ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {exo} รักเมียที่สุดในโลก - KRiSYEOl ft. EXO

    ลำดับตอนที่ #9 : คาถาบูชาเมีย บทที่๘ : รักเมียอย่ารุนแรง ค่อย ๆ แซงอย่าขับไว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.88K
      11
      2 ต.ค. 56

    คาถาบูชาเมียบทที่๘ : รักเมียอย่ารุนแรง ค่อย ๆ แซงอย่าขับไว


    “ชานยอล”


    (‘^ ‘ )”


    “ชานยอลจ๋า..”


    ( ‘ ^’)


    “ชานยอลอา”


    “...”


    “ที่รัก”


    “...”


    “ที่รักคะ”


    “ไม่ต้องมาพูดเลย”


    “งอนอะไรอ่า..”

    คริสครางหงิงด้วยความมึนงงสุดชีวิต เช้าวันนี้เขาตื่นมาด้วยอาการแฮงค์อย่างสาหัสเหตุเพราะเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยจากการท้าทายของรุ่นพี่ตัวแสบ แต่ยังไม่ทันได้ลุกจากเตียงไปทำอะไรก็หันหน้ามาป๊ะกันแหมกับเมียรักที่นอนหน้าหงิกจ้องหน้าเขาอยู่ข้างๆ แต่มองด้วยปลายหางตาก็รู้ว่าหน้าแบบนี้น่ะงอนเขาแน่นอน จะเรื่องอะไรก็ตามแต่ แต่มันก็ทำให้คนกลัวเมียอย่างคริสไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร แถมสะกิดเรียกเมียเท่าไหร่ก็ได้รับแต่สายตาตัดพ้อแถมด้วยการสะบัดหน้าหนีอยู่ร่ำไป


    “นี่จำอะไรเมื่อคืนไม่ได้เลยใช่ป่ะ”


    “เมื่อคืน?”


    “ใช่ เมื่อคืน”


    “เมื่อคืน .. ทำไม..?” คริสทวนคำ พยายามเค้นความทรงจำส่วนที่ลึกที่สุดออกมาตอบคนรักที่นั่งกอดอกมองเขาตาเขียวอยู่บนเตียง แต่ก็รู้สึกเหมือนไม่ช่วยอะไรเลย ราวกับว่าความทรงจำของเขาหยุดอยู่ที่ว็อดก้าช็อตที่สี่ที่พี่รหัสเขาท้าดวล


    “นี่จำได้ป่ะเนี่ยว่าเมื่อคืนกลับมายังไง”


    ชานยอลถามเซ็งๆ ใจนึกอยากจะงอนให้มากกว่านี้แต่รู้ดีว่าถึงงอนไปคริสก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าเขางอนเรื่องอะไร .. หรือถ้าจะให้บอกว่างอนเพราะคริสทำให้เขา .. ค้าง .. ทั้งคืนล่ะก็ ..


    .. ไม่เอาด้วยหรอก!


    “อา.. ไม่แน่ใจแฮะ” คริสขมวดคิ้วด้วยสีหน้ามึนๆ “พี่ยุนโฮมาส่งมั้ง”


    “แล้วทำไงถึงเมาได้ขนาดนั้นเนี่ย‘ ^’)”


    “พี่ยุนโฮอีกนั่นแหละ .. ท้าพี่ดวลว็อดก้า”


    ชานยอลถอนหายใจเฮือก รู้ดีว่าพี่รหัสสุดหล่อของคริสนั้นเป็นคนยังไง แถมยังบ้าๆบอๆด้วยกันทั้งพี่ทั้งน้อง เรื่องจะให้คริสปฏิเสธการท้าดวลของยุนโฮน่ะคงไม่มีทาง คริสกลัวเสียหน้าต่อหน้ายุนโฮจะตายไป


    “แล้วใครชนะล่ะ” ร่างบางยักคิ้วถาม


    “พี่ยุนโฮล่ะมั้ง” คริสหัวเราะหึหึ เพราะเท่าที่เขาจำได้คือตัวเองสติหลุดไปตั้งแต่ช็อตที่สี่แล้ว


    “แหงล่ะ ถ้าพี่ยุนโฮมาส่งได้ก็แปลว่าเมาไม่เท่าพี่ไง”


    “ชานยอลอ่า..”


    “ไม่ต้องมาร้องเลย!” ร่างบางฟาดหมอนข้างใส่คนรัก ก่อนจะลุกออกจากเตียง “ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวชงอะไรร้อนๆให้ดื่มแก้แฮงค์”


    น่ารักแบบนี้ไม่รักเมียจะให้รักใครล่ะครับ!








    “อ่ะ น้ำขิง”


    มือบางยื่นแก้วสีขาวใบเล็กส่งให้คริสที่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟากลางห้องนั่งเล่นแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆคริสรับมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณเบาๆอย่างซึ้งใจ ชานยอลรู้ใจเขาดีที่สุดว่าควรจะทำอย่างไรหากเจอเขาในโหมดนี้ ถ้าตื่นมาแล้วเขาไม่สบาย ชานยอลจะรู้ว่าควรทำอะไรให้เขาดีขึ้น หรือถ้าตื่นมาแล้วรู้ว่าเขาเมาจนแฮงค์หนัก ชานยอลก็รู้ว่าจะต้องทำยังไง ร่างบางข้างๆนี้ดูแลเขาดีจนเขารู้สึกว่าตัวเองดูแลชานยอลได้ดีไม่ได้เท่าที่ชานยอลดูแลเขาเลยด้วยซ้ำ


    “วันนี้ว่างรึเปล่า หืม” คริสเอ่ยถามคนข้างๆ ในขณะที่ชานยอลกำลังตักเค้กรสโปรดเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย มือเรียวจับผมด้านข้างที่ตกลงมาปรกหน้าออกไปทัดหูให้อย่างอ่อนโยน ชานยอลหันหน้ามายิ้มตาหยีให้ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ


    “ว่างสิ ไม่ได้ไปไหน”


    “อยากไปไหนมั้ย”


    “ไมอะ จะพาไปหรอ”

    ชานยอลถามพลางตักเค้กเข้าปากคำใหญ่ เคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มป่องจนเห็นแล้วอยากจับมาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยว ชานยอลเป็นคนชอบกิน กินนู่นกินนี่ได้ไม่หยุดในตู้เย็นเลยมีแต่ของกินเต็มไปหมด แต่จะว่าก็ไม่ได้ ก็เขาเองที่แพ้ชานยอลเวลายิ้มดีใจจนตาปิดหรือเคี้ยวขนมจนแก้มป่อง แถมไอ้ตัวแสบยังเป็นพวกกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนขึ้นสักที ตัวผอมสูงเหมือนเดิมเด๊ะ มีแต่แก้มที่ป่องขึ้นทุกวันๆ


    “ใช่ แก้ตัวที่ทำให้ที่รักงอนไงคะ”


    “รู้หรอว่างอนอะไร” ร่างบางถามกลับ แก้มใสขึ้นสีแดงจางๆเมื่อคิดว่าคริสอาจจะรู้ก็ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น


    “ไม่รู้ แต่อยากให้หายงอนไง”


    คริสยิ้ม เอื้อมมือไปหยิกแก้มแดงๆอย่างรักใคร่


    “โห่ ไอ้เราก็คิดว่าจะรู้”


    “ถ้าอยากให้รู้ก็บอกสิครับ”


    ร่างสูงบอก แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงแค่สายตาคมที่ตัดฉับมามองพร้อมแก้มแดงๆที่เริ่มแดงขึ้นอีกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้


    “ไม่บอกหรอก”


    “แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลย”


    “หึๆ”


    ร่างบางหัวเราะขำ ลอยหน้าลอยตาตักเค้กขึ้นมากินแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว


    “จะบอกไม่บอกฮะที่รัก”


    “ไม่บอก ถ้าบอกไปแล้วเดี๋ยวคนแถวนี้จะเสียดาย”


    ชานยอลว่าแล้วหัวเราะออกมาอีกครั้งอย่างสะใจ


    “งั้นวันนี้ไม่ต้องไปไหนแล้วมั้ง” คริสแสยะยิ้ม


    “อ้าว ไมอะ”


    “ฟัดเมียให้อยู่ห้องดีกว่า” ร่างสูงว่าแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มกลมฟอดใหญ่ก่อนจะก้มลงฝังหน้าลงบนซอกคอขาวแบบจงใจแกล้ง ทำเอาชานยอลต้องหลุดหัวเราะคิกคักออกมาเพราะจั๊กจี้ แผ่นหลังบางถูกดันราบกับโซฟาพร้อมกับที่ใบหน้าคมขยับเข้ามาใกล้ หากแต่ยังไม่ทันที่จะใกล้ชิดกันไปมากกว่านี้ เสียงออดที่หน้าห้องก็ดังขึ้นรัวๆจนร่างสูงชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด ในขณะที่ชานยอลก็แอบพ่นลมหายใจอย่างเซ็งๆเช่นกัน


    โดนขัดจังหวะอีกแล้วโว้ย!


    “ใครมาอะ” เสียงขุ่นมัวถามเซ็งๆ พลางดันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งพิงโซฟาในท่าที่ไม่ล่อแหลมอย่างเช่นเมื่อกี้


    “ไม่รู้เหมือนกัน นัดใครไว้รึเปล่าล่ะ หืม”


    “ผมเปล่า”


    “พี่ก็เปล่า..


    คริสพึมพำเบาๆ ในขณะที่หน้าห้องยังมีเสียงออดดังรัวไม่หยุด “ไอ้พวกจงอินหรอวะ”


    “ไปเปิดประตูดิ”


    “เราก็ไปใส่เสื้อผ้าดีๆไป” ร่างสูงเอ่ยปากบอก เพราะเสื้อนอนตัวโคร่งสีขาวบางที่อยู่บนร่างนั้นดูล่อแหลมขึ้นมาอีกหลายเท่าเมื่อบวกรวมกับรูปร่างสูงยาวของเจ้าตัว ท่อนล่างมีเพียงแค่บอกเซอร์ขาสั้นแถมกว้างจนปิดอะไรๆแทบไม่มิด ขืนให้ไอ้เจ้าพวกนั้นมาเห็นคงได้ศีลแตกกันไปข้าง


    “อื้อ เดี๋ยวอาบน้ำเลยก็ได้”


    ชานยอลบอกแล้วเดินลิ่วเข้าห้องนอนไป ส่วนคริสก็ลากขายาวๆของตัวเองมาถึงหน้าห้องแล้วเปิดประตูรับโดยที่ไม่สนใจจะมองว่าใครมา


    “จะมาทำไมไม่โทรบอกก่อนวะไอ้พวกเหี้ อะ .. อ้าว จินโฮ”


    “ผมโทรไปตั้งหลายรอบ พี่ไม่รับเองนี่นา” ร่างตรงหน้าบ่นหงุงหงิง ก่อนจะฉีกยิ้มหวานแพรวพราว “ก็เลยมาหา คิดว่าน่าจะอยู่ห้อง”


    คริสถอนหายใจเบาๆแล้วยกมือขึ้นโยกหัวเล็กๆอย่างคุ้นเคย “โทษที พี่วางโทรศัพท์ไว้ในห้องนอนน่ะ เข้าห้องมาก่อนสิ”


    “อ่า ขอบคุณครับ” ร่างเล็กกว่าผงกหัวขอบคุณก่อนจะเดินตามร่างสูงของคริสเข้ามาในห้องหรู ตากลมกวาดมองไปทั่วด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนจะต้องเบ้หน้าเมื่อพบว่า ทุกอย่างในห้องนี้ยังเหมือนเดิมทุกประการ


    “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเรา”


    “ก็ .. เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เองครับ”


    จินโฮเป็นน้องรหัสของคริสที่สนิทสนมกันพอสมควร เนื่องจากคริสมักจะให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆกับเขาอยู่บ่อยๆ แต่ก็มาห่างๆกันไปเมื่อเขาสมัครโครงการไปเรียนต่างประเทศของมหาวิทยาลัยเป็นเวลาหนึ่งปี ถึงแม้จะมีคุยสไกป์กันบ้างแต่ก็ไม่ได้บ่อยอะไร หรือแทบเรียกว่าไม่ได้ติดต่อกันเลยก็ยังได้


    “เอ่อ .. ชานยอลไม่อยู่หรอครับ” ร่างเล็กถามหลังจากสำรวจรอบห้องแล้วไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่เลย


    “อาบน้ำน่ะ อยู่ในห้อง”


    นิ้วเรียวชี้บุ้ยใบ้ไปทางประตูห้องนอนบานใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวจะได้ไม่ต้องรบกวนแขก


    “เออพี่คริส ผมมีของมาฝากพี่เต็มเลยนะ”


    “หรอ ดีจัง ขอบใจนะ” ร่างสูงยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถาม “แล้วกินอะไรมารึยังเนี่ย”


    “ยังเลยฮะ”


    จินโฮส่ายหัวดิก เอามือลูบท้องประกอบคำพูด พร้อมด้วยสายตาออดอ้อนที่ฝึกปรือมาอย่างมั่นใจว่าใครเห็นเป็นต้องยอมจำนนทุกราย


    “งั้นรอไปกินด้วยกันก็แล้วกัน พี่กับชานยอลก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน”


    “ก็ได้ฮะ”


    ร่างเล็กพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะควานหาของในถุงกระดาษที่หอบหิ้วมาเต็มสองมือ


    “อะนี่พี่คริส ผมซื้อน้ำหอมมาฝากด้วยนะ หอมแบบสปอร์ตๆดี พี่น่าจะชอบ”


    คริสรับขวดแก้วหรูที่บรรจุของเหลวสีอ่อนมาจากมือเล็กขึ้นมาดมดูก่อนจะยิ้มตอบ


    “อืม หอมดีเหมือนกัน”


    “แล้วก็มีเสื้อด้วย ไม่ได้เจอนานไม่รู้พี่อ้วนขึ้นรึเปล่า กะไซส์ไม่ถูกเลย” เสียงใสพูดเจื้อยแจ้ว ล้วงของในถุงกระดาษใบสวยขึ้นมาดูเป็นการใหญ่ “ถ้าอ้วนขึ้นก็ต้องลดนะจะได้ใส่ได้ มันเหมาะกับพี่มากเลยล่ะ แต่ไม่น่าจะอ้วนขึ้นหรอกเนอะ ดูแล้วก็เหมือนเดิม หล่อเหมือนเดิมเลย”


    “พูดว่าอ้วนนี่หยาบคายมากนะครับน้องจินโฮ” ร่างสูงแยกเขี้ยว “แต่บอกว่าหล่อเหมือนเดิมนี่พี่ก็พอจะให้อภัย”


    “ฮ่ะๆๆ พี่นี่น่ารักเหมือนเดิมเลยนะ”


    “แน่นอนอยู่แล้ว”


    คริสหัวเราะ ยกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างเคยตัว


    “พี่คริส ตกลงใครมา พี่จงอินหรอ..


    ร่างบางที่เดินเช็ดผมเข้ามาในห้องนั่งเล่นถามเบาๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า สายตาคมตวัดฉับมามองที่คริสที จินโฮทีก่อนใบหน้าหวานจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม แม้นัยน์ตากลมจะซ่อนความรู้สึกที่พุ่งพล่านเอาไว้ไม่มิดก็ตาม


    “กลับมาแล้วหรอจินโฮ”


    “อื้อ ใช่ กลับมาแล้ว” คู่สนทนาตอบกลับสบายๆ หากแต่ว่ารอยยิ้มที่มุมปากมันชวนให้ชานยอลอยากจะพุ่งเข้าไปต่อยให้ปากแตก แต่จิตวิญญาณฝ่ายดีในตัวก็ห้ามตัวเองเอาไว้เสียก่อน


    “ไม่น่ากลับมาเลยเนอะ”


    ร่างบางแสร้งพูดขำๆ


    “นายว่าไงนะ”


    “อ๊ะ ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่า ไม่น่ารีบกลับมาเลยเนอะ น่าจะอยู่ที่นั่น นาน นานนนนนนนนน”


    ชานยอลลากเสียงยาวแบบจงใจยั่วให้อีกฝ่ายตบะแตกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในขณะที่ใบหน้าขาวใสของอีกคนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆจนแทบลามไปถึงใบหู


    “พอดีต้องรีบกลับน่ะ มีของสำคัญอยู่ที่นี่” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ แถมท้ายประโยคยังปรายสายตาไปมองร่างสูงที่นั่งข้างๆอีกด้วย


    ชานยอลชักสีหน้าไปนิดแต่ก็คุมอารมณ์ให้กลับมาอยู่ในโหมดปกติได้เหมือนเดิมจนคริสไม่ทันสังเกต


    สงสัยต้องเอาพวงมาลัยไปกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่สอนการแสดงซะหน่อยแล้วล่ะมั้ง ..


    “พี่คริส ไปอาบน้ำสิ ผมหิวแล้ว”


    “อื้ม จะกินอะไรก็คิดไว้แล้วกัน พี่จะพาจินโฮไปเลี้ยงด้วย” คริสลุกขึ้นมาดึงแก้มคนรักที่ยืนอยู่เบาๆอย่างหยอกล้อ “รอพี่อาบน้ำแป๊บนึงนะคะ อย่าเพิ่งโมโหหิว”


    “รู้แล้วล่ะน่า ไปเลยไป”


    ร่างบางเอ่ยปากไล่ ทำเอาคริสได้แต่เดินหัวเราะเข้าไปในห้องนอนอย่างสบายใจ เพียงแต่คล้อยหลังร่างสูงไปได้ไม่ทันไร ลูกแมวน้อยจอมขี้อ้อนของคริสก็แปรเปลี่ยนเป็นแมวน้อยจอมดุที่ยืนกอดอกแน่น ตากลมจ้องเขม็งไปที่คู่สนทนาที่นั่งอยู่บนโซฟาของเขาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

                ชานยอลรู้ดีมาแต่ไหนแต่ไรว่าฮันจินโฮคนนี้แอบชอบคริสมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง แถมยังโชคดีได้เป็นน้องรหัสของคริสอีก เรื่องที่จินโฮชอบคริสลือกันไปทั้งมหาวิทยาลัยเพราะเจ้าตัวเคยพูดออกสื่อในงานเฟรชชี่ไนท์ตอนพิธีกรถามว่าชอบคนแบบไหน ร่างเล็กนั่นก็ตอบฉะฉานอย่างคนมั่นใจว่าแบบไหนก็ได้ แต่ถ้าได้แบบคริสคงดีไม่ใช่น้อย ทำเอาคริสที่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มจีบชานยอลถึงกับเป๋ไปพักใหญ่

                แต่นางเอกก็คือนางเอก(เฮ้ย!!) คริสคงรู้ตัวดีว่าชอบของแปลกจำพวกหูกาง ตาโต ตัวสูงปรี๊ด ไม่ใช่หนุ่มน้อยพิมพ์นิยม ดวงตาเฉี่ยวคม ปากนิด จมูกหน่อย แถมตัวเล็กบอบบางอย่างจินโฮ ก็เลยมุ่งหน้าจีบชานยอลเต็มที่ โชคดีที่หลังจากจีบติดไม่นาน ฮันจินโฮก็มีอันต้องย้ายไปเรียนที่อื่นเป็นเวลาถึงหนึ่งปีเต็ม


    “กลับมาทำไม” ร่างบางยืนกอดอกถามท่าทางเอาเรื่อง


    “ถ้าฉลาดก็ไม่น่าถามนะ น่าจะรู้ดี” อีกฝ่ายเองก็ไม่น้อยหน้า ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับชานยอลอย่างไม่เกรงกลัว แม้ความสูงจะห่างกันหลายช่วงก็ตาม


    .. เหมือนลูกแมวปะทะกับแม่สิงโต


    “ฉันไม่รู้ดีเหมือนใครบางคนหรอก รู้ดีไปหมด ไม่รู้อยู่อย่างเดียว คือไม่รู้ว่าเขาไม่รัก”


    ชานยอลยิ้มเยาะ หยดน้ำใสไหลลงมาจากปลายเส้นผมลงต้นคอขาว แต่เขาไม่อยากจะสนใจ กระแสไฟในดวงตาคู่แข่งมันวาวโรจน์ซะจนอยากจะควักออกมาเพราะไม่อยากจะมอง


    “ปากดีนะชานยอล!


    “อ๊ะ แน่นอน” เรียวปากบางยกยิ้ม ยักคิ้วจึ้กๆอย่างกวนประสาท “ถ้าปากไม่ดีพี่คริสคงไม่หลงขนาดนี้หรอก”


    “หน้าด้าน”


    “ก็เหมือนนาย”


    “พี่คริสจะรู้มั้ยนะว่านายเป็นคนแบบนี้” จินโฮกอดอก เชิดหน้าขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย


    “แล้วพี่คริสรู้ป้ะว่าน้องรหัสเป็นคนแบบนี้”


    “อย่ามากวนฉันนะชานยอล”


    “ทำไมฉันจะกวนนายไม่ได้ฮันจินโฮ”


    “ปากดีไปเถอะ โดนพี่คริสทิ้งเมื่อไหร่คงพูดไม่ออก”


    จินโฮสวนกลับอย่างเดือดดาล สองมือเล็กกำแน่นสะกดกลั้นอารมณ์ ในขณะที่ชานยอลยืนมองแล้วหัวเราะเบาๆอย่างคนเป็นต่อกว่า


    “ถึงจะโดนทิ้งก็ยังได้สถานะแฟนเก่า แต่คนที่เขาไม่เอา ควรเรียกว่าอะไรดีล่ะ ฮัน จิน โฮ”


    “ปาร์คชานยอล!!!!


    “โอ๊ะๆ โกรธแล้วหรอ”


    ชานยอลยิ้มยียวน เอื้อมมือไปแตะคางมนอย่างหยอกล้อแต่โดนสะบัดออกอย่างรวดเร็วจากเจ้าของร่าง จินโฮตวัดสายตามองชานยอลด้วยความขุ่นมัว ขณะที่ชานยอลดูจะสนุกสนานกับสถาการณ์นี้ไม่น้อย


    “อย่าเพิ่งโกรธนะ” ร่างบางยิ้มหวาน แววตาวาววับอย่างคนเจ้าเล่ห์ “เพราะเกมส์มันเพิ่งเริ่มเอง ถ้านายคิดจะไฝว้ ฉันก็จะจัดให้แบบสาสม!


    “ปาร์คชานยอล ..!! นายนี่มัน .. !!!!!!


    “น่ารักใช่มั้ยล่ะ J

     
     

    -----------------------
     

    ทุกคนว่าชานยอลน่ารักมั้ยคะ 555555555555 ตอบนางหน่อยเร็ว 55555
    ตอนนี้คือแบบ ไรอะ ทำไมเป็นแบบนี้ เกี่ยวกับชื่อตอนตรงไหน .. บอกเลยว่าคนเขียนก็ไม่รู้=_= 
    ชื่อตอนนี้ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ รบกวนมองข้ามนะคะ ขอร้อง555555555 
    ใครสงสัยว่าฮันจินโฮคือใคร คือจริงๆเป็นออลจังค่ะ รู้สึกว่าคาแรกเตอร์เหมาะกับบทดี 5555 
    พยายามหาศิลปินที่น่าจะเหมาะแล้วก็ไม่ลงตัวสักที รู้สึกว่าจินโฮใช่มากๆ อารมณ์เหมือนแตงกวาในต้นรักริมรั้ว ... /คนเขียนติดละคร

    นี่ค่ะฮันจินโฮ เห็นหน้าจะได้จินตนาการคู่แข่งชยอลถูก -..-




    /น่ารักเนอะ u___u คนเขียนชอบมาก 55555 ถึงจินโฮจะร้ายแต่ก็น่ารักน้า อย่าเกลียดฮีเลย~

    ปล.วันนี้เม้าท์มอยเยอะจัง ._. มาช้ายังจะพูดมากอีก 55555555 
    ปล2. ใครจะแอบพูดถึงฟิคเรื่องนี้ในทวิต ฝากแท็ก
    #รักเมียที่สุดในโลก ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า 


     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×