          เรานั่งจ้องตากันเหมือนต้องการจะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย  ชั่วแวบหนึ่งที่ผมเห็นมันยิ้มน้อยๆ ให้ผม  ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเรานั่งห่างกันไม่มากนัก  ฝนข้างนอกยังคงตกแรงและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ลมเย็นๆ ลอดผ่านเข้ามาทางบานเกร็ดหลังบ้าน

    " โจ๊ก " ไอ้หมอเขยิบตัวเข้ามาใกล้ผมก่อนจะยื่นหน้ามาจ้องหน้าผม  หน้าเราอยู่ใกล้กันมากครับ

    " อะไร " ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

    " เหงานะ " ใกล้เข้ามาอีก

    " แล้วไง " ใกล้อีก

    " ............. "

          ผมพยายามแล้วที่จะไม่คล้อยตามไปกับความรู้สึกที่สบสนนี้ แต่อารมณ์และบรรยากาศมันช่างเป็นใจซะเหลือเกิน  ลิ้นเปียกๆ ของไอ้หมอที่ส่งเข้ามาในปากผมมันมีรสชาติของกาแฟขมๆ นิดๆ  ผมยื่นเผลอมือออกไปจับหัวมันลูบเบาๆ ก่อนที่จะผลักตัวไอ้หมอให้นอนราบลงกับโซฟา  บทจูบที่ร้อนแรงใช้ได้ของไอ้หมอทำเอาผมจิตใจกระเจิดกระเจิงได้มาก  ไอ้หมอส่งมือมากอดรัดลูบไปทั่วหลังผม  ผมเองก็ตอบสนองความต้องการให้มันด้วยฝ่ามือร้อนๆ กับการจูบไซ้ไปทั่วซอกคอของมัน

          ไม่มีคำพูดอะไรจะสื่อใจถึงใจกันได้มากกว่าการกระทำ  ผมล้วงมือลูบเขาไปใต้สาปเสื้อ  กลิ่นอะไรซักอย่างที่ติดสื้อมาจากข้างนอกทำให้ผมต้องจัดการถอดมันทิ้งไปจากร่างนี้ให้เร็วที่สุด

    " อืมมมม "

          ไอ้หมอนอนลับตาส่งเสียงครางแผ่วเบาเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ที่กำลังบาดเจ็บ  ผมค่อยๆ ถลกเสื้อมันขึ้นก่อนจะก้มลงไปลงลิ้นชิมหัวน้ำปุ่มน้อยๆ ของมัน

    " อ๊ะ "

          มันยังคงหลับตาส่งเสียงเคลิ้มไปกับการลงลิ้นของผม  ผมค่อยๆ ปลดกระดุมมันออกทีละเม็ดๆ จนสุดทาง  หน้าอกแบนเรียบ  ผิวสีขาวกับยอดอกเม็ดเล็กๆ ที่ลุกขึ้นตั้งแข็งเป็นไต ผมฝังหน้ากัดเบาๆ เข้าที่ซอกคอขาวก่อนจะละเลียดลงลิ้นไล้ลงต่ำไปเรื่อยๆ ไอ้หมอยังคงหลับตานอนบิดตัวไปมา  มือที่กดจิกโซฟาเริ่มเปลี่ยนมากดหัวผมไว้กับหน้าท้องของมัน 

    " อืมมม  โจ๊ก "

          ผมเงยหน้ามาดูมันอีกครั้ง  ไอ้หมอเอื้อมมือมาจับบ่าผมไว้เหมือนไม่อยากให้ผมรุกมันตอนนี้  ผมใช้มืออีกข้างค่อยๆ ลูบไปที่เป้ากางเกงมันเบาๆ น้องชายมันแข็งเป็นลำอย่างเห็นได้ชัดและก่อนที่อะไรๆ จะเกินเลยไปกว่านี้


          ตัดภาพไปที่หน้าต่างด้านนอกกันเลยดีกว่าครับ  สายลมและฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างไม่มีท่าว่าผมจะได้กลับบ้าน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×