ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K&J Friends(?) Forever... ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #17 : HAPPY NEW YEAR =] (K&J)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 526
      3
      25 มี.ค. 54











                   เฮ้! ตื่นได้แล้วหนุ่มน้อย ถึงแล้วเสียงทุ้มเรียกพร้อมกับแรงเขย่าตัวเบาๆทำให้ผมลืมตาขึ้นมองอย่างหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะการพักผ่อน ตวัดตามองตัวการที่ยืนเท้าเอวยิ้มกว้างเมื่อเห็นผมขยับตัวลุก




                   เสียงของน้ำทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเป็นระยะทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาน้อยๆกลิ่นไอทะเลแตะเข้าจมูก ผมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอย่างอารมณ์ดี ความหงุดหงิดเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ผมกำลังจะก้าวเท้าวิ่งเข้าสู่ทะเลอันสดใส แต่ก็โดนคนเดียวกับที่ขัดจังหวะการนอนรั้งคอเสื้อไว้ซะก่อน

     



                   “อะไรของมึงครับ!!” ผมหันไปทำตาขวางใส่อย่างเอาเรื่อง ปลุกกูแล้วยังจะมาห้ามอะไรอีก!?




                   “นู่น ช่วยพ่อแม่ขนของก่อนเลย ไม่ต้องมาทำตาดุ มันไม่น่ากลัวเลยสักนิด” ผมทำปากขมุบขมิบอย่างไม่พอใจ เดินไปท้ายรถเห็นพ่อกำลังยกกระเป๋าใบเท่าบ้านของแม่ออกมาอยู่






                   “พ่อชวนไอ้บ้านั่นมาทำไมเนี่ย ดูดิขัดเจตลอดเลย!” ได้ทีก็ขอฟ้องหน่อยเหอะ!




                   “ไม่ต้องไปโทษเคเลยไอ้เปี๊ยก เราอะผิด เอ้า! นี่ยกไปให้แม่” แม้แต่พ่อแท้ๆของผมก็ยังไม่เข้าข้างผมเลยอะ! โอ๊ยยย เจโดนกลั่นแกล้ง!




                   ผมมองบ้านพักไม้หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมชายหาด วันนี้ครอบครัวผมและตระกูลของชายเคมาเที่ยวด้วยกันเนื่องในโอกาสใกล้ปีใหม่ พวกเราเลยยกขบวนมาเคาท์ดาวน์กันที่บ้านพักในเครือของตระกูลคุณชายใหญ่ ด้วยความที่เราเป็นอภิมหาวีไอพี จึงได้หาดที่ส่วนตัวสุดๆ และบ้านหลังใหญ่สุดๆ




                   ภายในบ้านพักแบ่งส่วนได้อย่างลงตัว เปิดประตูบ้านเข้ามาก็เจอห้องนอนใหญ่  2 ห้อง ที่ด้านซ้ายและขวา เดินตรงไปเข้าก็จะเจอห้องรับแขกที่ถูกจัดได้อย่างสวยงาม ทางด้านขวาเป็นห้องนอนเล็ก ด้านหลังโทรทัศน์จอใหญ่มีกำแพงบางๆที่คั่นระหว่างห้องครัวและห้องรับแขก




                   ผมวางกระเป๋าไว้กลางบ้านก่อน เพราะยังไม่มีใครตกลงเลือกห้อง แต่ที่แน่ๆตัวผมคงต้องไปนอนห้องเล็กอย่างแน่นอน




                   เสียงใสของสองสาวใหญ่เดินคุยกันตัวปลิวเข้าบ้านอย่างสบายๆ เพราะมีชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนคอยบริการ แม่ผมและแม่ของเคดูจะเข้ากันได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่เจอกันเมื่อกลางปี หลังจากนั้นสองสาวก็แอบไปช็อปกันบ่อยๆโดนที่พวกผมไม่รู้ด้วยซ้ำ




                   “แม่จะนอนไหนกันหรอครับ” ผมถามแม่ทันทีที่ทั้งสองนั่งลงโซฟา แอบอู้งานกรรมกรด้วยการมาเป็นเด็กนวดแทน




                   “พี่จะนอนห้องไหนคะ” แม่ผมหันไปถามแม่ของเคที่อายุมากกว่า 2 ปี แต่หน้ากลับเด็กพอๆกับแม่ผม




                   “อืมพี่ชอบด้านซ้าย เอาห้องฝั่งนั้นละกัน น้องเจช่วยยกกระเป๋าแม่ไปเก็บในห้องให้หน่อยนะจ๊ะ” และแล้วการอู้งานของผมก็จบลง เมื่อต้องลากกระเป๋าใบใหญ่ไปเก็บให้คุณนายใหญ่ ให้ตายเถอะครับ! ไม่เข้าใจจริงๆ ค้างแค่ 5 วัน แบกของมาเหมือนจะอยู่สักปีหนึ่ง




                   “อ้าว! นึกว่าแอบอู้เห็นมาซะนาน ที่แท้ก็เป็นนางทาสอยู่นี่เอง ฮ่าๆๆๆ”




                   “ช่วยพ่อเสร็จแล้วไง ถึงได้มาอ้อนตีนกันถึงนี่”




                   “ยกมากองไว้หน้าบ้านหมดแล้ว เหลือแค่แบกเข้าห้องอะ แล้วนี่สาวๆเขาตกลงห้องกันได้แล้วหรอ” เคถามเมื่อเห็นผมทำท่าเปิดประตูทางฝั่งซ้าย ผมหันไปพยักหน้าตอบ ก่อนจะ(เหวี่ยง)ลากกระเป๋าเข้าไปในห้อง




                   “คุณลินดานอนห้องนี้หรอ?” คุณลินดาคือแม่ของเคครับ ไอ้นี่มันชอบเรียกแม่อย่างนี้ มันบอกติดมาจากพ่อ แต่มันก็ไม่เคยเรียกต่อหน้าแม่หรอกครับ ฮ่าๆๆๆ นรกจะกินหัวเอา




                   “อืมงั้นห้องเล็กก็เป็นของ เราสิ” เคพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาคมมองผมหัวจรดเท้า ทำเอาผมหน้าแดงอย่างทราบสาเหตุ




                   “หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยนะสัด! นอนเฉยๆเหอะ!




                   “อ้าว! ก็นอนเฉยๆไง แล้วเจคิดไปไหนเนี่ย”




                   “ก็มึง….





                   “ทำไมหรอ หรือว่าเจคิด ก็ได้นะ ไม่ปฏิเสธ” อ๊ากกกกก ไอ้ไอ้หื่นเอ๊ยยยย เกลียดมึงว่ะ! T^T




                   ผมหันหลังหนีเดินออกมานอกบ้าน และมีไอ้ตัวดีเดินตามออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ




                   “หยุดหัวเราะเลยมึง! ไปนอนที่โซฟาเลย!” ผมหันไปตวาดใส่ แต่ทว่ากลับมาบุคคลที่สามและสี่ได้ยินด้วยสิเนี่ย





                   “อ้าว! แล้วจะไล่เพื่อนไปนอนที่โซฟาทำไม นอนในห้องเดียวกันนั่นแหละ!” พ่อผู้เป็นที่รักของผมครับ




                   “ไอ้เคมันคงไปแหย่อะไรเจละสิถึงโดนไล่ออกมาเนี่ย หึหึ จะอยู่กินกันมันก็ต้องใช้เหตุผลนะน้องเจ” ประโยคแรกคุณผู้อำนวยการว่าลูกชาย แต่ประโยคหลังคุณท่านหันมากระซิบกับผม เล่นเอาเลือดในกายสูบฉีดด้วยความเขินอันแรงกล้า




                   พ่อลูกเหมือนกันไม่มีผิด!! เรื่องของเรามีคนรู้แค่สองคนเท่านั้นครับ คือ พ่อของเคและแม่ของผม แม่น่ะไม่เท่าไหร่หรอกครับ แค่มองแล้วก็ยิ้มๆ แต่พ่อเนี่ยสิ ชอบมาแซว!!! โฮกกก ผมก็เขินเป็นนะครับ!




                   หลังจากที่เราขนของเข้าและจัดของเสร็จ ก็โทรสั่งอาหารมากินกัน(ไม่เข้าใจว่าจะเอาห้องครัวมาไว้ทำไม) ระหว่างรอผมก็โดนคุณชายลากเข้ามานอนเกลือกกลิ้งในห้อง




                   “ง่วงอะ นอนนะ ข้าวมาแล้วปลุกด้วย” หาวก่อนที่นึงก่อนจะคลานลงเตียงแล้วคว้าผ้ามาห่ม ยังไม่ทันจะหลับตาสนิท ก็โดนคนข้างตัวดึงไปกอดซะแล้ว




                   “อึดอัดอะ ร้อนด้วย” บ่นอู้อี้กับอกกว้างแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเคจะปล่อยผมแม้แต่น้อย แต่กลับดึงผ้าห่มออกแทน เออช่วยได้เยอะเลย




                   “อย่าเพิ่งนอนดิ มาคุยกันก่อน”




                   “คุยไรอะ” ผมถามแต่ตาก็ยังปิดอยู่




                   “รุ่นพี่คนนั้น เหมือนจะชอบเจนะ”





                   “แต่เจไม่ได้ชอบเขานี่ เคไม่ไว้ใจเจหรอ” ผมเงยหน้าสบตาก็ดวงตาคมที่มองมาอย่างหวงแหน ผมรู้ว่ารุ่นพี่คนนั้นชอบผมและกำลังจีบผมอยู่ แต่ผมไม่ได้ชอบเขา ไม่คิดแม้แต่จะชอบหรือ รักใครอีกนอกจากเค




                   “เคไว้ใจเจ แต่ไม่ไว้ใจไอ้บ้านั่น” เคตอบผม ก้มลงหอมแก้มผมก่อนจะกอดผมแน่นขึ้นอีก




                   ผมหัวเราะเบาๆกับอาการขี้หวงสุดเขตของผู้ชายคนนี้ ตอนแรกว่าหวงแล้ว แต่พอขึ้นมหาลัยมาแถมยังอยู่คนละคณะอีก ไอ้บ้านี่ก็ยิ่งหวงผมเข้าไปใหญ่ ไม่ใช่ว่าผมไม่หวงเคนะครับ แต่ผมไม่รู้จะทำอะไรดี เคได้เป็นถึงเดือนของคณะบริหาร จากป็อบธรรมดากลายเป็นดาราใหญ่ในคณะไปเลยทีเดียว ทั้งชายหญิงนี่รุมกันไม่ขาดสาย ก็มีบ้างที่ผมจะใช้สายตามองขวาง และโกรธเป็นอาทิตย์ ยังไงผมก็รู้แหละครับ ว่าเครักผมคนเดียว ก็ลองแอบมีกิ๊กสิ พ่อจะตามไปเชือดถึงที่เลย!




                   “ว่าแต่เขา ตัวเองก็ใช่ย่อยน้า” แอบแหย่เล่นบ้าง เคก็หน้าซีดลง




                   “เอ่ออ เขามากันเองนะเจ เคเปล่าชวนนน”





                   “อ๋อ เสนอมาก็เลยสนองงั้นสิ!” ผมตวัดตามองอย่างเอาเรื่อง ตอนแรกว่าจะแหย่เล่นซะหน่อย แต่คำตอบแบบนี้มันแฝงความในนี่หว่า!




                   “เฮ้ยยย ไม่ใช่ๆ โธ่เจคร้าบบบ เคไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่ชายตามองก็ไม่มี สัมผัสสักนิดก็ไม่คิด รักและคิดถึงแค่เจคนเดียวเท่านั้นน้า” ชิ! ที่แบบนี้มาทำอ้อนปากหวาน หอมแก้มซ้ายแก้มขวา น่าหมั่นไส้ชะมัดเลยผู้ชายคนนี้!




                   “พอได้แล้ว แก้มช้ำหมดแล้วเนี่ย”




                   “หายโกรธยังครับ?”





                   “ไม่ได้โกรธสักหน่อย แหย่เล่นเท่านั้นเอง นอนเหอะ ขอสักงีบก่อน ง่วงจัง” แอร์เริ่มหนาวแล้วครับ ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมก่อนจะซุกตัวเข้าหาอกอุ่น ที่ประจำของผม ที่ปลอดภัยที่ทำให้ผมไม่ฝันร้ายอีกเลย




                   “โอเค ตามใจเลยครับ หลับฝันดีนะ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะฉวยหอมแก้มผมอีกครั้ง มือหนาลูบผมเบาๆกล่อมให้ผมเข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนหวาน แต่ทุกอย่างก็ถูกทำลายด้วยเสียง




                   “น้องเจ น้องเค กินข้าวลูก!!




                   อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เคเพราะมึง!!!!!!!!!

                  





                  

                   “เจคร้าบบบ อย่างอนสิ เดี๋ยวคืนนี้ให้นอนทั้งคืนเลยน้า หันมาคุยกันหน่อยสิครับ” ตอนนี้เริ่มเย็นแล้วครับ พวกเรามานั่งกินลมชมวิวกันอยู่หน้าบ้าน พ่อและแม่ของพวกผมลงไปเล่นน้ำกันราวกับตัวเองเป็นวัยรุ่นวัยใส ส่วนผมก็นั่งหน้าหงิกอยู่ใต้ต้นไม้ จะกะนอนงีบซะหน่อย แต่ก็โดนไอ้ตัวโตง้องแง้งอยู่ข้างหู




                   “เค!! เค!! เคว้อยยยย!! มานี่เร็ว!!” เสียงท่านผู้อำนวยการเรียกลูกชายไปหา เคจึงต้องผละจากคนตัวเล็กแสนงอนไปอย่างหดหู่




                   “มีไรอะพ่อ”




                   “โถ ทำหน้าเซ็งเหมือนโดนเมียทิ้งไปได้ แล้วน้องเจเป็นไรอะเนี่ย หน้าหงิกหน้างอเชียว” คุณพ่อวัยใส่กระซิบแซวลูกชายก่อนจะถามในสิ่งที่ทุกคนสงสัย




                   “เอ่อเจเขาง่วงนอนอะครับ พอไม่ได้นอนก็เลยหน้าบี้อย่างนั้น”




                   “ไปว่าน้องหน้าบี้ไม่ไง” คุณลินดาฟาดมือลงบนแขนลูกชายทีนึง




                   “น้องไรแม่ อายุเท่ากันเลย เฮ้อ ผมก็เหนื่อยเหมือนกันนะครับ ง้อยากเหลือเกิน” คำพูดชวนน่าสงสัย แต่คุณพ่อของเจและคุณลินดาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร




                   “ไอ้นี่มันชอบเรียกร้องความสนใจ นู่นชะเง้อคอยาวมาทางนี้อยู่เนี่ย ไปอุ้มไอ้เปี๊ยกลงทะเลเลย!” คุณแม่เจแอบกระซิบพร้อมกับขยิบตาให้หนึ่งที เคยิ้มก่อนจะวิ่งกลับไปหาร่างบางที่นั่งมองมาทางนี้อย่างสนใจ แต่พอเห็นเควิ่งมาหาก็เสมองไปทางอื่น




                   “เจหายงอนนะครับ เดี๋ยวให้นอนยันบ่ายเลย นะ ไม่สะกิดด้วย” ผมหันไปค้อนให้มัน ยังจะมีหน้ามาพูดเรื่องนี้อีก แต่ไหนๆก็เสนอมา ก็ต้องสนองกลับแหละครับ หึหึหึ




                   “จนกว่าจะกลับบ้าน 4 คืนนี้งด!




                   “ฮะ!! เฮ้ย! 4คืนเลยนะเจ!! ลงแดงตายพอดี” พอเห็นหน้าจะเป็นจะตายของเคแล้วสะใจสุดๆไปเลยล่ะครับ!




                   “งั้นบวกไปอีกอาทิตย์นึง!




                   “ไหงงั้นอะเจ!!




                   “ไปหาแม่ดีกว่า” ว่าแล้วก็รีบลุกเดินอย่างอารมณ์ดี แต่แล้วก็รู้สึกตัวลอยวืดขึ้นอย่างรวดเร็ว




                   “ก็ได้! แต่หลังจากนั้นจัดหนัก!!




                   ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยย เกลียดมึ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง (วันนี้เกลียดเคตลอดสาย บ่าย และเย็น!!)







     

                   “พ่อ ไฟมันไม่ติดถ่านสักทีอะ” ครับตอนนี้พวกเรากำลังประสบปัญหาขาดแคลนไฟ ด้วยความที่คุณพ่อที่น่ารักของพวกผมปรึกษากันลับๆว่าจะทำบาร์บิคิวกินกัน พนักงานก็อยากจะบริการให้ด้วยใจ แต่กลับไล่เขาไปซะอย่างนั้น! เพราะว่าอยากทำเองมากกว่า สุดท้ายก็ต้องมาพึ่งพวกผมที่เรียนลูกเสือมา 9 ปี แต่ไม่ได้อะไรเลย นอกจากเงื่อนตาย พอทนไม่ไหวจะใช้ไฟแช็กจุด คุณพ่อก็มาห้าม บอกมันไม่แอดเวนเจอร์!




                   แล้วเมื่อไหร่จะได้แดกคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ!!!!




                   แล้วความอดทนของผมก็สิ้นสุด ผมคว้าไฟแช็กมาจุดโดยไม่ฟังเสียงห้ามของสองหนุ่มใหญ่ และแล้วไฟก็ติดอย่างง่ายดาย ผมควรจะทำอย่างนี้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว!! ให้ตายเถอะ!




                   “ทีนี้ก็จะได้กินกันซะทีนะครับ เชิญเชฟใหญ่แสดงฝีมือครับ” ผมทิ้งตัวลงนั่งผมหาดทรายที่มีเทียนหลายๆเล่มและยากันยุงปักล้อมพวกเราอยู่ นี่ไงครับ กินข้างในบ้านดีๆไม่ชอบ ชอบมาเป็นอาหารมื้อดึกให้ยุง!




                   แต่มันก็ได้บรรยากาศดีนะครับ แฮะๆ




                   “อะ นี่ได้แล้ว” กลิ่นเนื้อหมูปิ้งลอยมาแตะจมูก ยั่วให้น้ำลายสอ ผมหยิบขึ้นมาไม้นึงก่อนจะเป่าไล่ควันร้อนออกไป อ้าปากกัดเนื้อหมูเข้าไปคำนึงก็รู้สึกถึงความนุ่มและรสชาติที่แสนอร่อย โฮกกกก เปรมมม




                   พวกเรานั่งกินกันไปเรื่อยๆพลางคุยเรื่องเก่าๆกันไป(ทำตัวให้กลมกลืนกับคนแก่น่ะครับ อุ๊บ!) จนกระทั่งเริ่มสี่ทุ่ม พ่อกับแม่เริ่มกระจายเป็นคู่ๆ เข้าไปหวานกันไปบ้านคนละห้อง ก็เหลือสองหนุ่มอย่างพวกผมนั่งดื่มเหล้ากันข้างนอกพร้อมแสงเทียน โอ้โห โรแมนติกเป็นบ้า!




                   เคเริ่มเลื้อยครับ มือเกาะข้างที่เอวผม ผมหันไปมอง ไอ้นั่นก็ยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา




                   “อย่ามากูรู้มึงไม่เมา”




                   “หึหึ กูแค่กอดมึงเอง ไม่ทำไรหรอกน่า สัญญาไว้แล้ว แต่ถ้ามึงเมาก็อีกเรื่องนะ อะ ดื่มมมม”




                   “สัด! อย่ามามอม” เคหัวเราะเบาๆ ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนตักผม ตอนนี้ห้าทุ่มครึ่งแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว




                   “พูดเพราะๆไม่ได้หรือไงครับหืออ นับวันยิ่งปากหมานะเราอะ” ว่าพลางยื่นมือมาบีบแก้มผมเล่น ก่อนจะดึงให้ผมก้มหน้าเข้าไปใกล้ ผมหลับตาลงช้าๆ รับสัมผัสนุ่มที่ประทับริมฝีปาก เปิดปากรับลิ้นร้อนเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ ความขมของเหล้าแทบจะไม่รู้สึก เมื่อรับรู้แต่ความหวานของกันและกัน จูบที่ไม่เร่าร้อนแต่กลับอ่อนหวาน ผมถอนจูบออกช้าๆ สบตาคนตรงหน้าเนิ่นนาน ก่อนจะยืดตัวขึ้น




                   “ปวดหลัง” เคหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นมานั่งดีๆ




                   “งั้นคราวนี้เอาใหม่นะ” ผมอมยิ้มเล็กน้อย เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เคก่อนจะปิดตาลง จูบอีกครั้งแต่ความหวานกลับมากขึ้น ไม่ว่าจะจูบกี่ครั้งความรู้สึกที่มีให้กันก็มากขึ้นไปเรื่อยๆ ผมส่งเสียงประท้วงเล็กน้อยเพราะรู้สึกหายใจไม่ทัน เคถอนจูบออกมาก่อนจะยิ้มบางๆให้กับผม จูบลงที่หน้าผากเบาๆ ลงมาเรื่อยๆที่เปลือกตา จมูก แก้ม ก่อนจะจูบริมฝีปากเบาๆ




                   โอยยยย ผมจะสำลักความหวานตาย เล่นมองกันอย่างนี้ผมก็ละลายกันพอดีน่ะสิ!!




                   “หยุดมองได้แล้ว!




                   “เขินหรอ”




                   “เออ!!” เสียงดังเฮมาจากอีกฝากของหาด เสียงผู้คนที่เริ่มนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ดังมาถึงนี่

                   เคกุมมือผมไว้ เราสองคนนับถอยหลังพร้อมกัน




                   5”




                   “4”




                   “3”




                   “2”




                   “1”




                   Happy New Year” เสียงเราสองคนประสานกันแผ่วเบา กระซิบกันให้ได้ยินเพียงสองคน เคดึงผมเข้าไปกอด บอกรักผมครั้งแล้วครั้งเล่า




                   “บอกครั้งเดียวเจก็เรู้แล้ว”




                   “หึหึ ไม่เอาอะ กลัวลืม”




                   “เห็นกูขี้ลืมขนาดนั้นเลยรึไง”




                   “เฮ้อขอหวานๆสักห้านาทีได้ปะ”




                   “มึงก็อย่ากวนดิ” ผมผละออกจากแขนเค ทำหน้างอใส่ ส่งสายตาประมาณว่า กูไม่ผิด!




                   “โอเคๆ เคผิดตลอด มากอดเร็ว” ผมยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนจะโถมตัวเข้าไปกอดจนเราทั้งคู่ล้มไปนอนอยู่บนหาด




                   “ทำอย่างนี้เดี๋ยวจัดหนักกลางหาดหรอก!” ไอ้นี่หื่นตลอดเวลาเลย!!!




                   “เดี๋ยวน้ำขึ้นท่วม จมกันตายพอดี”




                   “ก็ดีนะได้ตายพร้อมเจ”




                   “พอๆ มาพูดเรื่องไม่ดีเอาตอนปีใหม่เนี่ยนะ” ผมพูดตัดบทเบือนหน้าหนีสายตาหวานเลี่ยน ที่ไม่ว่าจะมองมากี่ครั้งก็ทำให้ใจสั่น เคหัวเราะเบาๆก่อนจะคร่อมตัวผม เฮ้ย!!





                   “กลางหาดนะเค!!




                   “บ้าอยู่เฉยๆสิ หลับตาด้วย”




                   “จะปล้ำกูเรอะ!!




                   “โธ่ เดี๋ยวก็ทำจริงๆเลยนี่ หลับตาเร็ว” ถึงจะไม่ไว้ใจมันเท่าไหร่ แต่ผมก็ยอมหลับตาแบบกล้าๆกล้วๆ รู้สึกสัมผัสเย็นๆนี่คอก็สะดุ้ง ลืมตาโพลงขึ้นมาก็เห็นเป็นสร้อยเงิน จี้รูปกุญเจหัวใจ ตรงหัวใจมีพลอยทับทิมเป็นประกาย




                   “เนี่ยสั่งทำเลยนะ ทองคำขาวครับไม่ใช่เงิน!” เหมือนจะรู้ความคิดผม รีบแก้ต่างทันที




                   “ทำไมต้องกุญแจ?”




                   “เพราะของเคเป็นแม่กุญแจ คนที่สามารถไขออกได้ มีเพียงเจคนเดียวเท่านั้นนะครับ รักเจนะ รักมากด้วย”




                   “อืมเจรักเคเหมือนกัน”




                   ปีใหม่นี้ขอให้ผมและเคคู่กันตลอดไป

     

    [THE END]

     

                    

                    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×