ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi] ใช่ครับผมมันร้าย

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่9

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 119
      0
      8 พ.ค. 58

    ตอนที่9

     

         ห้องพักผู้ป่วยในตอนนี้เหลือคนไม่กี่คนนอกจากมิลร์แล้วก็มีพายกับเฮเลนที่ปากบอกว่าไม่รอแต่ก็รออยู่ดี และก็กวางที่รอแม่มารับไปทำธุระต่อ ขณะนี้ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มจะมืดแล้วมิลร์ยังคงนอนอ่านหนังสือนิ่งๆ ขณะที่เฮเลนนอนซบหน้านิ่งปากก็บ่นอะไรไม่รู้ พี่คิดเนี่ยทำเพื่อนเขานิสัยเปลี่ยนนะเนี่ย

     

    “โว้ยเฮเลนเลิกบ่นพึมพำอะไรคนเดียวได้ไหม”

     

         กวางที่ต่อจิ๊กซอว์กับพายอยู่พูดขึ้นอย่างเหลืออด เป็นเอามากนะเฮเลน กวางคิดในใจเบาๆเฮเลนทำเพียงตวัดสายตามามองเท่านั้นก่อนที่จะซบหน้าลงไปดังเดิม สักพักประตูห้องพักผู้ป่วยก็เปิดขึ้นก่อนที่บุรุษหน้าหล่อไม่คุ้นตาจะเดินเข้ามา ทำเอากวางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

     

    “น้าหยงให้มารับ”

     

    “ไทเลอร์”

     

         ดวงตาคมเข้มก้มลงมามองคนที่นั่งต่อจิ๊กซอว์ที่นั่งอ้าปากค้างอยู่ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเลยสายตาไปที่พายที่ถือจิ๊กซอว์มองมาที่เขากับกวางสลับไปมา

     

     “เออ ทุกคนนี่ไทเลอร์รุ่นพี่ฉันเอง”

     

         กวางยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยแนะนำบุคคลแปลกหน้าให้เพื่อนๆที่นั่งมองตาแป๋วรู้จัก ทุกคนพยักหน้าทันทีที่ฟังจบยกเว้นก็แต่เฮเลนที่ไม่สนใจใครเอาแต่ซบหน้าลงกับหมอน ดวงตาคมส่งสายตาไปให้อีกคนรีบเก็บของเร็วๆ ใบหน้าหวานไม่สบอารมณ์นักแต่ก็ลุกเก็บจิ๊กซอว์แต่โดยดีโดยมีพายช่วยเก็บ ระหว่างที่เก็บปากก็เอ่ยถามไปด้วย

     

    “นายกลับมาจากอเมริกาตอนไหนนะ”

     

    “เมื่อวาน”

     

         ไทเลอร์ตอบนิ่งๆ มือแกร่งยื่นไปคว้าสัมภาระของคนตัวเล็กกว่ามาถือไว้ กวางหันมายิ้มให้เพื่อนรักจนตาหยี มือเรียวยกขึ้นโบกมือให้ก่อนที่จะส่งมือไปให้คนหน้าหล่อที่ยืนอยู่นิ่งๆ มือแกร่งเอื้อมมากุมมือบางไว้ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไปไม่สนใจเครื่องหมายคำถามที่แปะเต็มหน้าของเพื่อนๆ

     

    “เอ่อ

     

    “ฉันนี่พูดไม่ออกเลย”

     

         หลังจากที่กวางเดินออกไปได้ไม่นานประตูห้องพักผู้ป่วยก็เปิดออกพร้อมกับคิดที่เดินเข้ามา มุมปากแกร่งส่งยิ้มทักทายเพื่อนของคนรักที่มองเขาไม่วางตา เรียวขาเดินไปหาคนรักที่นอนคว่ำหน้าซบลงกับหมอนใบโตที่โซฟาก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมนุ่มเบาๆ พร้อมกับเอ่ยเรียก

     

    “เฮเลนพี่มาแล้วครับตื่น”

     

    “อืม”

     

         เปลือกตาเปิดขึ้นช้าๆก่อนที่มือบางจะยันตัวเองขึ้นนั่ง เฮเลนหันไปพยักหน้าให้มิลร์เล็กน้อยปากบางยังคงเงียบสนิท คิดถอนหายใจออกมานิดหน่อย มือแกร่งค่อยๆสัมผัสจับแขนบางแต่ก็โดนสะบัดออก ก่อนที่เรียวขางามจะกระแทกเดินออกไป ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มิลร์กับพายที่พยายามทำตัวกลมกลืนไปกับผนัง มองหน้ากันเล็กน้อย

     

    “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับเป็นอย่างงี้ประจำและ”

     

         เสียงราบเรียบถูกเปล่งออกมา ใบหน้าหล่อฉายแววกังวลใจขึ้นมานั้นปิดพวกเขาไม่มิด มือแกร่งหยิบกระเป๋าเป้ของคนรักขึ้นมา ริมฝีปากฉีกยิ้มให้กับเพื่อนของคนรักแล้วจึงเดินออกไป

     

    “ฉันพึ่งรู้นะเนี่ยว่าเฮเลนจะเอาแต่ใจขนาดนี้”

     

         พายเอ่ยขึ้นมาอย่างงงๆ มือแกร่งหยิบองุ่นส่งเข้าปากบางที่ก้มลงมากินอย่างไม่อิดออด ใบหน้าสวยฉายแววพึงพอใจ พายหัวเราะในลำคอก่อนจะส่งองุ่นเข้าปากตัวเองบ้าง ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบแต่ก็ไม่ได้สร้างความอึดอัดให้แก่ทั้งสองคน กลับกันพวกเขาต่างใช้เวลานี้ได้ราวกับเป็นเรื่องปรกติ ใช่ปรกติที่จะมีอีกคนเคียงข้างจนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนอื่น

     

    “พรุ่งนี้ต้องไปตามงานกับเพื่อนในห้องแล้วละ”

     

         ริมฝีปากบางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวแต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนป่วยได้ยิน มือแกร่งเอื้อมมาทัดผมสีบลอนด์ไปทัดหูให้อีกคนอย่างแผ่วเบา ขณะที่คลี่ยิ้มออกมา ใบหน้าสวยหันมามองใบหน้าของพาย คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย

     

    “ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพวกอัลฟาจะเอามาให้ทำนะ”

     

    “ดีเหมือนกัน”

     

     

         ตอนนี้มิลร์กลับมาพักที่บ้านแล้ว และแน่นอนว่าบ้านเขาเองเหล่าสาวใช้ต่างตั้งตนที่จะแข็งข้อกับเขา แต่ก็ยังมีน้ำฝนกับบัวที่ยังคงรับใช้เขาด้วยความสัตย์จริง ทุกเช้าที่ลงมาทานข้าวเขาจะโดนคนฝั่งนั้นแกล้งเล็กๆน้อยๆ หึก็แค่เล็กๆน้อยๆแหละน่าที่คนพวกนี้นะทำได้\

     

    “มิลร์จ๊ะ จะจบเกรด12แล้วจะไปต่อที่ไหนหรอ”

     

    ลันดาถามขึ้นขณะที่ครอบครัวสิงห์มณีกำลังทานอาหารอยู่ ใบหน้าสวยของมิลร์เงยหน้าขึ้นมาจากถ้วยข้าวต้มตรงหน้า จ้องมองอีกฝ่ายนิ่งๆแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอีกฝ่ายไปแต่อย่างใด

     

    “ลันดาถามทำไมแกไม่ตอบ”

     

    “อ่านเมลจากคุณปู่แล้วหรือยังครับ”

     

    “อะไรของแก!!!

     

    “อย่าลืมอ่านละครับ บางทีมันอาจจะทำให้ชีวิตใครคนหนึ่งเปลี่ยนไปใช่ไหมไอ”

     

    ริมฝีปากบางฉีกยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างแช่มชื่น ขณะที่ไอรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมิลร์นั้นช่างสวนทางกลับใบหน้าหวาน จึงทำได้เพียงฉีกยิ้มอย่างเกร็งๆไปให้คนตรงหน้าเท่านั้น หางตาของมิลร์เหลือบมองนาฬิกาลูกตุ้มทรงสูงที่ตั้งอยู่ทางเข้าห้องทานอาหาร ก่อนจะวางช้อนลงยืนขึ้นช้าๆ พร้อมกับเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่นั่งทานอาหารอยู่หัวโต๊ะเบาๆ

     

    “ผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ”

     

    โทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่โต๊ะด้านหลังของอานารุจส่งเสียงร้องออกมา บัวที่คอยยืนรับใช้อยู่เดินไปหยิบให้กับผู้เป็นเจ้าของ ทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องทานอาหารก็ได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อดังลั่น ฟังจากเสียงแล้วคงจะหัวเสียอยู่ไม่น้อย ริมฝีปากค่อยๆฉีกยิ้มอย่างช้าๆ ก็แค่อยากให้ไอรู้เท่านั้นและว่าเขานะอยู่ในฐานะอะไรของทั้งสองตระกูลนี้

     

    “อะไรนะ!!! คุณพ่อส่งมาอย่างนั้นหรอ ได้ฉันจะเข้าบริษัทเดี๋ยวนี้และ”

     

     

     

          ถึงจะสะใจแต่ความไม่สบายใจนั้นมีมากกว่า  การเอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้งมันอาจจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่คนที่เดือดร้อนก็เป็นไอกับลันดานี่นะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปสนใจเหตุผลข้อไหนในชีวิตหรอก บอกแล้วไงว่าเรื่องของสองแม่ลูกนี้อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง เขาคิดกับตัวเองขณะที่โยนการบ้านส่งคืนเฮเลน

     

    “วันนี้ มิสเตอร์โรนัลด์ยกคลาสว่ะทุกคน”

     

    “โห ไอ้เราก็อุตส่าห์ทำการบ้านจนเสร็จ”

     

    “เอ้าปากไม่เป็นมงคลเลยไอ้มิลร์ ยกคลาสนะดีแล้วฉันละเบื่อตานี่จริงๆ”

     

    โจ้เหวใส่อย่างฉุนๆ มิสเตอร์โรนัลด์คือลูกครึ่งชาวบราซิลเลี่ยนสุดหล่อที่ชอบจะแกล้งโจ้เป็นประจำ เวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีไรนะกัดกันตลอด แต่เอาจริงๆมิสเตอร์โรนัลด์ต่างหากที่ชอบแหย่เพื่อนเขาจนมันหงุดหงิด ได้ข่าวว่าอยู่คอนโดเดียวกันตอนไปหาโจ้คราวที่แล้วขึ้นลิฟต์พร้อมกับมิสเตอร์โรนัลด์ด้วย

     

    “แหม ก็คงจะเบื่ออยู่หรอกสอนเช้าสอนเย็นขนาดนั้นเนอะกวาง”

     

    “ไอ้ลิหุบปากแกด้วยกวาง ถ้าไม่อยากให้ฉันเชือดไอ้ตุ๊กตาจระเข้ที่ไทเลอร์ซื้อให้นะ”

     

    “แกมายุ่งอะไรกับตุ๊กตาฉันว่ะไปลงที่ไอ้ลินู่น”

     

    “ชิ”

     

    โจ้หันมามองลิที่ยักคิ้วมาให้แบบเป็นต่อย่างเจ็บใจ เขารู้จุดอ่อนมันอยู่หรอกแต่ขืนได้พูดไปมันได้ฆ่าเขาแน่ มิลร์ที่ลอบมองอยู่อมยิ้มนิดๆพร้อมกับพยักหน้าให้เอริคที่นั่งฟังนิ่งๆแต่ประกายในตานั้นกลับฉายแววสนุกสนานเต็มที่

     

    “เอจะว่าไปที่เขาวงกตอ่ะ เจเรมี่มันทำอะไรแกหรอว่ะ”

     

    “ไอ้มิลร์ หุบปากเดี๋ยวนี้”

     

    “เห้ย นี่ฉันกับเจเรมี่ก็สนิทกันพอควรนะลิจะบอกอะไรให้นะ มีอะไรมันก็บอกฉันหมดนั่นและ”

     

    “แกรู้

     

    “รู้สิ รู้ด้วยว่าแกหึงมันขนาดไหนน่ะ”

     

    มิลร์ยักคิ้วให้อย่างเป็นต่อ มือบางแท็คทีมกับโจ้อย่างสนุกที่ได้แกล้งลิที่ตอนนี้ใบหน้าขึ้นสีจัดด้วยความโกรธหรือเขินก็ไม่รู้ แต่ก่อนที่จะได้เล่นไปมากกว่านี้บุคคลที่เคยประกาศว่าจะยกคลาสก็เดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยใบหน้านิ่งๆแต่มองยังไงก็หล่อโคตรอยู่ดี โจ้แอบแลบลิ้นด้วยความหมั่นไส้ ทันทีที่สายตาสบกันก็หันเหไปทางอื่นอย่างไม่สนใจสายตาของคนที่มองมาจากหน้าชั้นเรียนเลย

     

    Mr. Ronald you said..

     

    Oh sorry everyone just kidding

     

    ได้ยินเพียงแค่นั้นทุกคนก็พร้อมใจกันขยับปากเป็นรูปสระอิทันที ส่วนคนที่ได้หลอกให้คนอื่นตายใจยืนหัวเราะนิ่งๆ ใบหน้าหล่อผินไปทางอีกคนที่ไม่สนใจเขาแล้วเหม่อมองไปทางนอกหน้าต่าง โรนัลด์ส่ายหัวให้นักเรียนหัวดื้อเล็กน้อย ขายาวก้าวไปหาร่างโปร่งเบาๆ นักเรียนในห้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเหตุการณ์อันใกล้ที่กำลังจะเกิดขึ้น เอาหน่าพวกเขาชินแล้วละ

     

    Oh…..what are you look at

     

    Don’t mess with me please.

     

    โรนัลด์หัวเราะนิดหน่อย ใบหน้าหล่อก้มลงมาหาอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิด เอ่ยเสียงกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน ทันทีที่ฟังจบนัยน์ตาเรียวของโจ้ก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที

     

    You’re look at the boy. He’s wearing an orange shirt.

     

    You know!!!. Don’t say it again.

     

    He’s look like handsome but I better do you think that.

     

    Please don’t say about him. You should teach english for them now.

     

    Ok. First you must intend to learn.

     

    all right.

     

     

    “งานโรงเรียน”

     

    เอมทวนคำช้าๆ ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่โรงอาหารโดยมีสายตาเสียดแทงจากคนรอบข้าง ก็แค่ห้องพวกเขาทำคะแนนสอบเฉลี่ยได้เยอะที่สุดในสายชั้นเท่านั้นเอง เฮเลนพยักหน้านิดหน่อย มือบางสอดเข้าไปในกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์ร้อยยื่นให้โจ้ที่ยืนรอเงินไปซื้อขนมอยู่ ไม่วายแอบบ่นให้โจ้เบาๆ

     

    “แค่นี้ยังจะให้ออก”

     

    “บ่นไปๆ ก็ดันทำคะแนนภาษาสเปนได้น้อยกว่าฉันเองนิช่วยไม่ได้”

     

    “ชิ”

     

    “พวกนั้นมันยกให้พวกเราเป็นเฮดจัดงาน”

     

    “ส่วนการแสดงชมรมดนตรีจะเป็นคนจัดการเอง”

     

    อัลฟาที่เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมเอ่ยขึ้น เอริคมองคนนั่งข้างๆเล็กน้อยมือหนาจดรายละเอียดงานลงบนกระดาษรายงาน เขาได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าจัดงาน ซึ่งเป็นอะไรที่ยุ่งยากสิ้นดี กวางปิดหนังสือเล่มหนาลง เกยคางไว้บนโต๊ะอย่างเบื่อๆเอ่ยถามเสียงเรียบ

     

    “เอาเป็นธีมอะไรดี”

     

    “ไดโนเสาร์”

     

    มิลร์ที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างอึ้งๆ มีแต่พายคนเดียวที่หัวเราะออกมาหน่อยๆ มือหนาวางแหมะลงบนผมสีทองสลวย โยกมันไปเบาๆเอ่ยออกไปด้วยความเอ็นดูกับความเด็กที่มีในตัวของคนที่นั่งใกล้

     

    “โอ๋ๆ เดี๋ยวจะให้ฟิ๊กเกอร์รุ่นล่าสุดก็ได้ ไม่ต้องหน้าบึ้งขนาดนั้นก็ได้ครับ”

     

    “พูดแล้วห้ามคืนคำ”

     

    “จ่ะๆ”

     

    “เอาเป็นธีมพังค์ดีไหมแก”

     

    โจ้เดินมานั่งลงตรงข้ามกับเฮเลน ยื่นเงินทอนไปให้คนตรงหน้าที่มองแรงมาให้เขาอยู่ ลินั่งกดโทรศัพท์อยู่คนเดียวเงียบๆ ถ้าไม่มีสาวๆในห้องคอยส่องดูว่าหนุ่มหน้าหวานผู้นี้นั้นคุยกับใครอยู่

     

    เอมนั่งคิดนิ่งๆเขาได้รับงานให้ตกแต่งพร็อพถ่ายรูปของปีนี้ ปีที่แล้วรุ่นพี่ทำได้เก๋พอควร แต่ก่อนที่จะได้จมกับความคิดตัวเองไปมากกว่านั้นสัมผัสที่ไหล่พร้อมกับเสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานาน ก็ทำให้เจ้าตัวหันไปได้ทันที

     

    “คิดมากจนคิ้วขมวดเชียว”

     

    “แมท”

     

    “ครับผมเอง”

     

    หนุ่มลูกครึ่งผมทองยิ้มร่า โซ่เขยิบที่ให้หนุ่มรุ่นน้องได้นั่งลงข้างๆเอม จากนั้นทุกคนก็หันมาให้ความสนใจกับธีมของงานที่ยังคิดไม่ตกกันอยู่ จนกระทั่งแอมเบอร์สาวสวยของห้องลดหนังสือที่อ่านอยู่ลงมานิดหน่อย พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาคำเดียว

     

    evil

     

    evil ? . Are you sure.

     

    Yes. I am

     

    Why

     

    Because they think we are evil

     

    All right.

     

    อัลฟารีบจดธีมของงานลงไปทันที พวกเขารีบแบ่งหน้าที่ฝ่ายต่างๆทันที โดยที่กวางกับเฮเลนที่เป็นมิตรที่สุดในห้องจะเป็นฝ่ายประสานงานให้กับห้องต่างๆเอง หลังจากที่งานคืบหน้าไปแล้วพวกเขาก็หันมาให้ความสนใจ เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่อ้อนมืออ้อนเท้าเอมอยู่อย่างสนใจ

     

    “นี่ๆคาบบ่ายพี่ว่างใช่ไปดูผมแข่งบาสหน่อยสิ”

     

    “ไม่ว่าง”

     

    “อย่าไปเชื่อมัน ว่างยันเลิกเรียน”

     

    ลิที่เก็บโทรศัพท์แล้วพูดสวนขึ้น โดยไม่สนใจสายตาจิกกัดของเอมที่มองมาอย่างเคียดแค้น เจ้าตัวยักคิ้วไปให้อย่างเป็นต่อ พร้อมกับยกมือขึ้นแปะกับโจ้ แมทยิ้มกว้างทันทีที่ฟังจบ

     

    “เห็นไหมว่างจริงด้วย”

     

    “เห้ย ถึงว่างก็มีงานอย่างอื่นนะ”

     

    “เห้ยๆ แกชนะคะแนนฟิสิกส์ฉันนิ ของเดิมพันคือการบ้านของมิสแคลร์นี่หว่า”

     

    คราวนี้เป็นกวาง ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างไปให้เพื่อนรักขณะที่ในใจกำลังเต้นเป็นลิงโลดที่ได้เอาคืนเรื่องคะแนน

     

    เอมที่ไม่มีที่พึ่งรีบหันไปหาพายกับมิลร์ทันที แต่ก็พบแค่เพียงออร่าสีชมพูลอยกระแทกหน้าเมื่อสองคนนั้นมันเข้าสู่โลกส่วนตัวไปเรียบร้อย เบนทิศทางไปคนถัดไปเอริคกำลังหยอกล้อกับอัลฟา มือแกร่งล็อคคอคนตัวบางกว่าไว้แนบอก ก่อนจะใช้นิ้วจี้ไปที่แอวบางเบาๆ แต่ก็ทำให้คนที่อยู่ในอ้อมแขนดิ้นพลุ่กพล่านไปได้ หันไปหาเฮเลนก็พบแค่เพียงความว่าเปล่าเห็นแผ่นหลังบางเดินตีคู่ไปกับฟ้า หันไปมองเพื่อนๆในห้องที่ทำไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับถอนหายใจนิดหน่อย

     

    “ตกลงไปนะๆๆๆๆๆๆๆ”

     

    “เออก็ได้”

     

    แมทลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มกว้าง มือหน้าส่งไปให้รุ่นพี่ตัวเล็กที่ยืนข้างกัน มือบางวางลงบนมือรุ่นน้องพร้อมกับสอดประสานกันด้วยความเคยชิน โดยที่ไม่รู้สักนิดว่ามีสายตาของเพื่อนๆจ้องมองทุกการกระทำ ร่างสูงแอบขยิบตาให้รุ่นพี่คนอื่นๆที่ช่วยเหลือ พวกลิยกนิ้วให้อย่างเนียนๆลับหลังเอม พวกเขาอมยิ้มกับคู่รักที่เดินเคียงกันไปทางโรงยิมของโรงเรียน

     

    “ยิ้มอะไรอัล”

     

    “เปล่านะริค คิดว่าคู่นี้น่ารักดีนะ”

     

    “หรอฉันว่าคู่เราน่ารักมากกว่านะ”

     

    ฟอด

     

    ว่าจบเอริคก็หอมแก้มเนียนของคนตัวเล็กไปหนึ่งฝอด ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อมือบางตีแขนของคนขี้แกล้งอย่างแรงด้วยความเขิน ก่อนที่จะเหวลั่นใส่คนที่ทำอะไรไม่รู้เรื่อง โดยมีสายตาล้อลเลียนของเพื่อนๆ และเสียงกรี๊ดของสาวๆในห้องที่ฟินกันจนเลือดแทบจะทะลักประกอบ

     

    “เอริค!!! ทำบ้าอะไรของนาย”

     

    “หอมแก้มไง แค่นี้ทำเขินอยู่ห้องฉันทำมากกว่านี้นายยังไม่ว่าเลย”

     

    “อะ..เอริคคคคคคคคคคค”

     

     

    “นี่มันอะไรกันคุณทศพร”

     

    อานารุจเอ่ยขึ้นหลังจากกวาดสายตาอ่านข้อความที่พ่อบังเกิดเกล้าส่งมาให้เขา เลขาหนุ่มทำเพียงแค่ยื่นซองสีน้ำตาลที่ถูกส่งมาจากญี่ปุ่นมาให้ มือแกร่งรับมาวางไว้ด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

     

    “ทำไมพ่อถึงรู้เรื่องนี้ได้”

     

    เรื่องการสั่งซื้อสร้อยเพชรของเขาที่ตั้งใจจะให้ลันดาในวันเกิดของเธอ แล้วไหนจะรายจ่ายการซื้อรถยนต์คันใหม่ของไออีก มันจะไม่เป็นเรื่องถ้าทรัพย์สินนั้นผู้รับคือมิลร์ ทายาทโดยชอบธรรมของตระกูล การที่เขามีภรรยาอีกคนขณะที่ยังไม่ได้หย่าจากโรน่าเป็นเรื่องที่ผู้เป็นพ่อห้ามเด็ดขาดเพราะกฏเหล็กของตระกูลคือห้ามมีเล็กมีน้อยเด็ดขาด

     

    “เอ่อท่านครับ”

     

    “มีอะไรอีก”

     

    “ท่านเจ้าสัวจะเดินทางมาถึงในอาทิตย์หน้านะครับ”

     

    “อะไรนะ!!! ต่อสายหาคุณพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”

     

    “ทราบแล้วครับ”

     

    เลขาหนุ่มรีบโค้งตัวให้ก่อนที่จะก้าวเดินออกไปทันที ทั้งห้องของเขาตกอยู่ในความเงียบก่อนที่ประตูบานใหญ่จะเปิดขึ้น พร้อมกับเสียงส้นเข็มของรองเท้าส้นสูง ร่างสมส่วนของลันดาเดินมาหาอานารุจอย่างออดอ่อน ค่อยๆทิ้งตัวลงบนที่เท้าแขนของเก้าอี้ที่สามีเธอนั่งอยู่

     

    “หน้าเครียดเชียวมีอะไรหรอคะ รุจ”

     

    “ลันดาคุณพ่อเขารู้เรื่องการใช้จ่ายของคุณกับไอซึ่งท่านไม่พอใจอย่างมาก และท่านจะมาอาทิตย์หน้า”

     

    ดวงตาเรียวเบิกกว้างทันที ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเจ้าสัวนั้นไม่ชอบเธอขนาดไหน เพราะโรน่าคือคนที่เจ้าสัวแนะนำให้อานารุจ ท่านรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอข้างกายลูกชายคนโตเสมอ แต่ก็ไม่เคยระแคะระคายถึงค่าใช้จ่าย เพราะงั้นคนที่วิ่งแจ้นเอาไปฟ้องจะเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ลูกของอดีตเพื่อนที่เธอรักมากที่สุดโรน่า

     

    เดี๋ยวแกจะได้เห็นดีกัน!!! ขนาดแม่แกฉันยังเขี่ยไปได้เลยนับประสาอะไรกับแก!!!

     




    TBC.

    Talk with write

    คุยกับไรท์กันสักนิ๊ดดดดดดด นะรีดเดอร์(ถึงเรื่องมันจะไม่ฮ็อตแต่เราก็สัมผัสได้ว่ามีคนอ่าน)

    อย่างแรกเลยต้องขออภัยที่ล่าช้า เนื่องจากมามิ๊ไปถอยแล็บท็อปเครื่องใหม่ให้ เราเลยยกคอมฯเครื่องใหม่ให้คุณหลานไป แต่ว่าไฟล์นิยาย กับอะไรต่างๆ ทั้งภาพประกอบ แนวทางของเนื้อเรื่อง โครงเรื่องที่ทำเป็นมายแมปปิ้งไว้หายหมดจร้า คุณหลานไปล้างเครื่อง(T^T) ทีนี้เนื้อเรื่องมันเลยจะออกทะเลาไปค่อนข้างจะเยอะทีเดียว เกิดจากการด้นสดนั่นเอง

    แต่ไรท์ก็จะพยายามประครองไม่ให้มันออกไปนู่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ (กราบบบบ) ไรท์ชอบคาแร็คเตอร์ของเจ๊โรน่ามากกกกกนะ บอกไว้ก่อน ว่าจะทำชาร์ปเตอร์วีรกรรมแซ่บๆของเจ๊แกอยู่

    ส่วนภาษาอังกฤษไก่กานั้นคือ ไรท์กำลังเรียนพิเศษช่วงนี้เลยอยากลองวิชามั่งไรมั่ง ผิดบ้างแก้ได้คะ 55555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×