คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่9
ตอนที่9
ห้องพักผู้ป่วยในตอนนี้เหลือคนไม่กี่คนนอกจากมิลร์แล้วก็มีพายกับเฮเลนที่ปากบอกว่าไม่รอแต่ก็รออยู่ดี และก็กวางที่รอแม่มารับไปทำธุระต่อ ขณะนี้ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มจะมืดแล้วมิลร์ยังคงนอนอ่านหนังสือนิ่งๆ ขณะที่เฮเลนนอนซบหน้านิ่งปากก็บ่นอะไรไม่รู้ พี่คิดเนี่ยทำเพื่อนเขานิสัยเปลี่ยนนะเนี่ย
“โว้ยเฮเลนเลิกบ่นพึมพำอะไรคนเดียวได้ไหม”
กวางที่ต่อจิ๊กซอว์กับพายอยู่พูดขึ้นอย่างเหลืออด เป็นเอามากนะเฮเลน กวางคิดในใจเบาๆเฮเลนทำเพียงตวัดสายตามามองเท่านั้นก่อนที่จะซบหน้าลงไปดังเดิม สักพักประตูห้องพักผู้ป่วยก็เปิดขึ้นก่อนที่บุรุษหน้าหล่อไม่คุ้นตาจะเดินเข้ามา ทำเอากวางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“น้าหยงให้มารับ”
“ไทเลอร์”
ดวงตาคมเข้มก้มลงมามองคนที่นั่งต่อจิ๊กซอว์ที่นั่งอ้าปากค้างอยู่ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเลยสายตาไปที่พายที่ถือจิ๊กซอว์มองมาที่เขากับกวางสลับไปมา
“เออ ทุกคนนี่ไทเลอร์รุ่นพี่ฉันเอง”
กวางยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยแนะนำบุคคลแปลกหน้าให้เพื่อนๆที่นั่งมองตาแป๋วรู้จัก ทุกคนพยักหน้าทันทีที่ฟังจบยกเว้นก็แต่เฮเลนที่ไม่สนใจใครเอาแต่ซบหน้าลงกับหมอน ดวงตาคมส่งสายตาไปให้อีกคนรีบเก็บของเร็วๆ ใบหน้าหวานไม่สบอารมณ์นักแต่ก็ลุกเก็บจิ๊กซอว์แต่โดยดีโดยมีพายช่วยเก็บ ระหว่างที่เก็บปากก็เอ่ยถามไปด้วย
“นายกลับมาจากอเมริกาตอนไหนนะ”
“เมื่อวาน”
ไทเลอร์ตอบนิ่งๆ มือแกร่งยื่นไปคว้าสัมภาระของคนตัวเล็กกว่ามาถือไว้ กวางหันมายิ้มให้เพื่อนรักจนตาหยี มือเรียวยกขึ้นโบกมือให้ก่อนที่จะส่งมือไปให้คนหน้าหล่อที่ยืนอยู่นิ่งๆ มือแกร่งเอื้อมมากุมมือบางไว้ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไปไม่สนใจเครื่องหมายคำถามที่แปะเต็มหน้าของเพื่อนๆ
“เอ่อ…”
“ฉันนี่พูดไม่ออกเลย”
หลังจากที่กวางเดินออกไปได้ไม่นานประตูห้องพักผู้ป่วยก็เปิดออกพร้อมกับคิดที่เดินเข้ามา มุมปากแกร่งส่งยิ้มทักทายเพื่อนของคนรักที่มองเขาไม่วางตา เรียวขาเดินไปหาคนรักที่นอนคว่ำหน้าซบลงกับหมอนใบโตที่โซฟาก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมนุ่มเบาๆ พร้อมกับเอ่ยเรียก
“เฮเลนพี่มาแล้วครับตื่น”
“อืม”
เปลือกตาเปิดขึ้นช้าๆก่อนที่มือบางจะยันตัวเองขึ้นนั่ง เฮเลนหันไปพยักหน้าให้มิลร์เล็กน้อยปากบางยังคงเงียบสนิท คิดถอนหายใจออกมานิดหน่อย มือแกร่งค่อยๆสัมผัสจับแขนบางแต่ก็โดนสะบัดออก ก่อนที่เรียวขางามจะกระแทกเดินออกไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มิลร์กับพายที่พยายามทำตัวกลมกลืนไปกับผนัง มองหน้ากันเล็กน้อย
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับเป็นอย่างงี้ประจำและ”
เสียงราบเรียบถูกเปล่งออกมา ใบหน้าหล่อฉายแววกังวลใจขึ้นมานั้นปิดพวกเขาไม่มิด มือแกร่งหยิบกระเป๋าเป้ของคนรักขึ้นมา ริมฝีปากฉีกยิ้มให้กับเพื่อนของคนรักแล้วจึงเดินออกไป
“ฉันพึ่งรู้นะเนี่ยว่าเฮเลนจะเอาแต่ใจขนาดนี้”
พายเอ่ยขึ้นมาอย่างงงๆ มือแกร่งหยิบองุ่นส่งเข้าปากบางที่ก้มลงมากินอย่างไม่อิดออด ใบหน้าสวยฉายแววพึงพอใจ พายหัวเราะในลำคอก่อนจะส่งองุ่นเข้าปากตัวเองบ้าง ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบแต่ก็ไม่ได้สร้างความอึดอัดให้แก่ทั้งสองคน กลับกันพวกเขาต่างใช้เวลานี้ได้ราวกับเป็นเรื่องปรกติ ใช่ปรกติที่จะมีอีกคนเคียงข้างจนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนอื่น
“พรุ่งนี้ต้องไปตามงานกับเพื่อนในห้องแล้วละ”
ริมฝีปากบางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวแต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนป่วยได้ยิน มือแกร่งเอื้อมมาทัดผมสีบลอนด์ไปทัดหูให้อีกคนอย่างแผ่วเบา ขณะที่คลี่ยิ้มออกมา ใบหน้าสวยหันมามองใบหน้าของพาย คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพวกอัลฟาจะเอามาให้ทำนะ”
“ดีเหมือนกัน”
ตอนนี้มิลร์กลับมาพักที่บ้านแล้ว และแน่นอนว่าบ้านเขาเองเหล่าสาวใช้ต่างตั้งตนที่จะแข็งข้อกับเขา แต่ก็ยังมีน้ำฝนกับบัวที่ยังคงรับใช้เขาด้วยความสัตย์จริง ทุกเช้าที่ลงมาทานข้าวเขาจะโดนคนฝั่งนั้นแกล้งเล็กๆน้อยๆ หึก็แค่เล็กๆน้อยๆแหละน่าที่คนพวกนี้นะทำได้\
“มิลร์จ๊ะ จะจบเกรด12แล้วจะไปต่อที่ไหนหรอ”
ลันดาถามขึ้นขณะที่ครอบครัวสิงห์มณีกำลังทานอาหารอยู่ ใบหน้าสวยของมิลร์เงยหน้าขึ้นมาจากถ้วยข้าวต้มตรงหน้า จ้องมองอีกฝ่ายนิ่งๆแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอีกฝ่ายไปแต่อย่างใด
“ลันดาถามทำไมแกไม่ตอบ”
“อ่านเมลจากคุณปู่แล้วหรือยังครับ”
“อะไรของแก!!!”
“อย่าลืมอ่านละครับ บางทีมันอาจจะทำให้ชีวิตใครคนหนึ่งเปลี่ยนไปใช่ไหม…ไอ”
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างแช่มชื่น ขณะที่ไอรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมิลร์นั้นช่างสวนทางกลับใบหน้าหวาน จึงทำได้เพียงฉีกยิ้มอย่างเกร็งๆไปให้คนตรงหน้าเท่านั้น หางตาของมิลร์เหลือบมองนาฬิกาลูกตุ้มทรงสูงที่ตั้งอยู่ทางเข้าห้องทานอาหาร ก่อนจะวางช้อนลงยืนขึ้นช้าๆ พร้อมกับเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่นั่งทานอาหารอยู่หัวโต๊ะเบาๆ
“ผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ”
โทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่โต๊ะด้านหลังของอานารุจส่งเสียงร้องออกมา บัวที่คอยยืนรับใช้อยู่เดินไปหยิบให้กับผู้เป็นเจ้าของ ทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องทานอาหารก็ได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อดังลั่น ฟังจากเสียงแล้วคงจะหัวเสียอยู่ไม่น้อย ริมฝีปากค่อยๆฉีกยิ้มอย่างช้าๆ ก็แค่อยากให้ไอรู้เท่านั้นและว่าเขานะอยู่ในฐานะอะไรของทั้งสองตระกูลนี้
“อะไรนะ!!! คุณพ่อส่งมาอย่างนั้นหรอ ได้ฉันจะเข้าบริษัทเดี๋ยวนี้และ”
ถึงจะสะใจแต่ความไม่สบายใจนั้นมีมากกว่า การเอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้งมันอาจจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่คนที่เดือดร้อนก็เป็นไอกับลันดานี่นะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปสนใจเหตุผลข้อไหนในชีวิตหรอก บอกแล้วไงว่าเรื่องของสองแม่ลูกนี้อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง เขาคิดกับตัวเองขณะที่โยนการบ้านส่งคืนเฮเลน
“วันนี้ มิสเตอร์โรนัลด์ยกคลาสว่ะทุกคน”
“โห ไอ้เราก็อุตส่าห์ทำการบ้านจนเสร็จ”
“เอ้าปากไม่เป็นมงคลเลยไอ้มิลร์ ยกคลาสนะดีแล้วฉันละเบื่อตานี่จริงๆ”
โจ้เหวใส่อย่างฉุนๆ มิสเตอร์โรนัลด์คือลูกครึ่งชาวบราซิลเลี่ยนสุดหล่อที่ชอบจะแกล้งโจ้เป็นประจำ เวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรนะกัดกันตลอด แต่เอาจริงๆมิสเตอร์โรนัลด์ต่างหากที่ชอบแหย่เพื่อนเขาจนมันหงุดหงิด ได้ข่าวว่าอยู่คอนโดเดียวกันตอนไปหาโจ้คราวที่แล้วขึ้นลิฟต์พร้อมกับมิสเตอร์โรนัลด์ด้วย
“แหม ก็คงจะเบื่ออยู่หรอกสอนเช้าสอนเย็นขนาดนั้นเนอะกวาง”
“ไอ้ลิหุบปากแกด้วยกวาง ถ้าไม่อยากให้ฉันเชือดไอ้ตุ๊กตาจระเข้ที่ไทเลอร์ซื้อให้นะ”
“แกมายุ่งอะไรกับตุ๊กตาฉันว่ะไปลงที่ไอ้ลินู่น”
“ชิ”
โจ้หันมามองลิที่ยักคิ้วมาให้แบบเป็นต่อย่างเจ็บใจ เขารู้จุดอ่อนมันอยู่หรอกแต่ขืนได้พูดไปมันได้ฆ่าเขาแน่ มิลร์ที่ลอบมองอยู่อมยิ้มนิดๆพร้อมกับพยักหน้าให้เอริคที่นั่งฟังนิ่งๆแต่ประกายในตานั้นกลับฉายแววสนุกสนานเต็มที่
“เอ…จะว่าไปที่เขาวงกตอ่ะ เจเรมี่มันทำอะไรแกหรอว่ะ”
“ไอ้มิลร์ หุบปากเดี๋ยวนี้”
“เห้ย นี่ฉันกับเจเรมี่ก็สนิทกันพอควรนะลิจะบอกอะไรให้นะ มีอะไรมันก็บอกฉันหมดนั่นและ”
“แกรู้…”
“รู้สิ รู้ด้วยว่าแกหึงมันขนาดไหนน่ะ”
มิลร์ยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อ มือบางแท็คทีมกับโจ้อย่างสนุกที่ได้แกล้งลิที่ตอนนี้ใบหน้าขึ้นสีจัดด้วยความโกรธหรือเขินก็ไม่รู้ แต่ก่อนที่จะได้เล่นไปมากกว่านี้บุคคลที่เคยประกาศว่าจะยกคลาสก็เดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยใบหน้านิ่งๆแต่มองยังไงก็หล่อโคตรอยู่ดี โจ้แอบแลบลิ้นด้วยความหมั่นไส้ ทันทีที่สายตาสบกันก็หันเหไปทางอื่นอย่างไม่สนใจสายตาของคนที่มองมาจากหน้าชั้นเรียนเลย
“Mr. Ronald you said..”
“Oh sorry everyone just kidding”
ได้ยินเพียงแค่นั้นทุกคนก็พร้อมใจกันขยับปากเป็นรูปสระอิทันที ส่วนคนที่ได้หลอกให้คนอื่นตายใจยืนหัวเราะนิ่งๆ ใบหน้าหล่อผินไปทางอีกคนที่ไม่สนใจเขาแล้วเหม่อมองไปทางนอกหน้าต่าง โรนัลด์ส่ายหัวให้นักเรียนหัวดื้อเล็กน้อย ขายาวก้าวไปหาร่างโปร่งเบาๆ นักเรียนในห้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเหตุการณ์อันใกล้ที่กำลังจะเกิดขึ้น เอาหน่าพวกเขาชินแล้วละ
“Oh…..what are you look at”
“Don’t mess with me please.”
โรนัลด์หัวเราะนิดหน่อย ใบหน้าหล่อก้มลงมาหาอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด เอ่ยเสียงกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน ทันทีที่ฟังจบนัยน์ตาเรียวของโจ้ก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที
“You’re look at the boy. He’s wearing an orange shirt.”
“You know!!!. Don’t say it again.”
“He’s look like handsome but I better do you think that.”
“Please don’t say about him. You should teach english for them now.”
“Ok. First you must intend to learn.”
“all right.”
“งานโรงเรียน”
เอมทวนคำช้าๆ ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่โรงอาหารโดยมีสายตาเสียดแทงจากคนรอบข้าง ก็แค่ห้องพวกเขาทำคะแนนสอบเฉลี่ยได้เยอะที่สุดในสายชั้นเท่านั้นเอง เฮเลนพยักหน้านิดหน่อย มือบางสอดเข้าไปในกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์ร้อยยื่นให้โจ้ที่ยืนรอเงินไปซื้อขนมอยู่ ไม่วายแอบบ่นให้โจ้เบาๆ
“แค่นี้ยังจะให้ออก”
“บ่นไปๆ ก็ดันทำคะแนนภาษาสเปนได้น้อยกว่าฉันเองนิช่วยไม่ได้”
“ชิ”
“พวกนั้นมันยกให้พวกเราเป็นเฮดจัดงาน”
“ส่วนการแสดงชมรมดนตรีจะเป็นคนจัดการเอง”
อัลฟาที่เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมเอ่ยขึ้น เอริคมองคนนั่งข้างๆเล็กน้อยมือหนาจดรายละเอียดงานลงบนกระดาษรายงาน เขาได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าจัดงาน ซึ่งเป็นอะไรที่ยุ่งยากสิ้นดี กวางปิดหนังสือเล่มหนาลง เกยคางไว้บนโต๊ะอย่างเบื่อๆเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เอาเป็นธีมอะไรดี”
“ไดโนเสาร์”
มิลร์ที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างอึ้งๆ มีแต่พายคนเดียวที่หัวเราะออกมาหน่อยๆ มือหนาวางแหมะลงบนผมสีทองสลวย โยกมันไปเบาๆเอ่ยออกไปด้วยความเอ็นดูกับความเด็กที่มีในตัวของคนที่นั่งใกล้
“โอ๋ๆ เดี๋ยวจะให้ฟิ๊กเกอร์รุ่นล่าสุดก็ได้ ไม่ต้องหน้าบึ้งขนาดนั้นก็ได้ครับ”
“พูดแล้วห้ามคืนคำ”
“จ่ะๆ”
“เอาเป็นธีมพังค์ดีไหมแก”
โจ้เดินมานั่งลงตรงข้ามกับเฮเลน ยื่นเงินทอนไปให้คนตรงหน้าที่มองแรงมาให้เขาอยู่ ลินั่งกดโทรศัพท์อยู่คนเดียวเงียบๆ ถ้าไม่มีสาวๆในห้องคอยส่องดูว่าหนุ่มหน้าหวานผู้นี้นั้นคุยกับใครอยู่
เอมนั่งคิดนิ่งๆเขาได้รับงานให้ตกแต่งพร็อพถ่ายรูปของปีนี้ ปีที่แล้วรุ่นพี่ทำได้เก๋พอควร แต่ก่อนที่จะได้จมกับความคิดตัวเองไปมากกว่านั้นสัมผัสที่ไหล่พร้อมกับเสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานาน ก็ทำให้เจ้าตัวหันไปได้ทันที
“คิดมากจนคิ้วขมวดเชียว”
“แมท”
“ครับผมเอง”
หนุ่มลูกครึ่งผมทองยิ้มร่า โซ่เขยิบที่ให้หนุ่มรุ่นน้องได้นั่งลงข้างๆเอม จากนั้นทุกคนก็หันมาให้ความสนใจกับธีมของงานที่ยังคิดไม่ตกกันอยู่ จนกระทั่งแอมเบอร์สาวสวยของห้องลดหนังสือที่อ่านอยู่ลงมานิดหน่อย พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาคำเดียว
“evil”
“evil ? . Are you sure.”
“Yes. I am”
“Why”
“Because they think we are evil”
“All right.”
อัลฟารีบจดธีมของงานลงไปทันที พวกเขารีบแบ่งหน้าที่ฝ่ายต่างๆทันที โดยที่กวางกับเฮเลนที่เป็นมิตรที่สุดในห้องจะเป็นฝ่ายประสานงานให้กับห้องต่างๆเอง หลังจากที่งานคืบหน้าไปแล้วพวกเขาก็หันมาให้ความสนใจ เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่อ้อนมืออ้อนเท้าเอมอยู่อย่างสนใจ
“นี่ๆคาบบ่ายพี่ว่างใช่ไปดูผมแข่งบาสหน่อยสิ”
“ไม่ว่าง”
“อย่าไปเชื่อมัน ว่างยันเลิกเรียน”
ลิที่เก็บโทรศัพท์แล้วพูดสวนขึ้น โดยไม่สนใจสายตาจิกกัดของเอมที่มองมาอย่างเคียดแค้น เจ้าตัวยักคิ้วไปให้อย่างเป็นต่อ พร้อมกับยกมือขึ้นแปะกับโจ้ แมทยิ้มกว้างทันทีที่ฟังจบ
“เห็นไหมว่างจริงด้วย”
“เห้ย ถึงว่างก็มีงานอย่างอื่นนะ”
“เห้ยๆ แกชนะคะแนนฟิสิกส์ฉันนิ ของเดิมพันคือการบ้านของมิสแคลร์นี่หว่า”
คราวนี้เป็นกวาง ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างไปให้เพื่อนรักขณะที่ในใจกำลังเต้นเป็นลิงโลดที่ได้เอาคืนเรื่องคะแนน
เอมที่ไม่มีที่พึ่งรีบหันไปหาพายกับมิลร์ทันที แต่ก็พบแค่เพียงออร่าสีชมพูลอยกระแทกหน้าเมื่อสองคนนั้นมันเข้าสู่โลกส่วนตัวไปเรียบร้อย เบนทิศทางไปคนถัดไปเอริคกำลังหยอกล้อกับอัลฟา มือแกร่งล็อคคอคนตัวบางกว่าไว้แนบอก ก่อนจะใช้นิ้วจี้ไปที่แอวบางเบาๆ แต่ก็ทำให้คนที่อยู่ในอ้อมแขนดิ้นพลุ่กพล่านไปได้ หันไปหาเฮเลนก็พบแค่เพียงความว่าเปล่าเห็นแผ่นหลังบางเดินตีคู่ไปกับฟ้า หันไปมองเพื่อนๆในห้องที่ทำไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับถอนหายใจนิดหน่อย
“ตกลงไปนะๆๆๆๆๆๆๆ”
“เออก็ได้”
แมทลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มกว้าง มือหน้าส่งไปให้รุ่นพี่ตัวเล็กที่ยืนข้างกัน มือบางวางลงบนมือรุ่นน้องพร้อมกับสอดประสานกันด้วยความเคยชิน โดยที่ไม่รู้สักนิดว่ามีสายตาของเพื่อนๆจ้องมองทุกการกระทำ ร่างสูงแอบขยิบตาให้รุ่นพี่คนอื่นๆที่ช่วยเหลือ พวกลิยกนิ้วให้อย่างเนียนๆลับหลังเอม พวกเขาอมยิ้มกับคู่รักที่เดินเคียงกันไปทางโรงยิมของโรงเรียน
“ยิ้มอะไรอัล”
“เปล่านะริค คิดว่าคู่นี้น่ารักดีนะ”
“หรอฉันว่าคู่เราน่ารักมากกว่านะ”
ฟอด
ว่าจบเอริคก็หอมแก้มเนียนของคนตัวเล็กไปหนึ่งฝอด ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อมือบางตีแขนของคนขี้แกล้งอย่างแรงด้วยความเขิน ก่อนที่จะเหวลั่นใส่คนที่ทำอะไรไม่รู้เรื่อง โดยมีสายตาล้อลเลียนของเพื่อนๆ และเสียงกรี๊ดของสาวๆในห้องที่ฟินกันจนเลือดแทบจะทะลักประกอบ
“เอริค!!! ทำบ้าอะไรของนาย”
“หอมแก้มไง แค่นี้ทำเขินอยู่ห้องฉันทำมากกว่านี้นายยังไม่ว่าเลย”
“อะ..เอริคคคคคคคคคคค”
“นี่มันอะไรกันคุณทศพร”
อานารุจเอ่ยขึ้นหลังจากกวาดสายตาอ่านข้อความที่พ่อบังเกิดเกล้าส่งมาให้เขา เลขาหนุ่มทำเพียงแค่ยื่นซองสีน้ำตาลที่ถูกส่งมาจากญี่ปุ่นมาให้ มือแกร่งรับมาวางไว้ด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“ทำไมพ่อถึงรู้เรื่องนี้ได้”
เรื่องการสั่งซื้อสร้อยเพชรของเขาที่ตั้งใจจะให้ลันดาในวันเกิดของเธอ แล้วไหนจะรายจ่ายการซื้อรถยนต์คันใหม่ของไออีก มันจะไม่เป็นเรื่องถ้าทรัพย์สินนั้นผู้รับคือมิลร์ ทายาทโดยชอบธรรมของตระกูล การที่เขามีภรรยาอีกคนขณะที่ยังไม่ได้หย่าจากโรน่าเป็นเรื่องที่ผู้เป็นพ่อห้ามเด็ดขาดเพราะกฏเหล็กของตระกูลคือห้ามมีเล็กมีน้อยเด็ดขาด
“เอ่อ…ท่านครับ”
“มีอะไรอีก”
“ท่านเจ้าสัวจะเดินทางมาถึงในอาทิตย์หน้านะครับ”
“อะไรนะ!!! ต่อสายหาคุณพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”
“ทราบแล้วครับ”
เลขาหนุ่มรีบโค้งตัวให้ก่อนที่จะก้าวเดินออกไปทันที ทั้งห้องของเขาตกอยู่ในความเงียบก่อนที่ประตูบานใหญ่จะเปิดขึ้น พร้อมกับเสียงส้นเข็มของรองเท้าส้นสูง ร่างสมส่วนของลันดาเดินมาหาอานารุจอย่างออดอ่อน ค่อยๆทิ้งตัวลงบนที่เท้าแขนของเก้าอี้ที่สามีเธอนั่งอยู่
“หน้าเครียดเชียวมีอะไรหรอคะ รุจ”
“ลันดาคุณพ่อเขารู้เรื่องการใช้จ่ายของคุณกับไอซึ่งท่านไม่พอใจอย่างมาก และท่านจะมาอาทิตย์หน้า”
ดวงตาเรียวเบิกกว้างทันที ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเจ้าสัวนั้นไม่ชอบเธอขนาดไหน เพราะโรน่าคือคนที่เจ้าสัวแนะนำให้อานารุจ ท่านรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอข้างกายลูกชายคนโตเสมอ แต่ก็ไม่เคยระแคะระคายถึงค่าใช้จ่าย เพราะงั้นคนที่วิ่งแจ้นเอาไปฟ้องจะเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ลูกของอดีตเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดโรน่า
เดี๋ยวแกจะได้เห็นดีกัน!!! ขนาดแม่แกฉันยังเขี่ยไปได้เลยนับประสาอะไรกับแก!!!
TBC.
Talk with write
คุยกับไรท์กันสักนิ๊ดดดดดดด นะรีดเดอร์(ถึงเรื่องมันจะไม่ฮ็อตแต่เราก็สัมผัสได้ว่ามีคนอ่าน)
อย่างแรกเลยต้องขออภัยที่ล่าช้า เนื่องจากมามิ๊ไปถอยแล็บท็อปเครื่องใหม่ให้ เราเลยยกคอมฯเครื่องใหม่ให้คุณหลานไป แต่ว่าไฟล์นิยาย กับอะไรต่างๆ ทั้งภาพประกอบ แนวทางของเนื้อเรื่อง โครงเรื่องที่ทำเป็นมายแมปปิ้งไว้หายหมดจร้า คุณหลานไปล้างเครื่อง(T^T) ทีนี้เนื้อเรื่องมันเลยจะออกทะเลาไปค่อนข้างจะเยอะทีเดียว เกิดจากการด้นสดนั่นเอง
แต่ไรท์ก็จะพยายามประครองไม่ให้มันออกไปนู่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ (กราบบบบ) ไรท์ชอบคาแร็คเตอร์ของเจ๊โรน่ามากกกกกนะ บอกไว้ก่อน ว่าจะทำชาร์ปเตอร์วีรกรรมแซ่บๆของเจ๊แกอยู่
ส่วนภาษาอังกฤษไก่กานั้นคือ ไรท์กำลังเรียนพิเศษช่วงนี้เลยอยากลองวิชามั่งไรมั่ง ผิดบ้างแก้ได้คะ 55555
ความคิดเห็น