ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K&J Friends(?) Forever... ไม่อยากเป็นแค่เพื่อน (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #19 : Valentine's Day (C&R) =]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 431
      2
      30 มี.ค. 54










                เอาจริงหรอวะ?

     




                เออ






     

                เดี๋ยวเขาก็ร้องไห้หรอก






     

                เขาต้องเข้าใจกู เพราะเราเคยคุยเรื่องนี้กันไว้แล้ว






     

                แต่นี่มันคนละเรื่องเลยโดนโกรธพวกกูไม่ช่วยแล้วนะ แค่นี้ก็กลัวมันจะโกรธแย่อยู่แล้ว






     

                เออน่า มันเป็นคนมีเหตุผล ไม่โกรธเรื่องไร้สาระหรอก






     

                เฮ้อ เออ ตามใจมึง



    .


    .


    .


    .


    .

     

                อาร์ วันนี้ไม่ไปส่งนะ พอดีมีธุระนิดหน่อย ผมหันไปมองคนข้างตัวก่อนจะพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไป(ทำท่า)ตั้งใจเรียนต่อ






     

                จริงๆซีไม่จำเป็นต้องไปส่งผมก็ได้ เพราะบ้านเราอยู่กันคนละทางด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังคงไปรับและส่งผมอยู่ทุกวัน ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า ก็แค่อยากไปกลับพร้อมกันเท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้แย้งอะไรเพราะผมก็อยากกลับพร้อมมันเหมือนกัน แต่ผมห่วงว่ามันจะเหนื่อยมากกว่าที่ต้องย้อนไปย้อนมา แต่ซีก็ไม่เคยบ่นสักครั้ง






     

                ก็มีบ้างที่ซีมีธุระที่บ้านก็เลยไม่ได้ไปส่งผม อย่างวันนี้ ผมก็เข้าใจก็ไม่อยากจะถามอะไรมันมาก ถ้ามันอยากเล่าก็คงบอกผมเองแหละ ไม่อยากจู้จี้อะไรมาก ยังไงเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัวกันบ้าง






     

                พอเลิกเรียนซีก็รีบเก็บของหันมาบอกลาผมแล้วก็รีบออกไป สงสัยจะธุระด่วนละมั้ง แต่ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสอง โอยยังไม่อยากกลับบ้านเลย






     

                เป็นพวกกลับบ้านเร็วไม่ได้ครับ อยู่บ้านแล้วแห้งตายไม่มีไรทำ ยกเว้นเวลาน้องชายมากวนตีนเล่นน่ะแหละครับ ถึงจะค่อยหายเบื่อ






     

                ผมหันไปหาเพื่อนที่ตัวพอๆกัน กำลังจะเอ่ยปากชวนมันไปเที่ยว แต่เจ้าตัวก็ชิงชวนผมซะก่อน ทำเอาผมตกใจตาแทบถลน






     

                คนเนือยๆอย่างเจที่อยากจะกลับไปนอนที่ห้องตลอดเวลา คนที่ถ้าฝังตัวเองไว้กับที่นอนได้ คงทำไปแล้วอย่างเจ ออกปากชวนผมไปเที่ยวก่อน!!






     

                บร๊ะเจ้าโจ๊ก!!






     

                ถ้ามึงมัวแต่ตกใจงั้นกูกลับล่ะ






     

                เฮ้ย! ไปๆ แม่งนานๆที จะเห็นท่านเจอยากจะยืดเส้นยืดสายนี่ครับ มันก็อดตกใจไม่ได้ ผมเดินไปกอดคอเจแล้วพากันออกนอกห้องไป ความรู้สึกของเพื่อนที่เดินกอดคอกันมันเป็นอย่างนี้นี่เอง น้ำตาแทบไหล เพราะกับคนอื่นๆที่สูงเกินกว่าผมจะพาดแขนได้ ผมเลยไม่เคยได้เดินกอดคอกับเพื่อนๆบ้าง TT






     

                เราเดินกันเด่นเป็นกลุ่มใหญ่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก็แค่ขาดคนไปคนหนึ่งก็เท่านั้นเอง






     

                เฮ้ย! ผมนี่เป็นเอามาก ห่างมันไม่ได้ขนาดนั้นเชียว






     

                เราเดินผ่านสเวนเซ่น ผมก็มองเข้าไปในร้าน เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยดีกับผู้หญิงโรงเรียนเราที่ไม่รู้จัก ทำเอาผมยืนค้างอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับไปไหน พยายามเพ่งมองอีกครั้งว่าแผ่นหลังนั้น ไม่ใช่ซี






     

                แต่ไม่ว่าจะมองยังไง คนคนนั้นก็คือซีอย่างแน่นอนนี่มันอะไรกัน?






     

                ผมไม่ได้เดินเข้าไปหาแล้วกระชากจิกหัวมันให้คุยกันให้รู้เรื่อง แล้วเป็นจุดเด่นอยู่ในนั้น แต่ผมเลือกที่จะรอคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวมากกว่า ผมว่าแบบนั้นคงคุยกันได้รู้เรื่องมากกว่าเยอะ





     

                พวกเดอะแก๊งที่มาด้วยกันก็เหมือนจะเห็นสิ่งที่ผมเห็น พวกนั้นก็ทำตัวไม่ถูกอึกๆอักๆอยู่อย่างนั้น ผมเลยหันไปยิ้มให้พวกมันแบบไม่เป็นไร ก่อนจะนำพวกมันขึ้นไปชั้นโรงหนัง






     

                หนังแอคชั่นที่อยากจะดู แต่ดันดูไม่รู้เรื่องเพราะภาพนั้นยังติดตาอยู่






     

    ก่อนเราจะคบกัน ผมก็คุยกับซีไว้แล้ว ว่าถ้าหากเจอคนที่ใช่กว่าเรา หรือจะชอบผู้หญิงคนไหน ขอให้บอก อย่าปิดบังหรือโกหกกัน เราต่างฝ่ายต่างยอมรับในการตัดสินของกันและกัน จะไม่โกรธหรือโทษใคร จะคุยกันด้วยเหตุผล มีอะไรก็ให้บอก อย่าเก็บไว้คนเดียว






     

                แต่นี่มันอะไร ทำไมต้องปิดบังกันด้วย หรือซีมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ผมไม่อยากจะคิดไปเอง แต่มันก็อดคิดไม่ได้ ในเมื่อภาพมันชัดเจนแบบนั้น






     

                โอเค ผมจะเลิกฟุ้งซ่านแล้วรอซีมาบอกเองดีกว่า






     

     

                ผมนอนจ้อง นั่งจ้อง ยืนจ้อง จนแทบจะตีลังกาจ้อง มือถือผมก็ยังไม่แผดเสียงร้องให้ผมรับสักที ทำไมไม่โทรมาหรือผมควรโทรหามันดี? เอาไงดีวะ?

     






     

                โอเคผมจะโทรหามันแล้วคุยเรื่องวันนี้ให้รู้เรื่อง!






     

    แต่พอจะกดโทร เสียงเพลงเรียกเข้าก็ตัดหน้าขึ้นมาก่อน พร้อมกับรูปใบหน้าหล่อที่นอนหลับไม่รู้เรื่องราวอยู่บนหน้าจอมือถือ

     






     

                ว่าไง





    (เป็นไรเนี่ย เสียงแข็งเชียว) เสียงปลายสายพูดอย่างสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่ากูไม่รู้เรื่องมึงวันนี้หรือไง!

     



    ก็หงุดหงิดนิดหน่อย แล้วมึงอะ เลิกเรียนก็รีบออกไป มีไรปะวะ





     

    (พอดีพ่อแม่กลับมาจากต่างจังหวัดน่ะ ก็เลยรีบไปกลับกินข้าวด้วย) ไอ้ตอแหล! พ่อแม่มึงบอกกูว่ากลับอาทิตย์หน้า! ทำไมมันต้องโกหกแบบให้ผมจับได้ด้วยวะ!





     

    หรอ กลับเร็วกว่ากำหนดนะ ทำไมท่านไม่โทรมาบอกกูล่ะผมน่ะลูกรักพวกท่านเชียวนะ จะลืมโทรมาหาผมได้หรอ!? ฮึ่ม! เอาสิ กูจะต้อนให้มึง ไปไม่ถูกเลย






     

    (เขาบอกว่าอยากเซอไพรส์ แต่อาร์ถามมาแบบนี้เลยไม่อยากโกหก คุยกับแม่นะ เจ๊เขาอยากคุยด้วย) อะไร? นี่มันหมายความว่าไง? หรือผมมองผิด? ไม่มีทาง ผมไม่มีวันจำซีผิดหรอก!





     

    (ว่าไงน้อง อาร์ สบายดีมั้ยลูก) เสียงตัวจริง!? อะไร ผมงงไปหมดแล้ว






     

    อ่า ครับ อาร์สบายดี แล้วแม่ละครับ ไปเที่ยวสนุกมั้ยแม่ก็เล่าเรื่องไปสวีทกับพ่อราวกับเป็นสาวน้อยวัยรุ่น ฟังแล้วก็สนุกดีครับ คู่นี้รักกันมากเลย อยากให้คู่เราเป็นแบบท่านบ้าง




    (แล้วนี่โดนไอ้ซีแกล้งมั่งเปล่า) แอบมีเสียงงุ้งงิ้งจากซีว่า เรียกไอ้เลยหรอ ทำเอาผมแอบขำเล็กน้อย จริงๆตอนนี้ซีก็คงแกล้งปั่นหัวผมอยู่มั้งครับ

     




    ทุกวันเลยครับ แม่เฆี่ยนซีมันเลยนะได้ทีก็ต้องฟ้องครับ เอาจริงๆมันก็ไม่ได้แกล้งอะไรผมมากด้วยซ้ำ แว่วเสียงใกล้ๆมาว่า เฆี่ยนเลยหรอ!? ฮ่าๆๆๆๆ ผมก็เลยลืมเรื่องซีไปเลยละครับ

     



    (ฮ่าๆๆ เอาล่ะแม่ไม่กวนแล้วดีกว่า คุยกับซีต่อนะจ๊ะ) แล้วก็มีเสียงกุกกักดังเต็มไปหมด แต่แอบได้ยินเสียง ตู๊ด เหมือนกดวางหู แล้วเสียงซีก็แทรกเข้ามา เมื่อกี้หูฝาด?

     




    (ได้ทีฟ้องใหญ่เลยนะ ซียังไม่ได้ทำอะไรอาร์สักหน่อย) คุยกับแม่ก็เลยลืม แต่พอได้ยินเสียงมันก็นึกขึ้นมา ชิ!

     



    หรอ…”

     




    (เป็นไรอีกเนี่ย เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย)

     



    เรื่องของกู

     



    (อาร์ไหนบอกจะคุยกันด้วยเหตุผลไง ทำไมทำตัวแบบนี้)




    แล้วมึงอะ มีอะไรทำไมไม่บอกกู

     



    (เรื่องอะไร? กูไม่เข้าใจ)





     

    กูไม่รู้นะว่ามึงมีเหตุผลอะไรถึงต้องปิดบังกัน แต่ถ้ายังไม่คิดจะบอก ก็ไม่ต้องมาคุยกันแล้ว!





     

    (อะไรของอาร์เนี่ย มีเหตุผลหน่อยสิ!) ซีขึ้นเสียงใส่ผมบ้าง ตอนนี้อารมณ์ต่างก็แรงทั้งคู่คงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะครับ แล้วทำไมมันต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วย! ผมเป็นคนมีเหตุผลก็จริง แต่มาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้ ผมก็ทนไม่ได้เหมือนกันนะ





     

    ไว้ค่อยคุยกันวันหลังดีกว่า ตอนนี้กูไม่พร้อมจะคุยกับมึงพูดจบผมก็วางสายทันที ไม่อยากให้เราทะเลาะกันอย่างนี้เลย แล้วซีก็ไม่ได้โทรมาอีก เพราะก็คงเข้าใจอารมณ์ของเราทั้งคู่





     

    นั่นสิ ทั้งๆที่เราคบกันไม่ถึงปี แต่ก็เข้าใจกันขนาดนี้ ทำไมถึงต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วยนะ ก็มีบ้างที่เราเถียงกันแต่มันก็เป็นเรื่องที่ไร้สาระกว่านี้เยอะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะทะเลาะกัน แต่ก็ดันทะเลาะกันได้ มันก็เลยเป็นการทะเลาะแบบขำๆมากกว่า





     

    ไม่เคยทะเลาะกันแรงแบบนี้มาก่อนเลย
     



    ผมหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เอาละพรุ่งนี้ผมจะเป็นฝ่ายไปขอโทษมันก่อนนะ แล้วซีก็จะยิ้มแล้วก็คงบอกผมว่าไม่เป็นไร มันก็ต้องขอโทษเหมือนกัน แล้วเราก็จะกลับมาคืนดีอีกครั้ง แต่ผมก็ยังหวังให้มันเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นอยู่ดีนะครับ แต่เอาเถอะ ผมไม่อยากซักไซร้อะไรมันมาก ถ้าถึงเวลา มันก็คงบอกผมเอง




     

    แต่แล้ววันนี้ซีก็ไม่มาโรงเรียน โทรไปก็ปิดเครื่อง

     



    เป็นเชี่ยอะไรของมัน!!!





     

    วันนี้ทั้งวันเรียนไม่รู้เรื่องเลยครับ (ปกติก็ไม่ตั้งใจเรียนอยู่แล้ว) แต่วันนี้เรียกได้ว่าไม่เข้าหัวเลยดีกว่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรียนวิชาไรบ้างเหอะ!





     

    ผมพยายามโทรหาซีทั้งวัน โทรไปที่บ้านก็บอกว่าซีออกไปแล้ว ออกไปไหน? ทำไมไม่มาโรงเรียน มันเป็นบ้าอะไรเนี่ย!!





     

    ระหว่างที่เรียนคาบสุดท้ายด้วยอาการปล่อยเหม่อ มือถือที่ผมถือไว้ตลอดเวลาหวังว่า คนที่คิดถึงจะโทรมาหาบ้าง ก็ทำการสั่นสะเทือนทะลุโสตประสาท ผมรีบ(แอบ)ยกขึ้นมาดูปรากฎว่าเป็นข้อความจากซี!!





     

    ผมรีบเปิดอ่านทันที ซีส่งมาแค่ว่า รีบกลับบ้านนะบ้าน? บ้านกู? ทำไมวะ?




    ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋าทันทีทั้งๆที่ออดยังไม่ทันจะดัง เหลือเพียงหนังสือเล่มเดียวที่เปิดเนียนไว้บนโต๊ะ





     

    ทันทีที่ออดดัง และจารย์เดินออกไป ผมก็รีบยัดหนังสือลงใต้โต๊ะ แล้วรีบพุ่งออกจากห้องไปเลย แต่ก็แว่วเสียงเจตะโกนมาว่า จะรีบไปไหน




     

    ไปหาแฟน! (เอ่อ เขินนะเนี่ย 555)





     

    ผมรีบลงจากแท็กซี่ สังเกตเห็นอะไรฟ้าๆแปะตรงประตูหน้าบ้าน มันคือโพสอิทครับ เขียนด้วยลายมือที่คิดว่าพยายามบรรจงเต็มที่ ซึ่งผมก็รู้ดีว่ามันเป็นลายมือของใคร





     

    ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ :)ซี
     



    ผมดึงโพสอิทออกก่อนจะเข้าไปในบ้าน ด้านข้างมีโพสอิทเขียนแปะตามทางเต็มไว้หมด





     

    วันแรกที่เจอกัน อาร์ทักซีว่า เกะกะ จำได้มั้ย?’





     

    ซียังจำหมัดแรกที่อาร์เคยชกได้ มันฝังเข้าไปในแก้มเลยล่ะ :)’





     

    ขอโทษที่ตอนนั้นพูดอะไรไม่ดีออกไป





    ขอโทษที่ตอนนั้นทำให้อาร์เจ็บ





     

    ‘ ‘อาร์เลือกซีคำๆนี้ซีไม่เคยลืม :)’





     

    ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คิดถึงคนน่ารักเสมอนะครับ





     

    ไม่เคยคิดนอกใจ เค้าแค่คิดนอกกาย(เย้ยย ล้อเล่นนะ!)





     

    รักคนอ่านคนเดียวไม่กล้านอกใจหรอกครับ





     

    เดินตามมาทางนี้พ่อหนุ่มน้อย ขึ้นบันไดไปครับผมผมอ่านข้อความบนโพสอิททีละอัน ก็ยิ้มแก้มแทบฉีกแล้ว เดินขึ้นไปบันไดก็เจออีกแผ่นหนึ่ง





     

    ขอบคุณที่ให้อภัยซีในตอนนั้น





     

    ขอบคุณที่อาร์เลือกคนคนนี้ คนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง





     

    คนคนนี้ยอมให้อาร์ทุกอย่างเลยครับแผ่นนี้แปะอยู่บนหน้าประตูห้องผม ผมพอจะเดาได้ว่า อะไรอยู่ข้างใน ไม่รู้ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกจุกในลำคอเหลือเกิน




    ผมค่อยๆเปิดประตูออก แล้วก็ได้เห็นคนที่รักผมและคนที่ผมรัก ยิ้มกว้างอ้าแขนต้อนรับผม ผมไม่ลังเลที่จะเข้าไปหาและตอบรับสัมผัสนั้น ลืมแม้กระทั่งเรื่องผู้หญิงคนเมื่อวานหรือคำพูดที่อยากจะขอโทษ

     



                ห้องนอนผมเต็มไปด้วยโพสอิทที่เขียนเรื่องราวต่างๆของเราทั้งสองคนตลอดเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา มันทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอิบใจแบบสุดๆ





     

                แล้วแผ่นสุดท้ายเป็นรูปหัวใจที่ซียื่นมาให้ผมทีหลัง มีข้อความสั้นๆว่า




     

                ‘Happy Valentine’s Day’





     

                วันวาเลนไทน์?? วันนี้??





     

                ผมเงยหน้ามองคนที่ส่งยิ่มอบอุ่นมาให้

     



                ตกลงนี่ไม่รู้จริงๆใช่มั้ยเนี่ย





     

                เออว่ะ ลืมดูวันเวลาไปเลย ถึงว่าทำไมวันนี้ที่หน้าโรงเรียนถึงขายกุหลาบกันให้พรึบพรับ แล้วเราก็ขำในความเอ๋อแดกของผม





     

                เรื่องเมื่อวาน ซีต้องขอโทษอาร์ด้วยนะ เออ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ลืม แต่พอผมจะอ้าปากขอโทษบ้าง ซีก็แทรกขึ้นมาก่อน





     

                จริงๆมันเป็นแผนของซีเองแหละ แฮะๆ กะว่าจะทำให้อาร์โกรธแล้วมาเซอร์ไพรส์วันนี้ไง กับผู้หญิงคนนั้น ไม่มีอะไรเกินเลยจริงๆนะ แค่ขอให้เขามาด้วยแค่นั้น แล้วก็ลาขาดกันไป





     

                ก็เข้าใจคิดดีนะ พวกเจก็คงรวมหัวแกล้งกันด้วยสิเนี่ย ฮึ! ก็ว่าทำไมมันทำตัวแปลกๆ





     

                แต่ที่ทำเพราะรักนะครับ





     

                ไม่ต้องมาทำหวานเลย เล่นอะไรแบบนี้ เสียความรู้สึกเป็นบ้า เห็นความรู้สึกคนอื่นเป็นของเล่นรึไง ตอนนั้นมันเจ็บแปลบมากๆเลยนะครับ





     

                ไม่ใช่นะ ซีขอโทษนะอาร์ ไม่ได้ตั้งใจให้อาร์เสียใจนะ ขอโทษ





     

                เฮอะ! ทีงี้มาขอโทษ ทำอะไรไม่รู้จักคิด! ต่อจากนี้ไป ดูแลอาร์ให้ดีๆด้วย ไม่งั้นก็ไปถ่วงตัวเองที่อ่าวไทยซะ!” พูดไปก็อายไปครับ ผมหันหน้าหนีไม่ให้มันเห็นหน้าผมที่คิดว่าคงจะแดงเถือกไปทั้งหน้า มันเขินๆมากๆเลย ไม่รู้ว่ามันจะจับใจความได้รึป่าว





     

                ซีขอโทษจากใจจริงเลยนะอาร์ หันมาคุยกันนะครับเอ๋เฮ้ย! โอเคจากนี้ไปจะดูแลอาร์อย่างดีเลยครับ ไม่ปล่อยไปหรอกคนนี้ ขอโทษจริงๆนะครับ รักอาร์นะ





     

                อย่ามากระซิบที่ข้างอยู่สิวะ!! มันจักจี้!!





     

                แรงกอดจากด้านหลัง ทำให้ผมหันกลับไปเพื่อตอบรับอ้อมกอดที่เป็นของผม ก้มหน้าซุกกับอก เพื่อซ่อนใบหน้าที่คิดว่าคงแดงไปถึงหูแล้ว





     

                อืมอาร์ก็รักซีเหมือนกัน





     

                ผมหวังว่าทุกปีจากนี้ไปในวันวาเลนไทน์ เราสองคนจะได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้อีก





     

                ผมขอแค่ทุกๆวันเรามีกันและกันก็พอ… :)




     

            The End ^-^




    จูส์ก็หวังว่าสักวันจะไม่ต้องมานั่งหมั่นไส้เพื่อนในวันวาเลนไทน์ซะที!! - - 

     

     


     

               

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×